เกาะหมาก จังหวัดตราด
New Page 1
เกาะหมาก
ความสงบงามที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ
ต้นกล้า นัยนา
เจ้าของนามปากกา
แม่กูก้อย
คิดว่าจะกลับไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ใหม่ เที่ยวอย่างมีสติ
เก็บรายละเอียดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ชีวิตถ้าได้ตื่นเต้นก็จะสนุก การท่องเที่ยวทำให้ตื่นเต้น
ถ้าเที่ยวคนเดียวจะเลือกพักที่เกสต์เฮาส์ แล้วอยู่กับสถานที่นั้นนานๆ
อย่างน้อยก็รู้จักเกสต์เฮาส์ที่อยู่ รู้จักเจ้าของร้านอาหารที่นั่น
ชอบเที่ยวแบบลุยๆ ไปดูวิถีชีวิตของผู้คนว่าเขาอยู่อย่างไร
โดยส่วนตัวแล้วชอบทะเลมากกว่าภูเขา สมัยยังเป็นวัยรุ่นชอบและประทับใจภูกระดึงมาก
ไปถึง 4 ครั้ง ไปครั้งใดก็จะรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย ขึ้นไปไม่ไหวสักครั้ง
ยิ่งในช่วงที่ใกล้จะจบมัธยมปลายมีโอกาสได้ขึ้นภูกระดึงกับเพื่อนยิ่งรู้สึกดี
เพราะกำลังจะจากกัน มีความสุขมาก
สำหรับก้อยแล้ว
การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญในเรื่องของวิวทิวทัศน์น้อยกว่า คน
ที่ไปด้วย ล่าสุดพา ลูกชาย ไปเรียนรู้ธรรมชาติที่เกาะหมาก จ.ตราด ชอบมาก
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นครอบครัว คนไม่เยอะ
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่สูง
เกาะหมาก เป็นเกาะขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กม.
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,000 ไร่ รูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบและสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม
และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่านตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง
อ่าวส่วนใหญ่ บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์และสวยงาม
บนเกาะแห่งนี้ยังมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวในราคาไม่แพง
การเดินทางก็ไม่ลำบาก ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปชมธรรมชาติที่นี่ได้
พอไปถึงที่นั่นก็ไม่ยากแล้ว
มีบริการเรือโดยสารวิ่งระหว่างท่าเรือแหลมงอบไปเกาะหมากทุกวัน
วันละหนึ่งเที่ยวใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.ครึ่ง ก็จะเห็นหาดทรายขาวสะอาด น้ำใสๆ
คนก็ไม่พลุกพล่านเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
เกื้อ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน อยู่กรุงเทพฯ จึงมีวิถีแบบเด็กกรุงเทพฯ
พอไปอยู่ที่โน่นเขาจะมีความสุข ลงไปอยู่ในทะเลทั้งวันจนตัวดำ ก้อยนั่งมองเขาห่างๆ
เห็นเขากล้าขึ้น เขามีความสุข ก้อยก็มีความสุข
ตุลาคมที่ผ่านมา ปิดเทอม 3 สัปดาห์ก็ไปเที่ยวกันทั้ง 3 สัปดาห์เลย
ไล่ไปตั้งแต่พัทยา จนถึงเกาะหมาก ที่ชอบพา เกื้อ มาที่นี่ เพราะวาทะเลสะอาด
ทรายก็สะอาด แล้วหาดไม่ลึกมาก ไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วงเขามาก
ใช้เวลาเดินทางประมาณ
3 ชม.ครึ่ง ก็จะเห็นหาดทรายขาวสะอาด น้ำใสๆ
คนก็ไม่พลุกพล่านเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ"
หลังจากเล่นน้ำทะเลจะพากันเดินไปตามถนน
ซึ่งสามารถเดินได้รอบเกาะ ไปหาดอื่นๆ ได้ บางครั้ง เกื้อ จะบ่นว่าเหนื่อยบ้าง
แต่ก้อยจะสอนให้เขาได้เรียนรู้ธรรมชาติที่มีอยู่รอบๆ ตัว ให้รู้ว่าป่าเป็นอย่างไร
ที่นี่จะมีป่าเยอะ
หลายคนอาจจะมองว่าการที่ต้องมานั่งสอนลูกว่าป่าเป็นอย่างไรเป็นเรื่องตลก
แต่มันคือความจริง เด็กกรุงเทพฯ ไม่รู้จักป่า ไม่รู้ว่าป่าเป็นอย่างไร
ไม่เข้าใจว่าป่าคืออะไรเห็นแต่ในรูปภาพเท่านั้น
เกาะหมากต่างจากพัทยา บางแสน ไม่มีร้านค้า ไม่มีแผงลอย ไม่มีผู้คนมากมาย ไม่มีขยะ
ไม่มีถุงพลาสติก ไม่มีอะไรที่ยั่วยวนใจ มองไปมีแต่ชายหาด ต้นไม้
เป็นบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน
ที่สำคัญที่นี่อาหารทะเลสดมาก แล้วราคาไม่แพง เกื้อ
ได้เรียนรู้ชีวิตจากธรรมชาติรอบๆ ตัว มีอะไรที่พอจะสอนลูกได้ก็จะสอน
พอเห็นเขาสนใจอะไรก็จะสอน ตอนนี้ลูกชายกำลังโต กำลังหิวที่จะเรียนรู้
ก้อยก็หิวที่จะสอน
ช่วงเวลาที่ไปเที่ยวจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดของเราสองคน
นอกจากจะได้คุยกันภาษาแม่ลูกแล้ว ก้อยยังได้คุยกับตัวเอง ได้นั่งทบทวนชีวิต
มีเวลาคิดว่าปีหน้าจะทำอะไร เดือนหน้าจะต้องทำอะไร ที่นี่ไม่มีสื่อ ไม่มีทีวี
มีเพียงหนังสือพ๊อกเก๊ตบุ๊คที่หยิบติดไม้ติดมือไปอ่าน แต่ถ้าอยู่กรุงเทพฯ
จะไม่มีเวลามานั่งทำอะไรอย่างนี้
การท่องเที่ยวสำหรับก้อยไม่ใช่การพักผ่อน แต่ทำให้เรากว้างขึ้น
มาวันนี้ก้อยกลับมานั่งทบทวนชีวิต และคิดว่าจะกลับไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ใหม่
เที่ยวอย่างมีสติเก็บรายละเอียดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
เกาะขาม
สวนยางพาราแห่งเกาะหมาก
อ่าวกล้วย เกาะกูด
เส้นทางความสุขที่สิบเก้า
|