ค
จะแกล้งกล่าวชาวเมืองมาดูเล่น |
ด้วยว่าเป็นการสนุกทุกภาษา |
เที่ยวดูงานการสมโภชในพารา |
บ้างยืนนั่งตั้งม้าทุกหน้าโรง |
พวกขี้เมาเหล่านักเลงเสียงเครงครื้น |
ห่มแต่พื้นขาวม้านุ่งตาโถง |
ชิงเบี้ยเจ๊กเด็กแย่งแทงอีโปง |
ออกเดินโคลงโคลนเลอะเทอะทั้งตัว |
นางบ้านนอกคอกนาหน้าตาตื่น |
จะนั่งยืนเคียงข้างไม่ห่างผัว |
ห่มแพรสีสองชั้นดูพันพัว |
ต่างแต่งตัวเต็มประดาทุกนารี |
ข้าหลวงเหล่าชาววังยังกำดัด |
นุ่งสุหรัดซัดแต่ล้วนแพรสี |
หนุ่มหนุ่มเหล่าเจ้าชู้ลูกผู้ดี |
เห็นนารีรูปงามตามเป็นพรวน |
พวกบัญฑิตศิษย์วัดซัดลายอย่าง |
เที่ยวลากหางเดินข้ามตามฉนวน |
เขาจับได้ให้แพรแสสีนวล |
ออกเดินด่วนเลี้ยวลัดเข้าวัดวา |
พวกผู้ชายรายเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง |
เข้าพาดพิงพูดผลอขอสลา |
บ้างจับคู่อยู่จนสนธยา |
ผู้ชายพาหญิงเพลินเที่ยวเดินคลอ |
ครั้นโพล้เพ้ลเพลาพอพลบค่ำ |
พวกหนังร่ำกลองประดังทั้งม้าล่อ |
บ้างเชิดหนังตั้งแขนทำแหงนคอ |
ที่มุมจอคนเจรจาออกมายืน |
พวกดูหนังนั่งหลามตามถนน |
ออกเกลื่อนกล่นกลุ้มกลาดดูดาษดื่น |
บ้างลองจุดประทัดดังเหมือนอย่างปืน |
ให้คนตื่นแตกพลัดกระจัดกระจาย |
พอกลองหยุดจุดดอกไม้ไฟสว่าง |
แสงกระจ่างแจ่มเหมือนดังเดือนหงาย |
ดอกไม้กลคนชิงกันวิ่งควาย |
พวกผู้ชายสรวลเสเสียงเฮฮา |
ไฟพะเนียงเสียงซู่ขึ้นฟูฟุ้ง |
ทั้งพลุพลุ่งโพลงสว่างกลางเวหา |
ต่างเพลิดเพลินเดินไขว่กันไปมา |
ชาวพาราเริงรื่นชื่นอารมณ์
ฯ |