คนไทยจะยอมเสียด้ามขวานง่าย
ๆ หรือ (Vinitara)
ตอนนี้คนไทยเราบรรดาผู้ใหญ่ส่วนหนึ่งกำลังหลงงมงายในเรื่องเศรษฐกิจ ไม่รู้จักพออยู่พอกินตามพระราชดำรัสของในหลวง ลูกเด็กเล็กแดงและวัยรุ่นส่วนหนึ่งก็ถูกมอมเมาจากสื่อในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ในขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังวิกฤต เหมือนดาบกำลังจ่อคอหอยจริงๆ ก็ไม่อยากจะบอกเล่าเก้าสิบกัน แต่คิดแล้วคิดอีก อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าเกิดแล้วเดี๋ยวจะว่าไม่บอก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่มีการปล้นปืนเมื่อ ม.ค.๔๗ เป็นต้นมาจนถึง พ.ย.๕๒
เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก ท่านลองอ่านสรุปเหตุการณ์ข้างล่างนี้ดูก็แล้วกัน ถ้าท่านเห็นว่าคนไทยทั้งหลายที่เป็นเจ้าของประเทศน่าจะยังไม่ทราบเรื่องก็ forward ให้ทราบกันจะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้
๑. การเคลื่อนไหวของแนวร่วมอิสลามและ sympathizer ทุกระดับ เป็นไปอย่างสอดประสาน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ในพื้นที่มีไทยอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ และพร้อมแล้วสำหรับการปกครองตนเองตามวิถีอิสลาม อันจะนำมาซึ่งการแยกการปกครองในพื้นที่ ๓ จชต. เป็นอันดับแรก โดยมีความเปราะบางทางการเมืองที่ทำให้รัฐบาลต้องเทิดทูนอิสลามเป็นปัจจัยหนุนช่วยอันทรงพลัง การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีการสอดประสานกันดังนี้
๑.๑ นักวิชาการอิสลามพยายามชี้นำความคิดโดยหยิบประเด็นต่าง ๆที่เป็นประโยชน์มาใช้และ บิดเบือนเรื่องจริงที่เขาจะเสียประโยชน์โดยยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้าง พวกเขาพยายามจัดเสวนา และสัมมนาโดยใช้สื่อของรัฐทุกรูปแบบให้เป็นประโยชน์และยังใช้งบประมาณจากโครงการวิจัยต่างๆของรัฐเสียอีกด้วย บรรดานักวิชาการไทยพุทธที่รู้ไม่เท่าทันก็ตกเป็นแนวร่วมโดยไม่รู้ตัว
๑.๒ สื่ออิสลามเร่งโหมปูกระแสแบ่งแยกการปกครองในพื้นที่ ที่มีไทยอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่
เพื่อส่งลูกให้นักการเมืองอิสลามรับลูกต่อ
๑.๓ นักการเมืองอิสลามก็รับลูกต่อโดยเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลเพื่อพยายามจะให้เป็นผลทางกฎหมาย ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็มีพรรคการเมือง(ไทยอิสลาม)เป็นของตนเองแล้ว
( ถ้าพรรคการเมืองมีแต่ไทยอิสลามมันจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือรัฐธรรมนูญตามไม่ทัน? )
๑.๔ กลุ่มผู้นำศาสนาอิสลาม ก็รุกหนักเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาเพื่อนำมลายูอิสลามออกสู่การรับรู้และรับรองของโลกภายนอก (รู้กันบ้างไหมว่ารัฐทุ่มเงินให้ปอเนาะ และทุ่มเงินให้ไทยอิสลามไปฮัจญ์ปีละเท่าไหร่แต่ไทยพุทธไม่เห็นได้ไปดูสังเวชนียสถานบ้างเลย)
๑.๕ กลุ่มทุนอิสลามขนาดใหญ่กำลังรุกคืบเข้าคุมวิถีชีวิตของคนใน ๓ จชต. ด้วยการสร้างอาณาจักรอิสลามแบบครบวงจรขึ้นที่ใจกลางเมืองปัตตานี
๑.๖ กลุ่มปฏิบัติการอิสลามได้ใช้การก่อเหตุร้ายในลักษณะที่มนุษย์ไม่ควรกระทำต่อกัน เช่น การฆ่าตัดคอ เป็นต้น ทั้งการยิง ระเบิด เผา ทำลาย ขู่บังคับซื้อที่ดิน เกิดขึ้นเป็นประจำจนคนไทยพุทธถอยร่นออกจาก ๓ จชต. แม้กระทั่งในพื้นที่หลังพิงสุดท้ายของไทยพุทธ คือ อ.โคกโพธิ์ และแม้แต่ที่ดินผืนสุดท้ายที่หน้าวัดช้างให้ สัญญลักษณ์ของความเป็น "ไทยพุทธ" ก็กำลังจะหลุดจากมือไทยพุทธคนสุดท้าย
๑.๗ องค์กรเอกชนกำลังรุกเข้าคุมมวลชนระดับรากหญ้าเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง
๒. แล้วรัฐบาลล่ะทำอะไร รัฐบาลยังพยายามซื้อใจอิสลามอย่างไม่ลดละ อาทิ
๒.๑ การแสดงท่าที่ตอบรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่จะพิจารณาแยกการปกครองใน ๓ จชต.
๒.๒ การส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาและธุรกิจของอิสลามอย่างเต็มที่
๓. นักการเมืองล่ะ นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านพยายามเข้าไปแข่งกันซื้อใจไทยอิสลาม แต่ฝ่ายค้านสุดโต่งมาก ดังเช่นมีผู้ที่เสนอให้ตั้งนครรัฐปัตตานีและสร้างมัสยิดใหญที่สุดในภูมิภาคขึ้น เพื่อรื้อฟื้นความภาคภูมิใจของไทยอิสลาม
๔. จนท. ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ล่ะ ยังคงสามารถป้องปรามการเคลื่อนไหวก่อเหตุแนวร่วมได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ จนท. ผู้ปฏิบัติในพื้นที่กลับถูกกดดัน จากนักวิชาการ นักการเมือง จะให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ ด้วยการตั้งข้อกล่าวหาและบั่นทอนในลักษณะต่าง ๆ
- สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
- เสถียรภาพของรัฐบาลที่ไม่ค่อยจะเสถียรภายใต้การกดดันของกลุ่มอำนาจเก่าก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่การหาเสียงของพรรคไทยอิสลาม (พรรคอะไรเอ่ย)ในลักษณะเลือกไทยอิสลามเพื่อไทยอิสลาม กำลังเข้มข้น
- ส่วนหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบปัญหา จชต. โดยตรงก็ยังสับสน ไม่ลงตัว โดยเฉพาะ เมื่อการแยกอำนาจการใช้งบประมาณของ ศอ.บต. ออกจาก กอ.รมน. ที่ยังคาราคาซังอยู่ เกิดความสับสนอย่างยิ่งต่อ จนท.
ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ และจะส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนส่วนน้อยไทยพุทธ
- ดังนั้น จนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่จะต้องไม่เสียกำลังใจและไม่ท้อถอย จึงจะคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยเฉพาะต้องเฝ้าระวังและแจ้งเตือนการรุกไล่ไทยพุทธ ที่พวกแบ่งแยกดินแดนพยายามบุกรุก กว้านซื้อและ และที่ดินที่ใกล้ที่อยู่/ที่ทำกินของไทยพุทธ โดยอ้างการสร้างมัสยิดและปอเนาะ ซึ่งดูเหมือนเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกตุ
- คนไทยทั้งหลายควรตระหนักและติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
การปิดล้อมเพื่อรุกไล่คนกลุ่มน้อยไทยพุทธให้ถอยร่นออกจาก ๓ จชต. เพื่ออ้างการรื้อฟื้นรัฐปัตตานีปรากฎรูปธรรมชัดเจนขึ้นตามลำดับ .... จากการก่อเหตุฆ่าฟันไทยพุทธและไทยอิสลามที่ยังมีเยื่อใยต่อไทยพุทธจนสามารถปิดล้อมทางสังคมควบคู่กับการปิดล้อมทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ่อคนไทยพุทธ ด้วยการขัดขวาง ทำลายในทุกรูปแบบต่อธุรกรรมค้าขายของไทยพุทธจนไทยพุทธถอยร่น นับว่าเป็นการเปิดทางสู่การสร้างอาณาจักรอิสลามครบวงจรซึ่งจะสามารถควบคุมทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของผู้คนใน ๓ จชต.
ไว้ในกำมือ (อิสลาม) ในที่สุด ซึ่ง มาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจดังกล่าวดูเหมือนว่ากำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นและสอดประสาน ขณะนี้ได้มีการรุกเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งเป็นหลังพิงสุดท้ายของคนพุทธแล้ว คือ จ.ปัตตานี
อันเป็นพื้นที่เตรียมก่อตั้งอาณาจักรอิสลาม และโดยเฉพาะที่ อ.โคกโพธิ์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไทยพุทธและไทยอิลามมีจำนวนใกล้เคียงกัน โดยการโหมก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดงานชักพระที่กลางเมืองโคกโพธิ์เมื่อ ๕ ม.ค.๕๒ ซึ่งส่งผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรงในวงกว้างโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีถิ่นกำเนิดใน ๓ จชต. จนเริ่มมีการประกาศขายบ้านและที่ดินกันแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือ
การประกาศขายที่ดินหน้าวัดช้างให้ จำนวน ๑๐๐ ไร่ ของเจ้าของที่ดินไทยพุทธคนสุดท้ายแล้ว
----------------------------------------------------
รู้แล้วอย่าเงียบเฉย |