ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี


สถานการณ์ ๓ + ๑ จชต.
๑ - ๓๐ เม.ย.๕๒

          การก่อเหตุในช่วงตั้งแต่ ม.ค.๕๒ – เม.ย.๕๒ ดูเหมือนว่าผู้ก่อเหตุสามารถก่อเหตุตามปกติได้เฉลี่ยเดือนละ ๗๕ – ๙๐ เหตุการณ์ เท่านั้น โดยจำนวนความถี่ที่เพิ่มขึ้นจากนั้นเป็นเพราะมีวัตถุประสงค์เฉพาะในลักษณะโหมก่อเหตุเฉพาะวัน ดังเช่นใน มี.ค.๕๒ มีการก่อเหตุถึง ๒๕ เหตุการณ์ ใน ...มี.ค.๕๒ เพื่อต่อรองให้มีการปล่อยตัวแกนนำให้หลบหนีจากการปิดล้อม/จับกุม ขณะที่ใน เม.ย.๕๒ ซึ่งการก่อเหตุเท่าที่รวบรวมได้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๑๐ เหตุการณ์ นั้น หากพิจารณาลักษณะและความเข้มของการก่อเหตุด้วยแล้วพบว่าไม่แตกต่างกับ ๓ เดือนแรกของปี ๒๕๕๒ เนื่องจากจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นมีลักษณะของการก่อกวนเพื่อคงสถิติไม่ให้ลดน้อยลงและถัวเฉลี่ยไม่ให้การก่อเหตุใน ๓ จชต. มีความแตกต่างกันมากนัก ถึง ๒๕ – ๓๐ เหตุการณ์ โดย จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ที่มีการก่อเหตุมากที่สุด ๔๘ เหตุการณ์ รองลงมาคือ จ.ยะลา ๓๒ เหตุการณ์ ใกล้เคียงกับ ๓๑ เหตุการณ์ ของ จ.นราธิวาส ส่วน จ.สงขลา ไม่ปรากฏรายงานการก่อเหตุอย่างผิดปกติ
          ขณะที่การตรวจค้น/จับกุมของ จนท.ยังคงเป็นไปอย่างได้ผลและต่อเนื่อง ทั้งการควบคุมตัวและการวิสามัญผู้ต้องหาที่มีหมายจับ ส่งผลให้แกนนำแนวร่วมระดับชาติ สื่อ และองค์กรเอกชนอิสลามต้องเร่งแก้เกมส์ด้วยการโหมสร้างภาพความน่าหวาดกลัวของทหาร เพื่อสรุปว่าจะต้องมีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ฯ และจัดตั้งศาลความมั่นคงที่มีอิสลามเป็นผู้พิพากาขึ้น นอกเหนือจากการสร้างกระแสกดดันให้รัฐบาลยกเลิกความพยายามให้มลายูอิสลามเรียนภาษาไทย พร้อม ๆ ไปกับการพยายามดึงโลกอิสลามเข้ามาแทรกแซงในปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ ตั้งแต่การตั้งศาลซารีอะห์อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อ มี.ค.๕๒ ส่วนใน เม.ย.๕๒ ได้มีความพยายามดึงโลกอิสลามเข้ามาร่วมในความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มพลังนอกสภา
          อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แกนนำอิสลามกำลังรุกเรียกร้องผลประโยชน์ให้กับอิสลามอย่างหนัก ก็ปรากฎว่ารัฐบาลโดยเฉพาะ ศอ.บต.ยังคงพยายามชื้อใจอิสลามเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างไม่ลดละ และด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งกระบวนการให้เงินกู้ยืมแก่นักเรียนอิสลาม การทยอยส่งนักเรียนอิสลามไปเรียนต่างประเทศ หรือการเร่งผลักดันให้มีการตั้งศาลซารีอะห์อย่างครอบคลุม โดยได้มีการส่งผ่านภารกิจดังกล่าวไปยัง ยธ.แล้ว
          แนวโน้มสถานการณ์ เชื่อว่าการก่อเหตุมีแนวโน้มอ่อนแรงลง จึงต้องพยายามก่อเหตุเพื่อแสดงความคงอยู่ และเพื่อหนุนช่วยแกนนำในการผลักดันให้มีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ฯ และเรียกร้องผลประโยชน์ใกล้กับอิสลาม โดยมี ศอ.บต.เป็นเครื่องมือหลีกในการตอบสนองอย่างไรก็ตามการก่อเหตุอาจเพิ่มจำนวนความถี่และความรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะใน จ.สงขลา หากแกนนำแนวร่วมได้รับรู้ว่าทางราชการประเมินพลังของแนวร่วมว่าอ่อนแอลง ทั้งนี้สถานการณ์ใน ๓ จชต.จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือเลวร้ายลง น่าจะขึ้นอยู่กับความสามารถของกองทัพที่จะฝ่าแรงกดดันของแกนนำอิสลาม เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรการที่สามารถตรวจค้นและจับกุมผู้ก่อเหตุไก้โดยไม่มีการเตือนให้ผู้ต้องหา/ผู้ต้องสงสัย รู้ตัวและหลบหนีได้ทัน เป็นสำคัญ

สถิติและนัยการก่อเหตุ
          การก่อเหตุในช่วง ๑ – ๓๐ เม.ย.๕๒ เท่าที่รวบรวมได้ สรุปได้ว่ามีการก่อเหตุ ๑๑๐ เหตุการณ์ ใกล้เคียงกับ ๑๑๓ เมื่อ มี.ค.๕๒ ทั้งนี้ จ.ปัตตานี ซึ่งมีนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ เป็น ผวจ. และนายอับดุลการีม ยีดำ เป็นหน้าห้อง มีการก่อเหตุมากที่สุด ๔๗ เหตุการณ์ โดย อ.ยะรัง มีการก่อเหตุ ๑๒ เหตุการณ์ แต่ส่วนใหญ่มีลักษณะของการก่อกวนเพื่อเพิ่มสถิติ รองลงมาคือ อ.หนองจิก ซึ่งมีการก่อเหตุ ๙ เหตุการณ์ ขณะที่ อ.เมืองและ อ.สายบุรี มีการก่อเหตุ พื้นที่ละ ๘ เหตุการณ์ ขณะที่ จ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๓๒ เหตุการณ์ โดย อ.เมือง มีการก่อเกตุสูงสุด ๑๓ เหตุการณ์ ขณะที่ อ.ยะหามีการก่อเหตุ ๗ เหตุการณ์ ส่วน จ.นราธิวาส มีการก่อเหตุ ๓๑ เหตุการณ์ โดย อ.รือเสาะ มีการก่อเหตุสูงสุด ๗ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.เจาะไอร้อง มีการก่อเหตุ ๖ เหตุการณ์ ส่วน จ.สงขลา ไม่ปรากฏรายงานการก่อเหตุ
         ทั้งนี้การก่อเหตุทั้งหมด ๑๑๐ เหตุการณ์ แยกเป็นการลอบยิงตัวบุคคล ๕๓ เหตุการณ์ รองลงมาคือการวางระเบิด ๒๐ เหตุการณ์ (โดยส่วนใหญ่มุ่งกระทำต่อ Hard Target ) การซุ่มยิง/โจมตี ๑๖ เหตุการณ์ การวางเพลิง/เผา ๑๖ เหตุการณ์ และอื่น ๆ อาทิ การฟัน/แทง การเผายางรถยนต์ ๕ เหตุการณ์

          ข้อพิจารณา
         ๑. สาเหตุหนึ่งที่ยังทำให้การก่อเหตุเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการจับกุมอย่างเข้มงวดและอย่างต่อเนื่องก็ตาม เป็นเพราะไม่มีกฎหมายเฉพาะที่สามารถกักขังผู้กระทำความผิดด้านความมั่นคงได้ ทำให้ต้องมีการปล่อยตัวทั้งผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยในที่สุด จนชาวบ้านเชื่อว่า จนท.จับตัวคนผิดหรือกลั่นแกล้งประชาชน
          ๒. การก่อเหตุใน เม.ย.๕๒ โดยข้อเท็จจริงแล้วไม่ต่างกับช่วง ม.ค. – มี.ค.๕๒ หากจำนวนที่สูงขึ้นเป็นเพราะมีการก่อเหตุในลักษณะก่อกวนเพื่อคงสถิติ และถัวเฉลี่ยจำนวนการก่อเหตุใน ๓ จชต.ให้ใกล้เคียงกัน มีการโหมก่อกวนอย่างง่าย ๆ อาทิ การเผายางรถยนต์ ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ถึง ๑๐ เหตุการณ์ เมื่อ ๑๕ เม.ย.๕๒ ที่ จ.ปัตตานี ต่อมาที่ จ.ยะลา ก็ได้เกิดเหตุก่อกวนซึ่งส่วนใหญ่คือการยิงกราดฐานปฏิบัติการทหารแล้วหนี อีก ๘ – ๙ เหตุการณ์ เมื่อ ๒๐ เม.ย.๕๒ ล่าสุดที่ จ.นราธิวาส ได้เกิดเหตุวาง/ขว้างระเบิด เปา รร.เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ อีก ๙ เหตุการณ์ เมื่อ ๒๘ เม.ย.๕๒
          ๓. การก่อเหตุใน เม.ย.๕๒ ดูเหมือนว่าจะแผ่วหรืออ่อนแรงลงในช่วงครึ่งเดือนแรก โดย จ.ปัตตานี และนราธิวาส มีการก่อเหตุเฉลี่ยประมาณวันละ ๑ เหตุการณ์ ขณะที่ จ.ยะลา เฉลี่ ๒ วัน ต่อเหตุการณ์ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนจึงต้องมีการโหมก่อเหตุอย่างหนัก เพื่อแสดงความคงอยู่และหนุนช่วยแกนนำในการกดดันให้มีการยกเลิก รก.ฉุกเฉิน ฯ
          ๔. การก่อเหตุที่ทำให้ชาวบ้านและ จนท.เสียชีวิตและบาดเจ็บ อย่างท้าทายต่ออำนาจรัฐอย่างยิ่ง อาทิตย์
               - การยิงถล่มขบวนรถไฟที่ ๔๖๓ ซึ่งวิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟพัทลุงจรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโกลก เหตุเกิดห่างจากสถานีรถไฟสะโลตราแตะ ประมาณ ๒๐๐ เมตร ช่วงบริเวณ ม.ซ๖ ต.เฉลิม อ.ระแงะ ทำให้ จนท.รถไฟ และ อส.ทพ.เสียชีวิต ๑ ราย และบาดเจ็บสาหัส ๓ นาย เมื่อ ๑๐ เม.ย.๕๒
              - การยิงถล่มร้านน้ำชาในท้องที่ ม.๗ ริมถนนสายปะแต – กาโต๊ะ ต.ปะแต อ.ยะหา ทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส ๔ ราย เมื่อ ๒๐ เม.ย.๕๒
              - การยิงถล่มบริเวณหน้า สภ.จะกว๊ะ ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกำลังเล่นฟุตบอลอยู่บริเวณลานจอดรถ๔/อาคารอำนวยการของ สภ.จ๊ะกว๊ะ ได้รับบาดเจ็บ ๘ นาย เมื่อ ๒๓ ใม.ย.๕๒
              - การวางระเบิดหน้าร้านขายก๋วยจั๊บ ริมถนนสายรือเสาะ – จะกว๊ะ ม.๒ เขตเทศบาลตำบลรืเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ของนางปราณี อ่อน ทำให้มีผุ้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ๑๖ ราย เมื่อ ๒๔ เม.ย.๕๒
              - การใช้อาวุธสงครามยิงชาวบ้านขณะนั่งเล่นอยู่ในบ้าน ที่บ้านสูแก ม.๕ ต.ปะแต อ. ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๔ คน และบาดเจ็บสาหัส ๑ คน เมื่อ ๒๘ เม.ย.๕๒

การตรวจค้น/จับกุม
          ในช่วงเวลารายงานพบว่า จนท.ยังสามารถใช้ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ในการตรวจ/จับกุม ได้อย่างสัมฤทธิ์ผลและต่อเนื่อง ที่สำคัญได้แก่
               - การตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ๓ แห่ง เมื่อ ๔ เม.ย.๕๒ คือ ที่ ม.๓ ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยตามกฎอัยการศึกได้จำนวน ๗ ราย ประกอบด้วย นายมูฮัมหมัดแอรี ดือราเซะ นายยูกฟรี มะหะ นายคอซี เจ๊ะแกร์ นส.รอกีเยาะ มะหะ นายอับดุลกอเดร์ สาเลง นายการียา วาแม และ นายอุเซ็ง มะหะ ส่วนที่ ม.๒ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี สามารถจับกุมผู้ต้องหา/ผู้ต้องสงสัยได้ ๓ ราย ได้แก่ นายซาการียา ดือราแม นายอุสมาน หะนิมะ และนายมะยาลี มูดอ ขณะที่ ต.ปะโด อ.มายอ สามารถควบคุมตัวกลุ่มแนวร่วมได้ ๒ ราย คือ นายมะรูติง ปาเงาะ และ นายอิบบรอเฮง มามุ โดยทั้งสองอยู่ในกลุ่มเครือข่ายของ นายอาหะมะ จาจ้า แกนนำ RKK ที่รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อ.มายอ
               - การตรวจค้นจับกุมที่ ม. ๒ ต.บาตง อ.รือเสาะ จนสามารถวิสามัญ นายมาหามะ สะโต ได้ เมื่อ ๔ เม.ย.๕๒
              - การตรวจค้นจับกุมที่ อ.หนองจิก และ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งสามารถจับกุม นายมูฮาหมัดนูรูดิง มะรอแม หรือโตะแซ สมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับสั่งการ (มีหมายจับใสคดีความมั่นคงหลายคดี) นายอิสมะแอ อาแว (ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง) พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก ๑๙ คน เมื่อ ๑๓ เม.ย.๕๒
              - การตรวจค้นจับกุมที่ บ.ยานิง ม.๒ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง สามารถวิสามัญ นายรอซือดี มามะ แกนนำแนวร่วม RKK และคุมตัว นายอุสมาน เจ๊ะแต รวมทั้ง นายอัมรี มือลี ได้ เมื่อ ๒๙ เม.ย.๕๒

การเคลื่อนไหวของแกนนำแนวร่วมและ SYMPATHIZER อิสลาม
          การเคลื่อนไหวของแกนนำแนวร่วมและ SYMPATHIZER อิสลาม ในช่วงรายงาน ยังคงมุ่งเน้นอยู่ที่การสร้างกระแสกดดันให้มีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ฯ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ม.ค.๕๒ หลังการจุดประกายให้ความหวังเพื่อซื้อใจอิสลามของนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มจากการปูกระแสของสถาบันอิศรา และตอบรับจาก นาย......สส. หลายพรรค จ.นราธิวาส นอกจากนี้ ยังพบนัยของการต่อต้านการเรียนรู้ภาษาไทยของอิสลาม ความพยายามดึงโลกอิสลามเข้ามาแทรกแซง ในความขัดแย้งภายในประเทศ การเรียกร้องผลประโยชน์ให้กับคนอิสลาม โดยเฉพาะการเสนอตั้งศาลความมั่นคง ที่มีอิสลามเป็นผู้พิพากษา
          สถาบันอิศรา ได้ลงบทวิจารณ์ถึงจุดอ่อน และปัญหาของ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ๖ บทความ ได้แก่ วิเคราะห์ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ครั้งที่ ๑๕ .....บทวิพากษ์จากนักสิทธิมนุษยชนระดับโลก เมื่อ ๓ เม.ย.๕๒ วิเคราะห์ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ครั้งที่ ๑๕ ....ผู้ต้องสงสัยมีสิทธิ์น้อยกว่าผู้ต้องหา เมื่อ ๘ เม.ย.๕๒ นายก ฯ เงื้อค้าง .....ครม. ยอมต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ชายแดนใต้ ฉลุย เมื่อ ๑๘ เม.ย.๕๒ สมชาย หอมลออ ต่อต้านก่อการร้ายจะได้ผลเมื่อยึดหลักสิทธิมนุษยชน เมื่อ ๑๘ เม.ย.๕๒ รศ.ดร.มารค ตามไท มาตรการของรัฐจะไม่ได้ผล ถ้าสังคมรับไม่ได้ เมี่อ ๑๙ เม.ย.๕๒ ทนายแดนใต้ชำแหละปัญหา พรก.ฉุกเฉิน ฯ เมื่อ ๑๙ เม.ย๕๒
          นาย.... ส.ส.นราธิวาส พรรคราษฎร ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้องให้เพิ่มประสิทธิประโยชน์ให้แก่อิสลาม ทั้งด้านการศึกษา ค่าตอบแทนผู้นำศาสนา โดยเฉพาะการตั้งศาลความมั่นคง ที่มีอิสลามเป็นผู้พิพากษา และยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ฯ
          พล.ต.ต. ...ผู้อำนวยการมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ พยายามโน้มน้าวให้เห็นว่า ชาวบ้านไม่พอใจ การที่รัฐส่งเสริมการใช้ภาษาไทย จนทำให้คนมลายูรู้ภาษาไทยวมากขึ้น ทั้งไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ฯ
          นาย..... ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ พยายามจะส่งนัยว่า การเรียนรู้ภาษาไทย ทำให้คนมลายูไม่สามารถกลมกลืนกับอิสลามนอกประเทศมากกว่า ๒๕๐ ล้านคนได้
          นาย.... อุปนายกหัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชน สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย มองว่ารัฐไม่พอใจที่ชาวบ้านเขียนป้ายชื่อหมู่บ้าน เป็นภาษามลายู และอักษรยาวี
          นาย ... กรรมการอิสลามประจำกรุงเทพ ฯ พยายามดึงเหตุการณ์ภายในประเทศ ออกสู่โลกอิสลาม ด้วยการพยายามรื้อฟื้นความบาดหมาง กรณีกรือเซะและตากใบ หลังจากเมื่อ มี.ค.๕๒ ศอ.บต. ก็ได้เชิญผู้นำศาสนาจากต่างประเทศเข้ามาบรรยาย เรื่องศาลชีอะห์ ขณะที่เกี่ยวข้องยังหาข้อยุติไม่ได้
          นอกจากนี้ ยังพบว่า ตัวแทนของนักศึกษาจาก ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๓๑ ราย ที่ไปศึกษาต่อยังคณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายสุรสีห์ โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร้องเรียนกรณี สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา จัดหลักสูตรสาธารณสุขให้เรียนแทนหลักสูตรพยาบาล เพราะทางสถาบันไม่มีคณะพยาบาลศาสตร์

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาล
         ในช่วงรายงาน ปรากฏความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ อาทิ การจำยอมให้มีการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ฯ ออกไปจนถึง ๑๙ ก.ค.๕๒ (ระหว่าง ๒๐ เม.ย. – ๑๙ ก.ค.๕๒) นอกจากนั้น ยังคงเป็นความมุ่งมั่นซื้อใจอิสลามอย่างไม่ลดละ อาทิ
          - การดำเนินการให้นักศึกษาอิสลามกู้ยืมเงิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย / กยศ. ได้ทันเปิดภาคเรียนที่ ๑/๒๕๕๒ เนื่องจากมี นศ.อิสลามยื่นความจำนงขอกู้เข้ามาแล้วกว่า ๑๑,๐๐๐ คน โดยเฉพาะ นศ.จำนวน ๑๑,๒๘๓ คน ให้ได้รับสิทธิกู้ในส่วนของค่าเล่าเรียน เพื่อทางมหาวิทยาลัยบางแห่ง จะได้ออกเกรดให้
          - การทยอยส่ง นศ.อิสลาม เดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ ตามโครงการให้ทุกแก่ นศ.อิสลาม จาก ๓ + ๑ จชต. ปีละ ๑,๐๐๐ คน ของ ศอ.บต.

                                               ............................................



 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์