สรุปสถานการณ์ ๓ + ๑ จชต. ๑ - ๓๐ เม.ย.๕๓
ภาวะการไร้ซึ่งอำนาจรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ใน ๓ จชต.จึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของจนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ เป็นสำคัญ อันเป็นการกระตุ้นให้มีความพยายามก่อเหตุง่ายๆแต่ความสียหายรุนแรง คือการลอบวางระเบิด และการก่อเหตุเพื่อสะท้อนความเกลียดชังและการแบ่งแยกเชื้อชาติและศาสนา จนส่งผลให้ความสูญเสียของไทยพุทธอันเกิดจากการ ก่อเหตุซึ่งเท่าที่รวบรวมได้ ระหว่าง ๑- ๓๐ เม.ย.๕๓ จำนวน ๕๓ เหตุการณ์ จึงสูงกว่ามลายูอิสลาม สำหรับการเคลื่อนไหวของนักการเมือง แนวร่วม และsympathizer มลายูอิสลามโดยรวมมีแนวโน้มลดลง เพื่อรอดูทิศทางการเมืองที่กำลังผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสับสน แม้จะยังความพยายามของสื่อในการสกัดกั้นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับ จนท. และความพยายามของอดีตนักศึกษาในการรื้อฟื้นการใช้มวลชนกดดัน จนท.อยู่บ้างก็ตาม และที่น่าสนใจก็คือการที่กลุ่มผู้ต้องหาและจำเลยในคดีความมั่นคงจาก จ.ยะลา ได้ออกมาแสดงตัวสนับสนุนรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงพยายามซื้อใจมลายูอิสลามต่อไป แม้ว่าการกระทำนั้นจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ดังเช่นการเร่งเพิ่มปอเนาะต้นแบบ ที่แบ่งเยาวชนแยกพุทธ-อิสลามออกจากกัน อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นและจับกุมของ จนท.ดูเหมือนจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้น แนวโน้มของสถานการณ์ ในสภาวะไร้อำนาจรัฐ นั้น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และระดับของความรุนแรง จึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึก และความฉลาดทันเกมส์ของจนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่เป็นสำคัญ
การเคลื่อนไหวของนักการเมือง แนวร่วม และsympathizer มลายูอิสลาม สถาบันอิศรา กำลังต่อต้านภาพวีรบุรุษของ จ่าเพียรอย่างเต็มที่ในลักษณะกัดไม่ปล่อย ด้วยการนำบทสัมภาษณ์ของมลายูอิสลามมาลงตีพิมพ์ในลักษณะทำลายภาพลักษณ์ของจ่าเพียรและสื่อต่อไปยังเจ้าหน้าที่ เพื่อลดขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ไทยพุทธ ที่อยู่ในพื้นที่แล้ว และที่จะเข้ามาในอนาคต ดังนี้ ... บทความ พิสูจน์กรณี สมเพียร เอกสมญา" สังคมไทยยัง เข้าไม่ถึง ชายแดนใต้ เมื่อ ๑ เม.ย.๕๓ เพื่อชี้นำว่าการสร้างอนุสาวรีย์ให้จ่าเพียร จะทำให้อิสลาม โดยเฉพาะบรรดาญาติของโจรที่เสียชีวิตจากการปะทะกับ จ่าเพียรไม่พอใจ ... บทความ เพราะวิสามัญฯไม่ใช่ผลงาน
อย่าปล่อยให้เกิดการฆาตกรรมโดยผู้ถือกฎหมาย เมื่อ ๖ เม.ย.๕๓ เพื่อโน้มน้าวให้เห็นว่าจนท.ต้องพยายามจับเป็นโจรให้ได้แม้ว่าจะเกิดการปะทะกันก็ตาม ... บทความ สองนักคิดต่างวัยกับหนึ่งคำถามว่าด้วยวีรบุรุษ จ่าเพียร และกรณีวิสามัญฯ เมื่อ ๑๕ เม.ย.๕๓ เพื่อสื่อว่าการปราบโจร ในลักษณะตาต่อตาและฟันต่อฟัน ของจ่าเพียร ไม่ควรถือว่าเป็นวีรบุรุษ บทความ ศาสนาพุทธกับศาสนาอิสลามที่ชาวพุทธและมุสลิมควรเรียนรู้ซึ่งกันและกัน (๑) เมื่อ ๒๒ เม.ย.๕๓ เริ่มโยงความแตกต่างในความเชื่อทางศาสนาเข้าสู่ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้แล้ว
นาย ... อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำกลุ่มนิสิตนักศึกษาทั้งชายและหญิงจำนวน ๑๐๐ คน มากดดัน จนท. ให้ดูแลผู้ต้องสงสัยที่เป็นนักศึกษา ๗ คน (ซึ่งถูก จนท.ควบคุมตัวไว้เมื่อ ๕ เม.ย.๕๓) ที่บริเวณหน้าศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อ ๖ เม.ย.๕๓
กลุ่มผู้ต้องหาและจำเลยในคดีความมั่นคง นำโดยนาย ..... จากปอเนาะพัฒนาอิสลามวิทยา ที่ได้เข้ารายงานตัวแสดงความบริสุทธิ์กับฝ่ายรัฐ พร้อมครอบครัว จำนวนกว่า ๑๐๐ คน ยื่นหนังสือเปิดผนึกให้กับ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สถิติและนัยของการก่อเหตุ
การก่อเหตุในช่วง ๑-๓๐ เม.ย.๕๓ เท่าที่รวบรวมได้ สรุปได้ว่ามีการก่อเหตุ จำนวน ๕๓ เหตุการณ์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของ มี.ค.๕๓ ซี่งมีการก่อเหตุ ๖๙ เหตุการณ์ ทั้งนี้ จ.นราธิวาส เป้นพื้นที่ ที่มีการก่อเหตุ มากที่สุด ๒๔ เหตุการณ์ โดย อ.บาเจาะ มีการก่อเหตุสูงสุด ๕ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.ระแงะ ๔ เหตุการณ์ ส่วน จ.ปัตตานี มีการก่อเหตุ ๑๕ เหตุการณ์ โดย อ.เมือง มีการก่อเหตุมากที่สุด ๔ เหตุการณ์ ส่วนจ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๑๔ เหตุการณ์ โดย อ.ธารโต และ อ.เมืองมีการก่อเหตุมากที่สุดพื้นที่ละ ๕ เหตุการณ์ ส่วน ส่วน จ.สงขลา ไม่มีรายงานการก่อเหตุ สำหรับการก่อเหตุทั้ง ๕๓ เหตุการณ์ แยกเป็นการลอบยิงตัวบุคคล ๓๐ เหตุการณ์ รองลงมาคือการวางระเบิด ๒๒ เหตุการณ์ การซุ่มโจมตี ๑ เหตุการณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวม ๑๕๑ คน แยกเป็น พุทธ ๑๐๓ คน (เสียชีวิต ๒๐ คน บาดเจ็บ ๘๓ คน) อิสลาม ๔๘ คน (เสียชีวิต ๗ คน บาดเจ็บ ๔๑ คน)
ข้อพิจารณา
๑. การก่อเหตุมีลักษณะของการที่จะสื่อให้เห็นว่าเป็นการตอบโต้กันอย่างทันควัน เนื่องจากอำนาจรัฐไม่สามารถคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ได้ ซึ่งเป็นการตอกลิ่มความหวาดระแวงระหว่างพุทธ-อิสลาม ดังเช่นที่เกิดขึ้นในอ.บาเจาะ เมื่อ ๑ เม.ย.๕๓ ซึ่งในช่วงเช้ามีการยิงชาวบ้านไทยพุทธ ๖ คน จากบ.โคกตีเต ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เสียชีวิตทั้งหมดที่บริเวณเชิงเขาบูโด ในพื้นที่ บ.บาดง ม.๖ ต.บาเจาะ และ ในช่วงค่ำของวันเดียวกันก็ได้มีการยิงถล่มใส่ร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ ที่บริเวณบ.บือราแง ม. ๔ ต.ลูโบ๊ะสาวอ ทำให้ชาวบ้านอิสลามเสียชีวิต ๒ ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ ๑๐ราย
๒. การก่อเหตุมีนัยของการไล่ฆ่าคนไทยพุทธสูง เพื่อกดดัน/กวาดล้างให้หมดไปจาก ๓ จชต.อย่างเร่งรีบ ดังจะเห็นจากจำนวนคนไทยพุทธที่สูญเสียมากกว่าอิสลาม อีกทั้งยังเจาะจงคนชรา ซึ่งเป็นคนไทยพุทธที่อยู่มานานและติดที่จึงไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่
๓. การก่อเหตุที่มีลักษณะของการตามล่าเป้าหมายไทยพุทธอย่างไม่ลดละ อาทิ กรณี นายธีระวัฒน์ เลิศวัฒนธีระกุล เจ้าของร้านขายยาชื่อ อุดมเภสัช ๙๙/๕ บ.ปาลัส ม.๕ ต.ลางา ซึ่งถูกตามล่าทั้งลอบวางระเบิดที่ร้านขายยาและลอบยิงมาแล้ว จำนวน ๒ ครั้ง แต่รอดตายมาได้ จนในที่สุด เมื่อ ๕ เมย.๕๒ ก็มาถูกยิงเสียชีวิตจนได้ หรือกรณีการยิงถล่มและการวางระเบิดบ้านของนายง้วน ปองถวิล อายุ ๖๐ ปี ที่เหลืออยู่เพียงหลังเดียว ที่ ม.๔ บ.ธรรมโชติ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อย่างซ้ำซาก โดยล่าสุดก็ได้มีการยิงถล่มอีก เมื่อ ๑๔ เม.ย ๕๓
๔. การก่อเหตุที่มีลักษณะของการสร้างความหวาดกลัวและเพิ่มสถิติ ดังเช่นการที่
คนร้ายยิงบ้าน ผญบ. ม.๓ บ.ซาไก ต.บ้านแหร อ.ธารโตจ.ยะลา ซึ่งมี อส. คุ้มกันอยู่ และยิงหน่วยทหารพัฒนาสันติที่ตั้งฐานอยู่ที่นั่นด้วย แต่ไม่มีการสูญเสีย เมื่อ ๙ เม.ย.๕๓ หรือการกราดยิงกลางซอยลำพะยา และฐานชุดเฝ้าตรวจชายแดนซึ่งอยู่ใน ม.๓ บ.ซาไก ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา แต่ไม่มีความสูญเสีย เมื่อ ๑๓ เม.ย.๕๓
๕. การก่อเหตุที่มีลักษณะของการหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย โดยเน้นการวางระเบิดซึ่งสูงถึง ๒๒
เหตุการณ์ และลดการซุ่มโจมตีลง เหลือเพียงเหตุการณ์เดียว
๖.การก่อเหตุที่แสดงนัยบ่งบอกถึงการแบ่งแยกเชื้อชาติและศาสนาอย่างชัดเจน ดังเช่นกรณีการประกบยิงน.ส.จุฑามาตร ใจแก้ว จาก ม. ๗ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส บาดเจ็บสาหัส บริเวณ ม. ๗ บ.ดูกูสุเหร่า ต.บาเจาะ ขณะที่น.ส.คอลีเยาะ สามะ นั่งซ้อนท้าย รถ จยย.มาด้วยกลับไม่บาดเจ็บแต่อย่างใด เมื่อ ๑๘ เม.ย.๕๓
มาตรการซื้อใจอิสลามของรัฐบาล
- ผู้ว่าฯนรานำทีมเยี่ยมปลอบขวัญชาวบาเจาะ
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผบ.ฉก.นราธิวาส พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางมาที่มัสยิดดารุลอามาน บ.บือราแง ม. ๔ ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ เพื่อทำความเข้าใจและเยี่ยมปลอบขวัญเครือญาติของผู้เสียชีวิต จากเหตุคนร้ายใช้ปืนสงครามกราดยิงร้านขายน้ำชาใน บ.บือราแง ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๓ ราย และได้รับบาดเจ็บอีก ๙ คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ ๑ เมษายน พร้อมกันนี้ผู้นำศาสนาและชาวบ้านใน บ.บือราแง ประมาณ ๒๐๐ คน ยังได้รวมใจกันทำพิธีละหมาดฮายัต เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายด้วยโดยระหว่างการพบปะกับกลุ่มชาวบ้านในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้ายให้ทางการทราบด้วย ขณะที่ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีกรณีคนร้ายยิงร้านน้ำชา ว่า ขณะนี้ได้ความคืบหน้าทางคดีไปมากแล้ว เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิด คาดว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ภายในเร็ววันนี้...... ๓ เม.ย.๕๓
- แม่ทัพภาคที่๔ ลงยะลาดูการปรับปรุงมัสยิด..... พลโทพิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ ๔ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ พร้อมด้วยคณะฝ่ายเสนาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ได้เดินทางไปเยี่ยมราษฎร บ.เยาะ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา โดยมี พลตรี สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา , นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการยะลาและนายสุรชัย ศุภลักษณ์ นายอำเภอธารโต ร่วมให้การต้อนรับ และเยี่ยมเยียนราษฎรโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็งและร่มเย็น บ้านสันติ ๒ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการนี้ นายสุรชัย ศุภลักษณ์ นายอำเภอธารโต ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน อ.ธารโต จากนั้น แม่ทัพภาคที่ ๔ ได้ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงมัสยิด ตามโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็งฯ พร้อมกับมอบสิ่งของให้แก่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
๔ เม.ย.๕๓
- วางนโยบายพัฒนาปอเนาะต้นแบบ ชินวรณ์ย้ำเริ่มปี ๕๓ นี้ ๙ แห่งก่อน
. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ ๕เม.ย.นี้ ศธ. จะจัดแถลงนโยบายการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ ๓จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตนและผู้บริหารของ ๕หน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) จะร่วมกันชี้แจง ถึงนโยบายสำคัญที่จะเร่งดำเนินการในพื้นที่ คือ การพัฒนาสถานศึกษาปอเนาะต้นแบบระดับตำบล โดยจะให้ ๔ อำเภอ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔อำเภอในสงขลา ทำการคัดเลือกตำบลมา ๑ตำบล ที่มีสถานศึกษาปอเนาะที่จะพัฒนาเป็นต้นแบบตำบลละ ๑แห่ง รวมทั้งสิ้น ๔๘แห่ง โดยเบื้องต้นในปีงบประมาณ ๒๕๕๓นี้ จะพัฒนาให้ได้ก่อน ๙แห่ง และดำเนินการต่อเนื่องในปีงบประมาณ ๒๕๕๔อีก ๓๙แห่ง อย่างไรก็ตาม ศธ.ต้องการพัฒนาสถานศึกษาปอเนาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพ มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านวิชาการ ศาสนา สามัญ วิชาชีพ มีแหล่งเรียนรู้และเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยให้บริการได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ต้องการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอิสลามศึกษาที่มีคุณภาพ, ส่งเสริมการร่วมมือกับชุมชน องค์กรศาสนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ทั้งนี้ ศธ. มุ่งหวังให้สถานศึกษาปอเนาะต้นแบบนี้ช่วยพัฒนาสถานศึกษาปอเนาะอื่น ๆ ในอนาคต
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับคุณลักษณะของสถานศึกษาปอเนาะต้นแบบ คือ มีการพัฒนาด้านกายภาพ คือ การมีอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมของสถาบันศึกษาปอเนาะ เช่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ มีคอมพิวเตอร์ ๑เครื่องต่อนักเรียน ๑๐คน มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ๒ Mb มีห้องวิทยาศาสตร์ มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ สวนเกษตร โรงฝึกงาน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ฯลฯ ส่วนในด้านวิชาการ สถาบันปอเนาะต้นแบบ จะต้องมีการส่งเสริมการสอนศาสนาและปฏิบัติศาสนกิจ ในระดับต้น กลาง สูง ตามแนวทางของอัลกุรอ่าน มีการสอนวิชาสามัญตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อสามารถนำวุฒิการศึกษาไปเทียบต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น โดยจะให้สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ตำบล, อำเภอ และจังหวัดมีส่วนร่วมจัดการศึกษา รวมถึงการสอนวิชาชีพ ที่จะให้สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) วิทยาลัยชุมชนมาร่วมจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม ความต้องการของผู้เรียนในพื้นที่ นอกจากนี้ต้องมีศูนย์เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้ชุมชนมีโอกาสมาใช้ ที่สำคัญต้องมีการพัฒนาบุคลากร ผู้ช่วยครู (ฮุซตาส) โต๊ะครูหรือบาบอให้มีความรู้ในการบริหารจัดการที่ทันสมัยเพื่อให้การพัฒนาผู้เรียนมีคุณภาพ ทั้งนี้ จะพัฒนาสถานศึกษาปอเนาะให้เป็นเครือข่ายโรงเรียนคู่พัฒนากับโรงเรียนใกล้เคียง เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น
ศอ.บต. ร่วมกับนักศึกษาทุนมหาดไทย ตั้งชมรมภูมิบุตรอาสาพัฒนาท้องถิ่น แทนคุณแผ่นดินเกิด
. นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาตามโครงการส่งเสริมการศึกษาแก่ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงมหาดไทยและศอ.บต.จำนวนมาก ที่รับราชการในหน่วยงานต่างๆและประกอบอาชีพอิสระในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าบุคคลเหล่านี้มีเจตนาดีที่จะเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ของตนเองเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน จึงได้รวมตัวกันจัดตั้งชมรมภูมิบุตรอาสาพัฒนาท้องถิ่น ร่วมกับ ศอ.บต. เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อาทิ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เยาวชนมุสลิม เกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการศาสนาอิสลามของไทยและสิทธิเสรีภาพ โอกาส ความเสมอภาคของชาวไทยทุกศาสนิก การจัดแนะแนวการศึกษาและประกอบอาชีพให้แก่เยาวชน เพื่อทำหน้าที่ สื่อสองทางระหว่างรัฐกับประชาชน เป็นต้น
ทางด้าน ผศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม ประธานชมรมภูมิบุตรอาสาพัฒนาท้องถิ่น กล่าวว่า เพื่อให้นักศึกษาที่ได้รับทุนอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุนมหาดไทย ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภูมิภาคต่างๆและกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหาร ศอ.บต. และรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งได้รับทราบแผนการพัฒนาพื้นที่ สัมผัสวิถีชุมชนและปลูกฝังการมีจิตอาสา ทางชมรมภูมิบุตรอาสาพัฒนาท้องถิ่น จึงได้ร่วมกับ ศอ.บต. จัดกิจกรรม คนรุ่นใหม่ ร้อยดวงใจให้บ้านเกิด ขึ้น ในระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ เม.ย.๕๓ ณ จ.ยะลาและปัตตานี โดยมีแกนนำนักศึกษาทุนจากทุกสถาบันเข้าร่วมประมาณ ๑๕๐ คน
.๑๑ เม.ย.๕๓
การตรวจค้นและจับกุม
การตรวจค้น/จักกุมของ จนท.ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างคึกคักสวนทางกับความอ่อนแอของอำนาจรัฐ ซึ่งทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาและควบคุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างต่อเนื่องอาทิ
- การปิดล้อมตรวจค้นจนสามารถจับกุม นายอามีน กาซอ แกนนำระดับสั่งการ และปฏิบัติการก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อ.มายอ ได้ที่ บ้านเลขที่ ๔๐/๙ บ.บาซาเวาะเซ็ง ม.๒ ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง เมื่อ ๓ เม.ย.๕๓
- การจับกุมตัวนายอับดุลเล๊าะ ประดู่ แกนนำกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคระดับปฏิบัติการ อยู่บ้านเลขที่ ๑๒ ม.๙ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อ ๕ เม.ย.๕๓
- การจับกุมตัวนายลุคมาน มะสีละ แกนนำแนวร่วม ได้ที่บ้านเลขที่ ๑๕/๕ ม. ๔ ต.กอตอตือระ อ.รามัน เมื่อ ๑๐ เม.ย.๕๓
- การจับกุมตัวนายอีซาน ปะดอแม็ง แกนนำอาร์เคเคระดับหัวหน้าได้ที่ บ้านเลขที่ ๑๖/๒ ม.๑ เขตเทศบาลตำบลกายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อ ๑๒ เม.ย.๕๒
- การจับกุมตัวนายอิสมาแอ ดูสุ แกนนำกองกำลังติดอาวุธ อาร์เคเค ระดับปฏิบัติการได้ที่ บ้านเลขที่ ๖๐ ม.๕ ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อ ๑๖ เม.ย.๕๓
- การจับกุมตัวแนวร่วมอาร์เคเค ๒ คน คือ นายอัมรอน มะเด็ง ที่อยู่ ๑๑๙/๑ ม. ๒ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายเลาะอุมา โละมะ ที่อยู่ ๔๔ ม. ๖ ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อ ๒๐ เม.ย. ๕๓
............................................
|