ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี


สถานการณ์ ๓ + ๑ จชต.
๑ - ๓๑ พ.ค.๕๔

          การเคลื่อนไหวของอิสลามที่น่าวิตกอย่างยิ่ง คือกระแสชาตินิยมมลายูอิสลามกำลังเชี่ยวกรากจากความภาคภูมิใจในชัยชนะเหนือพุทธครั้งแล้วครั้งเล่าของอิสลาม โดยล่าสุดคือการเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้เพื่อปกป้องวัดพุทธจากเงื้อมมือของอิสลามจนเกิดการกระทบกระทั่งกันทางความคิดอย่างรุนแรงในกรุงเทพฯระหว่างพุทธ-อิสลาม อันเป็นผลมาจากความอ่อนแอ การแตกสามัคคีและความเป็นตัวใครตัวมันของสมาฃิกในองค์กรพุทธ ขณะที่องค์กรอิสลามมีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น ทั้งสื่ออิสลาม และคณะกรรมการกลางอิสลาม ฯ
          สำหรับการก่อเหตุใน ๓ จชต.พบว่า หลังจากได้มีการสร้างสถานการณ์กราดยิงร้านน้ำชา บ.กาโสด ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ ๓ พ.ค.๕๔ แล้วได้มีการโหมฆ่าคนไทยพุทธรายวัน และการลอบโจมตี จนท. พร้อมทั้งมีการแจกกระจายใบปลิวปลุกระดมให้ชาวบ้านอิสลามเกิดความคับแค้นและเกลียดชังไทยพุทธ จนทำให้สถิติการก่อเหตุในจ.ยะลาซึ่งซบเซามานานกลับพุ่งสูงขึ้นจาก ๑๐ เหตุการณ์ในช่วงเดียวกันของ เม.ย.๕๔ เป็น ๒๑ เหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บของคนไทยพุทธจึงสูงถึง ๘๑ ราย ขณะที่อิสลาม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวม ๕๒ ราย
         ส่วนการเคลื่อนไหวขององค์กรและนักการเมืองอิสลามนั้น พบว่าทั้งหมดยังคงใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างการยอมรับในสังคมอิสลามอย่างน่าอันตราย โดยเฉพาะกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติใช้การรุกรานสร้างความขัดแย้งกับวัด ในลักษณะที่ยอมแพ้ไม่ได้ สถาบันอิศราใช้การ discredit จนท. และมุสลิมไทยดอทคอม ใช้การกระตุ้นให้มีการตอบโต้ตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างพุทธกับอิสลาม เพื่อ promote องค์กร สำหรับนักการเมืองมีการหาเสียงในลักษณะการเสนอสิ่งตอบแทนทางศาสนา และการแบ่งแยกพุทธ-อิสลาม ชัดเจน โดยเฉพาะพรรคมาตุภูมิ

แนวโน้มของสถานการณ์
          เชื่อว่าในสภาวะที่อิสลามกำลังฮึกเหิมด้วยความเป็นต่อโดยมีสื่อมวลชนเป็นตัวคอยกระตุ้น และองค์กรอิสลามเป็นผู้สนับสนุน จะทำให้ความเกลียดชังระหว่างศาสนานอก ๓ จชต.ร้าวลึกอย่างน่าวิตก ขณะที่การหาเสียงในลักษณะมลายูเพื่อมลายูของนักการเมืองอิสลาม รวมทั้งการกำจัดคู่แข่งทางการเมือง จะทำให้สถานการณ์ใน ๓ จชต.ซึ่งอยู่ในสภาวะไร้อำนาจรัฐ ยุ่งยากมากขึ้นอีกทั้งสถิติการก่อเหตุและความสูญเสียก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ระดับความรุนแรงของสถานการณ์จะมากน้อยเพียงใดส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการแสดงท่าที่ของทหารโดยเฉพาะ แม่ทัพภาค ๔ ว่าจะกดดันให้ทหารถอยหรือไม่

การเคลื่อนไหวขององค์กรและนักการเมืองอิสลาม
         องค์กรอิสลามนั้น ยังคงใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างการยอมรับในสังคมอิสลามอย่างน่าอันตราย โดยเฉพาะกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติใช้การรุกรานสร้างความขัดแย้งกับวัด สถาบันอิศราใช้การ discredit จนท. และมุสลิมไทยดอทคอม ใช้การกระตุ้นให้มีการตอบโต้ตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างพุทธกับอิสลาม เพื่อ promote องค์กร
          กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ การใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือเสริมสร้างการยอมรับของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติยังคงเป็นไปอยางต่อเนื่องและสัมฤทธิ์ผลอย่างยิ่ง โดยในช่วงรายงานได้มีการปลุกระดมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุให้อิสลามไปรวมตัวกดดันให้วัดหนองจอกยอมรับนักเรียนที่แต่งกายผิดระเบียบเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียน ใน ๙ พ.ค.๕๔ พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.ประพนธ์ หลีสิน ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนเกิดเป็นการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง โดยมีแรงกระตุ้นจากสื่ออิสลาม โดยเฉพาะมุสลิไทยดอทคอม จนถึงขนาดมีการปลุกระดมการทำสงครามศาสนาไล่ล่าคนไทยพุทธซึ่งเป็นผู้จัดรายการวิทยุ(ดีเจ)ต้องออกมาขอโทษอิสลามทางสถานีโทรทัศน์ เมื่อ ๒๓ พ.ค.๕๔ และกดดันให้ ร.ร.วัดหนองจอกต้องจัดการสอนเด็กอิสลามที่มีปัญหาที่บ้าน อีกทั้งยังมีการเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะเพื่อคงกระแสความขัดแย้งเอาไว้ ซึ่งล่าสุดเมื่อ ๒๕ พ.ค.๕๔ ก็ได้มีการออกแถลงการณ์ในเรื่องเดิมอย่างซ้ำซากในลักษณะที่ยอมแพ้ไม่ได้
         มุสลิมไทยดอทคอม นำความขัดแย้งประเด็นวัดหนองจอกมาขยายผลให้เกิดการตอบโต้กันอย่างรุนแรงระหว่างพุทธ กับอิสลาม โดยมีสมาพันธุสื่อมุสลิมไทยและกรรมการกลางอิสลาม แห่งประเทศไทยเป็นผู้ให้การสนับสนุน จนนำไปสู่การคุกคามความปลอดภัยของดีเจไทยพุทธซึ่งในที่สุดก็ต้องออกมาขอโทษอิสลามผ่านโทรทัศน์ในที่สุด
         ชุมนุมฮิญาบวัดหนองจอก อีหม่ามดังหนองจอกตั้งป้อม ด่าเช็ดพวกหัวรุนแรง มุสลิมไทยดอทคอม : ๙ พค. ๕๔ ….หนังสือพิมพ์ไทยแลนด์ดารุสลาม (TND) รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (๙) มีกลุ่มพี่น้องมุสลิมจำนวนมากรวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก... ด้านฝ่ายกฏหมายของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ นายซักรียา สุขจันทร์ บอกว่ามาทวงถามสัญญา ...อิหม่ามชาตรี แอนดารีส อิหม่ามประจำมัสยิดดารุสลาม (บาหยัน) ...วิทยากรอิสลามศึกษาของโรงเรียนดังกล่าวได้..บอกว่า ตนสอนที่นี่มา ๑๘ ปี เคยทำเรื่องการคลุมฮิญาบของเด็กมาหลายครั้งแต่เด็กไม่ค่อยตอบรับ… นอกจากนั้นอิหม่ามชาตรียังได้กล่าวหากลุ่มที่สนับสนุนให้เด็กนักเรียนคลุมฮิญาบว่า "กลุ่มที่มามีเรื่องแอบแฝง ผมไม่มั่นในใจความบริสุทธิ์" พร้อมกล่าวอีกว่า "ผม ไม่ได้ปฏิเสธศาสนา แต่เมื่อกฏระเบียบเป็นไปไม่ได้เราก็ต้องรอวันฟ้าใส ให้ดูขอบเขตความเป็นไปได้ ที่นี่กำลังอยู่กันดี ไม่อยากให้ที่นี่เหมือนภาคใต้ ซึ่งมาจากการจุดประกายเช่นนี้ละ"
         ดร.อิสมาอีลลุตฟี แจงเตือนสติทุกฝ่าย กรณีฮิญาบ รร.วัดหนองจอก มุสลิมไทยดอทคอม : ๑๑ พค. ๕๔ ๑๘:๓๑:๕๙ เพื่อสรุปว่าการคลุมฮิญาบของอิสลามเป็นสิ่งที่ทุกประเภทของร.ร. ต้องยอมรับ
หมิ่นอิสลาม หลายคนฟัง นี้แหละสร้างความแตกแยกตัวพ่อ มุสลิมไทยดอท-ดอทคอม : ๑๙ พค. ๕๔ ๒๒:๐๔:๒๗
         ล่าสุด โกดัง ๑๓ ปิดรายการ DJ เอฟ อิติปิโส แล้ว มีแค่คำขอโทษ มุสลิมไทยดอทคอม : ๒๐ พค. ๕๔ ๘:๒๒:๔๕
         โลกออนไลน์เดือด ดีเจเอฟดูหมิ่นอิสลาม ดังกระฉ่อนโลกชั่วข้ามคืน มุสลิมไทยดอทคอม : ๒๑ พค. ๕๔ ๐:๓๒:๑๙
         ดีเจเอฟ ล่าสุด สมาพันธ์สื่อมุสลิมไทย ออกโรงชี้ ดีเจ เอฟ ต้องฝึกอบรมอิสลาม มุสลิมไทยดอทคอม : ๒๒ พ.ค.๕๔
         โดมทอง ล้อหมุน ออกแถลงการณ์ ประณาม ดีเจ เอฟ โกดัง ๑๓ มุสลิมไทยดอทคอม : ๒๓ พค. ๕๔ ๑๓:๕๗:๔๓
         คลิปดีเจเอฟ ยอมโผล่หัวออกทีวี แต่ไม่กล้าเผยใบหน้า ยันกลัวโดนทำร้าย มุสลิมไทยดอทคอม : ๒๔ พ.ค.๕๔

สถาบันอิศรา
         ฟังเสียงชาวบ้านหลังปฏิบัติการณ์ดับการณ์"มะแอ อภิบาลแบ" เมื่อ ๒๒ พ.ค.๕๔ ได้ออกสัมภาษณ์ชาวบ้านเพื่อสรุปว่า ชาวบ้านไม่เชื่อข้อมูล จนท.….นายมะรุสะดี ดีสาเอะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่แน่ใจว่านายมะแอจะสามารถก่อคดีได้มากถึง ๒๘ คดี แต่ในฐานะที่เป็นชาวบ้านอาจจะไม่รู้ข้อมูลลึกๆ ก็ได้ .....นายมะรุสะดี กล่าวต่อว่า การคาดการณ์หรือบางครั้งก็เป็นการด่วนสรุปของเจ้าหน้าที่ ทำให้ชาวบ้านในสามจังหวัดถูกละเมิดสิทธิ์ไม่น้อยเหมือนกัน
         พรรคมาตุภูมิ "บิ๊กบัง"นำทีมผู้สมัครสส.สตูลลุยหาเสียงผู้นำศาสนา-พี่น้องมุสลิม ….วันที่ ๒๙ พ.ค. พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วยนายอารีเพ็ญ อุตรสินธิ์ รองหัวหน้าพรรค ได้ตระเวนหาเสียงร่วมกับนายซอลีฮีน อิสมาแอล ผู้สมัครเขต๑ และนายวิภัชพล สุธากุล ผู้สมัครเขต๒ ...ทั้งนี้ พลเอกสนธิ ได้กล่าวปราศรัยว่าหากพรรคการเมืองของตนได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะส่งเสริมชาว มุสลิมให้มีการศึกษาที่ดีขึ้น ... ..สำหรับพรรคมาตุภูมิเชื่อว่าในอนาคตจะต้องได้เป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง เพราะต้องได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า ๑๐ คน
         ทักษิณโปรยยาหอมจากดูไบเรื่องฮัจย์ คิดสร้างเมืองใกล้มักกะฮ์ เอาใจพี่น้องฮุจญาต มุสลิมไทยดอทคอม ๓๑ พ.ค. ๕๔ ๒๒:๓๓:๐๒ …..ส่วนหนึ่งของเสียงจากคลิป ที่อดีตนายกทักษิณ ได้พูดไว้…ถ้าผมกลับไป ผมจะสถาปนาความสัมพันธ์กับซาอุดิอาราเบีย เพราะได้พูดกันไว้เยอะพอสมควร เพราะบังเอิญไปลงทุนร่วมกับเจ้าชายที่ซาอุดิอาราเบีย และก็จะสร้างเมืองใกล้ๆมักกะฮ์ด้วย เพราะฉนั้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยพี่น้องมุสลิมที่จะ ไปมักกะฮ์”

สถิติและนัยของการก่อเหตุ
         การก่อเหตุในช่วง ๑-๓๑ พ.ค. ๕๔ เท่าที่รวบรวมได้ สรุปได้ว่ามีการก่อเหตุ ๖๕ เหตุการณ์ เพิ่มจาก ๕๔ เหตุการณ์ในช่วงเดียวกันของ เม.ย.๕๔ เล็กน้อย ทั้งนี้ จ.ปัตตานี ซึ่งมีผวจ. และ ผกก.เป็นอิสลาม มีการก่อเหตุสูงสุด ๒๒ เหตุการณ์ โดย อ.โคกโพธิ์ มีการก่อเหตุมากที่สุด ๔ เหตุการณ์ ขณะที่ อ.หนองจิก อ.สายบุรี มีการก่อเหตุพื้นที่ละ ๓ เหตุการณ์ เท่ากัน รองลงมาคือ จ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๒๑ เหตุการณ์ โดย โดย อ.เมืองมีการก่อเหตุสูงสุด ๘ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.บันนังสตา มีการก่อเหตุ ๔ เหตุการณ์ เท่ากับ อ.รามัน ส่วน จ.นราธิวาส ซึ่งมีการก่อเหตุ ๒๐ เหตุการณ์ นั้น อ.ศรีสาคร และ อ.บาเจาะ มีการก่อเหตุสูงสุด ๔ เหตุการณ์ เท่ากัน และ อ.เมือง มีการก่อเหตุ ๓ เหตุการณ์ สำหรับที่ จ.สงขลา มี การก่อเหตุ ๒ เหตุการณ์ ที่ อ.เทพา และ อ.นาทวี ทั้งนี้การก่อเหตุทั้ง ๖๕ เหตุการณ์ แยกเป็นการลอบยิงตัวบุคคล ๔๑ เหตุการณ์ รองลงมาคือการวางระเบิด ๑๘ เหตุการณ์ การซุ่มโจมตี จนท. ๔ เหตุการณ์ และอื่นๆ ๒ เหตุการณ์ โดยไทยพุทธมีการสูญเสีย ๘๑ ราย แยกเป็นการเสียชีวิต ๒๓ ราย และบาดเจ็บ ๕๘ ราย สูงกว่าอิสลาม ซึ่งมีการสูญเสียรวม ๕๒ ราย แยกเป็นการเสียชีวิต ๒๐ ราย และบาดเจ็บ ๓๒ ราย

ข้อพิจารณา
          ๑. การก่อเหตุที่ จ.ปัตตานี ซึ่งมี ผวจ.เป็นอิสลามและจะเกษียณใน ก.ย.๕๔ ยังคงมีการเร่งกวาดล้างคนไทยพุทธอย่างเจาะจง เช่นเดียวกับ จ.ยะลา ขณะที่ จ.นราธิวาส เป้าหมายคละกันทั้งพุทธ-อิสลาม ทั้งนี้การก่อเหตุที่ จ. ปัตตานี ๒๒ เหตุการณ์ แยกเป็นการก่อเหตุกับเป้าหมายไทยพุทธ ๑๖ เหตุการณ์ โดยเฉพาะที่ อ.โคกโพธิ์ ๔ เหตุการณ์ และที่ อ.หนองจิก ๓ เหตุการณ์ เป้าหมายเป็นไทยพุทธทั้งหมด ส่วนที่ จ.ยะลา ซึ่งมีการก่อเหตุ ๒๑ เหตุการณ์ แยกเป็นเป้าหมายไทยพุทธ ๑๗ เหตุการณ์
          ๒. การกราดยิงร้านน้ำชาที่ บ.กาโสด ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ ๓ พ.ค.๕๔ ไม่ว่าจะแผนของใครก็ตาม มีเจตนาให้ดูเหมือนเป็นการแก้แค้นของไทยพุทธเพื่อกระตุ้นให้เกิดการไล่ล่าไทยพุทธ เพิ่มสถิติการก่อเหตุใน จ.ยะลาให้เท่าเทียมกับนราธิวาสและโดยเฉพาะกับ จ.ปัตตานีที่แซงหน้าขึ้นมาหลังจากนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุลได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็น ผวจ. ปน. เมื่อ ต.ค.๕๓ ซึ่งก็สัมฤทธิผลด้วยดี ดังจะเห็นได้จากการก่อเหตุใน จ.ยะลาในช่วงรายงานเพิ่มขึ้นจาก ๑๐ เหตุการณ์ใน เม.ย.๕๔ เป็น ๒๑ เหตุการณ์ ที่สำคัญคือมีการวางระเบิดพระสงฆ์เสียชีวิต ๒ รูปที่บริเวณรอยต่อระหว่าง ม.๑-ม.๘ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ ๑๖ พ.ค.๕๔ และตามมาด้วยการโหนกระแสของ จ.ปัตตานี ซึ่งมีการล่าสังหารไทยพุทธรายวัน โดยเฉพาะที่ อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก
         ๓.การก่อเหตุในช่วงรายงานพบว่า การก่อเหตุต่อ hard target แม้จะยังถี่อยู่ก็ตาม หากส่วนใหญ่เป็นการลอบวางระเบิดก่อนแล้วจึงกราดยิงซ้ำ เพื่อหลีกเสี่ยงการเผชิญหน้า ขณะที่การซุ่มโจมตีกลับลดลงเหลือ ๔ เหตุการณ์ เทียบกับ ๑๑ เหตุการณ์ ในช่วง เม.ย.๕๔ ซึ่งอาจพิจารณาได้ ๒ ทาง ประการแรก ๑.ขวัญและพลังของกลุ่มผู้ก่อเหตุลดลงจากการที่ยังไม่สามารถกดดันจนได้สิ่งที่ตนเองต้องการและการสูญเสีย หรือการที่กลุ่มผู้ก๋อเหตุเข้ารายงานตัวกลับเข้าพื้นที่เพื่อฟื้นฟูพลังก่อนออกปฏิบัติงานอีกครั้ง
         ๔. พบว่ามีการกระจายใบปลิวยุยง/ปลุกระดมให้อิสลามรากหญ้าเกลียดชังทหาร และคนไทยพุทธ ใน จ.ยะลา หากทางการแก้เกมโดยการเรียกประชุมผู้นำศาสนาซึ่งบางส่วยก็คือแกนนำและแนวร่วมมาชี้แจงทำความเข้าใจ !!!

การตรวจค้นและจับกุมของจนท.
          การตรวจค้นและจับกุมในช่วงรายงานยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เท่าที่รวบรวมได้มีจำนวน ๙ ครั้ง ที่สำคัญได้แก่ การตรวจค้น บริเวณ ม.๓ บ.จาเราะแป ต.ธารโต จ.ยะลา เมื่อ ๒๐ พ.ค.๕๔ ซึ่งมีการปะทะกับกลุ่มคนร้ายและสามารถวิสามัญคนร้าย ๔ ราย ได้แก่ นายมะแอ อภิบาลแบ อายุ ๓๔ ปี ที่อยู่ ๗๓ หมู่ ๑ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา แกนนำแนวร่วม ค่าหัว ๒ ล้านบาท นายมูสตอปา แนลูแล นายมูฮัมมัดยูซุป ตือนา และ นายอาแซ ฮูลู และนายมะสอบรี วาซู

การซื้อใจอิสลามของเจ้าหน้าที่รัฐ
         รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นซื้อใจอิสลามทั้งการหางานให้กับผู้สำเร็จวิชาพยาบาล และการรับมอบตัวแนวร่วมอย่างมีมิตรไมตรีเป็นอย่างยิ่ง
         ก.สาธารณสุข ๔ พ.ค. - ก.สาธารณสุข เตรียมบรรจุพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า ๓,๐๐๐ ตำแหน่ง….นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพยาบาล ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และสงขลา ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ผลิตพยาบาล จำนวน ๓,๐๐๐ คน โดยให้ผู้ที่เกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเรียนหลักสูตรพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งขณะนี้เรียนจบและได้กลับไปปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องลงไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับบรรจุพยาบาลชุดนี้เป็นข้าราชการ โดยวานนี้ (๓ พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ดังนี้
         ๑. จัดอัตราข้าราชการให้พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ที่จบในปี ๒๕๕๔ จำนวน ๒,๘๒๕ คน
         ๒. จัดอัตราข้าราชการให้พยาบาลรุ่นพี่ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งลูกจ้างในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จำนวน ๖๖๙ ตำแหน่ง เพื่อให้ความยุติธรรม
         ๓. จัดตำแหน่งข้าราชการให้แก่แพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ที่จบใหม่ในปี ๒๕๕๔ จำนวน ๒,๓๘๙ คน
         ๔. ลงนามหนังสือถึง ครม. และ ก.พ. ขอให้ดูแลยกระดับลูกจ้างที่มีอยู่ประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน เช่น เจ้าพนักงานสาธารณสุข นักวิชาการสาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร รวมทั้งเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษา พนักงานเวชกรรมฟื้นฟู เจ้าพนักงานเวชสถิติ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ และอื่น ๆ เป็นต้น ที่ปฏิบัติงานในสังกัด สธ. ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป. ...สำนักข่าวไทย ๔ พ.ค.๕๔ ผู้ต้องสงสัยก่อความรุนแรงแต่รัฐไม่มีหลักฐานเอาผิด เข้ารายงานตัวกับผู้ว่าฯยะลา
         วันนี้ (๒๖ พ.ค.) เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น.ที่ห้องวอร์รูม ชั้น ๓ อาคาร ๒ ศาลากลางจังหวัดยะลา นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานรับมอบตัว ราษฎรบุคคลผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรง จำนวน ๓๒ คน เพื่อเข้าร่วมเสริมสร้างความสันติสุขในจังหวัดยะลา แยกเป็นผู้ที่ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรง แต่ไม่มีหลักฐานพอที่จะออกหมายจับ จำนวน ๑๑ คน ในจำนวนนี้ มีนายอับดุลกอริม เจ๊ะแซ อยู่บ้านเลขที่ ๑๒๓ หมู่ที่ ๔ ต.ลิดล อ.เมืองยะลา มีศักดิ์เป็นญาติกับ นายอับดุลรอแม เจ๊ะแซ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และยังเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคประชาธรรม เขต ๑ จ.ยะลา ด้วย
         นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่เป็นเวลานาน เมื่อได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วไม่มีงานทำหรือถูกออกจากงาน จังหวัดยะลา ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการจัดฝึกอบรมวิชาชีพให้ใหม่ อีกด้วย จากการดำเนินงานตามแนวทาง ด้วยการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ศูนย์ยะลาสันติสุข ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๒ - เดือนธันวาคม ๒๕๕๔ มีผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาและจำเลยคดีความมั่นคง มารายงานตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเพื่อเสริมสร้างความสันติสุขใน จังหวัดยะลารวมทั้งสิ้น จำนวน ๑๒๙ คน … ประขาชาติอิสลามออนไลน์ ๒๖ พ.ค.๕๔

ใบปลิว ที่โปรยในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งทาง สภอ.เบตง และ ป้องกันอำเภอ รับทราบแล้ว จำนวน ๒ แผ่น มีข้อความ ดังนี้

แผ่นที่ ๑
         ใคร...? บึ้มย่านตลาดเก่ายะลา เมื่อ เวลาประมาณ ๐๗.๓๐ น. ของวันที่ ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ ได้เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดบนถนนบริเวณทางแยกปากทางเข้า ซอยสิโรรส ๓ ย่านตลาดเก่า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๘ ราย โดยมีอาการสาหัส ๒ ราย ซึ่งในเหตุการณ์ดูเหมือนเป็นการขว้างระเบิดเข้าใส่รถทหาร แต่พลาดเป้าหมายถูกด้านหน้าของรถแล้วกระเด็นตกลงบนพื้นถนน และเกิดระเบิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ส่งรองผู้ว่ามาชี้แจงกับผู้นำศาสนา และประชาชนที่มัสยิดกลางยะลา พร้อมทั้งได้นำภาพเหตุการณ์ของวงจรปิด และได้ชี้นำประชาชนว่า เหตุการณืดังกล่าวไม่ใช่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มโจนก่อการร้าย แต่จากภาพเหตุการณ์บ่งบอกว่า เป็นการร่วมกันจัดฉากสร้างสถานการณ์ เพราะในภาพวงจรปิด เห็นภาพมอเตอร์ไซด์กับทหารตีขนานมาตั้งแต่แรก โดยไม่ได้ตามหลังมา หลังจากนั้นได้เห็นมือขวาของผู้ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ ยกมือขึ้นเหมือนกับขว้างสิ่งของไปข้างหน้ารถทหาร และหลังจากนั้น ได้เห็นภาพควันขึ้น เหมือนกับเกิดการระเบิดอีกฟากหนึ่งของถนน โดยมาจากกล้องอีกตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่จากกล้องตัวเดิม เหตุการณ์นี้ฟันธงได้เลยว่า เป็นการร่วมกันจัดฉากสร้างสถานการณืของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เหมือนกับการสร้างสถานการณ์ กราดยิงชาวบ้าน ๕ จุด ที่บันนังสตา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต ๔ ราย และบาดเจ็บอีก ๑๖ ราย เมื่อวันที่ ๓ พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังโชคดี เหตุการณ์ที่บันนังสตา มีชาวบ้านจำรถที่ใช้ก่อเหตุและจำรูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นทหารพรานชาวพุธ ที่อยู่ในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง ทำให้ได้รู้ว่าไคร กลุ่มไหน เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เหตุการณืระเบิดครั้งนี้ และเหตุการณ์ระเบิดที่เคยเกิดขึ้น หน้าซอย ๑๔ ย่านตลาดเก่าครั้งก่อน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ ๘ มี.ย. ๒๕๕๓ ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย และบาดเจ็บ ๒๓ ราย มีใครรู้หรือไม่ว่า "ไครเป็นผู้ก่อเหตุ"
          บึ้ม รปภ.พระ เมื่อ วันที่ ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔ เมื่อเวลา ๐๖.๐๐ น. เกิดเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองพระ ขณะนั่งรถจะออกไปบิณฑบาต บนถนนภายในหมู่บ้านบาโย อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ทำให้พระภิกษุ ๒ รูป มรณภาพ ร่างแหลกเหลว และทหารอีก ๓ นาย บาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์นี้กับเหตุการณ์ระเบิดที่ย่านตลาดเก่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่? น่าคิดนะค่ะ ..... ผู้เห็นเหตุการณ์

แผ่นที่ ๒..... ๔ เหตุการณ์ ๔ ที่ในแบบเดียวกัน
         เหตุการณที่หนึ่ง เหตุการณ์ยิงคนขณะละหมาดในมัสยิด ที่บ้านไอปาแย
         เหตุการณที่สอง ยิงรถผู้ใหญ่บ้านที่ยะลา
         เหตุการณที่สาม ยิงร้านน้ำชา ที่บ้านกาโสด บันนังสตา
         และเหตุการณที่สี่ คือ ยิงรถชาวบ้านที่เบตง
         ทั้งสี่เหตุการณืที่เกิดขึ้น ทั้งทหาร กอ.รมน และรัฐบาลได้ให้ร้ายผู้ก่อความไม่สงบทั้งสิ้น... แต่...หลังจากความจริงปรากฎ ผู้กระทำเป็นอดีตทหารพรานและทหารในสังกัด พระบรมราชาและราชินี เรื่องราวกลับเงียบเฉย ??? .....นี่แหล่ะ สันดานแท้ของสยาม!!!..... ผู้ก่อการร้ายตัวจริง.....แม่งงงง

                                              ....................................................



 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์