ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี


สถานการณ์ ๓ + ๑ จชต.
๑ – ๓๐ พ.ย.๕๓

          โลกอิสลามกำลังรุกหนักในการเข้ามาสนับสนุนการแยกตัวออกเป็นอิสระของมลายูอิสลามใน ๓ จชต.ชัดเจนขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะจาก OIC และมาเลเซีย ซึ่งกำลังหนุนให้มีการจัดตั้งสหพันธ์ประชาชนปัตตานี (United Patani People Council : UPPC) และสภาประชาชนปัตตานี (Patani People Congress : PPC) ขึ้น เพื่อนำสู่การแยกตัวออกจากรัฐไทยในที่สุด อย่างสอดประสานกับการสื่อนัยของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ผ่านปกหนังสือของทางราชการไทยและแผนที่ประเทศไทยซึ่งยังไม่ทราบจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของผู้ทำ
         ส่วนภายในประเทศพบว่า กลุ่มองค์กรอิสลามโดยเฉพาะสื่ออินเตอร์เนตร่วมกับกลุ่มทนายความอิสลามกำลังเพิ่มความรุนแรงในการปลุกเร้าขยายพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างคนต่างเชื้อชาติและศาสนาในกรุงเทพฯ โดยการเริ่มทดสอบจากร.ร.มัธยมวัดหนองจอก กทม. ซึ่งขณะนี้ได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพุทธและอิสลามแล้ว ที่อันตรายอย่างยิ่งได้แก่การใช้ภาษาที่ท้าทาย อาทิ “วัดย่านหนองจอก โชว์พาว์ กระโดดขวางนักเรียน คลุมฮิญาบ” “กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ เพื่อปกป้องสิทธิ ..พี่น้องมุสลิมอย่างถึงที่สุดต่อไป” อีกทั้งยังมีการปลุกระดมให้ผู้นำศาสนาและส.ส.ของอิสลามออกมาเผชิญหน้ากับวัด และต้องพึงระวังอย่างยิ่งคือการเตรียมรุกต่อไปยังร.ร.รัฐย่านนนทบุรี
          นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหว โยกย้ายข้าราชการไทยพุทธออกนอกพื้นที่ การกีดกั้นไทยพุทธไม่ให้เข้าทำงานราชการโดยอ้างการไม่สามารถพูดภาษามลายูถิ่นได้เป็นเครื่องมือ การกดดันให้มีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการถอนทหารนอกพื้นที่ออกจาก ๓ จชต.ซึ่งก็ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากรัฐบาล เช่นเดียวกับหน่วยงานของรัฐที่ยังคงมุ่งมั่นซื้อใจอิสลาม ไม่ว่าการกระทำนั้นๆ จะทำลายพหุวัฒนธรรมหรือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความหลากหลายของวัฒนธรรม หรือจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ใน ๓+๑ จชต.หรือไม่อย่างไร สำหรับการก่อเหตุ ซึ่งเท่าที่รวบรวมได้พบว่ามีจำนวน ๓๘ เหตุการณ์ ซึ่งมีลักษณะของการก่อเหตุที่เจาะจงชัดเจนต่ออิสลามที่เป็นกลไกของรัฐ โดยเฉพาะ ส.อบต. ผญบ. และชรบ.อย่างชัดเจน โดยพื้นที่ที่มีการก่อเหตุมากที่สุด ได้แก่จ.นราธิวาส มีการก่อเหตุ ๑๕ เหตุการณ์ รองลงมา คือ จ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๑๔ เหตุการณ์ ส่วนจ.ปัตตานี มีการก่อเหตุ ๘ เหตุการณ์ โดย อ.เมือง มีการก่อเหตุสูงสุด ๓ เหตุการณ์ สำหรับ จ.สงขลา มีการก่อเหตุ ๑ เหตุการณ์ เป็นการลอบวางระเบิดในตลาดสะบ้าย้อย

แนวโน้มของสถานการณ์ ในสภาวะการขาดเสถียรภาพประกอบกับการมุ่งเน้นคะแนนเสียงเป็นหลัก จะทำให้รัฐบาลทำได้ทุกอย่างเพื่อการเลือกตั้ง เพราะฉนั้นในทุกพื้นที่ ที่มีความขัดแย้งจะเป็นพื้นที่อันตรายซึ่งเจ้าของพื้นที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดตามลำพัง ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าการก่อเหตุจะทรงตัว หากจะมีการฉวยโอกาสสร้างผลงานโดยการเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติและศาสนาทั้งในและนอก ๓ จชต.อย่างน่าวิตกยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา ซึ่งนับได้ว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเพลี่ยงพล้ำของ ร.ร.วัดแห่งนี้จะกระตุ้นให้กลุ่มทนายความอิสลามเกิดความฮึกเหิมและรุกเข้าปลุกระดมใน ร.ร.วัดและ ร.ร.ของรัฐอื่นๆทั่วประเทศ

การเคลื่อนไหวของแกนนำอิสลามและ sympathizer
         ต่างประเทศ
              โลกอิสลามกำลังรุกหนักในการเข้ามาสนับสนุนการแยกตัวออกเป็นอิสระของมลายูอิสลามใน ๓ จชต.ชัดเจนขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะจาก OIC และมาเลเซีย ซึ่งกำลังหนุนให้มีการจัดตั้งสหพันธ์ประชาชนปัตตานี (United Patani People Council : UPPC) และสภาประชาชนปัตตานี (Patani People Congress : PPC) ขึ้น เพื่อนำสู่การแยกตัวออกจากรัฐไทยในที่สุด อย่างสอดประสานกับการสื่อนัยของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ผ่านปกหนังสือของทางราชการไทยและแผนที่ประเทศไทยซึ่งยังไม่ทราบต้นตอที่แท้จริงของผู้ทำ
              "กษิต"ไม่ปฏิเสธ "โอไอซี"ถกกลุ่มป่วนใต้ แต่ขวางเป็น"คนกลาง" เปิดโต๊ะเจรจา ........แหล่งข้อมูลเดียวกันยังอ้างการเปิดเผยของนักการทูตรายหนึ่งว่า โอไอซีได้กระตุ้นให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนผสานความร่วมมือเพื่อจัดตั้งสหพันธ์ประชาชนปัตตานี (United Patani People Council : UPPC) และทันทีที่องค์กรนำนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น ก็จะมีการจัดตั้งสภาประชาชนปัตตานี (Patani People Congress : PPC) ขึ้น แนวคิดนี้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนมุสลิมในพื้นที่ที่ยึดมั่นในประวัติศาสตร์ที่ว่า ดินแดนของพวกเขาถูกยึดครองโดยสยาม ทำให้ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกรุงเทพฯมานานกว่า ๑ ศตวรรษ (สถาบันอิศรา ๒ พ.ย.๕๓)
         ภายในประเทศ
              นอกเหนือจากการปลุกเร้าขยายพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างคนต่างเชื้อชาติและศาสนาในกรุงเทพฯ โดยได้เริ่มทดสอบจาก ร.ร.มัธยมวัดหนองจอก กทม. ซึ่งขณะนี้ได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพุทธและอิสลามแล้ว ที่อันตรายอย่างยิ่งได้แก่การใช้ภาษาที่ท้าทาย อาทิ “วัดย่านหนองจอก โชว์พาว์ กระโดดขวางนักเรียน คลุมฮิญาบ” “กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ เพื่อปกป้องสิทธิ ..พี่น้องมุสลิมอย่างถึงที่สุดต่อไป” และกำลังมีการปลุกระดมให้ผู้นำศาสนาและส.ส.ของอิสลามออกมาเผชิญหน้ากับวัด และต้องพึงระวังอย่างยิ่งสำหรับเหยื่อรายต่อไปคือร.ร.รัฐย่านนนทบุรี
               อนึ่ง พบการเคลื่อนไหวโยกย้ายข้าราชการไทยพุทธออกนอกพื้นที่ กดดันให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการถอนทหารนอกพื้นที่ออกจาก ๓ จชต. และการสื่อนัยชี้นำให้เห็นว่า ๓ จชต.ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของประเทศไทย และการไม่เป็นประชากรไทยผ่านปกหนังสือของทางราชการซึ่งถูกกำกับด้วยภาษามลายูถิ่น การเบี่ยงเบนแผนที่ ๓ จชต.ว่าส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวมาเลย์ และการไม่ใช้สัญลักษณ์ของสถาบันการศึกษาในการทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
               การส่งนัยของการไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย

     คอลัมน์ – วิพากษ์ชายแดนใต้ "เห็นต่างได้   คิดต่างได้"     

               การโยกย้ายข้าราชการไทยพุทธ
              เด้งเงียบ...ผู้กำกับ สภ.เมืองปัตตานี….กรณีการสั่งย้าย พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา พ้นจากเก้าอี้รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี อย่างเงียบๆ…..เพราะชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ยื่นจดหมายขับไล่ พ.ต.อ.นฤชา โดยเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจ ให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน ๓ วันกันเลยทีเดียว….หลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปรากฏว่าได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.นฤชา ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เมื่อวันที่ ๔ พ.ย…….นายแวอูมา แวดอเลาะ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เมืองปัตตานี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่เห็นความสำคัญตามที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องไป ….. (สถาบันอิศรา ๙ พ.ย.๕๓)
              การสร้างความแตกแยก
               มัธยมวัดหนองจอกบอกไม่เคยมีคำสั่งห้ามคลุมฮิญาบ แย้มห้องละหมาดใหม่เพิ่งเสร็จ...หลังจากมีเรื่องร้องเรียนจากนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอกเกี่ยวกับเรื่องของการคลุมฮิญาบในโรงเรียน ดังที่มีการนำเสนอในหนังสือพิมพ์ไทยแลนด์นิวส์ดารุสสลามในฉบับที่ผ่านมา ล่าสุดทางคณะทำงานด้านกฏหมายกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ โดยทนายซักริยา สุขจันทร์ ได้ติดต่อขอเข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือ และขอพูดคุยกับ ดร.ประพนธ์ หลีสิน ผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม และวันที่ ๓ พฤศจิกายนที่ผ่านมา…..หลังจากเด็กโทรมาแจ้งว่าถูกครูในโรงเรียนต่อว่าที่แต่งชุดนักเรียนและคลุมฮิญาบมาเรียน ….. ทนายซักรียา เล่าอีกว่า ผอ.บอกว่าไม่เคยมีคำสั่งห้ามการคลุมฮิญาบ …ล่าสุดก็เพิ่งปรับปรุงห้องละหมาดเสร็จหมดไปนับแสน......
              ทนายซักรียาได้กล่าวสรุปว่า จากการเข้าเยี่ยมชมครั้งนี้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก โดยส่วนของการติดตามเรื่องร้องเรียนของเด็ก ก็ยังคงต้องติดตามต่อไป เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และเป็นบรรทัดฐาน ที่จะไม่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อการปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลามของเด็กอีก (thailandnewsdarussalam.com ๔ พ.ย.๕๓)
              วัดย่านหนองจอก โชว์พาว์ กระโดดขวางนักเรียน คลุมฮิญาบ … หลังพบว่ามูลเหตุที่ทำให้ทางโรงเรียน ยังไม่ยอมอนุญาติให้นักเรียนมุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบไปเรียนได้เนื่องจากถูกแทรกแซงจากทางวัด ซึ่งเป็นผู้อุทิศที่ดินในการก่อสร้างโรงเรียนดังกล่าว ไม่อนุญาติให้มีการคลุมฮิญาบในโรงเรียนได้ ทั้งที่โดยหลักการศาสนา และข้อกฏหมาย แล้วโรงเรียนมีหน้าที่ต้องส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติ และยึดมั่นในหลักการของศาสนา และฮิญาบก็เป็นหลักการหนึ่งในศาสนา และระเบียบการแต่งกายของกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้ระบุชัดเจนถึงการอนุญาติให้มีการแต่งกายคลุมฮิญาบตามหลักการศาสนาอิสลาม ได้
              และในทางกฏหมายแล้ว ทางวัด หรือจะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลใดก็ตาม ที่มีการอุทิศ หรือยกที่ดินให้ในการก่อสร้างโรงเรียน ก็ไม่ได้ทำให้คน หรือกลุ่มคนเหล่านั้นเข้ามามีสิทธิเหนือผู้บริหารของโรงเรียน ในกิจการของโรงเรียน ให้เป็นไปตามกรอบของกฏหมาย
               ซึ่งหลังจากนี้ทางคณะทำงานด้านกฏหมาย จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ เพื่อปกป้องสิทธิในการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมอย่างถึงที่สุดต่อไป (มุสลิมไทยดอทคอม ๒๐ พ.ย. ๕๓) ครูพระสงฆ์รร.รัฐย่านนนทบุรี ตำหนิเด็กมุสลิมแรงเพราะไม่ยอมกราบพระ
              ในการประชุมประจำเดือนพฤศจิกายนของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติเมื่อค่ำวันจันทร์(๒๒)ที่ผ่านมา ที่โรงแรมรีเจ้นท์รามคำแหง เชคริฏอ อะหมัด สมะดี ประธานกลุ่มฯ ได้เปิดเผยหลังจากทนายฮานีฟ หยงสตาร์ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในกรณีโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอกว่า …. โรงเรียนรัฐบาลในจังหวัดนนทบุรี ....พระสงฆ์ .....ดูหมิ่นหลักการของศาสนาอิสลามด้วย ....จึงขอให้คณะทำงานฝ่ายต่างๆ ทำงานเชิงรุกมากขึ้น (ประชาชาติอิสลามออนไลน์ ๒๓ พ.ย.๕๓)
               การกดดันให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และถอนทหาร
              "จับ-อายัดตัว" ไม่เป็นธรรม...อีกหนึ่ง "อยุติธรรม" ที่ด้ามขวาน.....ปรีดา นาคผิว จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เขียนบทความเรื่อง "การจับหรืออายัดตัวต่อเนื่องโดยไม่เป็นธรรม: อีกหนึ่งปัญหาของกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องแก้ไขโดย ด่วน" ตีแผ่การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจต่อพี่น้องประชาชนที่ชายแดนใต้เอาไว้ อย่างน่าสนใจ และเข้ากับสถานการณ์ที่หลายฝ่ายกำลังเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ …"ถูกจับ-อายัดตัวต่อเนื่อง" ไม่เป็นธรรม …. สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องตระหนัก สะท้อนเจตนา "ขังยาว" ... เสนอรัฐลงโทษเจ้าหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ ….. หากฝ่ายรัฐเพิกเฉยหรือละเลยไม่แก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วไซร้ ไฉนจะเรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐได้ ตราบเท่าที่ประชาชนยังกลัวและหวาดระแวงเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่! ( สถาบันอิศรา thailandnewsdarussalam.com ๒๓ พ.ย.๕๓)
               เมื่อ "ทหาร" เสนอเจรจาเพื่อแก้ปัญหาไฟใต้…อ้างข้อเขียนของทหารไร้นาม มาลง เพื่อชี้นำให้เห็นว่าทหารเองก็ยังสนับสนุนให้เปิดการเจรจากับ หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการ (thailandnewsdarussalam.com ๒๔ พ.ย.๕๓)
              ฟังชัดๆ แม่ทัพภาค ๔ "ไม่มีนโยบายถอนทหารตอนนี้" เป็นการนำบทสัมภาษณ์ทางลบของกลุ่ม NGO s ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับทหารมาลง เพื่อกดดันให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และถอนทหารออกจากพื้นที่ (สถาบันอิศรา/ thailandnewsdarussalam.com ๒๔ พ.ย.๕๓)
              ตรวจความพร้อม “มาตรา ๒๑” เมื่อทุกฝ่ายขานรับ แล้วกองทัพมีคำตอบหรือยัง? เป็นการไปถามความคิดเห็นของผู้ที่เห็นด้วยกับการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ๒-๓ คนแล้วนำมาลงตีพิมพ์เพื่อสรุปว่าชาวบ้านเห็นด้วย (สถาบันอิศรา ๒๖ พ.ย.๕๓)

สถิติและนัยของการก่อเหตุ
          การก่อเหตุในช่วง ๑-๓๐ พ.ย.๕๓ เท่าที่รวบรวมได้ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะทำให้นัยสำคัญของเหตุการณ์ผิดพลาดไปนั้น สรุปได้ว่ามีการก่อเหตุ จำนวน ๓๘ เหตุการณ์ ลดลงจาก ๗๕ เหตุการณ์ ในช่วงเดียวกันของ ต.ค. ๕๓ ทั้งนี้ จ.นราธิวาส มีการก่อเหตุมากที่สุด ๑๕ เหตุการณ์ โดย อ.รือเสาะ มีการก่อเหตุมากที่สุด ๔ เหตุการณ์ ขณะที่ อ.บาเจาะ เกิดขึ้น ๓ เหตุการณ์ซึ่งทั้งหมดเป็นการวางระเบิดในสวนยางพาราของไทยพุทธ รองลงมา คือ จ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๑๔ เหตุการณ์ โดย อ.รามันมีการก่อเหตุมากที่สุด ๔ เหตุการณ์ ซึ่ง ๒ เหตุการณ์ เป็นการยิง ชรบ. และอีก ๒ เหตุการณ์เป็นการซุ่มโจมตี จนท. ส่วน จ.ปัตตานี มีการก่อเหตุ ๘ เหตุการณ์ โดย อ.เมือง มีการก่อเหตุสูงสุด ๓ เหตุการณ์ สำหรับ จ.สงขลา มีการก่อเหตุ ๑ เหตุการณ์ ในเขตเทศบาลสะบ้าย้อย ทั้งนี้ การก่อเหตุทั้ง ๓๘ เหตุการณ์ แยกเป็นการลอบยิงตัวบุคคล ๒๔ เหตุการณ์ รองลงมาคือการวางระเบิด ๖ เหตุการณ์ และการซุ่มโจมตี ๖ เหตุการณ์ เท่ากัน การฟัน/แทง ๑ เหตุการณ์ และการพยายามเผาโรงเรียน ๑ เหตุการณ์ เท่ากัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวม ๕๗ คน แยกเป็น พุทธ ๒๗ คน (เสียชีวิต ๗ คน บาดเจ็บ ๒๐ คน) อิสลาม ๓๐ คน (เสียชีวิต ๑๔ คน บาดเจ็บ ๑๖ คน)

ข้อพิจารณา
          ๑. การก่อเหตุในช่วงรายงานมีจำนวนลดลงมาก ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากภัยธรรมชาติ ประกอบกับช่วงการพิจารณาความดีความชอบและการโยกย้ายข้าราชการผ่านพ้นไปแล้ว
         ๒. การก่อเหตุเน้นกระทำต่อเป้าหมายอิสลามที่ทำงานให้กับรัฐอย่างชัดเจนโดยเฉพาะ ผญบ. นายกอบต. และชรบ. อาทิ
         การยิงผู้ใหญ่บ้านบ้านจาเราะ หมู่ ๑ ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อ ๓ พ.ย.๕๓ การยิงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก บาดเจ็บ เมื่อ ๕ พ.ย.๕๓ การยิงกลุ่ม ผญบ.ต.สะเอะ อ.กรงปินัง บาดเจ็บ ๖ นาย เมือ ๒๐ พ.ย.๕๓ การกราดยิงนายก อบต.สามัคคี เสียชีวิต เมื่อ ๒๔ พ.ย.๕๓
         สำหรับการก่อเหตุกับชรบ.ทั้งพุทธและอิสลาม พบว่าเกิดขึ้นทั้งหมด ๖ เหตุการณ์ แยกเป็นการก่อเหตุกับเป้าหมาย ชรบ.ใน จ.ยะลา ๔ เหตุการณ์ ปัตตานี ๒ เหตุการณ์ โดยเป้าหมายเกือบทั้งหมดเสียชีวิต

การซื้อใจอิสลามของรัฐ
         นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุม กอ.รมน ไฟเขียว "ยุบ พตท." ลดกำลังพลใต้ ๑.๒ พันอัตรา .....นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุม กอ.รมน ไฟเขียว "ยุบ พตท." ลดกำลังพลใต้ ๑.๒ พันอัตรา เมื่อวันอังคารที่ ๒๓ พ.ย.๕๓ ที่อาคารรัฐสภา ๓ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ ภายหลังการประชุม นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ...ที่ได้มีการยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกใน ๔ อำเภอของ จ.สงขลา และได้ใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑ (พ.ร.บ.ความมั่นคง) มาเกือบจะครบ ๑ ปี จึงให้มีการยืดอายุออกไป…"ที่ประชุมยังได้พิจารณาโครงสร้างอัตรากำลังในส่วนของ กอ.รมน.ที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้สำหรับปี ๒๕๕๔ จะ…ลดอัตรากำลังพลลงไปอีก ๑,๒๐๐ อัตรา …ในเรื่องของงบประมาณก็น่าจะมีการแปรและปรับลดลงตามกันด้วย" (สถาบันอิศรา ๒๔ พ.ย.๕๓)
         ศธ.เพิ่มยุทธศาสตร์กศ.ชายแดนภาคใต้ สร้างร.ร.ปอเนาะ ๔๘ แห่งเฉลิมพระเกียรติในหลวง….นายกมล รอดคล้าย รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ปีนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ....โดยศธ.ได้กำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมายขึ้นมาใหม่จากเดิม ๕ ยุทธศาสตร์.....สร้างโรงเรียนปอเนาะต้นแบบให้ครบจำนวน ๔๘ แห่ง .........เปิดการสอนอิสลามแบบเข้มในโรงเรียนของรัฐจำนวน ๓๕๐ โรงเรียน …..จัดชุมนุมลูกเสือมุสลิม ...เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศใกล้เคียง …..การฝึกอาชีพในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ( muslimthai.com ๙ พ.ย. ๕๓)

                                               ............................................



 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์