สรุปความรู้
สรุปความรู้
บริเวณแผ่นดินที่เป็นสุวรรณภูมิ หรือเรียกว่า แผ่นดินสยามนี้
ได้มีมนุษย์หลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่มีมนุษย์ขึ้นในโลก
นับล้านปี ซึ่งมีการสำรวจพบร่องรอยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏอยู่ตามหินผา
และเครื่องมือหินที่ฝั่งอยู่ได้ดิน ในถ้ำ เมื่อเวลาประมาณ ๑๐,๐๐๐
ปีมาแล้วนั้นกลุ่มมนุษย์ดึกดำบรรพ์นี้ได้เร่ร่อนหาอาหารไปยังชีพไปตามห้วยคลอง
หนองบึง อาศัยหลบซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำ ตามเพิงหินผา ไม่เป็นที่มั่นคง
เที่ยวเร่ร่อนหาอาหารตามความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชา ขุดหัวเผือก หัวมัน หัวกลอย
หาปลา จับสัตว์ กินเป็นอาหาร
ในที่สุดด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ป่า โดยเฉพาะแหล่งที่มีน้ำอยู่ใกล้
ได้ทำให้มนุษย์หลายกลุ่มเริ่มรู้จักตั้งถิ่นอยู่ประจำ หยุดการเร่ร่อนออกหาอาหาร
รู้จักที่จะนำพีชมาปลูก รู้จักปลูกข้าวไร่
และรู้จักใช้เพิงผาหรือถ้ำนั้นใช้เป็นที่พักถาวร
และมีการรวมกลุ่มพวกและการดูแลกันเองขึ้น
เมื่อมีการรวมกลุ่มตั้งบ้านอาศัย มนุษย์ร็จักที่จะนำภาชนะดินอย่างง่ายๆ
เพื่อใช้ใส่อาหาร และมีการฟัฒนาดินธรรมดามาเป็นดินเผา
ได้รู้จักการทำรวดรายจากการทาบเชือก และแปะเปียกไม้ทำลวดลาย การขีดเขียน
หรือใช้ดินแปะ ก่อนต่างแห้งและก่อนเผา เพื่อทำให้ภาชนะมีความคงทนมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดพิธีกรรมการเกิดตาย และหากินด้วยความเชื่อของตนเองขึ้น
ดังนั้นการขุดค้นโบราณคดีในเรื่องมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์นั้น
จึงพบว่าการฝังศพมนุษย์นั้น ได้มีการแต่งศพด้วยดินสีแดง
มีการนำเครื่องใช้ของผู้ตายและภาชนะดินเผาฝั่งรวมไปด้วย
และสิ่งที่พบในหลุมศพนั้นมี แวดิน (ใช้ปั้นด้าย) ขวานหิน
กำไรเปลือกจากเปลือกหอย ลูกปัดหินสี เครื่องมือโลหะ
บางแห่งพบมีเมล็ดข้าวหรือเศษปอที่ถักด้วยเครื่องนุ่งห่มอยู่บนเครื่องมือเหล็ก
เปลือกหอย หัวธนูจากกระดูกสัตว์ ลูกกระสุนดินเผาเป็นต้น
สังคมมนุษย์สมัยโบราณ
ดำรงชีวิตอยู่ด้วยรู้จักเพาะปลูก รู้จักล่าสัตว์ และรู้จักหาแหล่งน้ำแหล่งอาหาร
และมีพีธีกรรมตามความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ
|