แหล่งโบราณคดีในประเทศไทย
แหล่งโบราณคดีในประเทศไทย
แหล่งโบราณคดียุคต้นประวัติศาสตร์ในแผ่นดินไทย พบว่าเมื่อประมาณ ๒,๕๐๐ ปี
มาแล้ว มนุษย์ได้สร้างชุมชนเมืองขึ้น
ซึ่งได้พบหลักฐานว่ามีคันดินคูน้ำรอบเมืองเกิดขึ้นในแหล่งโบราณคดีหลายแห่ง ได้แก่
บ้านโคกพลับ ในเขตตำบลโพธิ์หัก จังหวัดราชบุรี บ้านดอนตาเพชร อำเภอพนมทวน
จังหวัดกาญจนบุรี เมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอทองแสนขัน
จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้น
ชุมชนแหลมทองยุคต้นประวัติศาสตร์การติดต่อค้าขายกันทั้งทางบกและทางน้ำ
ทำให้การติดต่อกันระหว่างโรมัน ตะวันออกกลาง อินเดีย และจ้น โดยใช้เรือใบ
ทำให้ดินแดนไทยบางส่วนกลายเป็นเมืองท่า เช่น ชุมชนดอนตาเพชร ที่อำเภอพนมทวน
จังหวัดกาญจนบุรี ชุมชนบ้านชีทวน จังหวัดอุบลราชธานี ชุมชนเขาสามแก้วที่ชุมพร
ชุมชนควนลูกปัดที่กระบี่ ชุมชนยะรังที่ปัตตานี และชุมชนคูบัวที่ราชบุรี
gxHo9ho
เมื่อประมาณ ๒,๐๐๐
๒,๕๐๐ ปี มนุษย์ได้พากันตั้งชุมชนหมู่บ้านขึ้นในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลางและภาคใต้ของประทศไทยในปัจจุบัน
ผู้คนกลุ่มนี้มีความสามารถในการหล่อเครื่องประดับและเครื่องใช้ที่ทำด้วยเครื่องแก้วสำริด
และเหล็ก เช่น ลูกปัด กำไล แขน ขวานและหอก เป็นต้น
และชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลนั้นได้มีการเจริญเติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็ว
การติดต่อกับชุมชนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกล เช่น จ้น เวียตนาม กัมพูชา อินเดีย
อินโดนีซีย พม่า เป็นต้น
ในยุคพุทธกาล ประมาณ ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว ได้ปรากฏหลักฐานว่มี
ชุมชนในบริเวณหมู่บ้านเขตอำเภอพิมาย และบ้านธารประสาท จังหวัดนครราชสีมา
จากการสำรวจและค้นพบหลุมฝังศพของมนุษย์และเครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่า
พิมายดำ
เป็นภาชนะสำหรับใช้บรรจุเครื่องบูชาศพฝังอยู่ด้วย
นอกจากนี้ยังพบแหล่งแร่ทองคำโบราณขนาดใหญ่
ได้แหล่งที่ภูโล้นและภูทองแดงในอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่เขาวงพระจันทร์
เขาผาแดง ห้วยโป่ง เขาพุคาและเขาทับควาย ในอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี
พบแหล่งตะกั่วและสังกะสีโบราณที่
ภูลวก จังหวัดเลย
พบแหล่งถลุงดีบุก
ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
พบขวานสำริด กำไลและเครื่องประดับสำริด ที่หล่อด้วยวิธีไล่ขี้ผึ้ง
ที่บ้านโนนนกทาอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
พบแหล่งแหวนสำริด
ที่บ้านปากบัว
อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี พบทองแดงแท่งและแม่พิมพ์ดินเผาสำหรับหล่อขวาน แหวน
กำไลทองแดง อายุราว ๑,๗๐๐ ปี ที่อ่างเก็บน้ำดินกำแหง ศูนย์การบินทหารบก
จังหวัดลพบุรี และที่บ้านดงพลอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
พบหลักฐานการขุดถลุงแร่
และเบ้าหลอมทองแดงโบราณที่เขาวงพระจันทร์ และบ้านท่าแค จังหวัดลพบุรี ที่ภูโล้น
จังหวัดหนองคาย บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานีและที่โนนป่าหวาย อำเภอโคกสำโรง
จังหวัดลพบุรี (เป็นแหล่งโลหะโบราณขนาดใหญ่)
มีการพบเตาถลุงแร่และหล่อโลหะสำริดโบราณด้วยวิธีการไล่ขี้ผึ้ง อายุประมาณ ๑,๙๐๐
ปี ที่บ้านนาดี อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ทั้งยังได้พบกลองมโหระทึกสำริด
ที่แหล่งโบราณคดีเขาสวนแก้ว จังหวัดชุมพร และ ที่อุตรดิตถ์อีกด้วย
พบแหล่งแร่เหล็กและแหล่งถลุงเหล็กโบราณ
ที่เขาหลวง
จังหวัดนครศรีธรรมราช พบเครื่องมือเหล็ก เตาถลุงเหล็กและทองแดงโบราณ อายุราว
๒,๕๐๐ ปี ที่บ้านถลุงเหล็กบ้านโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี และบริเวณเมืองพรหทดิน
(อยู่ที่ตำบลหลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี) ซึ่งประกอบด้วยบ้านห้วยโป่ง
(หล่อทองแดง) บ้านดีลัง (มีการถลังเหล็กต่อเนื่อง ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๑
จนถึงสมัยอยุธยา) และบ้านท่า ได้พบหอกสำริด ลูกปัดแก้ว
ขวานเหล็กและพบภาชนะดินเผาขนาดใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี
แหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษย์ยุคเหล็กนั้นสำรวจพบหลายแห่ง เช่น
จังหวัดกาญจนบุรี พบที่บ้านดอนตาเพชร อำเภอพนมทวน
พบเครื่องสำริดและเหล็กสมัยฟูนันมีอายุกว่า ๑,๗๐๐ ปี จำนวนมาก
เช่น หอก เบ็ด
มีดขอ สิ่ว แบะขวาน สันนิษฐานว่าน่าพักสินค้าโบราณ
จังหวัดอุทัยธานีพบที่เชิงเขานาค อำเภอเมืองและบ้านหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง
จังหวัดนครราชสีมา พบที่บ้านธารประสาท โนนอุโลก โนนเมืองเก่า อำเภอโนนสูง
บ้านสำริด บ้านตะโนด อำเภอพิมาย บ้านโนนวัด อำเภอโนนสูง จังหวัดชลบุรี
พบที่บ้านบอนโนน จังหวัดบุรีรัมย์ พบที่บ้านโนนสูง อำเภอคูเมือง บ้านดงพลอง
นั้นพบเตาถลุงเหล็กผนังดินเผา ๑๗ เตาและ บ้านทุ่งวัง อำเภอสตึก
จังหวัดลพบุรีพบที่บ้านดีลัง ซึ่งพบตะกรันและเตาถลุงเหล็ก จังหวัดสุรินทร์
พบที่บริเวณโนนยางที่บ้านเขวาโค้ง จังหวัดมุกดาหาร พบที่อำเภอดอนตาล
จังหวัดร้อยเอ็ด พบที่บ้านโนนคา จังหวัดมหาสารคาม พบที่บ้านเชียงเหียน
จังหวัดสุรินทร์พบที่ บ้านโนนยาง บ้านยางบ่ออี บ้านยะวึก ที่อำเภอชุมพลบุรี
จังหวัดขอนแก่น พบที่บ้านโนนชัย บ้านโนนเมือง จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์
พบที่บ้านยางทองใต้ จังหวัดกำแพงเพชร พบที่บ้านบึงลา จังหวัดเพชรบูรณ์
พบที่บ้านหนองแดง อำเภอศรีเทพ และจังหวัดลำพูน พบที่ บ้านวังไฮ เป็นต้น
|