คริสต์ศาสนา
คริสต์ศาสนา
คริสต์ศาสนา
เป็นศาสนาที่เกิดในอิสราเอล มีพระเยซูศาสดา ต่อมาอาณาจักรต่าง ๆ
ในทวีปยุโรปได้นับถือเผยแพร่คริสต์ศาสนานี้ไปยังดินแดนต่าง ๆ
ที่พ่อค้าชาตินั้นเดินทางไปติดต่อค้าขายและมีสัมพันธ์ไมตรีด้วย
เมื่อวันที่ ๒๔
ธันวาคม ปีที่ ๔ ก่อนคริสต์ศาสนานี้ไปยังดินแดนต่าง ๆ
ที่พ่อค้าชาตินั้นเดินทางไปตืดต่อค้าขายและมีความสัมพันธไมตรีด้วย
เมื่อวันที่ ๒๔
ธันวาคม ปีที่ ๔ ก่อนคริสตกาลนั้น พระเยซูได้ประสูติที่เมืองเบธเลเฮม
และได้ดำเนินชีวิตเผยแพร่คำสั่งสอนอยู่ภาคเหนือของประเทศปาเลสไตน์ปัจจุบัน
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๕๗๐ -๕๗๒ พระเยซูทรงสั่งสอนสานุศิษย์ โดยมีหลักสำคัญหลายประการ
ได้แก่
จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านต้องการให้เขาปฏิบัติต่อท่าน
จงอภัยและให้ความรักต่อศัตรูของท่า จงรักกันฉันพี่น้อง จงมีความเมตตาต่อผู้อื่น
จงตอบแทนความชั่วด้วยความดี จงมีความหักห้ามใจตนเอง จงอย่าโลภบูชารูปเคารพใดๆ
นอกจากพระเจ้า
พระเยซู
ผู้นำคริสต์ศาสนานั้นภายหลังได้ถูกพวกโรมันจับกุมและตรึงไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์
ที่เนินใกล้กรุงเยรูซาเล็มใน พ.ศ. ๕๗๒ ขณะที่ทรงมีพระชนม์มายุได้ ๓๒ ชันษา
ต่อมา พ.ศ. ๑๖๓๙
๑๗๙๕ ได้เกิดสงครามครูเสดต่างยกกำลังเข้าไปแย่งชิงกรุงเยรูซาเล็ม ถือเป็นศาสนา
ในระยะแรกนั้นคริสต์ศาสนา ไดมีบาทหลวงเผยแพร่ศานาคริสตัง ต่อมาได้มีนิกายต่าง ๆ
เกิดขึ้นมากมาย นิกายที่สำคัญได้แก่ นิกายมันคาทอลิก นิกายโปรเตสแตนส์ เป็นต้น
ศาสนาคริสต์ตังได้เดินเข้ามาเผยแพร่ในสมัยอยุธยา ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์
โดยคณะบาทหลวงฝรั่งเศส ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางศาสนาขึ้นในสมัยนั้น
ส่วนคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนนต์นั้นได้เดินทางเข้าโดยคณะมิชชันนารีอเมริกัน
ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ซึ่งคณะมิชชันนารีนั้นได้นำวิชาการแพทย์ปัจจุบันการพิมพ์หนังสือ
การเรียนภาษาอังกฤษ มาเผยแพร่ในอาณาจักรสยามเป็นครั้งแรก
อันเป็นผลให้สมัยต่อมานั้นได้มีการนำวิทยาการก้าวหน้าจากต่างประเทศเข้ามาพัฒนาประเทศมากมาย
ในสมัยพระบาสมเด็จพระจุลจอมเหล่าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
พระองค์ทรงพัฒนาประเทศหลายด้านอันเป็นผลจาการเสด็จประพาสประเทศยุโรปและส่งพระเจ้าลูกยาเธอไปศึกษาวิชาต่าง
ๆ จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารแผ่นดินและนำวิทยาการใหม่ ๆ
มาจัดพัฒนาบ้านเมือง ได้แก่ การจัดการศึกษาและโรงเรียน การแพทย์และพยาบาล
การจัดทหารแบบฝรั่ง การรถไฟ รถราง การประปา การชลประทาน
การไปรษณีย์โทรเลข-โทรศัพท์การไฟฟ้า ตลอดจนการออกกฎหมายต่าง ๆ เป็นต้น
ซึ่งรัชกาลนี้ได้มีการจ้างชาวต่างประเทศ เข้ามาวางรากฐานการพัฒนาในทุกด้าน
โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม
ชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในพระนครนั้นต่างนับถือคริสต์ศาสนา
จึงมีการสร้างมหาวิหารเป็นปึกแผ่น
และส่งเสริมการศึกษาจนสามารถสร้างสภาคคริสตจักรขึ้นในอาณาจักรนี้
|