เรื่องของชนชาติไทย
เรื่องของชนชาติไทย(3)
อาณาเขตของจีนโบราณในสมัยนี้จึงมี
11 แคว้น (เดิมมี 9 แคว้น)
ซึ่งแต่ละแคว้นนั้นเมื่อรวมกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่แล้ว
สามารถแบ่งได้ 3 ส่วน คือ จี๋น
ฌ้อและจิว เป็นเมืองหลวง รวมกับแคว้นอื่นอีก 8 แคว้น
ภายหลังแคว้นเหล่านั้นได้พากันตั้งตัวเป็นใหญ่จึงทำให้เกิดแคว้นที่สำคัญ คือ
แคว้นลู้ แคว้นไงว่ แคว้นฉี่ แคว้นจิ้นแคว้นฌ้อและแคว้นจี๋น
แคว้นที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ขวาง มีไพร่พล
เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์กว่าแคว้นอื่นๆ คือแคว้น ฌ้อ กับแคว้นจี๋น
ต่อมานั้นแคว้นจี๋นได้เข้าปราบแคว้นฌ้อได้
จึงทำให้แคว้นจี๋นสามารถรวบรวมเอาแคว้นจิว เมืองหลวง และแคว้นอื่นๆ
มารวมเป็นอาณาจักรเดียวกันได้ง่ายเมื่อ พ.ศ. 288
ดังนั้นแคว้นจี๋น จึงมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล
ประกอบด้วยแคว้นอื่นๆ 11 แคว้น ภายหลังแคว้นจี๋น
นั้นได้แผ่อำนาจเข้าไปยังดินแดนต่างๆ จนมีอำนาจในมณฑลฮกเกี้ยน (หมัน)
เหยาะและเปอะ-จต)
มณฑลกวางตุ้งและมณฑลกวางไซ
ขยายเขตออกไปจนถึงเขตญวนตังเกียมารวมไว้ในอาณาจักร เรียกรวมผ่นดินนี้ว่า จี๋น คือ
ประเทศจีน ปัจจุบันนี้
ลำหรับแคว้นขึ่นม่านประกอบด้วยมณฑลกุยจิว และมณฑลยูนนานนั้นอยู่
ด้านตะวันตกมีอาณาเขตตั้งแต่ทิศเหนือจนถึงทิศใต้นั้นจดทะเลใหญ่
(มหาสมุทร)
มีเมืองหล่งซีเมืองจกเมืองป่า และดินแดนของพวกตง อยู่บ้านเมืองเรียงรายกันดามชายแดน
ส่วนดินแดนที่อยู่นอกอาณาเขตออกไปอีกนั้นเป็นดินแดนของชาติเกียงอยู่ติดต่อทางเหนือมีชาติม่านติดต่อทางทิศใต้และมีชาติที่ติดต่อทางทิศตะวันตก
แคว้นขึ้นม่าน นี้ คำว่า ขึ่นม่าน แปลว่า งูใหญ่
จึงเป็นกลุ่มมนุษย์มีการนับถืองู
(หรือพญานาคหรือมังกร)
เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคน เป็นนัยให้เข้าใจว่า
มนุษย์กลุ่มคือกลุ่มนาคพันธุ์ ที่มีความชำนาญการในการตั้งถิ่นฐานอยู่ตามน้ำ
และนับถืองูใหญ่
ในยุคสามก๊ก
(พ.ศ.763) นั้น
เกียงอุย แม่ทัพของพระเจ้าเล่าเสี้ยน (เป็นบุตรของเล่าปี่)อยู่ที่เมืองจกได้นำทหาร
80,000 คนไปตั้งกองทำนาปลูกข้าวอยู่ที่เมืองหล่งซี (ในสามก๊กเรียกหล่งเส)
ต่อมาใน พ.ศ.1172
กษัตริย์ราชวงศ์ถัง ได้ทำการยกฐานะเมืองหล่งซี ขึ้นเป็นแคว้น (เมืองใหญ่)
เรียกว่าหล่งเหยา
สมัยที่พระภิกษุฟาเหียน
(พระถังซัมจั๋ง)
ไปสืบพระพุทธศาสนาที่อินเดียนั้น ได้บันทึกเส้นทางเดินว่า
ได้เดินทางออกจากเมืองเชียงอาน (เมืองซีอาน)
นั้น ผ่านหล่งเหยา (LUNG YU หรือ
LAN-CHOW) ก่อน แคว้นหล่งเหยา
นี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหนองใหญ่ คือทะเทสาบซี-อว่าง-
มู้ (ปัจจุบันเรียก ชิงฮ้าย)
ชื่อ หล่งซี หรือ หลงเส หรือ หล่งเหยา
ซึ่งเป็นคือของแคว้นเดียวกันนี้ ออกเสียงคล้ายหนองแส ซึ่งนักประวัติศาสตร์
ได้เข้าใจว่า เมืองตาลีฟู ซึ่งอยู่ในรัฐน่านเจ้า (ปัจจุบันอยู่มณฑลยูนนาน)
นี้คือ หนองแส เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวนั้นมี
หนองน้ำเออร์ฮ้ายและทางด้านทิศใต้ของหนองน้ำนี้มีแคว้นที่มีคนในตระกูลเมือง
(ตระกูลเจ้าเมือง) ครองอยู่คือ เจ้าม่งเส
จึงกำหนดว่า ม่งเส นี้ คือ
หนองแส
สำหรับเมืองจกนั้นในสมัยสามก๊ก
(พ ศ. 763)
เรียกว่า จก ต่อมาภายหลังได้เรียกว่า ซีฉวน หรือ เสฉวน
เป็นเมืองที่เล่าปี่ได้มาตั้งตนเป็นเจ้าครองเมืองจก
ด้วยเหตุที่เล่าปี่นั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ของกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นจึงพากันเรียกว่าจกฮั่นชนชาติจกนี้มีบ้านเมืองตั้งอยู่ระหว่างเมืองหล่งซี
เมืองปา เมืองเกียง เมืองม่าน
|