ตำนานมนุษย์จากพงศาวดารล้านช้าง
ตำนานมนุษย์จากพงศาวดารล้านช้าง(1)
เรื่องของมนุษย์เกิดขึ้นในโลกและชนชาติไทยในบริเวณภูมิภาคนี้ มีตำนานเล่าไว้ว่า
พงศาวดารล้านช้าง ปริเฉทที่ 2 ถึงการกำเนิดของมนุษย์ในกลุ่มแหลมอินโดจีน
(พิมพ์ตามอัขระเดิม) ว่า
- กาลเมื่อครั้งนั้น ก็เป็นดินเป็นหญ้า
เป็นฟ้าเป็นแถน ผีแลคนเที่ยวไปมาหากันบ่ขาด
- เมื่อนั้นยังมีขุนใหญ่ 3 คน ผู้หนึ่งชื่อว่า
ปู่ลางเชิง ผู้หนึ่งชื่อขุนคาน อยู่สร้างบ้านเมืองลุ่ม กินปลาเฮ็ดนา
เมืองลุ่มกินเข้า เมื่อนั้นแถนจึงใช้ให้มากล่าวแก่คนทั้งหลายว่า
ในเมืองกลุ่มนี้กินเข้าให้บอกให้หมายกินแลงกินงายก็ให้บอกแก่แถน
ได้กินขึ้นก็ให้ส่งขาไดกินปลาก็ให้ส่งรอยแก่แถนเมื่อนั้นคนทั้งหลายก็บ่ฟังคานแถนแม้นใช้มาบอกสองทีสามที
ก็บ่ฟังหั้นแล
-
แต่นั้นแถนจึงให้น้ำท่วมเมืองลุ่มลีดเลียง ท่วมเมืองเพียงละลาย
คนทั้งหลายฉิบหายมานักชะแล
- ยามนั้นปู่ลางเชิงแล ขุนเด็กขุนคาน
รู้ว่าแถนเคียดแก่เขา ๆ จึงเอาไม้ขาแรงเฮ็ดแพ เอาไม้แปงเรือนเฮ็ด พวง
แล้วเขาจึงเอาลูกเอาเมียเข้าอยู่ในแพนั้น แล้วน้ำจึงพัดเขาขึ้นเมือบน
ขนเอาเมืองฟ้าพู้นแล
- พระยาแถนจึงถามเขาว่า
สูจักมาเมืองฟ้าตูพี้แฮดสัง เขาจึงบอกเหตุการณ์ทั้งมวญพระยาแถนจึงว่าตูใช้
ให้ไปกล่าวแก่สองสามที ให้ยำแถนยำผีเถ้าเจ้ายืนกาย สูงสั่งบ่ฟังคำกูจึงเท่าสูแล้ว
- ทีนั้นพระยาแถน
จึงให้เขาไปอยู่ที่บึงดอนแถนลอหั้นแล แต่นั้นน้ำจึงแห้งจึงบกเป็นพื้นแผ่นดิน
เขาจึงไหว้ขอพระยาแถนว่า ตูข้อยนี้อยู่เมืองบนบ่แกว่นแล่นเมืองฟ้า
บ่เปนตูข้อยขอไปอยู่เมืองลุ่มลิดเลียง เมืองเพียงพักยอมพู้นเทอญ
เมื่อนั้นพระยาแถนจึงให้เอาลงมาส่ง ทั้งให้ควายเขาลู่แก่เขา
จึงเอากันลงมาตั้งอยู่ที่นาน้อยอ้อยหนูก่อนหั้นแลแต่เขาจึงเอาควายนั้นเฮ็ดนากิน
นานประมาณ 3 ปี ควายเขาก็ตายเสีย
เขาละซากควายเสียที่นาน้อยอ้อยหนูหันแลอยู่บ่อนานเท่าใด
เครือหมากน้ำก็เกิดออกฮูดังควายตายตัวนั้นออกยาวมาแล้ว ก็ออกเป็นหมายน้ำเต้าปูง
3 หน่วย
แลหน่วยนั้นใหญ่ประมาณเท่ารินเขาปลูกข้าวนั้นเมื่อเครื่องหมากนั้นแก่แล้ว
คนทั้งหลายก้เกิดอาไศรยซึ่งหมากน้ำ เปนดังนางอาสังโนเกิดในท้องดอกบัว
เจ้าฤาษีเอามาเลี้ยงไว้
คนทั้งหลายฝูงเกิดในผลหมากน้ำเต้าฝูงนั้นก็ร้องก้องนีนันมากนัก ในหมากน้ำนั้นแล
- ยามนั้นปู่ลางเชิงจึงเผาเหล็กซีแดชีหมากน้ำ
คนทั้งหลายจึงบุเบียดกันออกมาทางฮูทีชีนั้น ออกมาทางฮูทีนั้น
ก็บ่เบิ่งคับคั่งกัน ขุนคานจึงเอาสิ่งฮู ให้เป็นฮูแควนใหญ่แควนกว้าง
คนทั้งหลายก็ลุไหลออกมานานประมาณ 3 วัน 3 คืน
จึงหมดฮั้นแลคนทั้งหลายฝูงออกมาทางฮูชีนั้น แบ่งเป็น 2 หมู่ หมู่หนึ่งเรียกชื่อ
ไทยลม หมู่หนึ่งเรียกว่าไทยลี ผู้ออกทางฮูสิ่วนั้นแบ่งเป็น 3 หมู่
หมู่หนึ่งเรียกชื่อไทยเลิง หมู่หนึ่งเรียกชื่อไทยลอ หมู่หนึ่งเรียกชื่อ ไทยควาง
แล
- แต่นั้นฝูงปู่ลางเชิง
จึงบอกสอนเขาให้เฮ็ดไฮ่ไถนา ทอผ้าสิ้นเลี้ยงชีวิตเขา
แล้วก็ปลูกแบ่งเขาให้เปนผัวเปนเมีย
มีเย่ามีเรือนก็จึงมีลูกหญิงลูกชายมากนักแลเมื่อนั้นลางเชิงเล่าบอกให้เขารักพ่อเลี้ยงรักแม่เลี้ยง
เคารพยำเกรงผู้เถ้าผู้แก่กว่าตนเขาแล อยู่หึงนานไปพ่อแม่เขาก็ตาย
ท่านปู่ลางเชิงเล่าบอกให้เขาไหว้พ่อแม่เขาแล้วส่งสการเมี้ยนซากฝูงออกมาทางฮูสิ่วให้เผาเสีย
เก็บถูกล้างสร้อยสีแล้วให้แบ่งเถียง
ใส่ลูกให้ไปส่งเข้าส่งน้ำชุมื้อฝูงออกมาทางฮูซีนั้นให้ฝังเสียแล้วแปงเถียงกวมไว้เล่า
ให้ไปส่งเข้าน้ำชุวัน คั้นเขาไปบ่ได้ปู่ลางเชิงบอกให้แต่งเพื่อน
เข้าเหล่าไว้ห้าห้องเรือน เขาแล้วให้เขาเรียกพ่อแม่เขาฝูงตายนั้นมากินหั้นแล
- แต่นั้นคนทั้งหลายฝุงเกิดมาในน้ำเต้า
ฝูงออกมาทางฮูสิ่วนั้นเปนไทย ฝูงออกมาทางฮูซีนั้นเปนข้า
คนฝูงนั้นลวดเปนข้อยเป็นไพร่เขาเจ้าขุนทั้งสามนั้นแลเมื่อนั้นคนแผ่พวกมามากนัก
มากอย่างหลายทรายหลายอย่างน้ำ ท่อว่าหาท้าวพระยาบ่ได้ ปู่ลางเชิงทั้งขุน
เด็กขุนคานบอกสอนเขาก็บ่อแพ้ แม้ว่าใคเขาก็บ่เอาคำ
ขุนทั้งสามก็จึงขึ้นเมือขอหาท้าวพระยากวนแถน หลวง
พระยาแถนจึงให้ขุนครูและขุนครอง ลงมาเปนท้าวพระยาแก่เขาหั้นแล
- เมื่อขุนทั้งสองลงมา สร้างบ้านก้บ่เปลือง
สร้างเมืองก็บ่กว้าง สูกินเหล้าชุมือชุวัน นานมาไพร่ค้างทุกข์ค้างบายก็บ่ดูนา
- เมื่อนั้นขุนเด็กขุนคาน
จึ๋งขึ้นเมือไหว้สาแก่พระยาแถน ๆ จึงถกเอาทั้งสองหนีเมือบนหนเมือฟ้าดังเก่า
เล่าแล พาหิระนิทานนิฎฐิต
- ปางนั้นพระยาแถนหลวงจึงให้ท้าวผู้มีบุญ
ชื่อว่าขุนบูลมมหาราชาธิราช อันได้อาชญาพระยาแถนแล้วก็จึ่งเอารี้พลทั้งหลายลงเมือ
เมืองลุ่มลีด เลียงเมืองเพียงคักค้อย มาอยู่ที่นาน้อยอ้อยหนู
อันมีลุ่มเมืองแถนหั้นก่อนแล
- ทีนั้นคนทั้งหลายฝูงออกมาแต่น้ำเต้าปูงนั้น
ผู้รู้หลักนักปราชญ์นั้นเขาก็มาเป็นลูกท่านเบ่าเธอขุนบูลม มหาราชา
แลผู้ใบ้ช้านั้นเขาก็อยู่เปนไพร่ไปเปนป่า สร้างไฮ่เฮ็ดนากินแล
|