อาณาจักรขอมยุคเมืองพระนคร
อาณาจักรขอมยุคเมืองพระนคร (ANGOR)
สมัยที่อาณาจักรขอม มีการสร้างเมือง ยโศธรปะรุหรือเมืองพระนคร
ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14-20
อาณาจักรใหม่นี้มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของประวัติศาสตร์
ซึ่งมีกษัตริย์ปกครองดังนี้
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 หรือพระเจ้าปรเมศวร
พ.ศ.1333-1389 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของอาณาจักรขอม
ยุคเมืองพระนคร แต่พระองค์ไม่ใช่ผู้สร้างเมืองพระนคร จารึกสด๊อกก๊อกธม กล่าวว่า
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 นี้เป็นเจ้าชายขอมที่เสด็จกลับมาจากอาณาจักรมัชฌาปาหิต (ขวา)
และพระองค์ได้ทำการรวบรวมเมืองต่าง
ๆของพวกเจนละทั้งสองกลุ่มให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งหนึ่ง แล้ว (พ.ศ.1355)
พระองค์ได้ประกาศอิสรภาพให้พ้นจากอำนาจทางการเมืองของอาณาจักรมัชฌาปาหิต (ชวา)
ที่พระองค์เคยไปอยู่และรับเอาวัฒนธรรมราชวงศ์ไศเลนทร และศาสนาพราหมณ์
ไศวนิกายกลับมาใช้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้
กล่าวคือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ได้ให้จัดพระราชพิธีสถาปนาพระองค์
(พระราชาภิเษก) ขึ้นเป็นพระจักรพรรดิ (CAKRA
VARTIN จักรวรรติน) ของอาณาจักร โดยจัดพระราชพิธีนี้บนเขา
มเหนทรบรรพต
(ปัจจุบันคือเขาพนมกุเลน อยู่ทางเหนือของเมืองพระนคร บนเขามีโบราณสถานอยู่หลายแห่ง
มีรูปแบบอิทธิพลศิลปะชวาและศิลปะจามที่เข้ามาช่วงปลาย)
ในการปกครองอาณาจักรของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2
นั้นได้นำรูปแบบจากวัฒนธรรมอินเดียตอนใต้
ซึ่งนับถือศาสนาพราหมณ์ไศวนิกายและราชวงศ์ไศเลนทร (กษัตริย์ชวา) มาประยุกต์ใช้
ดังนั้น การเป็นอิสระนั้นจึงต้องอาศัยวัฒนธรรมและศาสนาสร้างความศักดิ์สิทธิ์
และเชื่อมั่นครั้งนั้น พระองค์ทรงให้พราหมณ์ประกอบพิธี
เทวราช
(จากจารึกภาษาขอมว่า กมรเตง คชฺต ราช
เทวะผู้เป็นราชา) ขึ้น เป็นการสถาปนาคความเชื่อว่า เทวราชา นั้นเป็น
ราชาของเทวดาทั้งปวง (พระศิวะ-พระผู้เป็นเจ้าของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู)
จึงทำพิธีอัญเชิญขึ้นเป็นเทพผู้คุ้มครองราชย์บัลลังก์
และปกป้องคุ้มครองราชย์อาณาจักร พิธีนี้ต่อมาเป็นพระราชพิธีสำคัญของผู้เป็นกษัตริย์
ขอมเป็นพิธีราชาภิเษกพระองค์เป็นกษัตริย์ คือ กมรเตง ชคฺต ราช (สมมุติเทวราช)
ซึ่งพระองค์รับสนองในการทำหน้าที่ดูแลอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าองค์นั้น
ดังนั้นการพระราชกิจใด ๆ ของแผ่นดิน จึงมีการจัดพิธีอุทิศถวายบูชาพระผู้เป็นเจา
(พระศิวะ) ผู้ซึ่งเป็นเทวราชาผู้คุ้มครองราชอาณาจักร อยู่เสมอ
สถานที่สำคัญของ กมรเตง ชคฺต ราช นั้น จึงเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์
ตามคติศาสนาพราหมณ์ ดังนั้นการสร้าง เทวบรพต
จึงเป็นการจำลองภูมิสถานของเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางจักรวาลนั้น
เข้ามาอยู่เป็นศูนย์กลางเมืองในราชธานีของอาณาจักรขอม
การออกแบบและสร้างเทวบรรพต จึงเป็นสถาปัตยกรรมเทวสถาน (ปราสาท)
ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับกษัตริย์ และพราหมณ์
ที่มีปราสาทสำหรับประดิษฐานรูปเคารพของเทวราชา คือ พระศิวะ (ราชศิวลึงค์)
เป็นราชประเพณีของกษัตริย์อาณาจักรขอม
ที่ต้องสร้างถวายพระผู้เป็นเจ้าเมืองขึ้นครองราชย์และสร้างราชธานีแห่งใหม่
เหมือนกับประกาศเป็นนัย
ถึงพระบุญญาบารมีของกษัตริย์และอำนาจที่กะเกณฑ์ผู้คนหรือช่างฝีมือมาช่วยกันสร้างเทวบรรพตถวายพระผู้เป็นเจ้า
ผู้นับถือว่าเป็นเทวราชของแผ่นดิน
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2
เมื่อครองราชย์ได้ทรงเริ่มต้นการสร้างเทวบรรพต
ประดิษฐานรูปเคารพของเทวราชาตามแบบศาสนาพราหมณ์ เทวบรรพตแห่งแรกนี้เชื่อกันว่า คือ
โบราณสถานเขาพนมกุเลน (ปัจจุบันเรียก
กุฏิพระอารามโรงจีน)
เทวบรรพต
นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นตามความเชื่อของจักรวาล ในศาสนาพราหมณ์ว่า
เขาพระสุเมรุนั้นเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ดังนั้นการสร้างเทวบรรพตจึงนิยมที่จะสร้างบนยอดเขา และพื้นที่ราบ
(โดยการยกชั้นมากขึ้น) โดยการออกแบบสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับเขาพระสุเมร
ศูนย์กลางจักรวาล
กล่าวคือ
การยกฐานนั้น จะซ้อนเป็นชั้นลดหลั่นขึนไปตามลำดับ เหมือนเขาพระสุเมรุจำลอง
ตัวปราสาทองค์ประธานนั้นตั้งอยู่ตรงกลางและตั้งอยู่บนฐานส่วนบนที่สูงที่สุด
เพื่อประดิษฐ์รูปเคารพ เทวราช องค์นั้น
ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2
ปรากฏว่าพระองค์ได้สร้างราชธานีขึ้นใหม่หลายแห่ง ได้แก่
1.
เมืองอินทรปุระ (บริเวณบันทายไพรนคร อยู่ทางตะวันออกใกล้เมืองกำแพงจาม)
2.
เมองหริหราลัยหรือร่อลวย (อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากเมืองพระนครปัจจุบันประมาณ
15 กม)
3.
เมืองอมเนทรปุระ (อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองพระนครปัจจุบัน แถบบารายด้าน ตะวันตกและ
4.
เมืองมเหนทรบรรพต หรือพนมกุเลน (บนเขาพนมกุเลน ปัจจุบัน)
ดังนั้น
จึงถือว่ายุคนี้มีการสร้างศิลปะขอมแบบกุเลน ขึ้นในช่วง พ.ศ. 1370
1420
จาก ประสบการณ์
ที่มีการสร้างราชธานี และเทวบรรพตนั้นได้ทำให้ช่างสถาปัตยกรรมในอาณาจักรขอม
มีความชำนาญสร้างปราสาทหินเป็นอย่างมาก มีงานศิลปกรรมขอมเกิดขึ้นมากมายหลาย รูปแบบ
ในแต่ละสมัย
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงเปลี่ยนเมืองราชธานีประทับอยู่ตลอด
ครั้งสุดท้ายทรงประทับมี่เมืองหริหราลัย และพระองค์ทรงอัญเชิญรูปเคารพ เทวราช
มาประดิษฐานที่แห่งนี้ด้วยจนสิ้นพระชนม์ เรื่องนี้มีจารึกกล่าวว่า
การนำเทวราชา
หรือ กมรเตง ชคฺต ราชจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่งนั้น จึงกล่าวได้ว่า
มีการนำประติมากรรมรูปเคารพ ของเทวราชา ผู้คุ้มครองราชย์บัลลังก์
และราชอาณาจักรไปประดิษฐานในเทวบรรพต
ดังนั้น รูปเคารพของเทวราชจึงถูกสถาปนา ขึ้นเป็นรูป ศิวลึงค์
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพระศิวะ และถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในเทวสถาน
ที่สร้างเป็นศูนย์กลางของราชธานี
|