พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1
พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 (พระเจ้ารุทรโลก)
ครองราชย์ระหว่าง
พ.ศ.1440-1466 เป็นพระโอรสของพระเจ้ายโศธรวรมันที่ 1
เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์นั้นได้สร้างเทวบรรพต (ปราสาทปักษีจำกรง)
อุทิศถวายพระราชบิดาและพระราชมารด โดยสร้างเป็นปราสาทขนาดเล็ก
ที่มีปราสาทก่ออิฐหลังเดียวตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง
สร้างเป็นฐานไพทีซ้อนเป็นชั้น ถึง 5 ชั้น
พระเจ้าอิศานวรมันที่ 2 (พระเจ้าบรมรุทรโลก) ครองราชย์ ระหว่าง
พ.ศ.1466
1468 เป็นพระอนุชาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1
สมัยนี้มีการสร้างเทวสถานขึ้นที่เมืองยโศธรปุระ คือ ปราสาทกระวัน
โดยข้าราชการขั้นสูงในราชสำนักสร้าง
พระองค์ครองอยู่ไม่นานได้เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแผ่นดิน โดยพระปิตุลาของพระองค์
(ส่วนเหตุที่เปลี่ยนรัชกาลนั้น
น่าจะเกิดจากพระองค์ไม่ได้สร้างเทวสถานขึ้นตามราชประเพณี )
พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 (พระเจ้าบรมศิวบท) ครอราชระหว่าง พ.ศ. 1471
1485 พระองค์เป็นพระปิตุลา ของพระเจ้าอิศานวรมันที่ 2
(บ้างว่าน้องเขยของพระเจ้ายโศธรวรมันที่ 1) เดิมนั้นพระองค์ประทับอยู่ที่เกาะแกร์
(GARGYAR-
อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองพระนคร ประมาณ 100 กม.)
ครั้นเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์นั้น
พระองค์ได้สร้างราชธานีขึ้นที่เมืองโฉกการยกยาร์ (เกาะแกร์)
ทรงสร้างเทวบรรพตและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนเหตุที่พระองค์ไม่ใช้เมืองพระนครเป็นราชธานีนั้น
น่าจะเกิดเพราะบารายด้านตะวันออก คือ
ยโศธรตฏากะหรือบารายตะวันออกนั้นเกิดตื้นเขินมากจนกักเก็บน้ำไม่ได้หรือได้ไม่เพียงพอ
(น่าจะเกิดจากเหตุที่เมื่อบารายชองเมืองตื้นเขินแล้วต้องย้ายเมืองเหมือนรัชกาลก่อน
ๆ )
พระองค์ครองราชย์ที่เมืองโฉกการยกยาร์ (เกาะแกร์) ได้ 14 ปี
จึงสิ้นพระชนม์
พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 (พระเจ้าพรหมโลก) ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.1485
1487 เป็นพระโอรสของพระเจ้าอิศานวรมันที่ 2 ไม่ปรากฏเรืองราว พระองค์ครองราชย์อยู่
2 ปี และเป็นสมัยที่ศิลปะขอมแบบเกาะแกร์
ได้รับความนิยมหลังจากที่มีการสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.1465
1490
พระเจ้าราเชนทรวรมัน (พระเจ้าศิวโลก) ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.1487
1511 เป็นพระนัดดาของพระเจ้ายโศธรวรมันที่ 1 เดิมเป็นเจ้าชายครองอยู่เมืองภวปุระ
(อยู่ตอนเหนือของกัมพูชาปัจจุบัน) เมื่อพระองค์ได้ครองราชย์นั้น
ได้เสด็จมาประทับและสถาปนาเมืองยโศธรปุระ (เมืองพระนคร) เป็นราชธานีตามเดิม
พระองค์ทรงทำให้เมืองยโศธรปุระมีความเจริญรุ่งเรือง
โดยทรงโปรดให้ทำการบูรณะเทวสถานเก่า ๆ ที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ เช่น ปราสาทปักษีจำกรง
เป็นต้น
พระองค์ให้ทำการปรับปรุงผังเมืองด้านตะวันออกของเมืองเพื่อสร้างเทวสถานประจำรัชกาลตามประเพณี
และทรงให้ทำการปรับปรุงบารายตะวันออกเสียใหม่
โดยยกคันดินให้สูงขึ้นเป็นคันเขื่อนเก็บกักน้ำ
เทวสถานที่พระเจ้าราเชนทรวรมัน โปรดให้สร้างที่เมืองยโศธรปุระ
(เมืองพระนคร) ตามราชประเพณีที่พระเจ้ายโศธรวรมันที่ 1 ทรงทำมาก่อนคือ เทวสถาน
(ปราสาทแม่บุญตะวันออก)
สร้างอุทิศถวายแด่บรรพบุรุษของพระองค์นั้นอยู่กลางบารายตะวันออก
และเทวสถานประจำราชธานี (ปราสาทแปรรูป) ประดิษฐานรูปเคารพของเทวราชา
ผู้คุ้มครองราชย์ธานีและอาณาจักรสมัยนี้มีการสร้างศิลปะขอมแบบแปรรูปใน พ.ศ.1490
1510
จากการสร้างเทวสถานของพระองค์นั้น ได้ทำให้มีข้าราชการขั้นสูง
ในราชสำนักขอม ได้พากันก่อสร้างเทวสถานตามอย่างกษัตริย์ เช่น กวีนทราริมัถนะ
สร้างเทวสถาน (ปราสาทบาทชุม) ตรงด้านทิศตะวันออกของเมืองพระนคร
เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปและพระพุทธเทวดาในความเชื่อพุทธศาสนาลัทธิมหายาน
พราหมณ์ทิวากรภัทร์ สร้างเทวสถาน (ปราสาทอินทร์โกสี) ที่ริมฝั่งแม่น้ำเสียมเรียบ
ซึ่งอยู่ทิศใต้นอกเมืองพระนคร
ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ไศวนิกาย และพราหมณ์ยัชญวราหะ มหาราชครูในราชสำนักขอม
ได้สร้าง เทวสถาน (ปราสาทบันทายศรี)
ในบริเวณทางทิศเหนือห่างจากเมืองพระนครไปประมาณ 25 กิโลเมตร
เพื่ออุทิศถวายแด่พระอิศวร (พระศิวะ) และสร้างสำเร็จในรัชกาลต่อมา)
พระเจ้าราเชนทร์วรมันนั้น
ทรงขยายอำนาจออกไปทางตะวันออกไปจนถึงดินแดนภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ (อีสาน) ของไทย ซึ่งมีการพบจารึกของพระองค์ในบริเวณภาคอีสาน หลายหลัก
และในตอนปลายนั้นพระองค์ทรงยกกองทัพเข้าไปรุกรานอาณาจักรจัมปา และสู้รบมีชัยชนะ
|