ราชวงศ์กษัตริย์ของอาณาจักรสยาม
ราชวงศ์กษัตริย์ของอาณาจักรสยาม(2)
อาณาจักรสยาม
(กรุงสุโขทัย) ตอนบนนั้นจีน เรียกว่า
เสียมก๊ก
หรือ เสียม และ
อาณาจักรสยามตอนล่าง (กรุงศรีอยุธยา) จีนเรียกว่า หลอฮกก๊ก
ดังนั้น เมื่อมีการรวมอาณาจักรสยามตอนบนและตอนล่างเป็นหนึ่งเดียวกัน
จีนจึงเรียกอาณาจักรนี้ว่า เสียมหลอก๊ก
ด้วยเหตุนี้ การจัดตั้งสยามเป็นอาณาจักรเดียวกัน
จึงได้มีพวกไทยใหญ่ได้มีอำนาจ ครองเมืองพุกามและเป็นใหญ่ในดินแดนพม่า
ทางดินแดนตอนใต้มีมะกะโท รามัญผู้ออกไปจากเมืองสุโขทัย แล้วไปตั้งตนเป็นใหญ่
ครองอาณาจักรรามัญ หรือดินแดนมอญมาตลอด ราชวงศ์ของพระเจ้าราชาธิราช
สำหรับอาณาจักรสยาม ที่อยู่ในแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้น
มีเรื่องของพระเจ้าอู่ทอง เป็นต้นราชวงศ์กษัตริย์อยู่ที่นี่
โดยเชื่อว่าพระเจ้าอู่ทองนั้นอยู่ที่เมืองสุพรรณบุรี
ด้วยมีเมืองอู่ทองอยู่ริมแม่น้ำจระเข้าสามพัน
ผู้ครองเมืองนี้เรียกพระเจ้าอู่ทองทุกพระองค์
กษัตริย์ราชวงศ์นี้ได้ครองเมืองอู่ทองสืบต่อมาจนถึงพระเจ้าอู่ทองรัชกาลที่ 3
พระองค์มีพระโอรสชื่อ
ขุนหลวงพะงั่ว (ต่อมาได้เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา) และพระธิดาไม่ปรากฏนาม ต่อมา
พ.ศ.1876 พระราชธิดา ผู้นี้ได้อภิเษกกับเจ้าราม รัชทายาทจากเมืองเทพนครชัยศิริ
เมื่อพระเจ้าอู่ทอง (ผู้เป็นพ่อตา) สวรรคตประมาณ พ.ศ.1878
เจ้ารามผู้นี้ได้ครองเมืองอู่ทอง นามว่า พระเจ้ารามราชา
ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่าพระเจ้าอู่ทอง (เจ้าราม) ครองเมืองอยู่ 10 ปี พระเอกาทศรถ
(พระบิดาของเจ้าราม) นั้นหลังจากครองเมืองเทพนครศิริชัยได 25 ปี ก็สวรรคต
ในปี 1886 พระเจ้าอู่ทอง (เจ้าราม) จึงได้ครองราชย์ที่เมืองเทพนครชัยศิริ
และใหขุนหลวงพะงั่ว ซึ่งเป็นพี่พระเมเหสี
ครองเมืองสองพันบุรีอยู่นั้นขึ้นไปครองเมืองอู่ทอง
ต่อมา พ.ศ.1890 เมืองอู่ทองเกิดเส้นทางน้ำเปลี่ยนทางเดิน
ทำให้เกิดโรคระบาดในเมือง จึงย้ายมาครองสองพันบุรีตามเดิม ส่วนพระเจ้าอู่ทอง
(เจ้าราม) นั้นต่อมาเห็นว่าเสนาราชนคร (น่าจะเป็นอโยธยา)
ซึ่งเป็นเมืองท่าของเมืองละโว้ เหมาะสมกับจะเป็นราชธานี
จึงได้ตั้งกรุงศรีอยุธยาขึ้นใหม่ที่ตำบลหนองโน เมื่อ พ.ศ.1893
และพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ กรุงศรีอยุธยาพระองค์แรก ทรงพระนามว่า
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ครองราชย์สืบเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์สืบต่อมา
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 กษัตริย์กรุงศรีอยุธยานั้น
มีพระโอรสองค์หนึ่ง แต่เกิดก่อน พระองค์จะขึ้น
ครองราชย์ (หากกรณีพระเจ้าอู่ทองเป็นพระโอรสของพระเจ้าศิริเชียงแสน ราชวงศ์เชียงแสน
พระมเหสีผู้นี้น่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์ทางเหนือด้วย) เมืองกรุงศรีอยุธยา
มีอำนาจหัวเมืองทางเหนือ จึงได้ขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก
ต่อมาพระโอรสองค์นี้ก็ได้สตรีผู้เป็นเชื้อสายของราชวงศ์กษัตริย์ทางเหนือเป็นภรรยาอีก
และมีโอรสด้วยกันคือ
พระชัยราชา
พระชัยราชานี้ถือว่าเป็นกษัตริย์เชื้อสายทางเหนือด้วย
และมีฐานะเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (เจ้าอาทิตย์วงศ์) ด้วย
ต่อมาได้ครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าชัยราชาธิราช
คำว่า ราชวงศ์กษัตริย์ทางเหนือเดิมนั้นปรากกว่า ชื่อ
ราชวงศ์เชียงแสน (เมืองเงินยาง จากพระเจ้าชัยศิริ)
น่าจะเป็นวงศ์เดียวกับราชวงศ์เชียงราย (จากพระยาเมืองราย)
และเมื่อคนในราชวงศ์นี้ได้ครองสุโขทัย จึงเป็นราชวงศ์สุโขทัย (เชื้อสายพระร่วง)
พระเจ้าชัยศิริเชียงแสน ที่ปรากฏในตำนานว่า
เป็นบิดาของพระเจ้าอู่ทองนั้น หากเชื่อว่า
เป็นพระเจ้าครองเมืองชัยศิริหรือศิริชัยอย่างพระนามพระเจ้าเชียงใหม่
พระเจ้าอู่ทองแล้ว น่าจะหมายความได้ว่าพระเจ้าชัยศิรินี้
น่าจะตั้งอยู่ที่เมืองชัยศิริ หรือศิริชัย คือเมืองนครปฐม
ด้วยเมืองนครปฐมนี้ร้างมาเกือบ 100 ปี
ตั้งแต่พระเจ้าอนุรุธตีเอาเมืองและกวาดตอนผู้คนไป (จากพระราชพงศาวดาร
ฉบับพระราชหัตเลขา) ดังนั้นเมืองพระเจ้าอู่ทอง ได้ครองเมืองอู่ทองและเมืองนครปฐม
ก็ดูจะเหมาะสมด้วยอยู่ใกล้กันมากกว่าเมืองเทพนคร (อยู่ใต้เมืองกำแพงเพชรลงมา)
ดังนั้น เมื่อ พ.ศ.1731
ราชวงศ์ของพระเจ้าอู่ทองที่อพยพลงมาครองเมืองอู่ทอง (หรือเมืองนครปฐม)
สืบพระวงศ์ต่อกันมาถึง 160 ปี คือ พ.ศ.1893 จึงเกิดพระเจ้าอู่ทอง
ผู้สร้างกรุงศรีอยุธยาขึ้น ในระหว่างนี้ (ช่วง 160 ปี)
อาณาจักรสุโขทัยก็มีพระเจ้าแผ่นดินในพระราชวงศ์พระร่วงครองราชย์แล้ว 4 พระองค์
และได้สร้างเมืองนครชุม (เมืองกำแพงเพชรเก่า)
ขึ้นเป็นราชธานีฝ่ายตะวันตกริมแม่น้ำพิง (หรือไตรตรึงษ์ เมืองที่สร้างใต้กำแพงเพชร)
สรุปแล้ว ดินแดนสยามประเทศนั้น ได้มีการรวมตัวเป็นประเทศใหญ่
ตั้งเป็นอิสระอยู่ 2 อาณาจักร คือ
อาณาจักรสยามที่มีกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และอาณาจักรล้านนาไทย หรือหริภุญชัย
มีเมืองเชียงใหม่เป็นราชธานี จน พ.ศ.1893
จึงเกิดอาณาจักรสยามที่มีกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยพระเจ้าอู่ทอง
ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์กษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ดังนั้น
พระเจ้าอู่ทองจึงทรงเป็นเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์ทางเหนือ
เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชัยศิริเชียงแสน นั่นคือ
สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์เชียงแสนนั่นเอง แต่เกิดได้ครองเมืองอู่ทอง
จึงเป็นราชวงศ์อู่ทองหรือ ราชวงศ์สุพรรณภูมิในฐานะราชบุตรเขตได้อีกสายหนึ่ง
บุคคลในราชวงศ์ที่สืบต่อจากพระเจ้าอู่ทองนี้
ได้เป็นกษัตริย์ขึ้นครองราชย์ต่อมาหลายพระองค์
และมีการแย่งชิงอำนาจและสับเปลี่ยนราชวงศ์กษัตริย์กันต่อมาจนถึง พ.ศ.2310
จึงมีเหตุการณ์สงครามและเสียกรุงศรีอยุธยา ต่อมานั้นได้มีการกู้ชาติ
ตั้งราชธานีแห่งใหม่ขึ้นที่เมืองธนบุรีศรีสมุทรและกรุงรัตนโกสินทร์ตามลำดับ
|