พระมหาธรรมราชาที่ 2
พระมหาธรรมราชาที่ 2 (พระยาลือไทย)
พระมหาธรรมราชาที่ 2 หรือ พระยาลือไทย
เป็นพระโอรสของพระมหาธรรมราชาลิไทย ประมาณว่า
ครองราชย์เป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ.1912 (บ้างว่า พ.ศ.1911 1917) จนถึง พงศ.1942
ในรัชกาลของพระมหาธรรมราชาที่ 2 ด้วยเหตุที่ว่ามีความสัมพันธ์กับราชวงศ์เมืองน่าน
คือ มีพระมเหสี เป็นพระธิดาเมืองน่าน และเป็นไมตรีกับอาณาจักรล้านนา
มาตั้งแต่รัชกาลก่อน จึงทำให้อาณาจักรอยุธยามีความหวั่นเกรงว่าหากเมืองสุโขทัยนั้น
ถูกรวมเข้ากับอาณาจักรล้านนาแล้ว
ภายหน้าหากอาณาจักรล้านนาคิดทำการสงครามขยายอาณาเขตลงมาตอนใต้
ด้วยเหตุที่มีเส้นทางเดินทัพทั้งทางบกและทางน้ำสะดวก เช่นนี้
ก็จะเป็นอันตรายต่ออาณาจักรอยุธยา และเมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นราชธานีสำรองนั้น
ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะเข้มแข็งพอต่อต้านกองทัพใหญ่ได้
ดังนั้นอาณาจักรอยุธยาจึงจำต้องหาหนทางที่จะชิงเอาเมืองต่าง ๆ
ของอาณาจักรสุโขทัยนั้นมาไว้ในอำนาจเสียก่อน
แต่การจะยกกองทัพไปชิงเมืองสุโขทัยหรือเมืองพิษณุโลกโดยตรง
นั้นก็จะทำให้อาณาจักรล้านนาส่งกองทัพมาช่วยเหลือ
ด้วยสองอาณาจักรนั้นผูกสัมพันธไมตรีต่อกันอยู่
ดังนั้น สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือขุนหลวงพะงั่ว (พ.ศ.1913
1931) จึงได้ยกกองทัพเข้าไปบุกรุกรานหัวเมืองต่าง ๆ ของอาณาจักรสุโขทัย
เหมือนลองท่าที่ของอาณาจักรล้าน และสู้รบกับกำลังของเมืองสุโขทัยด้วย
ดังปรากฏเหตุการณ์ชิงเมือง ดังนี้
พ.ศ. 1914 กองทัพจากอาณาจักรของเมืองอยุธยา
โดยการนำของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 มีชัยชนะหัวเมืองเหนือทั้งปวง
ต่อมาในปีรุ่งขึ้น พ.ศ.1915 กองทัพกรุงศรีอยุธยา ได้ยกกำลังเข้าตีเอาเมืองนครพังคา
และเมืองแสงเซราได้ พ.ศ.1916 กองทัพกรุงศรีอยุธยา จึงยกไปตีเมืองชากังราว
พระยาไสแก้วกับพระยาคำแหง ได้ทำการสู้รบป้องกันเมืองอย่างสุดความสามารถ
ทำให้กองทัพกรุงศรีอยุธยา พ่ายแพ้ในที่สุด พระยาไสแก้วนั้นได้เสียชีวิตในการสู้รบ
และครั้งหลังสุด พ.ศ.1919 กองทัพกรุงศรีอยุธยายกกองทัพไปตีเมืองซากังราวอีก
ครั้งนี้พระยาผากอง เจ้าเมืองน่านได้ยกกำลังมาช่วยเหลือ
แต่ไม่สามรถต้านกำลังทัพของอาณาจักรอยุธยาได้ พระยาผากองจึงถอยทัพกลับไป
ทำให้กองทัพอยุธยาไล่จับทหารเมืองน่านได้จำนวนมาก
กองทัพกรุงศรีอยุธยา นั้นยกทัพมาตีหัวเมืองต่าง ๆของเมืองสุโขทัย
ตั้งแต่ พ.ศ.1914 1909 ทำการสู้รบกันอยู่ 6 ปี จน พ.ศ.1921
กรุงศรีอยุธยาจึงตีเอาเมืองซากังราว
ซึ่งเป็นเมืองลูกหลวงด้านทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัยได้ จากจารึกวัดช้างล้อม
กล่าวไว้ว่า พระมหาธรรมราชาที่ 2 นั้นได้ป้องกันเมืองเป็นสามารถ
แต่เมื่อเห็นได้ว่าไม่สามารถทำการสู้รบต่อไปได้
แล้วจึงออกมาถวายบังคมยอมอ่อนน้อมแต่โดยดี สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1
(ขุนหลวงพระงั่ว) จึงโปรดให้พระมหาธรรมราชาลิไทย
นั้นครองอาณาจักรสุโขทัยต่อไปในฐานะประเทศราช ขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา ต่อมา พ.ศ.1931
อาณาจักรสุโขทัยได้แข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1
จึงยกกองทัพขึ้นมาตีเอาเมืองซากังราวอีก
แต่กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเสด็จสวรรคตเสียก่อนระหว่างทาง
พระมหาธรรมราชาที่ 2 (น่าจะประทับที่เมืองพิษณุโลก)
เสด็จสวรรคตเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนประมาณว่าพระองค์ครองราชย์ได้ 9 ปี
(พ.ศ.1912 1921) บางแห่งว่า พระองค์นั้นครองราชย์ได้ 22 ปี
ทำให้ศักราชดูแตกต่างกันมาก
|