ราชวงศ์ปราสาททอง
ราชวงศ์ปราสาททอง
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 6 (สมเด็จเจ้าฟ้าชัย)
ครองราชย์ได้ 3 5 วัน พ.ศ. 2199
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 6 คือ เจ้าฟ้าชัย
พระโอรสองค์ใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
เมื่อสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงประชวรหนักนั้นได้มอบพระแสงขรรค์ชัยศรีและมอบราชสมบัติให้ก่อนสวรรคต
3 วัน ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าศรีสรรเพชญ์ที่
6 ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สมเด็จเจ้าฟ้าชัย
ในรัชกาลนี้พระองค์ได้ส่งเครื่องบรรณาการไปญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นไม่ยอมรับ
อ้างว่ากำลังปิดประเทศ
สมเด็จเจ้าฟ้าชัย พระองค์ทรงครองราชย์ได้ปีหนึ่ง พระศรีสุธรรมราชา พระเจ้าอา
(พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง) กับพระนารายณ์
ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์นั้นได้ร่วมกันชิงอำนาจ
จับสมเด็จเจ้าฟ้าชัยปลงพระชนม์ที่วัดโคกพระยา ใน พ.ศ. 2199
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 6 (สมเด็จเจ้าฟ้าชัย)
พระโอรสของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้รับมอบพระแสงขรรค์ชัยศรี ก่อนพระบิดาสวรรคต
3 วัน ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2199 (บ้างว่า พ.ศ. 2187 ?)
พระนารายณ์ได้คบกับพระสุธรรมราชา ผู้เป็นอาทำการยึดอำนาจ
จับสมเด็จเจ้าฟ้าชัยสำเร็จโทษ ในปีนั้น
ราชวงศ์ปราสาททอง
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 7 (พระศรีสุธรรมราชาป
ครองราชย์ได้ 2 เดือนใน พ.ศ. 2199
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 7 คือ พระศรีสุธรรมราชา
พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้ร่วมกับพระนารายณ์
ทำการชิงอำนาจจากสมเด็จเจ้าฟ้าไชย
ในครั้งแรกนั้นพระศรีสุธรรมราชาได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า
สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 7 และแต่งตั้งให้พระนารายณ์นั้นเป็นพระมหาอุปราช
พอครองราชย์ได้ประมาณ 2 เดือน จึงเกิดเหตุเนื่องจาก
สมเด็จพระศรีธรรมราชานั้นทรงกระทำมิดีมิได้กับ พระราชกัลยาณี
ซึ่งเป็นพระนัดดาและพระขนิษฐาของพระนารายณ์ ทำให้พระนารายณ์ทรงขัดเคือง
จึงนำกำลังเข้าวังหลวงถึงกับทำการสู้รบกันขึ้นเป็นศึกกลางเมือง
การสู้รบครั้งนั้นพระนารายณ์มีชัยชนะ จับสมเด็จพระศรีธรรมราชาได้
จึงให้สำเร็จโทษที่วัดโคกพระยาในปี พ.ศ. 2199
สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา หรือ สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 7 คือ
พระสุธรรมราชาพระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ครองราชย์ (พ.ศ. 2199)
แต่งตั้งให้พระนายพระราชนัดดาเป็นอุปราช โดยอยู่ในพระราชวังบวรสถานมงคล
ต่อมาได้ขึ้นหาพระราชกัลยาณี พระขนิษฐษของพระนารายณ์ หวังจะร่วมสังวาสด้วย
พระราชกัลยาณีหลบในตู้พระสมุดออกมาแจ้งให้พระนารายณ์ทราบเรื่อง
พระนารายณ์จึงทำการชิงอำนาจ เกิดศึกกลางเมืองต่อสู้กันระหว่างวังหลวงและวังหลัง
ในที่สุดจับพระศรีสุธรรมราชาได้จึงสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยา รวมอยู่ในราชสมบัติได้
2 เดือน กับ 20 วัน บางแห่งว่าครองราชย์ พ.ศ. 2187 (ครองราชย์ 3 เดือน)
ศักราชไม่ตรงกัน
ราชวงศ์ปราสาททอง
สมเด็จพระนารายณ์ราชาธิราช
ครองราชย์ พ.ศ.
2199 2231
สมเด็จพระนารายณ์ราชาธิราช หรือ
พระนารายณ์เป็นพระโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม
พ.ศ. 2199 นั้นพระนารายณ์ ร่วมกับ พระศรีสุธรรมราชา พระเจ้าของพระองค์
ทำการชิงอำนาจในระหว่างที่สมเด็จเจ้าฟ้าไชย
เสด็จทอดพระเนตรพิธีเจ้าเซ็นของชาวอิหร่านโดยได้มีการลอยนำอาวุธจริงเข้าไปในบริเวณการประกอบพิธีและหาโอกาสเข้ายึดอำนาจในระหว่างพิธีนั้น
ครั้งนั้นบรรดาขุนนางฝ่ายของสมเด็จเจ้าฟ้าไชย
พระเจ้าเหนือหัวองค์เดิมนั้นได้ถูกจับพระศรีสุธรรมราชาจึงปลดจากตำแหน่งและทำการประหารชีวิตเกือบทั้งหมด
ทำให้ขุนนางข้าราชการเกือบหมด ซึ่งเป็นคนไทยที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ นั้นหมดสิ้นลง
จึงต้องใช้แขกเปอร์เซีย ลาว ฝรั่ง ญี่ปุ่น เข้ามาทำรับราชการแทน
ด้วยปรากฏมีตำแหน่งสำคัญของบุคคลเหล่านี้ เช่น พระยารามเดโช (แขกเปอร์เซีย)
พระยาราชบังสัน (หรือ พระยาราชวังสัน แขกเปอร์เซีย) และเจ้าพระยาวิชาเยนทร์
(ชาวกรีก) เป็นต้น
เมื่อพระนารายณ์ทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ได้เสด็จเยี่ยมพวกอิหร่านเป็นประจำ
ดังนั้น เมื่อพระนารายณ์เข้าทำการก่อรัฐประหารชิงอำนาจจากสมเด็จพระศรีธรรมราชา
พระเจ้าอานั้น
พระองค์จึงได้กำลังพวกอิหร่านและพวกฝรั่งเศสเข้าทำการช่วยเหลือสู้รบจนสำเร็จ
ทำให้สมเด็จพระนารายณ์สร้างสัมพันธไมตรีกับชาวฝรั่งเศส
และพระองค์นั้นได้มีทหารรักษาพระองค์เป็น ชาวญี่ปุ่น อิหร่าน ตุรกี และอินเดีย
การที่สมเด็จพระนารายณ์ครองราชย์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยานั้น
ปรากฏว่าพระองค์ทรงมีศัตรูทั้งฝ่ายราชวงศ์ในราชสำนัก และข้าราชการ
จึงทำให้พระองค์ต้องทำการจัดแจงบ้านเมืองกำจัดศัตรูของพระองค์และเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการเก่าเป็นอันมาก
โดยมีการแต่งตั้งข้าราชการขึ้นใหม่ โดยเฉพาะบุตรของพระนมนั้นได้มียศและตำแหน่งสูง
คือ ขุนเหล็ก นั้นให้เป็น เจ้าพระยาโกษาธิบดี ให้พระเพทราชา เป็นข้าหลวงเดิมและแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งอื่นๆ
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่นับถือศาสนาอื่นเช่น คลอนสแตนติน ฟอลคอน
เป็นพระยาวิชาเยนทร์
|