ตำรายามสามตา
ท่านท้าวตรีเนตร เล็งญาณทราบเหตุ แต่ยามสามตา คือยามทิพยยนต์
ยามนี้วิเศษ ท่านท้าวเทเวศน์ หยั่งรู้เหตุผล ผู้ใดได้พบ
ยามเจ้าจุมพล อาจเข้าใจคน รู้ทุกประการ
เดือนแรมบ่ ผิด ให้นับ อาทิตย์ มาหาอังคาร เวียนไปตามค่ำ
แล้วจึงนับยาม ชอบเวลางาม จึงทายอย่าคลาด
ถ้าเดือนขึ้นไซร้ นับอาทิตย์ไปหาจันทกลา นับตามค่ำแล้ว
จึงนับยามมาให้ชอบเวลา แม่นแล้วจึงทาย
กำลังอังคาร ท่านท้าวมัฆวาน บอกไว้โดยหมาย จันทร์ปลอดมัธยม
นิคมอุบาย ยามเจ้าฤาสาย เที่ยงแท้สัตย์จริง
อาทิตย์ คือสีใส กำหนดลงไว้ อย่าได้ยุ่งยิ่ง ตรองให้เห็นเงื่อน
อย่าเชือนประวิง ถูกแน่แท้จริง อย่ากริ่งสงสัย
ถ้าดูสู้กัน
เล็งดูยามนั้น จะเป็นฉันใด ถ้ากำอยู่หลัง เบื้องหน้ายามใส
ว่าเขาจักได้ เราแพ้เสียตน
ถ้ากำอยู่หน้า ยามใสโสภา อยู่หลังเป็นต้น เขาพ่ายแพ้กุมเอา
ถ้าข้าศึกมา
ถ้ากำอยู่หน้า ศึกมาถึงเรา ถ้าใสอยู่หน้า มาแล้วกลับเล่า
หน้าปลอดจักเปล่า ถ้าเจ็บอย่าฟัง
คนมากเท่าใด
ถ้าหน้ากำไซร้ คนมากโดยหวัง ถ้าว่าหน้าใส คนน้อยอย่าฟัง
ถ้าปลอดอย่าหวัง หาไม่สักคน
คนหาญหรือขลาด
หน้ากำสามารถ เรี่ยวแรงแสนกล หน้าใสพอดี บ่มีฤทธิรน หน้าปลอดอำพน
ว่าชายเหมือนหญิง
ถืออันใดมา
หน้ากำโสกา คือศาสตราจริง หน้าใสถือไม้ มาได้สักสิ่ง
หน้าปลอดประวิง ว่าเดินเปล่ามา
ว่าสูงหรือต่ำ
หน้ากำควรจำ ว่าสูงโสภา หน้าใสปานกลาง ปลอดต่ำ หนักหนา ทายตามเวลา
ยามเจ้าไตรตรึงส์
ว่างามมิงาม
หน้ากำอย่าขาม ว่างามบ่ถึง หน้าใสงามนัก หน้าปลอดพอถึง
ยามเจ้าไตรตรึงส์
ว่าหนุ่มหรือแก่
หน้ากำนั้นแล ว่าแก่ชรา หน้าใสกลางคน ปลอดเด็กหนักหนา ประคินเวลา
แม่นแล้วจึงทาย
คนผอม
หรือพี หน้ากำหมองศรี ว่าพีพ่วงกาย หน้าใสพอดี ฉวีเฉิดฉาย
หน้าปลอดเร่งทาย ว่าผอมเสียศรี
ดำแดงหรือขาว
หน้ากำควรกล่าว ว่าดำอัปรีย์ หน้าใสดำแดง เป็นแสงมีศรี
หน้าปลอดขาวดี เที่ยงแท้โดยถวิล
ต้นลงหรือปลายลง
หน้ากำเร่งทาย ว่าปลายลงดิน หน้าใสปลายขึ้น ต้นลงอาจิณ
หน้าปลอดเร่งถวิล ว่านอนราบลง
สุกหรือดิบห่าม
หน้ากำอย่าขาม ว่าสุกโดยตรง หน้าใสห่ามแท้ ทายแต่โดยตรง
หน้าปลอดเร่งปลง ว่าดิบหนักหนา
ว่าหญิงหรือชาย
หนำกำเร่งทาย ว่าชายละนา หน้าใสบัณฑิต พึงพิศโสภา หน้าปลอดทายว่า
เป็นหญิงโสภาโดยหมาย
เต็มหรือพร่องแห้ง
หน้ากำควรแถลง ว่าเต็มบ่มิคลา หน้าใสมิเต็ม งวดเข้มจงทาย
หน้าปลอดกลับกลาย ว่าแห้งห่อนมี
ขุนนางหรือไพร่
หน้ากำควรไข ว่าคุณมีส หน้าใสโสภา วาสนาพอดี หน้าปลอดกาลี
เข็ญใจหนักหนา
ไข้เป็นหรือตาย
หน้ากำเร่งทาย ว่าตาย บ่ คลา หน้าใสว่าไข้ ลำบากหนักหนา
หน้าปลอดทายว่า ไข้นั้น บ่ ตาย
ท่านรักหรือชัง
หน้ากำท่านหวัง รักดังลูกชาย หน้าใสมิรักมิชังโดยหมาย
หน้าปลอดเร่งทาย ว่าชังหนักหนา
หน้าจืดหรือหวาน
หน้ากำเปรียบปาน น้ำตาลโอชา หน้าใสรสหวาน ประมาณรสา หน้าปลอดทายว่า
จืดชืดมิดี
หน้าขม
หรือเฝื่อนฝาด หน้ากำสามารถ ว่าขมแสนทวี หน้าใสทายว่า
ฝาดนักมิดี หน้าปลอดตรงที่ ว่าจืดจริงนา
ว่าอยู่
หรือไป ถ้าหน้ากำไซร้ ว่าไป บ่ ช้า หน้าใสแม้นไป
กลางทางกลับมา หน้าปลอดทายว่า ว่าแต่จะไป
สี่ตีนหรือสอง
หน้ากำควรสนอง ว่าสีตีนแท้ หน้าใสสองตีน ประคีนจงแน่
หน้าปลอดจงแก้ว่าตีน บ่ มี
แม้นดูของหาย
หน้ากำเร่งทาย ว่าได้บัดนี้ หน้าใสแม้นได้ ช้าเจียนขวบปี
หน้าปลอดหน่ายหนี บ่ ได้เลยนา
แม้นดูปลูกเรือน
นับยามอย่าเชือน เร่งทายอย่าคลา แม้กำอยู่หลัง ยามใสอยู่หน้า
ว่าดีหนักหนา ถาวรมีศรี หน้ากำนำพา คือ กำอยู่หน้า ท่านว่ามิดี
แม่เรือนจะตาย วอดวายเป็นผี หน้าปลอดมิดี บอกให้รู้นา
ว่าคว่ำหรือหงาย
หน้ากำเร่งทาย ว่าคว่ำ บ่ คลา หน้าใสหงายแท้ นอนแผ่อยู่นา
หน้าปลอดทายว่า คะแคงแฝงตน
ยามนี้วิเศษ ท่านท้าวตรีเนตร หยั่งรู้เหตุผล
คือเนตรท่านเอง แลเล็งทิพยยนต์ สมเด็จจุมพล ให้ไว้เราทาย
ผู้ใดได้พบ ยามเจ้าไตรภพ ร่ำเรียนกฎหมาย
เดือนขึ้นเดือนลง วันคืนเช้าสาย ให้แม่นแล้วทายอย่าคลาดเวลา
พระอาทิตย์ฤทธิไกร คือเนตรท้าวไท ท่านท้าวพันตา
อยู่ตรวนลาด พระบาทภูวนา ดูงามหนักหนา รุ่งเรืองเฉิดฉัน
ครั้นจักมีเหตุ ร้อนอาสน์ตรีเนตร ตรึกเหตุด้วยพลัน
เล็งแลทั่วโลก ทุกทิศหฤหรรษ์ พระองค์ทรงธรรม์ เล็งตาทิพย์พราย
ท่านให้นับยาม ครั้นรุ่งอร่าม สวยงามแก่งาย
แม้ตะวันเที่ยง เฉวียงวันฉาย สายบ่ายแล้ว บ่ คลาย ฝ่ายค่ำสุริยัน
ค่ำเฒ่าเข้านอน เด็กหลับกลับผ่อน ให้นอนเงียบพลัน
เที่ยงคืนยามสาม ล่วงเข้าไก่ขัน ใกล้สุริยัน สุวรรณเรืองรอง
ตำรานี้นะ ของท่านคุณพระ ครูเทพจอมทอง มาให้สมุห์วาสน์
สามารถท่องจำ ไว้สืบสนอง บทเบื้องต่อบรรพ์
ข้าพระสมุห์ คิดอ่านทำนุ บำรุงเสกสรร
เป็นกลอนกาพย์สาส์น วิลาสนี้พลัน ยี่สิบแปดบรรพ์ เป็นฉันท์บรรยาย
ยามสามตาอีกตำราหนึ่ง
เมื่อจะดูยามสามตานี้ ถ้าเดือนข้างขึ้น
ให้นับแต่อาทิตย์มาหาจันทร์ ถ้าเดือนข้างแรม
ให้นับแต่จันทร์มาหาอังคาร เมื่อได้เศษเท่าใดแล้ว ให้ทายตามเศษนั้น
ๆ ดังนี้
ถ้าดูของหาย ถ้าเศษ ๑ คนในเรือนเอาไปซ่อนไว้ ให้หาจงดี
ถ้าเศษ ๒ คนมาสำนักอาศัย ลักไปซ่อนไว้หนบูรพา แลทักษิณ
จะมีพี้น้องเอามาคืนให้ ถ้าเศษ ๓ ของนั้นอยู่ทิศประจิม และพายัพ
จะได้คืนแล
ถ้าเขาถามว่า ผู้ลักไปนั้นหญิงหรือชาย ถ้าเศษ ๑
ว่าผู้หญิงเรือนเดียวกัน ลักไปซ่อนไว้ แทบฝั่งน้ำ และประตูใหญ่
ถ้าเศษ ๒ ทายว่า ผู้ชายบัณฑิตลักไปไว้แทบประตู เศษ ๓
ผู้ใหญ่ต่างเรือนลักไป แล
ถ้าดูตาย
ถ้าเศษ ๑ ว่ามิตาย มีผู้เลี้ยงรักษา ถ้าเศษ ๒ มิเป็นไร
มีผู้จะเลี้ยงรักษา แต่ว่าจะได้ลำบาก ถ้าเศษ ๓ ว่าตายจริง แล
ถ้าถามว่าศึกจะมาหรือไม่
ถ้าเศษ ๑ ว่ามิมา ถ้าเศษ ๒ มาถึงครึ่งทาง ถ้าเศษ ๓ จะมาถึงพลัน แล
ถ้าถามว่าผู้ใดจะมา
ถ้าเศษ ๑ ตัวพระยามาเอง ถ้าเศษ ๒ มาแต่เสนาผู้ใหญ่
มากึ่งหนทางแล้วกลับไป ถ้าเศษ ๓ มาแต่นายทหารผู้ใหญ่ แล
ถ้าถามว่ามาถึงวันใด
ถ้าเศษ ๑ มาถึงวันนี้ ถ้าเศษ ๔,๕,๖,๗ ไม่มา ถ้าเศษ ๒ จะมาถึงใน ๑-๒
วัน ถ้าเศษ ๓ มามิมาเท่ากัน แล
ถ้าถามว่าแพ้หรือชนะ
ถ้าเศษ ๑ หนีเรา ถ้าเศษ ๒ แรงเท่ากับ ถ้าเศษ ๓ เขามาแรงกว่าเรา
ตั้งทัพอยู่ทิศพายัพ สองวันจึงจะชนะ แล
ถ้าถามว่าไปทัพ
จะได้รบหรือไม่ได้รบ ถ้าเศษ ๑ มิได้รบ ถ้าเศษ ๒
ได้รบสักหน่อยหนึ่ง ถ้าเศษ ๓ ตั้งทัพรบ แล
ถ้าถามว่าจะได้หรือไม่ได้
ถ้าเศษ ๑ ว่าจะได้ต้นทาง จะเอาได้หลาย ถ้าเศษ ๒ ว่ามิได้ ถ้าเศษ ๓
จะได้ภายนอกเมือง แล
ถ้าถามว่าจะได้เชลยหรือมิได้
ถ้าเศษ ๑ ว่าจะได้ ถ้าเศษ ๒ ได้แต่มนตรี และนางเทวี ถ้าเศษ ๓
จะได้ขุนนางผู้ใหญ่ แล
ถ้าถามว่ามีที่ไปจะมาช้าหรือมาเร็ว
ถ้าเศษ ๑ ว่ายังมิมา ถ้าเศษ ๒ เพิ่งจะมา ถ้าเศษ ๓ มาถึงในเดี๋ยวนี้
ถ้าวันนี้ไม่มาอีก ๓ วันหรือ ๗ วัน จะมา แล
ถ้าถามว่าจะไปบกหรือไปเรือดี
ถ้าเศษ ๑ ไปบกดี ถ้าเศษ ๒ ไปเรือแต่พอคุ้มตัว ถ้าเศษ ๓
ไปบกมีลาภสองประการ แต่ไม่มีลาภต่อหน้า แล
ถ้าถามว่าไปรบโจรจะแพ้หรือชนะ
ถ้าเศษ ๑ ว่าเราชนะ ถ้าเศษ ๒ แรงเท่ากัน ถ้าเศษ ๓ โจรแรงกว่าเรา แล
ตำราพิชัยสงคราม
เป็นตำราพิชัยสงคราม แบบยุทธอาภรณ์
ตามตำนานเล่าสืบกันมาว่า ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าปเสนทิโกศล ทำสงครามกับพระเจ้าอชาติศัตรู อำมาตย์ของพระเจ้าปเสนทิโกศล
ได้ฟังการสนทนาของพระติสสภิกษุ กับบรรดาพระเถระทั้งหลาย
ในเรื่องนี้ จึงได้นำความไปกราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศล
พระองค์จึงได้ตั้งเป็นตำราตั้งแต่นั้นมา ว่าดังนี้
สิทธิการิยะ ถ้าจะยาตราพยุหโยค
ท่านให้พิจารณาดูวันดังนี้
ถ้าวัน ๑ ได้ครุฑนาม ให้ประดับอาภรณ์สีแดง
มือถือธนู แล้วเอาน้ำใส่ศีรษะ คอยฟังเสียงปี่และเสียงไก่ขัน
เป็นฤกษ์สกุณสังหาร แล้วให้เร่งเบิกพล
โห่ร้องเอาชัย
ถ้ายาตราวัน ๒ ได้พยัคฆนาม ให้ประดับอาภรณ์ด้วยสีขาว
ถือดาบและเขนเป็นอาวุธ แล้วนอนเสียหน่อยหนึ่ง เอานิมิตรเสียงดุริยดนตรี
เป็นสกุณสังหาร เร่งเบิกพล โห่ร้องเอาชัย แล
ถ้ายาตราวัน ๓ ได้สีหนาม ประดับเครื่องอาภรณ์สีชมพู
ถือดาบเป็นอาวุธ แล้วกินน้ำอ้อยเสียก่อน เอานิมิตรเสียงสุนัขเห่าหอน
เป็นสกุณสังหาร เร่งเบิกพลยาตราทัพ โห่ร้องเอาชัย แล
ถ้ายาตราวัน ๔ ได้สุนัขนาม กินอาหารเสียก่อนแล้วประดับอาภรณ์สีเขียวใบตองอ่อน
มือถือดาบ คอยนิมิตรเสียงแตรสังข์ เป็นสกุณสังหาร เร่งเบิกพล
โห่ร้องเอาชัย และ
ถ้ายาตราวัน ๕ ได้มุสิกนาม ให้กลั้นใจเอานิ้วกลางกับนิ้วหัวแม่มือ
หยิบเอาเถ้ากลางเตาไฟเจิมหน้าเสียก่อน แล้วประดับอาภรณ์สีเมฆสีหมอก
มือถือหอกอันคมกล้า เมื่อได้เห็นคิชฌปักษี และนกหมู่ใหญ่บินมา
ให้ถือเป็นสกุณสังหาร เร่งเบิกพลโห่ร้องเอาชัย แล
ถ้ายาตราวัน ๖ ได้อัชชนาม ให้ทาเครื่องหอมเสียก่อน
แล้วประดับอาภรณ์เลื่อมประภัสสร ถือธนูเป็นอาวุธ คอยนิมิตรเสียงดนตรีขับร้องเป็นสกุณสังหาร
เร่งเบิกพลโห่ร้องเอาชัย แล
ถ้ายาตราวัน ๗ ได้นาคนาม ประดับอาภรณ์สีดำ
ถืออาวุธต่าง ๆ แล้วให้ทำอาการขึ้งโกรธ คอยดูกา และนกดุเหว่า
เป็นสกุณสังหาร เร่งเบิกพลให้โห่ร้องเอาชัย
วัน ๑ ยามจันทร์ กาละไท ตกทิศอุดร ให้ยกเข้าตีข้าศึก
ได้เมื่อมโหสถชนะท้าวจุลนี แล
วัน ๑ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศอาคเณย์ ให้เขาเป็นฝ่ายรุก
เราเป็นฝ่ายรับ ได้เมื่อมโหสถชนะแก่อาจารย์เถวัฏ แล
วัน ๑ ยาม ๓ กาละไท ตกทิศอิสาน
ยามนี้เร่งให้ยกเข้าต่อตีข้าศึก ได้เมื่อพระยาโปริสาท
จับพระยาสุดโสมได้ ดีนัก แล
วัน ๒ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศหรดี
ให้ข้าศึกยกมาตีเราก่อนจึงจะตีมีชัย ได้เมื่อพญาราชสีห์จับคชสาร แล
วัน ๒ ยาม ๖ กาละไท ตกทิศอิสาน ให้เร่งรุกรบจะมีชัย
ได้เมื่อนางนกไส้ เข้าพญาคชสารได้ ดีนัก แล
วัน ๒ ยาม ๔ กาละไท ตกทิศทักษิณ
ให้เร่งยกพลเข้าต่อตีข้าศึก จะมีชัย ได้เมื่อนายพรานโสอุดร ยิงพญาฉัตทันต์
แล
วัน ๓ ยาม ๑ กาละไท ตกทิศทักษิณ ได้เมื่อพระโมคคัลลาน์
ทรมานพญานาคราช ให้เร่งระดมยกเข้าตีเถิด จะมีชัยชนะ แล
วัน ๓ ยาม ๒ กาละไท ตกทิศหรดี
ยามนี้ให้ตั้งมั่นไว้ก่อน อย่าได้ออกรบเลย ถ้าขืนยกออกรบ
จะแพ้แก่ข้าศึก ได้เมื่อพญามารยามาแย่งรัตนบัลลังก์ แล
วัน ๓ ยาม ๖ กาละไท ตกทิศอุดร ให้เร่งรบเถิด
จะมีชัยชนะแล ได้เมื่อพระพุทธเจ้า ชนะพญามาร แล
วัน ๔ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศประจิม ให้เร่งรบ จะมีชัยชนะ
ได้เมื่อนกหัสดินทร จับคชสารไปกิน แล
วัน ๔ ยาม ๕ กาละไท ตกทิศอิสาน ให้เร่งออกรบ
จะมีชัยชนะ ได้เมื่อพญาทรพีฆ่าพ่อ
วัน ๔ ยาม ๓ กาละไท ตกทิศทักษิณ อย่าออกรบ
จะเสียแม่ทัพ และนายทหารได้เมื่อทรพาตาย แล
วัน ๕ ยาม ๑ กาละไท ตกทิศบูรพา ให้เร่งรบจะมีชัย
ได้เมื่อพระอินทร์มีชัยชนะแก่ท้าวอสูร แล
วัน ๕ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศประจิม อย่ายกไป
ได้เมื่อนางอัศวมุขีจับเอาพราหมณ์ไปได้ แล
วัน ๕ ยาม ๕ กาละไท ตกทิศอิสาน ยามนี้ให้เร่งรบเถิด
ถ้าจะถอยทัพก็ดี แลได้เมื่อสองพ่อลูกหนีนางอัศวมุขีไปได้ แล
วัน ๖ ยาม ๔ กาละไท ตกทิศอิสาน ให้เร่งรบเถิด
ถ้าถอยทัพก็ดี แล
วัน ๖ ยาม ๒ กาละไท ตกทิศทักษิณ ดีร้ายเท่ากัน
พิเคราะห์ดูให้แน่ ถ้าเห็นดีจึงจะให้ยกเข้าตี ถ้าเห็นร้าย
อย่ายกไปเลย ได้เมื่อวิชาธรได้นาง แล
วัน ๖ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศพายัพ ได้เมื่อท้าววิเทหราช
ได้นางปัญจาลจันที ยามนี้ให้ยกไปตั้งมั่นรอไว้ก่อน
ถ้าข้าศึกยกมาก็แพ้เรา แล
วัน ๗ ยาม ๔ กาละไท ตกทิศบูรพา
ได้เมื่อพญาฉัตรทันต์ตาย อย่าออกรบเลย
วัน ๗ ยาม ๗ กาละไท ตกทิศอุดร
ได้เมื่อห่าลงเมืองไพศาลี ยามนี้ห้ามมิให้ออกรบ จะเสียรี้พล
และสรรพอาวุธยุทธภัณฑ์ทั้งปวง แล
ตำราทำนายฝันตามคัมภีร์สารัตถสังคหะ
บุคคลย่อมฝันด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ
ฝันเห็นด้วยธาตุโขภะ ประการ ๑ ฝันเห็นด้วยเหตุอนุภูติ ประการ ๑
ฝันเห็นด้วยเทวตูปสังหรณ์ ประการ ๑ ฝันเห็นด้วยเหตุ บุพพนิมิต
ประการ ๑
ฝันเห็นด้วยธาตุโขภะ คือธาตุอันใดอันหนึ่งในกายกำเริบ
ทำให้กายและจิตไม่สบาย ครั้นหลับลงจึงฝันพิกลไปต่าง ๆ
ให้สะดุ้งตกใจ ให้เห็นปรากฏประดุจตกจากภูเขา
ให้เห็นประดุจดังว่าบุคคลจับเอาตัวซัดขว้างไปในอากาศ
ให้เห็นปรากฏประดุจดังว่า พาลมมฤคราชเนื้อแลช้าง
และโจรเป็นต้นไล่คุกคาม ให้สะดุ้งตกใจ
ฝันเห็นด้วยเหตุอนุภูติ คือตนได้เสวยซึ่งอารมย์อันใดอันหนึ่งมาก่อน
จิตนั้นประหวัดไปถึงอารมณ์นั้น จึงให้ฝัน เป็นต้นว่าได้เห็นได้ฟัง
สิ่งใด ๆ ครั้นหลับลงจึงได้ฝันเห็นสิ่งอันนั้น
ฝันเห็นด้วยเหตุเทวตูปสังหรณ์ คือ
เทวดาปรารถนาจะให้ประโยชน์ แลมิให้เป็นประโยชน์
ประมวลมาซึ่งอารมณ์ต่าง ๆ จึงดลใจให้ฝัน
ฝันเห็นด้วยเหตุบุพพนิมิต คืออำนาจแห่งกุศล
อกุศลเข้าดลใจ ให้ฝันเห็นบุพพนิมิต เพื่อจะให้รู้ว่าดีแลร้าย
ดุจหนึ่งพระนางสิริมหามายา ทรงสุบินนิมิตในกาล
เมื่อทรงตั้งพระครรภ์พระราชโอรส
แลพระมหาบุรุษเจ้าทรงพระสุบินในการที่จะได้ตรัสแก่พระโพธิญาณ
และพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบิน ๑๖ ข้อ
เพื่อจักให้รู้จักเหตุอันจักให้ปรากฏไปในอนาคตกาล
ฝันดังนี้เป็นลักษณะบุพพนิมิต
ฝันด้วยเหตุโขภะ และอนุภูตนั้นมิได้จริง
จะทำนายว่าดีร้ายนั้นไม่ได้ และฝันเห็นด้วยเทวตูปสังหรณ์
ก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง บางทีเทวดาปรารถนาเพื่อจะให้เป็นประโยชน์
จึงมาดลใจให้ฝันเช่นนั้นก็มี
บางทีเทวดาโกรธปรารถนาจะให้ฉิบหายด้วยอุบายของตน
จึงดลใจให้ฝันเช่นนั้นก็มี
ฝันเห็นด้วยเหตุบุพพนิมิต นั้นจริงแท้ บุคคลจะฝันนั้น
หลับสนิทก็มิได้ฝัน ตื่นอยู่ก็มิได้ฝัน
และฝันนั้นในกาลเมื่อกปินิทรา คือหลับดังหลับวานร หลับ ๆ ตื่น ๆ
ไม่หลับสนิท จิตนั้นขึ้นจากภวังค์ แล้ว ๆ เล่า ๆ จึงฝัน อนึ่ง
บุคคลฝันในเวลากลางวัน แลปฐมยาม แลมัชฌิมยาม ฝันนั้นมิได้แน่
ถ้าฝันในปัจฉิมยามใกล้รุ่งไปจนถึงเวลาเบิกอรุณ เวลานั้นโอชารสาหาร
ที่ตนบริโภคไว้นั้นซาบซ่านไปในกาย แต่งจิตแลกายให้สบายแล้ว
แลฝันนั้นจริงเที่ยงแท้ ถ้าฝันดีคงจะได้ดี ถ้าฝันร้าย คงจะได้ร้าย
และลักษณะบุคคลที่ฝันดีนั้น คือฝันว่า
ได้พบท้าวมหาพรหม แลพระอินทร์ แลเทพยดา ทำนายว่าเป็นมงคล
เป็นความฝันอันประเสริฐ บุคคลนั้นจะกอร์ปไปด้วยความสุขเป็นอันมาก
ตำราทำนายฝัน
ผิว์ฝันวันอาทิตย์ ได้แก่คนทั้งหลาย
ฝันวันจันทร์ได้แก่วงศ์ญาติ ฝันวันอังคารได้แก่พ่อแม่พี่น้อง
ฝันวันพุธได้แก่บุตรภรรยา ฝันวันพฤหัสบดีได้แก่ครูบาอาจารย์
ฝันวันศุกร์ได้แก่สัตว์เลี้ยง ฝันวันเสาร์ได้แก่ตัวเราเอง
ฝันว่า มูตรคูถนั้นต้องตัว คนเมามัว
หนึ่งพบอสุภเน่าพอง จะได้ลาภเนืองนอง ตำหรับกล่าวสนอง
กำหนดไว้อย่าได้สงกา
ฝันว่านุ่งห่มภูษา จักสุขเกษมปรีดา
ไม่มีใครบุกรุกรานแล
ฝันว่าทอดแหในน่าน หนึ่งตกเบ็ดหาญ หาปลาในท้องนที
จะคิดสิ่งใดก็ดี ห่อนคลาดแคล้วศรีสวัสดิ์สมมนัสปอง แล
ฝันว่านาคเดี่ยวกรกรอง ตัวกล้าอย่าหมอง
ย่อมมีที่คุ้มรักษา แล
ฝันว่าได้แหวน
จักได้บุตรา แลกินกับพี่น้องตน
กินกับพ่อแม่พึงยล จักได้ศุภผล อยู่สุขสมจิตคิดปอง แล
ฝันว่าสวมแหวนทอง
แม้หญิงลำพอง เปลี่ยวเปล่าจักได้สามี ถ้ามีคู่ชมสมศรี
จักได้บุตรีบุตรา อันพึงพอใจ ถ้าชายจะได้ครองหญิง เมียมิ่งพิสมัย
วงพักตร์น่าชม
ฝันว่านุ่งห่มพอสมควร สาวจักนิยม มายามายวนใส่ใจ แล
ฝันว่าตัดตีนสินมือขาดไป จำขื่อคาใส่
ตรากตรำกระทำตรึงตรา ถ้าขุนจักได้เป็นพระยา ฟื้นไพร่ประชา
ก็จักได้ดี แล
ฝันเห็นว่าเต่าจักมี ผู้คนทาสี เมียมิ่งและม้าคชา
อีกทั้งบุตรี บุตรา พรากจากเคหา มาสู่บารมีสมปอง แล
ฝันว่าได้ม้าลำพอง ท่านหมายใจปอง
จะยกตนให้ได้เป็นพระยา แล
ฝันว่าดื่มชลธารา จักได้ทาสา มาเลี้ยงเป็นเมียแห่งตน
แล
ฝันว่าไฟไหม้เรือนร้อนรน เร่งขวนขวายแก้ไข
ที่น้ำไหลริน จักบรรเทามลทิน โทษทุกข์จักผิน กลับให้มีโชคชัย แล
ฝันว่าเหินกลางนภาลัย
จักนึกสิ่งไร สำเร็จ สัมฤทธิ์ผล แล
ฝันว่าลูกอ่อนนอนเต็มเรือน จักได้ข้าคนมาสู่ แต่ล้วนดี
ๆ แล
ฝันว่านุ่งแดง แสงสี เร่งเกรงไพรี ระมัดระวังกาย แล
ฝันว่านุ่งห่มพัสตร์ จะอยู่ปรีดา ไม่มีใครรุกราน แล
ฝันว่าเห็นท้าวมัฆวาน หนึ่งท้าวพรหมมาร
หนึ่งเห็นพระจันทรา เร่งให้ระมัดกายา เกรงภัยพาธา ระมัดตัวจงดี แล
ฝันว่าพระยายมราวี มักมีมิดี จะมีผู้ดีเกลียดชังตน แล
ฝันว่านอนบนพื้นเบื้องบน ตีนหนึ่งตกชล เศียรหนึ่งตกน้ำ
ให้แก้ที่ต้นพฤกษา อันใหญ่โสภานานไปจะได้เมียงาม แล
ฝันว่าได้นางพระยานงราม แม้ว่าใครถาม
ว่าอย่าบอกบรรยาย ให้แก้กลางหาดทราย นัยหนึ่งอุบายว่า
แก้กับต้นไม้ใหญ่ จึงจะดีแล
ฝันว่าสาวพรหมจารี ถือประทีปเทียนศรี
สะอาดเข้ามาเรือนตน จักมียศยิ่งกว่าชน
ท่านจะเลื่อนตนขึ้นให้ถึงพระยา แม้นว่าหญิงโสภา จักได้ภัสดา
อันเสพเนื้อพึงใจแล
ฝันว่าสวดพระพุทธมนต์สิ่งใด
จักเปลื้องปลอดภัย บาปกรรมบ่มาบีทาแล
ฝันว่ากางกรดบังแสงสุริยา และกางร่มจะผาสุก
ประเสริฐโภคี ทำขวัญตัวจงดี ลาภจักพูนมีอนันต์หลากเหลือตาแล
ฝันว่าเข้าในวิหารและกุฎีนานา
นิวาสสาวกสงฆ์ แห่งพระสัมพุทธพงษ์ จักเปลื้องทุกข์ปลง
และว่าจะเรืองเดชาแล
ถ้าฝันเห็นรูปพระปฎิมา
หนึ่งพระจุฬามณีแลองค์พระเจดีย์ อย่าได้เจรจาพาทีกับใครก็กี
จะเรืองอุดมเดชาแล
ถ้าฝันเห็นอาจารย์ทิศา
หนึ่งพรหมจารี แม้นึกสิ่งใด จะได้สมดังนึกแล
ฝันว่าเหาะเลื่อนลอยลม ลินลาสนิยม มาโดยอากาศเวหา
เร่งให้ทำขวัญกายา จักยิ่งยศปรากฎไปทั่วทุกนรชน
แม้ว่าใครมาผจญประจญ จะแพ้ฤทธิรณ ขยาดหวาดเสียกำลังแล
ฝันว่าฟ้าผ่าต้องกายา เร่งให้บูชาน้ำเต้า
แตงกวาจึงจะดี เงินทองจักพูนมี ถอยทุกข์อัปรีย์ อุบัติกำจัดไกลแล
ฝันว่านั่งใต้ร่มไทร จักได้เป็นใหญ่ยิ่งยศ
ปรากฎแก่ตนแล
ฝันว่าเชิญรูปพระทศพล
ไว้ในตำบล ถิ่นฐานนิวาสอาราม ทายว่าจักได้เมียงาม
ลาภจักไหลหลามมาสุ๋สำนักแห่งตนแล
ฝันว่าขึ้นเรือนใหม่พึงยล จักดีแก่ตน
อย่าแหนงระแวงวิญญาณแล
ฝันว่าข้ามพ้นชลธาร หนึ่งได้ไต่สะพาน ลุไปได้ดังจำนง
ผู้นั้นจักมีอานิสงส์ เป็นที่ดำรง ระงับแก่ฝูงประชาชนแล
ฝันว่าเขาฆ่าชีวา จักมีเดชานุภาพในหมู่ไพรินแล
นิมิตพระยาปัตถเวน ๑๖ ข้อ
ปางองค์ชินวงศ์พระจอมไตร อันอาศัยสาวัตถีบุรีสถาน
ภิกษุสงฆ์สองหมื่นเป็นบริวาร พระสำราญอยู่ในเขตพระเชตุพน
กรุงกษัตริย์ปัตถเวนไปทูลถามด้วยข้อความนิมิตคิดฉงน
อภิวาทเบื้องพระบาทยุคล แล้วทูลฝันแต่ต้นไปจนปลาย
สมเด็จพระชินสีห์โมลีโลก
จึงดับโศกกรุงดฃกษัตริย์ให้เสื่อมหาย
แย้มพระโอษฐ์โชติช่อวิเชียรพรายสว่างฉายพระเขี้ยวแก้วแวววาว
สว่างวับจับคันธุกุฎี พระรังษีเป็นเกลียวสีเขียวขาว
อีกนิลแนบแซมหงส์เป็นวงวาว ทั้งแดงขาวสีเบญจรงค์พราย
ข่มขี่ระสุริยงค์ จากโอษฐ์องค์งามละออเป็นช่อฉาย
เผยพุทธบรรหารประทานนาย อันตรายนี้ไม่มีแก่บพิตร
จะได้แก่ศาสนาตถาคต โดยกำหนดสองพันเศษสังเกตกิจ
ราษฎรจะร้อนดังไฟพิษ จะวิปริตทุกอย่างต่าง ๆ เป็น
๑. ฝันว่าโคทั้งที่มีกำลัง
แล่นประดัวมาโดยทิศนิมิตรเห็น จะชนกันแล้วหันห่างกระเด็น
ต่างหลีกลี้หนีเร้นไปหายตัว ทรงภิปรายทายว่าฤดูฝน
เมฆหมอกมนมืดมิดทุกทิศทั่ว ดังจะปลายสายพิรุณขุ่นเขียวมัว
วายุพีดกลัดกลั้วละลายไป จะลำบากยากเย็นแก่ไพร่พล
ด้วยฟ้าฝนไม่ตกมาในไร่ ทั้งต้นข้าวเต้าแตกเหี่ยวแห้งไป
ผลมะม่วงมะปรางจะบางเบา เกิดข้าวยากหมากแพงทุกแหล่งหล้เา
ฝูงประชาแค้นคับจะอับเฉา ด้วยมนตรีโมหาปัญญาเยาว์
ลำเอียงเอาอามิสไม่คิดธรรม์
๒. ฝันว่าไม้รุ่นเจริญผล ดูพิกลเหมือนไม้ในไพรสณฑ์
พระทรงสัตยตรัสทายทำนายฝัน ภายหน้านั้นชายหญิงจะทิ้งเหล่า
จะคบชู้สู่หาสมาคม จะเสพย์สมกันแต่แรกพึ่งรุ่นสาว
กุมารีจะมีบุตรแต่รุ่นราว ไม่ยืนยาวยากเย็นด้วยเข็ญมี
๓. ฝันว่าแม่โคคาวิน วอนขอนมลูกกินน่าบัดสี
ทรงภิปรายทายว่า นิมิตนี้ไปภายหน้าจะมีเป็นแน่นอน
พ่อแม่แก่ชรามาหาบุตร ทั้งที่สุดข้าวปลาและผ้าผ่อน
ต้องมายอมปลอบขอเฝ้าง้องอน มันขอดข้อนสำคัญให้อับอาย
พูดหยาบช้าต่อบิดาชนนี กล่าววาทีให้ช้ำทำฉลาย มิได้มีหิริโอตัปปะ
ละอาย พูดหยาบคายขี่ข่มคารมพาล
๔. ฝันว่าโคใหญ่เคยไถนา ไม่นำพาปล่อยปละจากสถาน
เอาลูกโคเทียมไถเข้าใช้การ ไม่เคยงานเสียรอยย่อยยับไป
เดินดินแตกแยกข้ามคันนาหนี ไม่รู้ในท่วงทีทำนองไถ มีพุทธบรรหารว่า
นานไปนเรศไทท้าวพระยาทุกธานี จะคบคนพาลปัญญาหยาบ
ใจบ้าบาปหนุนคะนองให้ครองที่ นับถือว่าสุจริตความคิดดี
ได้ท่วงทีพวกอุทานก็ลามรวน ถึงได้เป็นเสนาที่ปรึกษาความ
ถ้าวู่วามตามศักดิ์แล้วหักหวนความชอบผิดมิได้คิดเป็นข้อควร
เอาแต่ส่วนสินบลคนเข็ญใจ
๕. ฝันว่ามีม้านั้นสองปาก เห็นหญ้าหยากปากอ้าน้ำลายไหล
บุรุษลองปองป้อนจนอ่อนใจ หยิบหญ้าหย่อนยื่นให้ไม่เว้นวาย
มีพุทธฎีกาพยากรณ์ ผู้ตัดรอนความราษฎรสิ้นทั้งหลาย
ระรวบรวมกันกินทั้งสองฝ่าย จะให้...แนะนำโจทก์จำเลย
กินกันพลางทางข่มด้วยลมลวง เหนี่ยวหน่วงถามถึงแล้วนิ่งเฉย
บ้างอาศัยใช้การจนนานเลยความก็เลยแห้งร้าวอยู่ค้างปี
๖. ฝันว่าสุวรรณณภาชุน์ทอง สุนัขปองขึ้นนั่งน่าบัดสี
เอื้อนพระโอษฐ์โปรดพุทธวาที ว่าพาลาจะได้ที่เสนีย์นาย
จะหยิ่งยศมาสำทับไม่นับปราชญ์ เสพสังวาสคบพาลประมาณหมาย
เหมือนขมิ้นขยำน้ำปูนละลาย ทั้งไพร่นานจะคนองลำพองพาล
๗. ฝันว่ามีผู้พันเชือกหนัง อยู่เคหังเพิงพะในสถาน
ปลายเชือกเสือกห้อยลงย้อยยาน สุนัขนอนใต้ร้านกัดดินไป
ยิ่งฟั่นก็ยิ่งสั้นไปหมดสิ้น หายืดลงถึงดินนั้นไม่ได้
พระโลกุตตมาจารย์บรรหารไว้ว่านานไปจึงจะเห็นขุกเข็ญมี
ชายมาหาลาภสักการที่บ้านเรือน หญิงก็เบือนบากบ่าย จำหน่ายหนี
ทำแสนงอนซ่อนทรัพย์คิดอัปรีย์ ข่มขี่หยาบคายให้ชายกลัว
ทำยอกยักลักทรัพย์ส่งให้ชู้ ตะแคงค่อมขู่ข่มเหงผัว
ชายก็เขลาเมารักสมัครมัว เห็นผัวกลัวก็กลับข่มให้สมใจ
๘. ฝันว่าประชาชนตักน้ำ ช่วยกันปล้ำเทส่งลงตุ่มใหญ่
ตุ่มน้อยร้อยพันเรียงกันไป หามีใครเทใส่แต่สักคน
พระวรญาณโปรดประทานประกาสิต และนิมิตทายเข็ญให้เป็นผล
ว่าภายหลังเสนาเป็นนายพล ราษฎร์จะปล้นทรัพย์ใส่ในตุ่มโต
ยิ่งได้มาจานเจือจนเหลือล้น ยิ่งยากจนยับนักลงอักโข
เฝ้าระวังตั้งท่าแต่พาโล ที่ชื่อโชกลุ้มดังตุ่มน้อย
๙. ฝันว่าเห็นสระปทุมา มีหมู่กุ้งกุมภามัจฉาหอย
วารีรอบขอบใสมิใช่น้อย กลางกลับถอยข้นขุ้นสนุ่นมี
พระทรงญาณบรรหารให้เห็นเหตุ ว่าประเทศที่สุขเกษมศรี
กษัตริย์ทรงสืบวงศ์ประเพณี เป็นบุรีที่ประชุมประชากร
จะแรมร้างว่างราเป็นป่าแขม ทั้งคาแฝกแทรกแซมขึ้นสลอน
ทางชลวิกลกลายเป็นชายดอน ราษฎร์จะร้อนแรมสุขทุกเดือนปี
ด้วยกรรรมแรงแห่งสัตว์วิบัติเป็น ไม่เคยเห็นก็จะเห็นเป็นถ้วนถี่
น้ำที่กลางขุ่นข้นคือมนตรี จะย่ำยีบาฑาประชาชน
จะรุกรานแก่ไพร่ใส่ระดม คิดข่มเอาทรัพย์อยู่สับสน
ในเดือนนอกเดือนใช้อยู่เบื้องบน สุดจะจนที่จะทานด้วยการรุม
การหลงแล้วไม่นานทำการนาย พวกไพร่ราษฎร์พลัดพรายไปส้องสุม
จะกลับลี้หนีหน้าไปป่าชุม ประคองคุมพวกเข็ญได้เย็นใจ
๑๐. ฝันว่าเห็นคนนั่งหุงข้าว
หม้อเดียวซาวหลากล้นพ้นวิสัย บ้างดิบสุกคลุกระคนปนกันไป
บ้างก็เปียกบ้างก็ไหม้ไม่มีดี
พระแย้มโอษฐ์โปรดพุทธฎีกา ว่าเทพาที่รักษาบุรีศรี
พระเสื้อเมืองทรงเมืองเรืองฤทธี ประเพณีพลาดเพลี่ยงไม่เที่ยงทรรศ์
เทวัญอันอารักษ์ศาสนา จะรักษาแต่คนที่อาสัจจ์
ผู้ถือศีลสิกขาศีลลาวัตร มิตรที่รักจะตัดความรัก
ฝูงราษฎร์จะอาพาธเจ็บไข้ เกิดมรณภัยทุกแห่งหน
ประเพณีปีเดือนก็เปื้อนปน ฤดูฝนหนาวร้อนก็ผ่อนไป
๑๑. ฝันว่าอันแก่นจันทน์แดง ราคาแพงล้ำเลิศในต่ำใต้
ชายเขลาเอาพอแรงไม่แจ้งใจ ก็เอาไปแลกนมโคได้ง่ายดาย
ทรงพระพุทธทำนายภิปรายโปรด
ภายหน้าโสดหมู่สงฆ์สิ้นทั้งหลาย จะแนะนำพระธรรมอันเพริดพราย
เที่ยวเร่ขายแลกทรัพย์มาซื้อกิน ไม่อดสูดูร้ายละอายบาป
นิยมหยาบเอื้อมอาจประมาทหมิ่น ก่อกรรมกระทำตนให้มลทิล
เหมือนอย่างกินยาตายไม่หมายเป็น
๑๒. ฝันเห็นน้ำเต้านั้นจมชล ดูพิกลไม่เคยพบประสบเห็น
จะเกิดความยากล้ำเหลือลำเค็ญ สิ่งที่เย็นกลับร้อนทั่วธานี
คือนักปราชญ์ผู้รู้ธรรมจะต่ำต้อย พาลาลอยเฟื่องฟูชูศักดิ์ศรี
ผู้พงศาตระกูลประยูรมี จะลี้ลับเสื่อมสูญประยูรยศ
คนพาลจะราญเริงบรรเทิงหนา เจรจาผิดธรรมไม่กำหนด
ใครปลอกปลิ้นลิ้นลมเป็นคนคด รู้โป้ปดกลอกกลับจึงรับกัน
๑๓. ฝันว่าคีรีน้อยนั้นลอยน้ำ
ประหลาดล้ำหลากใจที่ในฝัน ทรงพระบรรหารให้เห็นพลัน
ภายหน้านั้นผู้มีศักดิ์จะรักพาล จะยกย่องหมู่ชาติอันต่ำช้า
เป็นเสนาผู้ใหญ่ในสถาน ให้ยศศักดิ์สืบสายเป็นนายการ
ได้ท่วงทีพวกพาลสำราญใจ
๑๔. ฝันว่าเห็นกบพบงูร้าย แล้วตามล้วงกินจนสิ้นไส้
พระแย้มโอษฐ์โปรดตามภิปรายไป ภายหน้าไซร้หญิงพาลจะราญชาย
ประมาทหมิ่นลิ้นลมข่มให้กลัว จะใช้ผัวต่างทาสดังมาตรหมาย
ผัวสมานน้ำใจมิให้ระคาย หญิงร้ายยิ่งลามคำรามรณ
๑๕. ฝันว่าพญาเหมราชเข้าปนฝูงปักษาน่าฉงน
น้อมเคารพนบนอบแล้วยอบตน เข้าระคนคบค้าด้วยพาพาล
องค์สมเด็จพระอิสสโรพระโมลี จึงเผยพุทธวาที่มีบรรหาร
ว่าผู้ดีมีตระกูลนั้นจะบรรดาล ว่าคนพาลจะย่ำยีคนปรีชา
สันดานทาสชาติร้ายจะได้ดี จะข่มขี่ผู้มีวงศ์และพงศา
คนปราชญ์จะหลีกตัวกลัววาจา พวกพาลาดีได้ดีไม่มีอาย
๑๖. ฝันว่าเห็นเนื้อสมันนั้น
ไล่เสือพยัคฆ์เบือนหน้าเข้าป่าหาย มีพระพุทธบรรหารประทานทาย
ว่าศานุศิษย์ทั้งหลายจะสู้ครู จะหักหายผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
สำทับถ้อยขี่ข่มคารมสู้ ยกย่องกายหมายประกวดอวดอ้างรู้
จะลบหลู่ขู่ซ้ำด้วยคำพาล สงฆ์ทรงศีลบริสุทธิ์จะทรุดเศร้า
ผู้เป็นเจ้าหลีกจากถิ่นสถาน ซึ่งบพิตรนิมิตสิบหกประการ
ไม่มีเหตุเพทพาลในพระองค์ จะได้แก่โลกทั้งหลายในภายหน้า
จำไว้พิจารณาอย่าลืมหลง จะเสื่อมสูญเมธีกวีวงศ์
และฝูงหงส์พงศ์ประยูรตระกูลพราหมณ์ จะเฟื่องฟูเชยชมนิยมหยาบ
แบกแต่บาปหาบนรกยกขึ้นหาม กองกรรมก็จะนำสนองตาม
จะลงหนังสุนัขถามเมื่อยามตาย พระไตรรัตน์จะวิบัติหม่นมัวหมอง
ไม่ผุดผ่องแผ้วผาดสะอาดฉาย ศักราชคำรบนั้นสองพันปลาย
จะต้องพุทธทำนายไว้แน่เอย
การนับยามตามห้วงเวลาในรอบ ๒๔ ชั่วโมง ของแต่ละวัน
เวลา |
ยาม
|
อาทิตย์ |
จันทร์ |
อาคาร |
พุธ
|
พฤหัสบดี |
ศุกร์ |
เสาร์ |
หมายเหตุ |
๐๖๐๐ - ๐๗๓๐ |
๑
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
ยามกลางวัน |
๐๗๐๐ - ๐๙๐๐ |
๒
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
ยามกลางวัน |
๐๙๐๐ - ๑๐๓๐ |
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
ยามกลางวัน |
๑๐๓๐ - ๑๒๐๐ |
๔
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
ยามกลางวัน |
๑๒๐๐ - ๑๓๓๐ |
๕
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
ยามกลางวัน |
๑๓๓๐ - ๑๕๐๐ |
๖
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
ยามกลางวัน |
๑๕๐๐ - ๑๖๓๐ |
๗
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
ยามกลางวัน |
๑๖๓๐ - ๑๘๐๐ |
๘
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
ยามกลางวัน |
๑๘๐๐ - ๑๙๓๐ |
๑
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
ยามกลางคืน |
๑๙๓๐ - ๒๑๐๐ |
๒
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
ยามกลางคืน |
๒๑๐๐ - ๒๒๓๐ |
๓
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
ยามกลางคืน |
๒๒๓๐ - ๒๔๐๐ |
๔
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
ยามกลางคืน |
๒๔๐๐ - ๐๑๓๐ |
๕
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
ยามกลางคืน |
๐๑๓๐ - ๐๓๐๐ |
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
ยามกลางคืน |
๐๓๐๐ - ๐๔๓๐ |
๗
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
๑
|
๒
|
๓
|
ยามกลางคืน |
๑๔๓๐ - ๐๖๐๐ |
๘
|
๑
|
๒
|
๓
|
๔
|
๕
|
๖
|
๗
|
ยามกลางคืน |
ทายยามตกฟาก
ทายยามตกฟากกลางวัน
คนเกิดวันอาทิตย์
สิทธิการิยะ ผู้ใดเกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้นมิได้อยู่ที่เกิด
พ่อแม่เลี้ยงมิได้ มีผู้ขอไปเลี้ยง จะมีความรู้และมีปัญญามาก
เล่าเรียนสิ่งใดได้สมดังใจทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มีศัตรูเบียดเบียน
มีลูกเลี้ยงยาก ต้องให้ผู้อื่นผูกข้อมือเอาไปเป็นลูกเสียก่อน
จึงจะเลี้ยงได้ เมื่อแรกเกิดมีรกพันคอออกมา มีไฝปาน ความรู้ดี
มีตบะเดชะ จะได้เป็นใหญ่ ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นเมียมนตรี
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๒ ผู้เกิดมานั้น มิได้อยู่ในที่เกิด
และมิได้อยู่กับพ่อแม่ เลี้ยงยากนัก เมื่อเกิดมานั้นข้าวของหาย
พ่อแม่เกิดความ และต้องขื่อคาโซ่ตรวน เพราะเขาใส่ความเอา
เพราะว่าพ่อแม่ทำไม่ดี เมื่อน้อยอาภัพและไร้ญาติ หาที่พึ่งมิได้ แล
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๓ ผู้นั้นจะเป็นโจรลักวัวควาย
มักมีถ้อยความมาก มักพาให้พี่น้องลำบากต้องขื่อคา
มักบังเกิดพยาธิโรค มักเป็นศัตรูแก่พี่น้อง มักเบียดเบียนญาติ
มิเข้ากับพี่กับน้อง พ่อแม่ย่อมขัดใจ ท้าวพระยาทำโทษแก่ตน
แต่ว่าจะได้เป็นนายงาน จะได้ยากเพราะบ่าว
จะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย แล
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้นขี้ขลาดตาเหลือง
มักเป็นนักเลง พ่อแม่ว่ามิเอาถ้อยคำ มักคบเพื่อนเป็นโจร
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้นรู้หลักนักปราชญ์
และมีปัญญามาก จะเป็นครูแก่ท่าน แม้อาศัยอยู่สถานที่ใด ๆ ก็ดี
จะได้เป็นใหญ่ในที่นั้น เมื่อเกิดรกพันคอออกมา
ผู้นั้นมีอัชฌาสัยมาก มิรู้ยากเลย ผู้นั้นมีไฝในร่มผ้าข้างขวา
แลมีปาน จะได้ดี มีมิตรสหาย มิซื่อตรงต่อแต่ใจใหญ่ ขุนนางมักรัก มียศฐาบรรดาศักดิ์มาก
มีคนรักมาก มีมิตรสหายมาก แล
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๖ ผู้นั้นจะมีมิตรสหายมาก เมื่ออายุ
๖ ขวบ ตกน้ำทีหนึ่ง ถ้ามิดังนั้นจะตกต้นไม้ ผู้นั้นมีปัญญามาก
เมื่อเกิดมามีผู้เอาเงินและทองมาผูกข้อมือ จะได้ลาภพัสดุต่าง ๆ
เมื่อแรกเกิดนั้นมีเหตุทุ่มเถียงกัน
ครั้นเกิดมาแล้วคนเอาข้าวของมาเยี่ยมเยียนให้
และของอันไม่เคยมีก็ได้มา เมื่อได้สามขวบ จากที่อยู่ครั้งหนึ่ง
ครั้นแล้วก็คืนมาอยู่ที่เก่าอีกแล
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้นพี่น้องเลี้ยงมิได้
เมื่อเกิดมานั้นรกพันคอออกมา และไต่คลานออกมา ผู้นั้นใจแข็ง
พ่อแม่เลี้ยงมิได้ ชอบให้ผู้อื่นเลี้ยง เมื่อเกิดพ่อมิได้อยู่
เกิดแล้วได้เจ็ดวันพ่อแม่หย่ากัน
ผู้เกิดมานั้นทำให้พ่อแม่อาภัพเกิดภัยต่าง ๆ
ในเดือนที่เกิดนั้นเรือนหัก หลังคาไฟไหม้ แม่นั้นตกใจแทบตาย แล
ถ้าเกิดวันอาทิตย์
ได้ยาม ๑ (ใกล้ค่ำ) ผู้เกิดมานั้น
มิได้อยู่ที่เกิดๆ นั้นสูญแล้ว พ่อแม่จะเลี้ยงมิได้
มีผู้ขอเอาไปเลี้ยง จะมีความรู้หลักแหลม มีปัญญารู้การช่างทุกอย่าง
แต่ว่ามีทุกข์มาก ศัตรูมักจะเบียดเบียน
มีลูกถ้าจะเลี้ยงให้ท่านผู้อื่นผูกข้อมือเอาเป็นลูกก่อน
เมื่อเกิดรกพันคอออกมา อนึ่งมีไฝปาน ประกอบด้วยความรู้ มีตบะเดชะ
จะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย แล
คนเกิดวันจันทร์
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้นจะตายแต่น้อย
หรือมิฉะนั้นจะเลี้ยงยาก ต้องให้ท่านผู้อื่นเอาไปเลี้ยงจึงจะดี
แต่ว่าอาภัพเป็นคนทุรพาล หาข้าวของเงินทอง
และอาหารเลี้ยงตัวเป็นอันยากนัก และท่านไม่สมาคมด้วย
พ่อแม่พี่น้องว่าไม่เชื่อ เป็นคนทรลักษณ์อัปรี ใจกล้าหน้าแข็ง
เป็นคนสั่งสอนมิเอาถ้อยคำ ปู่ ย่า ตา ยาย เชื่อแต่ใจตัวเอง
แต่ว่าเจรจาดี มีปัญญา นานไปจะได้ความรู้ ๖ ประการ ครองตัวได้ แล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๒ ผู้นั้นเกิดมารหกระเหิน
จะได้รับความลำบากแต่น้อย ๆ ไป ครั้นใหญ่มาหากินจึงจะดี
จะไปได้ดีที่อื่น จึงค่อยมีสมบัติบริบูรณ์ ตัวนั้นมีลักษณะในฝ่าตีน
เมื่อแก่ว่ามีความรู้อยู่แก่ตัว จะได้ปกครองน้อง
ญาติทั้งหลายจะได้พึ่ง แต่ว่าใจเร็วรับปากแล้วพลันหาย
รู้ถ้อยความเป็นที่ชอบใจแก่ขุนนาง คนทั้งหลายมักยกย่องให้เป็นใหญ่
คนจะชมแต่อาภัพทำคุณแก่ท่านมิทำตอบ แล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๓ ผู้เกิดมานั้นอาภัพ
จะมีผู้ให้ตายแต่น้อย มีผู้เพียรจะใส่ยาเมาให้กิน และไฟจะไหม้
ศัตรูจะทำร้าย อายุได้เจ็ดขวบท่านขอไปเลี้ยง แล้วจากกัน
จะมาอยู่ที่เกิดตนอีก จะได้ส่งสินผู้เลี้ยงนั้น
จะได้ดีเมื่อภายหลังแล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๔ ผู้เกิดมานั้นพ่อแม่ตายแต่น้อย
เป็นกำพร้า แต่จะมีบุญ และรู้หลักนักปราชญ์
จะได้ทรัพย์ของผู้เฒ่าผู้แก่ จะได้พึงทรัพย์ของท่านมาก
จะมีข้าหญิงชาย วัวควาย พี้น้องจะได้พึ่ง แต่ว่ามีศัตรูมาก
เมื่อเกิดรกพันคอออกมา ถ้ามิฉะนั้นออกมาจะตายด้าน จะตายแต่น้อย แล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๕
ผู้ที่เกิดมานั้นท่านผู้อื่นมาผูกข้อมือเอาแต่อยู่ในท้อง
ครั้นเกิดมาแล้วท่านจะเอาไปเป็นลูก จะได้ทรัพย์สมบัติมาก
มีช้างม้าข้าคน ขุนนางจะให้รางวัลผ้าผ่อน พ่อแม่จะได้พึ่ง
มีลักษณะอันดี และท่านผู้นั้นเทพนิมนต์มาเกิด
จะมีทรัพย์อันประเสริฐ และมีมรรยาทดี มิได้อดอาหาร แล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้นเป็นไข้ปางตาย
ถ้ามิเป็นดังนี้ไซร้ ว่ามีผู้อื่นตายต่างในเรือนนั้น คือพี่น้อง
เพราะเขาทำกรรมไว้แต่ปางก่อน และตาย เพราะผู้นั้นชาตาแข็ง
พ่อแม่เลี้ยงมิได้ แต่ว่ามีความสำคัญอยู่ในตัว ผู้นั้นจะมีความรู้
แล
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้นได้ความลำบากยากนัก
เมื่อเกิดมาเขาเอาไปทิ้งเสีย และพ่อแม่อาภัพอับลาภ
ผู้ที่เกิดมานั้นเป็นคนอาภัพแต่เมื่อน้อย ครั้นโตใหญ่มาจึงจะได้ดี
เพราะได้ของผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้อื่นเอาไปเลี้ยงไว้จึงมีทรัพย์ข้าวของ
จะได้ดีเมื่อภายหลังแต่มีศัตรูมากมาก และท่านจะเอาโทษ
เมื่อเกิดมารกพันคอ หาไม่ไต่คลานออกมา และมีแผลข้างซ้ายอันดี
พ่อแม่เลี้ยงเห็นจะตาย ให้ท่านผู้อื่นไปเลี้ยงเห็นจะดี แล
ถ้าเกิดวันจันทร์ได้ยาม
๒ (ใกล้ค่ำ) ผู้เกิดมานั้น
จะได้ทรัพย์ข้างของแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ จะได้แทนที่ผู้เฒ่าผู้แก่
จึงจะอยู่ด้วยพ่อแม่ไม่ได้
ผู้ที่เกิดวันอังคาร
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๑ ผู้เกิดมานั้น จะมีข้าทาส ช้าง
ม้า วัว ควาย ทรัพย์สินข้าวของเงินทอง พี้น้องจะได้พึ่ง
และจะได้ดีกว่าพี่น้องทั้งหลาย จะมีความรู้มาก รู้การทุกอย่าง
และจะได้เป็นใหญ่กว่าพี่น้องทั้งหลาย ชาตาผู้นั้นมิรู้ยาก
และมิรู้ขาดอาหารเลย แล
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๒ ผู้เกิดมานั้นใจแข็ง
จะทำร้ายพ่อแม่ หาถ้อยความให้พ่อแม่ ผู้นั้นกินเหล้าเล่นเบี้ย
พ่อแม่สั่งสอนมิเอาถ้อยความ เป็นนักเลงเล่นเบี้ยเล่นไก่
และมิได้อยู่ด้วยพ่อแม่ มักมากชู้หลายเมีย
และเป็นคนหน้าด้านไม่มีอาย เป็นคนมักถือตัวว่ารู้แต่ผู้เดียว
ครั้นมีคนขัดคอ มักตอบเถียง ตามใจตัวเอง แล
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๓ ผู้เกิดมานั้นฉลาดแต่ขี้ขลาด
ตาสูง น่าชังมาก ดีแต่ว่าร้องไห้หายเร็ว และมีความโอบอุ้ม
พี่น้องทั้งหลายจะได้พึ่ง แต่ว่าญาติข้างพ่อมิเอาใจใส่
แต่ว่ามักคิดให้ เมื่อปางจะได้จะมีนั้นมีความคิดดี มิตกยาก
มียศศักดิ์ จะมีทรัพย์และมีคนรักใคร่มาก แล
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๔ ผู้เกิดมานั้น พ่อแม่เดือดร้อนใจ
และชักแช่งเกิดถ้อยความ จากไปที่ไกลแล้วจึงคืนมา
ต่อไปภายหน้าจึงจะดี เมื่อเกิดมานั้นอาภัพกว่าคนทั้งหลาย แล
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๕ ผู้เกิดมานั้นพ่อตายแต่น้อย
เป็นกำพร้าพ่อ และมีผู้เอาไปเลี้ยง ใจแข็งกว่าคนทั้งหลาย
มักกินเหล้าเมามาย จะทำลายแก่พ่อแม่ คนอื่นสอนมิเอาคำ เป็นนักเลง
ตั้งแต่ออกมาแล้วแหวนหาย ถ้าเป็นข้าชอบทำการอาสา
ท้าวพระยาจะให้ความชอบใส่ตัว ไปเบื้องหน้าจะมียศฐาบรรดาศักดิ์
ปรารถนาสิ่งใดจะได้ดังใจ แล
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๖ ผู้เกิดมานั้นดี จะมีทรัพย์
ข้างของเงินทองและข้าคนมาก ทั้งใจก็ดี แต่ว่าเป็นทุกข์
เพราะพ่อจะเบียนลูกเอง และมิได้อยู่ด้วยพ่อ
นานไปเมื่อหน้าจะเป็นศัตรูกัน ไปเมื่อหน้าจะได้ดี
แต่ว่าปากนั้นประดุจหอกดาบ จะมีฤทธิ์อานุภาพ และจะสมบูรณ์
ไปเมื่อหน้าจะเจ็บ ทำคุณท่าน ท่านรู้คุณแต่น้อย
ผู้ที่เกิดวันอังคารได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้นย่อมผลาญทรัพย์
พ่อแม่ให้ฉิบหาย พ่อแม่สอนมิได้เอาถ้อยคำ
เป็นนักเลงเล่นเบี้ยเล่นการพนัน ครั้นมีคนว่าทำเป็นร้องไห้
ว่าดีเป็นร้ายว่าร้ายเป็นดี พ่อแม่เลี้ยงมิได้
เพราะชาตาผู้นั้นแข็ง พ่อแม่มิสบอารมณ์ บังเกิดมิสมควรด้วยพ่อแม่
เมื่อเกิดผู้นั้นรกพันคอออกมา ถ้ามิดังนั้นตายด้านออกมา
แต่น้อยพ่อแม่มักมีเหตุการณ์ต่าง ๆ แล
ถ้าเกิดวันอังคารได้ยาม
๓ (ใกล้ค่ำ) ผู้เกิดมานั้น
มีความกล้าหาญกว่าคนทั้งหลาย จะมีบริวารเป็นอันมาก จะมีข้าทาส
วัวควาย ช้างม้า ผ้าผ่อน และแก้วแหวนเงินทอง
และจะได้ทรัพย์ผู้เฒ่าผู้แก่ ปู่ย่า ตายาย
และจะได้เป็นใหญ่กว่าพี่น้อง และญาติมิตรทั้งหลาย
ผู้นั้นมีรกพันคอออกมา และมีลักษณะข้างซ้าย มีคงกะพันมาแต่ในท้อง
แต่ว่าจะดีด้วยพ่อ แต่ว่าพ่อนั้นมิได้อยู่ด้วยแล
คนเกิดวันพุธ
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๑ ผู้เกิดมานั้น
จะตายแต่น้อยทีหนึ่ง ถ้ามิตาย เป็นหญิงจะได้เป็นอัครมเหสี
ถ้าเป็นชายจะได้เป็นมนตรีผู้ใหญ่ จะมีทรัพย์สมบัติมากมาย มีช้าง
ม้า วัว ควาย ยวดยานคานหาม เป็นช่างได้ทุกอย่าง มิได้ลำบาก มีไฝ
ประกอบด้วยความรู้ ผู้นั้นมิได้ยากจน เป็นผู้มีความรู้นัก แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๒ ผู้เกิดมานั้นจะได้บริวารมากมาย
มีช้าง ม้า วัว ควาย ยวดยานคานหาม
และทรัพย์สินข้าวของเงินเป็นอันมาก จะเป็นผู้มีความรู้ และรู้หลัก
รู้ธรรมดี และย่อมจะได้ดังปรารถนา แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๓ ผู้เกิดมานั้นพ่อแม่ตายแต่น้อย
มิฉะนั้นพ่อแม่จะจากกัน ที่เกิดอยู่ใกล้ป่า และป่าช้า จะมีภัยต่าง
ๆ และจะได้รับความลำบากแต่น้อย ครั้นใหญ่มาจึงจะได้ดีเมื่อหน้า แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๔ ผู้เกิดมานั้นรู้ศิลปะ ธรรมะ
จะได้เป็นครูแก่ท่านทั้งหลาย ท่านจะให้เป็นครูสั่งสอนแก่ท่าน
และท่านผู้นั้นเทพยดานิมนต์มาเกิด เป็นผู้มีความรู้มาก
และเป็นช่างทุกประการ เป็นผู้ที่รู้ถ้อยความดีนัก
พ่อแม่พี้น้องจะได้พึ่ง เมื่อเกิดมานั้น มีคนผูกข้อมือเอาเป็นลูก
ผูกด้วยเงินทองผ้าผ่อนมากมาย แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๕ ผู้เกิดมานั้นจะทรลักษณ์ข้างซ้าย
และมิได้อยู่กับพ่อแม่ ชาตาแข็ง พ่อแม่เลี้ยงมิโต
พ่อแม่เลี้ยงมิได้ ถ้าเลี้ยงพ่อแม่จะย่อยยับอัปรา
และพ่อแม่จะจากกัน จะเกิดถ้อยความ และไฟจะไหม้บ้านไหม้เรือน
โจรจะลักของ และตกยาก ครั้นเมื่อใหญ่จะได้ดี เมื่อแก่ มิถอย ผมสูง
และตาเติบหรือตาตีบ พุงพลุ้ย เนื้อน้อย จะมีผู้คอยปองร้าย แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๖ ผู้เกิดมานั้น มีผู้เอาไปเลี้ยง
จะได้ทรัพย์สินเงินทอง แก้วแหวน ช้าง ม้า ข้าคนมาก
จะได้เครื่องบูชา และจะมีคนเอาของมาให้จากต่างเมือง
เมื่อผู้นั้นเกิดมา มีรูปโฉมโนมพรรณอันดี ทั้งกิริยามารยาทก็ดี
รู้หลักทุกประการ เป็นช่างทุกอย่าง ผู้นั้นมิรู้ขาดอาหารเลย แล
ผู้ที่เกิดวันพุธได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้น ชาตาแข็ง
พ่อแม่จะจากกัน มิดังนั้นก็จะหย่าร้างกัน จะตายแต่น้อย ถ้ามิตาย
จะจากกัน จะเป็นความใหญ่ และท่านจะจองจำใส่ขื่อคาโซ่ตรวนผูกมัด
และพ่อแม่จะเป็นทุกข์หนักแล เมื่อเกิดมานั้นรกพันคอออกมา
และมีไฝปานข้างซ้าย ผู้นั้นใจแข็งกว่าคนทั้งปวง แล
ถ้าเกิดวันพุธได้ยาม
๔ (ใกล้ค่ำ) ผู้เกิดมานั้น
จะทำให้พ่อแม่เสียทรัพย์ข้าวของเงินทอง พ่อแม่จวนจะตายทีหนึ่ง
และผู้ที่เกิดมานั้น จวนจะตายทีหนึ่งแต่เมื่อน้อย
แต่ว่าจะมีบุญเมื่อแก่ รู้ธรรม และจะเป็นครูแก่ท่านทั้งหลาย
คนทั้งหลายจะได้พึ่งต่อไปภายภาคหน้าแล
คนเกิดวันพฤหัสบดี
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๑ ผู้เกิดมานั้น จะมีตบะเดชะ
รู้ความทุกประการ ถ้าจะทำการสิ่งใด ย่อมต้องใจคนทุกเมื่อ
ถ้าเป็นหญิง จะได้เป็นคุณจอมคุณท้าว ถ้าเป็นชายจะได้เป็นขุนหลวง
ถ้ามิดังนั้นจะเป็นมหาเศรษฐี พี่น้องทั้งหลายจะได้พึ่ง
จะได้เป็นเจ้านายแก่ท่าน ผู้นั้นจะเป็นผู้มั่นคง
ท่านผู้นั้นจะมิได้รู้ถอยทรัพย์สมบัติเลย แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๒ ผู้เกิดมานั้น จะพบแต่ความลำบาก
ท่านว่าจะพลัดพรากจากที่อยู่อาศัยสักสองหน
แล้วจึงกลับคืนมาอยู่ที่เก่านั้นเล่า จะมีทรัพย์น้อยเบาบาง
และอาหารก็น้อย อาภัพแต่เป็นคนกินง่าย นอนยาก ขี้คร้าน จะทำการใด ๆ
ก็มิค่อยจะทำ ต้องให้ท่านจิกหัวใช้อยู่เรื่อย ๆ ขี้คร้านมากมาย
ครั้นปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ พี่น้องว่า ก็โกรธ ก็ยังมีอยู่มีกิน
ตามใจตัวเอง และเป็นคนที่คบไม่ได้ เพราะคิดนอกใจ แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๓ ผู้เกิดมานั้น
จะได้ปกครองแทนพ่อแม่ เป็นใหญ่แทนที่ขุนหลวง มีวัวควาย
จะได้เป็นเศรษฐี และมีปัญญามาก จะมีข้าวของเงินทอง ช้างม้า ข้าทาส
จะได้ทรัพย์ผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งปวง ชาตาของบุคคลนั้นดีมาก จะมิรู้ถอย
แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๔
ผู้เกิดมานั้นมิได้อยู่ในที่ที่เขาเกิด
ะต้องจากไปในประเทศเขตแดนเมืองอื่น จะมีทรัพย์น้อย แต่ใจแกล้วกล้า
ผู้อื่นสั่งสอนมิเอาถ้อยคำ ถือรั้นไปแต่คนเดียวตามลำพังใจตนเอง
เป็นคนประพฤติมิดี มักเป็นชู้กับเมียเขาอื่น ตามใจตัวเองมาก
จึงทำให้เสียคน เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เมื่อทำไปแล้วจึงรู้สึก
เมื่อแก่ตัวจึงจะเห็นโทษ แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๕ ผู้เกิดมานั้น อยู่ในตระกูลอันดี
จะได้เป็นใหญ่ และรู้ธรรมทั้งหลาย เมื่อเกิดจะเป็นครูแก่ท่าน
เมื่อเกิดย่อมมียศ มีรถพันคอ ถ้าผู้หญิงดี ๆ
ก็เกือบจะได้เป็นพระราชินีรูปงาม กิริยามารยาทดี มีพงษ์พันธุ์
มีไฝปานข้างขวา มีเงินทอง ช้างม้า วัวควาย
ข้าคนจะได้ขี่ยวดยานคานหามบริบูรณ์ และจะมิรู้ขาดอาหาร แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๖ ผู้เกิดมานั้น จะมีชาตาดี
แต่ว่ามิได้อยู่ด้วยบิดามารดา จะต้องไปต่างเมือง
ศัตรูหมู่ปัจจามิตรมักเบียดเบียน แต่ถ้าผู้ใดมาเบียดเบียน
ผู้นั้นจะฉิบหายวายวอดไปเองแล แต่ว่าต่อไป
เมื่อจากไปอยู่เมืองไกลแล้ว ต่อไปในภายหน้า
จึงจะกลับคืนมาสู่ที่อยู่เดิมได้ และจะได้ครอบครองที่นั้น
ผู้นั้นมีรูปโฉมโนมพรรณงามดี แล
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้นใจคอห้าวหาญ
ชอบการรบพุ่งกัน มากไปด้วยศัตรู จะเกิดถ้อยความตามตำรา
จะเสียทรัพย์เสียสมบัติข้าวของ เป็นคนอาภัพ ทรัพย์ก็น้อย
ครั้นเมื่อใหญ่จึงจะดี กล้าหาญชาญชัยกว่าคนทั้งหลาย และจะมีตบะเดชะ
จะค่อยสมบูรณ์ไปเมื่อภายหน้า เมื่อหน้าพี่น้องญาติกาจะได้พึ่ง
มีความรู้หลักแหลมมากนัก จะมีสติปัญญาดี มีไหวพริบดี มีสติปัญญา
ถ้าเกิดวันพฤหัสบดีได้ยาม
๕ (ใกล้ค่ำ) ผู้เกิดมานั้น
จะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู เป็นที่พึ่งพาแก่คนทั้งหลาย
และเป็นผู้รู้หลักลักษณะทุกประการ และกล้าหาญ มีข้าวของ เงินทอง
ช้างม้า วัวควาย ข้าทาสบริวารมากนักหนา เป็นที่ประชุมของคนทั้งหลาย
พี่น้องจะได้พึ่ง เมื่อน้อยมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง ถ้ามิยอมให้กับท่าน
เติบใหญ่จะได้เป็นที่ขุนนางขุนหลวง และจะมียศถาบรรดาศักดิ์
คนทั้งหลายเกรงกลัวอำนาจแล
คนเกิดวันศุกร์
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีผู้นำเอาแก้วแหวนเงินทองมาให้ จะอุดมไปด้วยลาภสักการอย่างดี ๆ
จะมีสุขบริบูรณ์ มิรู้ตกยากเลย อนึ่ง ต่อไปภายหน้า
พ่อแม่จะเป็นทุกข์หนัก จะมีขุนนางเอาไปเลี้ยงไว้
พ่อแม่ก็จะได้พึ่งท่านผู้นั้นแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะพลัดพรากจากที่อยู่ที่กิน จะตกยากลำบากนัก ครั้นเมื่อเติบใหญ่
พ่อแม่จะเสียน้ำตา แต่ว่าผู้ใหญ่จะให้คุณ ต่อไปภายหน้าจะได้ดี
จะมีข้าทาสช่วงใช้ จะมีคนคอยช่วยเหลือทั้งเงินข้าวของพัสดุต่าง ๆ
แล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น
ต้องจากที่เกิดไปต่างเมืองไกลจึงจะดี จะมีคนช่วยทุกข์
และคิดอะไรจะได้ดังใจปรารถนาทุกประการ ผู้ที่เกิดมานั้นจะได้พึ่ง
และต่อไปจะได้ดี จะทำการสิ่งใด ๆ ก็ดี ย่อมสำเร็จไปด้วยความคิด
และทุกสิ่งทุกอย่างจะสมประสงค์ได้ด้วยความรู้ของตน
แต่ว่าเป็นคนอาภัพนักแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีแก้วแหวนเงินทอง ช้างม้า ข้าคน จะมีคนนำเอามาให้จากเมืองไกล
และจะได้ทรัพย์สินมรดกจากญาติผู้ใหญ่เป็นอันมากแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะได้รับความยากลำบาก เพราะมีโรคเบียดเบียนบีฑาแต่เมื่อน้อย
แต่ว่ามีคนคอยช่วยเหลือ เมื่อน้อยมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง
ต่อไปภายหน้าจะมีเงินทองข้าวของ
จะได้เป็นขุนนางท้าวพระยาแทนที่ผู้เฒ่าผู้แก่
จะมีความสุขบริบูรณ์กว่าคนทั้งหลายแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
เกิดมาในพงษ์พันธุ์ที่มีชื่อเสียง มีความสุขสบายกว่าคนทั้งหลาย
จะมีทรัพย์สินเงินทอง ข้าทาสชายหญิงเป็นอันมาก จะได้ขึ้นคานหาม
ราชยาน เป็นคนมีความรู้ดีและมีรูปงาม มิรู้เป็นถ้อยเป็นความ
เป็นที่พึ่งแก่ญาติพี่น้อง จะกินที่ขุนนางท้าวพระยาแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะทำให้พ่อแม่เดือดร้อน จะจากที่อยู่อาศัย จะเอาป่าเป็นบ้าน
แต่ต่อภายหน้าจึงจะดี จะสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทองมิรู้ถอยเลยแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๖ (ใกล้รุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
เมื่อแรกเกิดมีอาการตกใจ และจะตกน้ำทีหนึ่ง หรือมิฉะนั้นจะตกต้นไม้
หรือจะตกจากบ้าน แต่ทว่ามีบุญ ถ้าเป็นหญิง จะได้เป็นคุณจอม
ถ้าเป็นชาย จะได้เป็นขุนนางท้าวพระยาผู้ใหญ่ จะมีช้าง ม้า วัว ควาย
เป็นอันมากแล
คนเกิดวันเสาร์
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๑ ผู้เกิดมานั้นจะตายแต่น้อย
ถ้ามิตายไซร้ จะมีอายุยืน พี่น้องมิได้อยู่ด้วยกัน พ่อแม่ตาย
เมื่อเกิดมานั้น พ่อแม่ต้องถ้อยความ เกิดอุบาทว์หนูกัดผ้า แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๒ ผู้เกิดมานั้น จะจากที่อยู่ที่กิน
ต้องถ้อยความ เสียเงินเสียทอง ต้องขื่อคา และมักเป็นทุกข์
เดือดเนื้อร้อนใจ ครั้นใหญ่มาจึงจะดี เมื่อภายแก่จะได้เป็นดี
แม่นั้นเป็นทุกข์ด้วยพ่อ พ่อนั้นทำวนด้วยหน่อยหนึ่ง
เมื่อเกิดมามีเหตุอุบาทว์ในเรือน เป็นเหตุมาแต่นั้น
พ่อแม่ทุ่มเถียงกัน จะจากกันเพราะเหตุนั้น ผู้นั้นเลี้ยงยาก
และจะมีไข้เจ็บนัก แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๓ ผู้เกิดมานั้น มีคนรักทุกแห่งหน
แม่นั้นพอประมาณ แต่พ่อนั้นดี เกิดมาใจแข็ง และมิเคยอยู่ด้วยแม่
แม่นั้นอยู่ด้วยมิได้ มิสมาคมด้วยพี่น้องญาติกาทั้งหลาย
ว่าไปเมื่อหน้ามิมีประโยชน์ ครั้นใหญ่มามิได้อยู่ด้วยแม่
เพราะเหตุว่าอาภัพแม่กว่าคนทั้งหลาย แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๔ ผู้เกิดมานั้น พ่อแม่แช่งชัก
พ่อแม่ได้รับความเดือดร้อนใจ จะจากที่อยู่ที่กิน
และจะต้องเสียเพราะความ เสียเงินเสียทอง พ่อแม่จะตีด่ากัน
เมื่อน้อยเป็นคนทุรพาลกว่าคนทั้งหลาย ครั้นใหญ่มาจึงค่อยยังชั่ว
พ่อแม่จะอัปลักษณ์ แต่มิเป็นไร แม่นั้นเป็นทุกข์ด้วยพอ
อนึ่งเมื่อเกิดมานั้น ว่าเกิดอุบาทว์ในเรือน เกิดภัยต่าง ๆ จึงเป็นมแต่นั้น
แล พ่อแม่ทุ่มเถียงกันแต่นั้นแล จึงพลัดพรากจากกันแต่นั้นมา
ผู้เกิดมานั้นมักเลี้ยงยาก และมักเจ็บไข้ แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๕ ผู้เกิดมานั้นใจแข็ง ใจคอกล้าหาญ
มิได้ฟังคำสั่งสอน เป็นคนพาล มิได้ฟังคำคนว่า
เมื่อเกิดมารกพันคอออกมา มีลักษณะข้างขวา เงินทองก็น้อย
ความรู้น้อยพอประมาณ เข้าในระหว่างคนร้าย
เป็นคนชอบทางนักเลงเล่นเบี้ย เล่นไก่ กล้าหาญ หาประโยชน์มิได้ แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๖ ผู้เกิดมานั้น มิได้อยู่กับพ่อแม่
มิดังนั้นจะตายแต่น้อย พ่อแม่เป็นคนทุพลภาพกว่าคนทั้งหลาย
เพราะตัวเป็นคนชั่ว ท่านว่าชาตาเราไม่ดี แล้วแช่งชัก
แม่นั้นเป็นคนกันดาร และว่าภายหน้าแก่จึงจะดี บ่ ห่อนรู้ยากจนเลย
แล
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้ยาม
๗ ผู้เกิดมานั้นมีรกพันคอออกมา
จะตายแต่น้อย พ่อแม่เลี้ยงยาก มีโรคาพยาธิมาก จะจากที่อยู่ อนึ่ง
เมื่อเกิดมานั้น มีอุบาทว์ในเรือนคือเรือนหักทับกันตาย
พ่อแม่ทุ่มเถียงกัน ผู้เกิดมานั้นรกพันคอมาแต่ในท้องแม่
ถ้ามิฉะนั้น จะง่อยเปลี้ยเสียขา เสียตา เสียตีน พิการขาซ้าย
แต่ว่าใจแข็ง มีฟังคำสอน มักคบชู้ และเป็นชู้กับเมียท่าน แล
ถ้าเกิดวันเสาร์ได้ยาม
๗ (ใกล้ค่ำ) ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะตายแต่น้อย พ่อแม่เลี้ยงไม่ได้ ชาตาแข็ง เมื่ออายุได้ ๗ ปี
จวนจะตายครั้งหนึ่ง เพราะมีพยาธิโรคาติดมาแต่ในท้อง
ต่อไปภายหน้าจึงจะดี เป็นผู้กล้าหาญกว่าคนทั้งหลาย
และเข้าในระหว่างคนร้าย ใจแข็ง และมิฟังคำสอน แต่ว่าภายแก่จึงจะดี
บ่ห่อนจะรู้ยากจนเลยแล
ทายยามตกฟากกลางคืน
คนเกิดวันอาทิตย์
สิทธิการิยะ ถ้าผู้ใดเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น
เมื่อเกิดมามักมิได้อยู่กับบิดามารดา
มักจะมีท่านผู้อื่นเอาไปเลี้ยง เป็นผู้มีปัญญา มีความรู้
เฉลียวฉลาดดี แต่มักจะมีศัตรูเบียดเบียน มีบุตรเลี้ยงยาก
ถ้าให้ท่านผู้อื่นก่อนจึงจะดี จะมีตบะเดชะไปภายหน้าแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น
มักมิได้อยู่ในที่เกิด เป็นคนเลี้ยงยาก เมื่อแรกเกิดมานั้น
ข้าวของเงินทองหาย บิดามารดาจะเกิดถ้อยความ ต้องขื่อคาโซ่ตรวน
เพราะถูกเขาใส่ความ เมื่อแรกเกิดนั้น อาภัพไร้ญาติ
หาที่พึ่งมิได้แล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น มักจะเป็นโจรง
มักจะมีถ้อยความถึงตัวอยู่เสมอ และมักจะพาให้พี่น้องเดือดร้อนลำบาก
ต้องขื่อคาโซ่ตรวน และเกิดพยาธิโรคา
เป็นคนคอยเบียดเบียนพี่น้องญาติกา เป็นคนที่เข้ากับพี่น้องไม่ได้
เมื่อเติบใหญ่จะถูกท้าวพระยาทำโทษ แต่ว่าจะได้เป็นนายคน
และจะตกยากเพราะบ่าว จะเป็นใหญ่แก่คนทั้งปวงแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น เป็นคนขี้ขลาด
และเป็นคนมีใจอาฆาตพยาบาทไม่รู้หาย พูดจาเอาถ้อยคำมิได้
มักจะคบเพื่อนที่เป็นโจรผู้ร้าย
และมักจะหาความเดือดร้อนให้แก่บิดามารดา
ต้องเสียทรัพย์สินเงินทองอยู่เนือง ๆ
ถ้ามีคนขอเอาไปเลี้ยงจงเร่งให้ไปเถิดแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะรู้หลักนักปราชญ์ เป็นคนมีสติปัญญา แม้จะไปอยู่สถานที่ใด ๆ
ก็ดี จะได้เป็นใหญ่ เมื่อเกิดมานั้นรกพันคอ
มักจะมีไฝหรือปานในร่มผ้า เป็นที่ชื่นชมแก่ญาติมิตรสหาย
เป็นคนมีน้ำใจเอื้ออารีย์ดี ต่อไปภายหน้าจะมียศศักดิ์
และจะมีคนรักมากแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
เป็นผู้มีมิตรสหายมาก เมื่อน้อยตกน้ำทีหนึ่ง หรือมิฉะนั้น
ก็ตกต้นไม้ เป็นคนมีปัญญาดี เมื่อเกิดมานั้นจะได้แก้วแหวนเงินทอง
และพัสดุต่าง ๆ อนึ่งเมื่อแรกเกิด มักจะมีเหตุทุ่มเถียงกัน
ครั้นเมื่อเกิดมาแล้วจะมีข้าวของเป็นอันมากแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น
เป็นคนมีพี่น้องก็เหมือนไม่มี เมื่อแรกเกิดนั้นรกพันคอ
เป็นคนใจแข็ง บิดามารดาไม่ได้เลี้ยง เมื่อเกิดมาได้ ๓ วัน ๗ วัน
พ่อแม่จะหย่ากัน เมื่อเกิดมานั้น พ่อแม่อาภัพ
และจะเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ในเรือน เมื่อเกิดมานั้นเรือนจะหัก
หลังคาไฟไหม้ แม่นั้นตกใจแทบตายแล
ถ้าเกิดคืนวันอาทิตย์ได้ยาม
๑ (ใกล้รุ่ง) ผู้เกิดมานั้น
มักจะมิได้อยู่ในที่ ๆ เกิด จะเป็นคนมีความรู้ มีสติปัญญา
รู้หลักนักปราชญ์ รอบรู้ในการช่างเป็นอันดี มักจะเป็นคนเจ้าทุกข์
ศัตรูมักจะเบียดเบียน อนึ่ง มีไฝปาน ประกอบด้วยความรู้ จะมีตบะเดชะ
และจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลายทั้งปวงแล
คนเกิดวันจันทร์
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น จะตายแต่น้อย
หรือมิฉะนั้นจะเลี้ยงยาก ต้องให้ท่านผู้อื่นเอาไปเลี้ยงจึงจะดี
แต่ว่าอาภัพ เป็นคนทุรพล หาข้าวของเงินทองและอาหารเลี้ยงตัวยากนัก
และเป็นคนที่เข้าสมาคมกับใครมิใครจะได้ พ่อแม่พี่น้องเป็นคนทรลักษณ์
ใจกล้าใจแข็ง เป็นคนไม่ฟังคำสั่งสอน มิเอาถ้อยคำของปู่ย่าตายาย
เป็นคนเชื่อใจของตน แต่เจรจาดี มีปัญญา นานไปจะมีความรู้ ๖ ประการ
และจะครองใจได้แล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น ย่อมระเหเร่ร่อน
จะได้รับความลำบากเมื่อน้อย
ครั้นต่อไปภายหน้าจะได้ที่อยู่ที่กินเป็นอันดี
ถ้าจากที่อยู่อาศัยเดิม ไปอยู่ที่อื่นจะได้ดี
จะมีทรัพย์สมบัติสมบูรณ์
ต่อไปเมื่อแก่จะได้เป็นที่พึ่งแก่พี่น้องญาติกาทั้งหลาย
เป็นคนใจโกรธง่ายหายเร็ว เป็นคนรู้ถ้อยรู้ความ
เป็นที่ชอบใจแก่ขุนนางท้าวพระยาเป็นอันมาก
และคนทั้งหลายมักจะยกย่องนับถือแล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น อาภัพ
และมีผู้ทำให้ตายแต่น้อย เป็นคนมีผู้เบียดเบียนอยู่เสมอ
เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ มีคนขอเอาไปเลี้ยงแล้วจากกัน
แต่จะกลับมาอยู่ที่เก่าของตนอีก
จะได้ทรัพย์สินเงินทองของผู้เลี้ยงนั้นแล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น
เมื่อเกิดมาพ่อแม่พี่น้องตาย เป็นคนกำพร้า
แต่จะมีบุญและรู้หลักนักปราชญ์
จะได้ทรัพย์สินเงินทองผู้เฒ่าผู้แก่แล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น
ท่านว่ามีผู้อื่นผูกข้อมือให้แต่อยู่ในท้อง
ครั้นคลอดมาแล้วท่านจะเอาไปเลี้ยงเป็นลูก
จะได้ทรัพย์สมบัติเป็นอันมาก จะมีช้างม้า ข้าคน ขุนนาง
ท้าวพระยาจะให้รางวัล จะเป็นที่พึ่งของพ่อแม่
แลท่านผู้นั้นเทพได้นิมนต์ให้ลงมาเกิดเป็นคนมีมารยาทดีแล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
เมื่อน้อยเป็นไข้เกือบตาย เป็นคนมีชาตาแข็ง บิดามารดามิได้เลี้ยง
ให้ท่านผู้อื่นเลี้ยงจึงจะดี เป็นคนอยู่กับพี่น้องมิได้
มักจะทะเลาะวิวาทฆ่าฟันกัน แต่ว่าเป็นคนมีดีอยู่ในตัว
ผู้นั้นมักจะมีความรู้ดีแล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะได้รับความลำบากยิ่งนัก เมื่อเกิดมานั้นเป็นคนอาภัพมาก
ครั้นโตขึ้นมาจึงจะดี เพราะได้ของผู้เฒ่าผู้แก่
จะมีทรัพย์สินเงินทองข้าวของเป็นอันมากแล
ถ้าเกิดคืนวันจันทร์ได้ยาม
๒ (ใกล้รุ่ง)
ทายเหมือนกับวันจันทร์ยามเช้านั้นแล
คนเกิดวันอังคาร
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีข้าทาสหญิงชาย ทรัพย์สินเงินทองข้าวของเป็นอันมาก
พี่น้องจะได้พึ่ง และจะได้เป็นใหญ่กว่าญาติกาทั้งหลาย
เป็นคนมีความรู้กิจการทุกอย่าง ชาตาผู้นั้นจะมิรู้ยากจนแล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น ใจแข็งนัก
จะทำร้ายแก่พ่อแม่ และจะหาถ้อยความให้แก่พ่อแม่ เป็นคนชอบกินเหล้า
เล่นการพนัน พ่อแม่สั่งสอนมิเชื่อถ้อยคำ
เป็นคนมิได้อยู่ด้วยกับพ่อแม่ มากชู้หลายเมีย
และเป็นคนหน้าด้านไม่มีอาย เป็นคนถือตัวว่ารู้ดีแต่ผู้เดียว
ครั้นมีคนมาขัดคอ มักจะโต้เถียงไปตามใจของตัวแล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น เป็นคนฉลาด
แต่ว่ามักขี้ขลาด เป็นคนโอบอ้อมอารีย์พี่น้องทั้งหลายจะได้พึ่ง
แต่ว่าญาติพี่น้องข้างพ่อมิได้เอาใจใส่ แต่เป็นคนมีความคิดดี
มิได้ตกยาก จะมียศศักดิ์สูงแล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะทำให้พ่อแม่เดือดร้อนใจอยู่เสมอ จะเกิดเป็นถ้อยความอยู่เนือง
ๆ ถ้าจากที่เกิดไป ภายหน้าจึงจะดี
เมื่อเกิดมานั้นอาภัพกว่าคนทั้งหลายแล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น บิดาตายแต่น้อย
เป็นคนกำพร้าบิดา และมีผู้เอาไปเลี้ยง เป็นคนใจแข็ง
ชอบกินเหล้าเมามาย จะทำลายแก่พ่อแม่
คนอื่นสอนมิค่อยจะเชื่อถ้อยฟังคำ เป็นนักเลงตั้งแต่น้อย ถ้าเป็นข้า
ชอบทำการอาสาขุนนางท้าวพระยาจะได้ความชอบ
และไปเบื้องหน้าจะมียศศักดิ์ จะได้ดีกว่าคนทั้งหลายแล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น จะมีทรัพย์สิน
ข้าวของเงินทองเป็นอันดี ทั้งมีใจโอบอ้อมอารีย์ มีความรู้ดี
แต่ว่าเป็นคนเจ้าทุกข์อยู่เสมอ อนึ่งมิได้อยู่ด้วยพ่อ
และมิชอบด้วยพ่อ นานไปจะเป็นศัตรูแก่กัน ต่อไปภายหน้าจะได้ดี
แต่ว่าปากนั้นคมประดุจหอกดาบ จะมีฤทธามาก และจะสมบูรณ์เป็นอันดี
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น
ย่อมจะผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ให้ฉิบหาย
ไม่ค่อยจะเชื่อถ้อยคำของพ่อแม่ มักจะเป็นนักเลงการพนัน
พ่อแม่มักจะเลี้ยงมิได้ เป็นคนชาตาแข็ง บังเกิดมิสมควรแก่พ่อแม่
เมื่อเกิดมาพ่อแม่มักมีเหตุการณ์ต่าง ๆ แล
ถ้าเกิดคืนวันอังคารได้ยาม
๓ (ใกลรุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
มีความกล้าหาญกว่าคนทั้งหลายทั้งปวง จะมีบริวารข้าทาสหญิงชาย
ผ้าผ่อนแพรพรรณ แก้วแหวนเงินทองเป็นอันมาก
และจะได้ทรัพย์จากปู่ย่าตายาย และจะได้เป็นใหญ่กว่าพี่น้อง
และมิตรสหายทั้งหลายแล
คนเกิดวันพุธ
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะตายเมื่อคลอดทีหนึ่ง ถ้ามิตาย เป็นหญิงจะได้เป็นเมียมนตรี
ถ้าเป็นชายจะได้เป็นขุนนางท้าวพระยาผู้ใหญ่
และจะประกอบไปด้วยทรัพย์สมบัติมาก มีช้างม้าวัวควาย ข้าทาส ยวดยาน
คานหาม มิได้ลำบากเลย เป็นผู้มีความรู้ดีนักแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น จะมีบริวาร ช้าง
ม้า วัว ควาย เป็นอันมาก และจะมีทรัพย์สินเงินทองเป็นอันมาก
จะเป็นคนมีความรู้ รู้หลักนักปราชญ์
และย่อมจะได้สิ่งที่คิดสมควรปรารถนาแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น
ท่านว่าพ่อแม่จะตายแต่แรกเกิด หรือมิฉะนั้น
พ่อแม่จะต้องหย่าร้างจากกัน ที่เกิดนั้นติดอยู่กับป่า หรือป่าช้า
จะมีภัยต่าง ๆ จะได้รับความยากลำบากแต่เมื่อแรกเกิด
ครั้นเติบใหญ่จึงจะได้ดีแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น รู้จักศิลปะ
รู้จักธรรมะ จะได้เป็นครูแก่ท่านทั้งหลายทั้งปวง
และท่านผู้นั้นเป็นผู้ซึ่งมีบุญมาเกิด เป็นผู้รู้หลักนักปราชญ์
เป็นผู้รู้วิชาการช่างทุกประการ พ่อแม่จะได้พึ่งแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น มีรูปร่างทรลักษณ์ข้างซ้าย
มิได้อยู่กับพ่อแม่ เป็นคนชาตาแข็ง พ่อแม่เลี้ยงมิได้
ถ้าพ่อแม่เลี้ยง จะย่อยยับฉิบหาย และพ่อแม่จะเกิดถ้อยความ
จะเกิดไฟไหม้บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย โจรผู้ร้ายจะลักของ
และเมื่อน้อยจะได้ความยาก ครั้นเติบใหญ่จะได้ดี
เมื่อแก่จะมีผู้ปองร้ายแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง และจะได้ทรัพย์สมบัติ เป็นคนมีตบะเดชะดี
และจะได้ของฝากจากคนต่างเมืองอันพึงใจ ผู้ที่เกิดมาในยามนี้
มีรูปโฉมอันดี และเป็นคนมีมารยาทดี รู้หลักการช่างทุกประการ
เป็นคนอุดม จะมิรู้ขาดอาหารเลยแล
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น ชาตาแข็ง
จะตายแต่เมื่อแรกเกิด ถ้ามิตายก็ต้องพลัดพรากจากบิดามารดา
จะได้รับความเดือดร้อนด้วยถ้อยความต่าง ๆ
และจะถูกท่านจองจำด้วยขื่อคาโซ่ตรวน เมื่อแรกเกิดมานั้น
รกพันคอออกมา และมีไฝปานข้างซ้าย
เป็นคนมีใจแข็งกว่าคนทั้งหลายทั้งปวง
ถ้าเกิดคืนวันพุธได้ยาม
๔ (ใกล้รุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
ทำให้พ่อแม่เสียทรัพย์สินเงินทองข้าวของ พ่อแม่เกือบตายทีหนึ่ง
ผู้ที่เกิดมานั้นเกือบจะตายทีหนึ่ง แต่เมื่อแรกเกิด
แต่จะมีบุญเมื่อแก่ และรู้หลักนักปราชญ์ จะเป็นครูแก่ท่านทั้งปวง
คนทั้งหลายจะได้พึ่งต่อไปในภายหน้าแล
คนเกิดวันพฤหัสบดี
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น จะมีตบะเดชะ
มีความรู้ทุกประการ จะทำการงานสิ่งใด ๆ ก็ดี
ย่อมเป็นที่ต้องใจของคนทั้งหลาย ถ้าเป็นหญิง จะได้เป็นคุณจอม
คุณท้าว ถ้าเป็นชาย จะได้เป็นคุณหลวง คุณพระ ถ้ามิฉะนั้น
จะได้เป็นมหาเศรษฐี พ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งหลายจะได้พึ่ง
จะได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นคนมีฐานะมั่นคง
และท่านผู้นี้จะมิรู้ถอยจากทรัพย์สมบัติแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น เป็นคนอาภัพ
จะพบแต่ความยากลำบาก ท่านว่าจะต้องพลัดพรากจากที่อยู่ที่กิน ๒ คราว
๓ คราว แล้วจะกลับคืนมาอยู่ที่เดิม จะมีทรัพย์น้อย
แต่เป็นคนกินง่าย นอนยาก ขี้คร้านการงานใด ๆ ก็มิค่อยจะทำ
ต้องให้ท่านจิกหัวใช้อยู่เรื่อย
ครั้นปู่ย่าตายายพ่อแม่พี่น้องว่ากล่าวก็โกรธ ตามใจตัวเองมาก
จะเป็นคนที่คบไม่ได้เพราะจะคิดนอกใจผู้อื่นอยู่เสมอแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น
มิได้อยู่ในที่เกิด จะต้องจากไปอยู่ต่างแดน มีทรัพย์น้อย
มีปัญญาน้อย แต่เป็นคนมีใจแกล้วกล้า
มิค่อยจะฟังคำสั่งสอนของผู้อื่น ทำสิ่งใดตามลำพังใจตัวเอง
ทำให้ผู้อื่นเสียคน เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
เมื่อทำไปแล้วจึงรู้ผิดรู้ชอบแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะได้ปกครองแทนบิดามารดา จะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง เป็นคนมีปัญญา
จะมีข้าวของเงินทอง ข้าทาสชายหญิง ช้างม้า วัวควาย จะได้เป็นเศรษฐี
จะได้ทรัพย์มรดกจากผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งปวง ชาตาบุคคลผู้นี้ดีมาก
จะมิรู้อับจนเลยแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น
อยู่ในตระกูลอันดี จะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง รู้หลักธรรม
จะได้เป็นครูท่านทั้งหลาย ต่อไปจะมียศศักดิ์
ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นอัครมเหสี รูปงาม กิริยามารยาทดี มีพงษ์พันธุ์ดี
มีไฝปานข้างขวา จะมีเงินทองข้าวของ วัวควาย ช้างม้า ข้าคน
เป็นอันมาก และจะสมบูรณ์ไปด้วยอาหารมิรู้ขาดแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น จะมีชาตาดี
แต่ว่าท่านมิได้อยู่ด้วยบิดามารดา จะต้องไปต่างเมือง
จะมีศัตรูคอยเบียดเบียนอยู่เสมอ แต่ว่าถ้าผู้ใดเบียดเบียน
ผู้นั้นก็จะต้องฉิบหายวายวอดตายไปเอง
ต่อเมื่อจากไปอยู่เมืองไกลแล้ว ต่อไปภายหน้า
ก็จะได้กลับมาอยู่ที่เดิมอีก และจะได้ครอบครองที่เดิมนั้นแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น ใจคอห้าวหาญ
ชอบการรบพุ่ง เป็นคนอาภัพแต่เมื่อแรงเกิด
ครั้นเมื่อเติบใหญ่จึงจะได้ดี เป็นคนกล้าหาญกว่าคนทั้งหลายทั้งปวง
ต่อไปภายหน้าพี่น้องจะได้พึ่ง เป็นคนมีความรู้มาก มีสติปัญญาดี
เฉลียวฉลาด มีไหวพริบดีแล
ถ้าเกิดคืนวันพฤหัสบดีได้ยาม
๕ (ใกล้รุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู เป็นที่พึ่งพาอาศัยแก่คนทั้งปวง
เป็นผู้รู้หลักนักปราชญ์ ใจคอกล้าหาญ มีข้าวของเงินทอง ช้างม้า
วัวควาย เป็นอันมาก ญาติพี่น้องจะได้พึ่ง
เมื่อน้อยจะมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง ถ้ามิยอมให้แก่ท่าน
เมื่อเติบใหญ่จะได้เป็นขุนนางท้าวพระยา จะมียศถาบรรดาศักดิ์
คนทั้งหลายจะยำเกรงอำนาจวาสนาแล
คนเกิดวันศุกร์
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีผู้นำเอาแก้วแหวนเงินทองมาให้ จะอุดมไปด้วยลาภสักการอย่างดี ๆ
จะมีสุขบริบูรณ์ มิรู้ตกยากเลย อนึ่ง ต่อไปภายหน้า
พ่อแม่จะเป็นทุกข์หนัก จะมีขุนนางเอาไปเลี้ยงไว้
พ่อแม่ก็จะได้พึ่งท่านผู้นั้นแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะพลัดพรากจากที่อยู่ที่กิน จะตกยากลำบากนัก ครั้นเมื่อเติบใหญ่
พ่อแม่จะเสียน้ำตา แต่ว่าผู้ใหญ่จะให้คุณ ต่อไปภายหน้าจะได้ดี
จะมีข้าทาสช่วงใช้ จะมีคนคอยช่วยเหลือทั้งเงินข้าวของพัสดุต่าง ๆ
แล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น
ต้องจากที่เกิดไปต่างเมืองไกลจึงจะดี จะมีคนช่วยทุกข์
และคิดอะไรจะได้ดังใจปรารถนาทุกประการ ผู้ที่เกิดมานั้นจะได้พึ่ง
และต่อไปจะได้ดี จะทำการสิ่งใด ๆ ก็ดี ย่อมสำเร็จไปด้วยความคิด
และทุกสิ่งทุกอย่างจะสมประสงค์ได้ด้วยความรู้ของตน
แต่ว่าเป็นคนอาภัพนักแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีแก้วแหวนเงินทอง ช้างม้า ข้าคน จะมีคนนำเอามาให้จากเมืองไกล
และจะได้ทรัพย์สินมรดกจากญาติผู้ใหญ่เป็นอันมากแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะได้รับความยากลำบาก เพราะมีโรคเบียดเบียนบีฑาแต่เมื่อน้อย
แต่ว่ามีคนคอยช่วยเหลือ เมื่อน้อยมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง
ต่อไปภายหน้าจะมีเงินทองข้าวของ
จะได้เป็นขุนนางท้าวพระยาแทนที่ผู้เฒ่าผู้แก่
จะมีความสุขบริบูรณ์กว่าคนทั้งหลายแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
เกิดมาในพงษ์พันธุ์ที่มีชื่อเสียง มีความสุขสบายกว่าคนทั้งหลาย
จะมีทรัพย์สินเงินทอง ข้าทาสชายหญิงเป็นอันมาก จะได้ขึ้นคานหาม
ราชยาน เป็นคนมีความรู้ดีและมีรูปงาม มิรู้เป็นถ้อยเป็นความ
เป็นที่พึ่งแก่ญาติพี่น้อง จะกินที่ขุนนางท้าวพระยาแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะทำให้พ่อแม่เดือดร้อน จะจากที่อยู่อาศัย จะเอาป่าเป็นบ้าน
แต่ต่อภายหน้าจึงจะดี จะสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทองมิรู้ถอยเลยแล
ถ้าเกิดคืนวันศุกร์ได้ยาม
๖ (ใกล้รุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
เมื่อแรกเกิดมีอาการตกใจ และจะตกน้ำทีหนึ่ง หรือมิฉะนั้นจะตกต้นไม้
หรือจะตกจากบ้าน แต่ทว่ามีบุญ ถ้าเป็นหญิง จะได้เป็นคุณจอม
ถ้าเป็นชาย จะได้เป็นขุนนางท้าวพระยาผู้ใหญ่ จะมีช้าง ม้า วัว ควาย
เป็นอันมากแล
คนเกิดวันเสาร์
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๑ ผู้ที่เกิดมานั้น จะตายแต่ยังน้อย
ถ้ามิตาย จะมีอายุยืน มีพี่น้องจะมิได้อยู่ร่วมกัน
แม่จะตายแต่เมื่อแรกเกิด หรือมิฉะนั้น พ่อแม่จะต้องถ้อยความแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๒ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะจากที่อยู่ที่กิน จะเสียทรัพย์สินเงินทอง และข้าวของเป็นอันมาก
จะเดือดเนื้อร้อนใจ จะมีทุกข์เพราะต้องขื่อคา ครั้นภายแก่จึงจะดี
เมื่อน้อยเลี้ยงยาก มักจะเจ็บไข้อยู่เสมอแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๓ ผู้ที่เกิดมานั้น
จะมีคนรักใคร่เอ็นดู จะไปสถานที่ใด ๆ ก็ดี
ย่อมเป็นที่ยินดีต้อนรับแก่คนทั้งหลาย มารดานั้นพอประมาณ
บิดานั้นก็ดี ผู้ที่เกิดมานั้นใจแข็ง และมิได้อยู่ด้วยพ่อแม่
ไม่สมัครอยู่ด้วยกับพี่กับน้องและญาติกาทั้งหลาย
ครั้นเติบใหญ่มาก็มิได้อยู่ด้วยพ่อแม่
เพราะเหตุว่าอาภัพแม่กว่าคนทั้งหลายแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๔ ผู้ที่เกิดมานั้น
พ่อแม่จะได้รับความเดือดร้อนใจอยู่เสมอ พ่อแม่มักแช่งด่า
และจะต้องเสียเงินเสียทอง เพราะจะเป็นความ จะจากที่อยู่ที่อาศัย
เป็นคนทรพลกว่าคนทั้งหลาย ครั้นเติบใหญ่มาจึงจะได้ดี
แต่ว่าพ่อแม่จะอัปลักษณ์ แต่ว่ามิเป็นไร อนึ่ง เมื่อเกิดมานั้น
เกิดอุบาทว์ในเรือน พ่อแม่เถียงกัน แต่นั้น จึงได้พลัดพรากจากกัน
ผู้ที่เกิดมานั้นเลี้ยงยาก มักจะได้รับความเจ็บไข้อยู่เสมอ
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๕ ผู้ที่เกิดมานั้น มีใจคอกล้าแข็ง
มิเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้อื่น เป็นคนพาล เมื่อเกิดมานั้นมีรกพันคอ
เป็นคนมีทรัพย์น้อย มีความรู้น้อย เป็นคนชอบทางนักเลง
ชอบเล่นการพนัน ใจกล้าหาญ เข้าอยู่ในระหว่างคนร้าย
หาประโยชน์มิได้เลยแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๖ ผู้ที่เกิดมานั้น
มิได้อยู่กับพ่อแม่ ถ้ามิฉะนั้นจะตายแต่น้อย พ่อแม่เป็นคนทุพลภาพ
เป็นคนชาตาไม่ดี เข้าพี่เข้าน้องมิค่อยได้ เป็นคนมิฟังคำสั่งสอน
จำทำการสิ่งใด ย่อมถือเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ถือดีแต่ตนเองแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๗ ผู้ที่เกิดมานั้น มีรกพันคอ
เลี้ยงยาก มีโรคาพยาธิมากมาย จะจากที่อยู่อาศัย อนึ่ง
เมื่อเกิดมานั้น เกิดอุบาทว์ในเรือน พ่อแม่เถียงกัน หรือมิฉะนั้น
ผู้ที่เกิดมานั้น จะง่อยเปลี้ย เสียขา เสียตา เสียเท้า
แต่ทว่าเป็นคนใจแข็ง มิเชื่อฟังคำผู้อื่น มักคบชู้สู่เมียท่านแล
ถ้าเกิดคืนวันเสาร์ได้ยาม
๗ (ใกล้รุ่ง) ผู้ที่เกิดมานั้น
มักจะตายแต่น้อย พ่อแม่เลี้ยงมิได้ ชาตากล้าแข็งนัก เมื่ออายุได้ ๗
ขวบ เกือบจะตายครั้งหนึ่ง เพราะโรคาพยาธิติดมาแต่กำเนิด
ต่อไปภายหน้าจึงจะได้ดี เป็นคนมิเชื่อฟังคำสั่งสอน
แต่จะมิรู้ยากจนแล |