ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี

www.dooasia.com > มรดกไทย > มรดกท่องเที่ยว > เชียงใหม่
 
chingmia๑
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

เชียงใหม่ (๑)

            ถ้าจะเปรียบว่าหริภุญไชย หรือลำพูน เป็นเมืองแม่ ลำปางก็จะเป็นเมืองลูก เพราะโอรสของพระนางจามเทวี ผู้ครองเมืองหริภุญไชย ได้แยกมาสร้างเขลางค์นคร ส่วนเชียงรายก็จะเป็นเมืองแม่ของเชียงใหม่ เพราะพ่อขุนเม็งรายมหาราช สร้างเชียงรายเมื่อ พ.ศ.๑๘๐๕ แต่โปรดมาสร้างเชียงใหม่ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๘๓๙
            ใน พ.ศ.๑๘๓๙ ในแผ่นดินภาคเหนือของประเทศไทยนั้น มี ๓ อาณาจักรที่เป็นใหญ่ไม่ขึ้นต่อกันคือ อาณาจักราลานนา อาณาจักรพะเยา และอาณาจักรสุโขทัย
            เมื่อพ่อขุนเม็งรายมหาราช มาตีได้หรุภุญไชยแล้ว ก็ไปสร้างเวียงกุมกาม ที่อยู่ในเขตอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ในเวลานี้ แต่เนื่องจากเป็นเมืองที่น้ำท่วม พ่อขุนเม็งรายจึงคิดสร้างเมืองใหม่ และได้อัญเชิญพ่อขุนงำเมืองกษัตริย์นครพะเยา พ่อขุนรามคำแหงกษัตริย์สุโขทัย ผู้เป็นพระสหายร่วมสาบานมาร่วมกันพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งเมืองเชียงใหม่ ทั้ง ๓ พ่อขุน ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริเวณที่ราบเชิงดอยอ้อยช้าง ในที่ราบแห่งแม่น้ำพิงคนที มีความเหมาะสมที่จะตั้งเมืองใหม่ตามที่พ่อขุนเม็งรายมหาราชมีดำริ เมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๘๓๙ แล้วก็ให้มีนามว่า " นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ "
            ในระหว่างการก่อสร้างเมืองเชียงใหม่นั้น พ่อขุนเม็งรายได้สร้างพลับพลาเป็นที่ประทับอยู่ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ แต่เมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าประทับในคุ้มเจ้าหลวง หรือวังแล้ว ได้โปรดยกที่ดินจุดที่สร้างพลับพลานั้นสร้างพระธาตุเจดีย์ ส่วนที่ดินอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกับที่ตั้งพลับพลาที่ประทับโปรดให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ สร้างวัดแรกของเมืองเชียงใหม่คือ " วัดเชียงมั่น " วัดนี้จึงมีอายุน้อยกว่านครเชียงใหม่ ๒ ปี คือสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.๑๘๔๑
            เชียงใหม่เมื่อแรกเริ่มสร้างขึ้น ณ ที่ราบเชิงดอยนั้น ได้สร้างกำแพงเมืองกว้างด้านละ ๘๐๐ วา ยาวด้านละ ๑,๐๐๐ วา สร้างมาบรรจบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เชียงใหม่จึงเป็นเมืองที่เก่าแก่กว่ากรุงศรีอยุธยาซึ่งยกเป็นราชธานีเมื่อ พ.ศ.๑๘๙๓
            เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรลานนาไทยสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน และถูกรุกรานจนต้องตกอยู่ใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยา และพม่าหลายยุคหลายสมัย จนครั้งสุดท้ายในแผ่นดินพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตีนครเชียงใหม่ได้ เมืองเชียงใหม่จึงตกเป็นประเทศราชของกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงรัชสมัยของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงแต่งตั้งให้พระยากาวิละ (กาวิละ ณ เชียงใหม่) ขึ้นเป็นเจ้ากาวิละครองนครเชียงใหม่ เป็นต้นตระกูล " ณ เชียงใหม่ " สืบต่อมาอีก ๙ พระองค์ มีเจ้าแก้วนวรัตน์ เป็นองค์สุดท้าย ถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ ทรงรวบรวมเมืองประเทศราชเข้ากับราชอาณาจักรไทย ได้ยกเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็นมณฑลพายัพ และเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ แล้วได้ยกเลิกมณฑล เชียงใหม่จึงเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้ รวมระยะเวลาที่เชียงใหม่เป็นราชธานีของอาณาจักรลานนาไทย ประมาณ ๖๐๐ ปี เชียงใหม่แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๒๑ อำเภอ ๑ กิ่งอำเภอ
การเดินทาง.-
            ทางรถไฟ  มีรถไปเชียงใหม่วันละหลายขบวน สอบถาม ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๑๐ หรือ ๐๕๓ ๒๔๒๐๙๔
            ทางอากาศ  มีเครื่องบินจากท่าอากาศยานกรุงเทพ ฯ ไปเชียงใหม่วันละหลายเที่ยวบิน โทร ๐ ๒๒๘๐๐๐๖๐ หรือ โทร ๐๕๓ ๒๑๐๒๑๐ โดยการบินไทย และยังมีของบริษัทบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบิน กรุงเทพ ฯ สุโขทัย เชียงใหม่ โทร ๐ ๒๒๒๙ ๓๔๕๖ และของบริษัทแองเจิลแอร์ไลน์ กรุงเทพ ฯ - อุดรธานี - เชียงใหม่ โทร ๐ ๒๙๕๓ ๒๒๖๐
            ทางรถยนต์  มีรถประจำทาง วันละหลายเที่ยว ๐ ๒๕๓๗ ๘๐๕๕
                เส้นทางที่ ๑  กรุงเทพ ฯ ไปแยกเข้าสายเอเซีย ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง เชียงใหม่ ระยะทาง ๖๙๖ กม.เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดเร็วที่สุด
                เส้นทางที่ ๒  ซ้ำกับเส้นทางแรก แล้วไปแยกที่นครสวรรค์เข้าเส้น ๑๑๗ ไปพิษณุโลก ไปผ่านอุตรดิตถ์ เด่นชัย  ลำปาง ไปเชียงใหม่ ซ้ำกับเส้นแรกช่วงจากลำปาง เส้นนี้ระยะทาง ๖๙๕ กิโลเมตร ถนนหลายช่วงจะคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา โดยเฉพาะจากพิษณุโลกไปอุตรดิตถ์ และจากเด่นชัยไปลำปาง ใกล้กว่าช้ากว่า
                เส้นทางที่ ๓  สำหรับนักขับรถ ที่ชอบทดลองขับในเส้นทางที่ทดสอบมือพลขับ คือไปซ้ำกับเส้นทางแรกแม่เมื่อผ่าน จังหวัดตาก ไปแล้วถึงอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนดั้งเดิม และต้องผ่านภูเขากว่า ๕๐ กิโลเมตร แต่ปัจจุบันถนนดี ราดยางตลอดไม่มีตอนไหนหวาดเสียว คือ จากเถินมาผ่าน อำเภอลี้ บ้านโฮ่ง ป่าซาง ลำพูน เชียงใหม่ เส้นนี้เมื่อ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว เป็นเส้นเดียวที่จะมาถึงเชียงใหม่ได้ ซึ่งสมัยนั้นผมรับราชการอยู่จังหวัดเชียงใหม่ หากมากรุงเทพ ฯ โดยทางรถยนต์ ก็จะต้องมาด้วยรถจิ๊บทหาร และต้องมีรถเทรลเลอร์ หรือรถพ่วง พ่วงมาด้วยเพื่อบรรทุกน้ำมันมา ๒๐๐ ลิตร เพราะสมัยนั้นปั๊มน้ำมันหายาก ต้องเตรียมน้ำมันอะไหล่เอามาเอง สายนี้ผมพึ่งทดลองวิ่งเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ถนนดีมาก วิวสองข้างทางจากอำเภอเถินไปลี้จะสวย หากเป็นฤดูฝนก็จะเขียวชอุ่มไปทั้งภูเขา ไม่มีอันตรายใด ๆ น่าลองขับเที่ยวดู ระยะทางไกลพอ ๆ กัน แต่จะเสียเวลามากกว่าตอนต้องไตเขานี่แหละ
            นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยว นักขับรถยังไปเชียงใหม่ได้อีก เช่น พอไปตามเส้นที่ ๒ พอถึงอำเภอเด่นชัย ก็เลี้ยวซ้ายไป จ.แพร่ แล้วต่อไปทาง อำเภอร้องกวาง ก่อนถึงตัวอำเภอร้องกวางก็จะมีถนนเลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอสอง ไปออก อำเภองาว จากงาวมาลำปางมาเส้นทางนี้อ้อมสนุกดี หรือจะให้สนุกมากกว่านี้ก็ไปพะเยาก่อน จากงาวไปพะเยา ไม่ไกลประมาณ ๕๐ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายก่อนถึงตัวเมืองพะเยามาออกอำเภอวังเหนือ มาออกแม่ขจาน (เชียงราย) แล้วเลี้ยวซ้ายมาออก อำเภอดอยสะเก็ด (เชียงใหม่) เป็นการวิ่งอ้อมที่สนุกสนานแต่ได้เที่ยวพะเยาอีกจังหวัดหนึ่ง โดยค้างเสียที่พะเยาสัก ๑ คืน
        สถานที่ท่องเที่ยว
            ทั้งในเมืองและนอกเมืองของเชียงใหม่มากมายเหลือเกิน เรียกว่าเอาเฉพาะเที่ยวเชียงใหม่เฉพาะจุดที่น่าสนใจผมให้ ๗ วัน ยังไม่ทั่ว เอาแค่ในตัวเมืองก็คงไม่สามารถเที่ยวให้ทั่วได้ใน ๓ วัน
            อุทยานแห่งชาติ  เชียงใหม่มีอุทยานแห่งชาติมากยิ่งกว่าจังหวัดใด ๆ คือ ๑๐ อุทยานแห่งชาติ ได้แก่  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์  อุทยานแห่งชาติศรีลานนา  อุทยานแห่งชาติออบหลวง  อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้  อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา  อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง  อุทยานแห่งชาติแม่โถ  อุทยานแห่งชาติเชียงดาว  อุทยานแห่งชาติขุนแจ
            ซึ่งผมคงเล่าให้ฟังได้ไม่ครบทั้ง ๑๐ อุทยาน ฯ เพราะหลาย ๆ แห่งพึ่งตั้งขึ้นใหม่ บางแห่งตั้งนานแล้ว แต่เมื่อก่อนไปลำบากมากก็เลยยังไม่เคยไป จะเล่าให้ฟังเท่าที่เคยผ่านมาแล้ว
            อุทยานแห่งชาติแห่งแรกที่ต้องรีบเล่าเพราะผมไปแม่ฮ่องสอนมาแล้ว ก็มาแวะพักค้างคืนที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้คือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่อของอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ กับ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียกว่าพอหลุดออกมาจาก ปาย ก็เข้าเขตอำเภอแม่แตง วิ่งรถเข้ามาในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังทันที
            จากอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มาตามถนนที่ยกให้เป็นถนนลอยฟ้า เพราะอยู่สูงเสียดเมฆดีแท้ วิ่ง ๆ รถไปอย่าไปตกใจว่าทำไมมีรถอีกหลายคันกำลังวิ่งขวาอยู่บนหัวของเรา เพราะถนนวกวนหักพับ และไต่ขึ้นสูงลิ่วนั่นเอง
            ประมาณกิโลเมตร ๖๕ - ๖๖ จะมีทางแยกขวาไปยังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล ณ จุดนี้ ๑,๔๐๐ เมตร เลี้ยวขวาเข้าไป ๖ กม.จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีพระตำหนักเอื้องเงิน เดี๋ยวนี้ทางอุทยานมีบ้านพักรับรองอย่างดี ค่าเช่าไม่แพง บ้านพักพึ่งสร้างใหม่ ๆ ในปลายปี พ.ศ.๒๕๔๕ นี้เอง สวยมากอยู่บนเขาจุดที่ชมวิว ติดต่อ ๐๕๓ ๔๗๑๖๖๙ หรือ จองที่กรุงเทพ ฯ ๐ ๒๕๗๙ ๗๕๘๗
            บ้านพักรับรองของห้วยน้ำดังนั้นที่สร้างใหม่จะอยู่ตรงจุดชมวิวที่สำคัญคือ ดอยกิ่วลม ซึ่งตอนพื้นที่ที่ต่ำลงมานิดหนึ่ง ทำเป็นสนาม เป็นสวนไม้ดอก ไม้ประดับงดงามมาก จุดนี้คือจุดที่จะลงมาชมวิว หรือชมทะเลหมอกในยามเช้าของฤดูหนาว หากเป็นฤดูหนาวแล้วหนาวมาก หนาวจับใจเลยทีเดียว ฤดูร้อนอากาศสบายที่สุด และเลยพื้นที่ที่เป็นบ้านพักไปหน่อยหนึ่ง จัดเตรียมสถานที่ไว้สำหรับกางเต้นท์นอน เจ้าหน้าที่บอกว่าเมื่อตอนปีใหม่ ๒๕๔๖ มีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์นอนกันมากร่วม ๑,๐๐๐ เต้นท์
            ไปห้วยน้ำดังแล้วเที่ยวที่ไหนนอกจากชมวิว จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งมีที่ให้กางเต้นท์นอนได้ด้วยคือ ที่ดอยช้าง ซึ่งเขาบอกว่าต้องใช้รถโฟวีลวิ่งขึ้นไป ผมไปแต่ห้วยน้ำดัง ผมวิ่งขึ้นด้วยรถกระป๋องของผม วิ่งอย่างสบาย ๆ รู้จักเปลี่ยนเกียร์ด้วยก็แล้วกัน อย่าไปนึกว่ารถเกียร์อัตโนมัติใช้แค่เพียงเกียร์เดียวต้องรู้จักเปลี่ยน เคยขึ้นดอยเพื่อนมัสการพระธาตุสี่รอยที่ อำเภอแม่ริมยังขึ้นมาแล้วด้วยรถกระป๋องวันนั้นขึ้นด้วยรถขนาด ๑,๖๐๐ ซี.ซี. ด้วยซ้ำไป วันนี้ขึ้นห้วยน้ำดัง รถขนาด ๑,๘๐๐ ซี.ซี.วิ่งได้สบาย
            ถ้าพักแรมที่ห้วยน้ำดังไม่ต้องนำอาหารมาเอง เพราะเดี๋ยวนี้มีสโมสรแล้ว มีอาหารทำขาย แต่ตอนเย็นต้องไปแจ้งเขาล่วงหน้าจะมากินอาหารกันกี่คน เพราะเขาไม่ใช่อาหารตามสั่ง อาหารเป็นชุด แล้วแต่เขาจะจัดเตรียมไว้ ตามสั่งมีอย่างเดียวคือ " ไข่เจียว " สั่งเมื่อไรเป็นได้เมื่อนั้น ทอดเก่งและเร็วด้วย ใช้เป็นกับแกล้มได้ อาหารอื่น ๆ อีก ๓ - ๔ อย่าง รสชาติใช้ได้ ถือว่าอร่อยทีเดียวสำหรับมาพักมากินอาหารบนยอดดอยสูงขนาดนี้ จะนำอาหารมาเองก็ได้แต่ในที่พักเขาไม่ให้ประกอบอาหาร ส่วนพวกพักเต้นท์จะประกอบอาหารได้ ตอนติดต่อที่พักลองถามดู จะไปเที่ยวไปพักที่ห้วยน้ำดัง หรือโป่งเดือดต้องเตรียมการล่วงหน้าหลาย ๆ เดือน ต้องจองที่พักล่วงหน้าสัก ๒ เดือน จะได้พักหรือได้กางเต้นท์แน่นอน แต่คุ้มค่ากับการไปอุทยานแห่งชาติแห่งนี้
            ผมนอนพักที่บ้านพักรับรองของอุทยานแห่งชาติเพียงคืนเดียว บ้านพักสวย มี ๒ ห้องนอน มี ที.วี.ที่ยังรับไม่ได้ (เพราะยังไม่มีเสาอากาศสูง ๆ ) มีเครื่องทำน้ำร้อนใหม่เอี่ยม ยังทำน้ำร้อนไม่ได้ ทำได้แต่น้ำเย็นจัด มีตู้เย็นใบโตที่เครื่องทำงานดีมาก เหมาะสำหรับประชดตัวเอง คือหนาวสั่นงก ๆ อยู่แล้ว กินน้ำเย็นเสียเลย แต่วันที่ท่านผู้อ่านจะตามไปนี้เข้าใจว่าคงเรียบร้อยหมดแล้ว ผมเสียดสีเขาดูอย่างนั้นเอง

            กลับจากห้วยน้ำดังก็ย้อนกลับมาทางแม่มาลัย ในอำเภอแม่แตง ที่ใช้คำว่าย้อนกลับมาเพราะไปครั้งหลังนี่ผมไม่ได้ไปจากเชียงใหม่ ผมมาจากแม่ฮ่องสอน และจะกลับทางเชียงใหม่ " โป่งเดือด " ที่ขอแนะนำว่าต้องแวะเข้าไปเที่ยว ไปพักให้ได้เพราะนอกจากจะได้ดูน้ำแร่ร้อนจัดเกือบ ๑๐๐ องศาเซนเซียส ที่จะพุ่งขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ ๔ เมตร ตลอดเวลา หรือบางทีก็พุ่งขึ้นสูงกว่านี้ แล้วยังได้พักในบ้านพักที่สะอาด สวยงามสร้างใหม่เอี่ยม เสร็จเรียบร้อยหลังจากบ้านพักที่ห้วยน้ำดังเสร็จเรียบร้อยแล้ว และสร้างในลักษณะลดหลั่นตามไหล่เขาสวยงามมาก บ้านพักก็บ้านชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ราคาไม่แพง ติดต่อที่เดียวกับห้วยน้ำดัง มีร้านอาหารของอุทยาน ฯ ที่ขายตั้งแต่มื้อกลางวัน จอดรถแล้วเดินต่อไปไม่ไกลก็จะถึง " โป่งเดือด ป่าแป๋ " ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่ใหญ่ และสูงที่สุดของประเทศ ผมเติมให้อีกคำว่าสวยที่สุดด้วย การเดินทางเข้าโป่งเดือด หากไปจากเชียงใหม่ ไปทางถนนสายไป อ.ฝาง แล้วแยกซ้ายไปตามถนนสายแม่มาลัย - ปาย (ก่อนถึงตัวอำเภอแม่แตง) ไปอีกประมาณ ๓๕ กิโลเมตร (ก่อนถึงห้วยน้ำดัง) แล้วแยกขวาไปอีก ๖.๕ กิโลเมตร  ถนนดี ราดยางตลอดสาย รถกระป๋องของผมวิ่งเข้าไปได้สบายมาก ที่โป่งเดือด ป่าแป๋แห่งนี้ จะมีห้องอาบน้ำแร่ไว้บริการ อย่างดีเลยทีเดียว แบบฟรีก็มี แบบเสียสตางค์ค่าบำรุงนิดหน่อยก็มี มีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้ความสะดวก หรือหากพักตามบ้านพักก็ได้อาบน้ำแร่ฟรี จะอาบจนตัวเหี่ยวก็ไม่มีใครห้าม ขอสนับสนุนกิจกรรมนี้ และที่ร้านอาหารของโป่งเดือดนอกจากมีอาหารตามสั่ง มีข้าวแกง ยังมีไข่ต้มด้วยน้ำแร่ไว้จำหน่ายอีกด้วย หรือไข่ดิบสำหรับให้เราซื้อแล้วเอาไปต้มเอง ต้มแล้วมาปอกเปลือกหาน้ำปลาพริกไปคลุกข้าวอร่อยนัก
            ติดกับร้านอาหาร มีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งขอให้เข้าไปอุดหนุนด้วย ของไม่แพงและคนขายก็คงจะเช่าร้านของอุทยาน ฯ ขายของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าซื้อกับมาคือ " ชา " และไข่เค็มที่ต้มด้วยน้ำแร่
            ขากลับก่อนจะถึงปากทางแม่มาลัย หรือถนนเชียงใหม่ - ฝาง ประมาณ ๗.๒๐๐ กิโลเมตร มีร้านแม่แตงปลาคาร์พอยู่ทางซ้าย ร้านนี้น่ารักมาก อยู่ตรงข้ามกับสวนสมุนไพร ดร.เวฬุรีย์ ซึ่งที่ร้านแม่แตงปลาคาร์พนี้ แม่ครัวเป็นถึงเนติบัณฑิต แต่ต้องการความสงบจึงมาปลูกบ้าน มาสร้างร้านเล็ก ๆ ที่น่ารักอยู่กับธรรมชาติ ขายอาหาร และเพาะปลาคาร์พจำหน่าย ใครซื้อ ๑๐ ตัว แถม ๑ ตัว อัดอากาศถุงให้สามารถอยู่ได้ถึง ๒๐ ชั่วโมง เสียดายที่ผมต้องพักที่เชียงใหม่อีกหลายคืน เลยซื้อปลาคาร์พกลับมาไม่ได้ หากจะซื้อมาก็คงต้องเอามาลงกะทะที่เชียงใหม่ แม่ครัวเอกท่านนี้ยังรับว่าความทั่วราชอาณาจักรตามอาชีพที่ร่ำเรียนมาอีกด้วย ข้อสำคัญคือทำอาหารอร่อยมาก แม้ว่าจะเป็นอาหารจานเดียวก็ตาม ได้แก่ ข้าวผัด ข้าวผัดแหนม ข้าวผัดกระเพรา ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย แถมน้ำปลาพริก ปิดท้ายด้วยกาแฟที่หวานมันชื่นใจ คลายเพลีย
            จากร้านแม่แตงปลาคาร์พ ผมยังไม่ได้เที่ยวที่ไหนต่อ วิ่งรถเข้าเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว สถานที่เที่ยวต่อไปคงต้องผลัดเอาไว้ก่อน ตอนนี้ไปชิมอาหารค่ำกับผมก่อน
            " ร้านแสนคำ " ถ้ามาเชียงใหม่ จากลำปาง มาผ่านลำพูนแล้วคงวิ่งมาเชียงใหม่ตามถนนที่เรียกกันว่าซุปเปอร์ไฮเวย์ หรือถนนซุปเปอร์อย่างที่ชาวเชียงใหม่เรียกกัน สายนี้จะมาผ่านจัดเจ็ดยอดทางขวามือตอนจะสุดถนน ต่อจากนั้นอีกสัก ๓๐๐ เมตร ก็จะถึงสี่แยกรินคำ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมรินคำ หากเลี้ยวซ้ายจะเข้าเมืองเชียงใหม่ เลี้ยวขวาจะไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และไปห้วยแก้ว หากตรงไปคือถนน " นิมมานเหมินทร์ " ซึ่งเดี๋ยวนี้กลายเป็นถนนอาหารไปทั้งสายแล้ว มีหลายชาติ หลายภาษา อาหารฟิลิปปินส์ก็มี แต่หาร้านค่อนข้างยากเพราะต้องเข้าซอยไป ร้านแสนคำ ตั้งต้นจากโรงแรมรินคำที่อยู่ปากทางถนนนิมมานเหมินทร์ วิ่งเข้ามาสัก ๕๐๐ เมตร ร้านอยู่ทางขวามือในพื้นที่ชั้นล่างของฮิลล์ไซด์คอนโดมีเนียม ๒ ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้าน ๗ อีเลฟเว่น ร้านกว้าง ห้องแอร์เย็นสบาย เพลงไพเราะ มีอาหารทั้งภาคเหนือและอาหารตามสั่งทั่ว ๆ ไป รวมทั้งอาหารจานเดียว เหมาะกินมื้อกลางวันเช่น ข้าวผัดต่าง ๆ ก๋วยเตี๋ยว มาร้านนี้หากไม่อยากกินอาหารเหนือแล้ว ควรสั่งอาหารภาคกลาง เพราะเขาทำรสเผ็ดมาก แต่ผมรู้ว่าเขาทำรสอะไร เพราะชิมกันมานานเวลามาเชียงใหม่ อยากกินอาหารเหนือที่ร้านนี้จะย้ำเขาว่า อย่าเผ็ดเป็นอันขาด
            แกงฮังเล อร่อยมาก ใช้หมูปนมันนิด ๆ ตามแบบของฮังเล เนื้อนุ่ม รสแกงเข้าแทรกในชิ้นหมู กินกับข้าวนึ่ง
            แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ต้องกันกับข้าวสวยร้อน ๆ จึงจะเด็ด
            ต้มโคล้งปลาสลิดยอดมะขาม รสแกงเปรี้ยวด้วยยอดมะขาม ไม่ใช่เนื้อมะขาม ซดร้อน ๆ ชื่นใจนัก
            ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เคี้ยวสนุกสนานดี
            ลาบเหนือ และแกงแค ต้องย้ำว่าอย่าเผ็ด จึงจะอร่อยถูกใจ ไม่งั้นกินไปร้องไห้ไปด้วยความเผ็ด หรือกินข้าวคำน้ำคำอย่างโบราณว่านั่นแหละ
            ปิดท้ายด้วยไอศกรีม หรือผลไม้ ผมชอบไอศกรีมลูกตาล กับไอศกรีมเผือกหอม สั่งมาถ้วยเดียวได้ทั้งสองอย่างเลยหวานมัน อร่อยไป

...........................................................


| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |

เชียงใหม่: ข้อมูลเชียงใหม่ ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ข้อมูลเที่ยวเชียงใหม่


 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์