แหลมเสด็จ
แหลมเสด็จ
ผมยังเวียนท่องเที่ยวอยู่ในจังหวัดจันทบุรี ถ้าจะเขียนเรื่องของเมืองจันทบุรีให้ละเอียดสักหน่อย
คงจะต้องเขียนกันสัก ๑๐ ตอน เพราะจันทบุรีนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากจริง ๆ
มีทั้งภูเขา น้ำตก ล่องแก่ง ทะเล ตลาดอัญมณี ฯ เพราะเป็นเมือง "แห่งทรัพย์ในดิน
ถิ่นผลไม้ลือชื่อ" รวมทั้งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
เพราะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมพลต่อเรือรบ เพื่อนำกำลังกลับไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจนสำเร็จ
ผมพาไปเที่ยวทางตะวันออกของเมืองจันท์มาแล้วคือ ไปวัดทองทั่ว
ไปเมืองเพนียต
ไปน้ำตกพลิ้ว
ไปวัดชากใหญ่ "คุกขี้ไก่"
ตึกแดง แล้วพาไปชิมอาหารพื้นบ้านจันทบูร
รวมทั้งซื้อของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์ของจันทบุรีเมืองผลไม้คือ การแปรรูปผลไม้
ได้แก่ ทุเรียน สละ และมังคุด ให้เป็นผลไม้พับ หอม กรอบ หวาน มัน ทำแล้วพับเป็นรูปกรวยบรรจุในกล่อง
กลับจากคุกขี้ไก่ ก็กลับเข้าเมืองพักที่รีสอร์ท ที่น่าจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในจันทบุรี
พักที่รีสอร์ทแห่งนี้กินอาหารเย็น อาหารพื้นเมืองในห้องอาหารของโรงแรม ไม่ผิดหวัง
พอวันรุ่งขึ้นออกตระเวนเที่ยวใหม่คือ ตอนกลับจากตึกแดง กลับเข้าเมืองพอออกมาสู่ถนนสุขุมวิทได้หน่อยเดียว
จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย ๓๓๔๘ เลย หรือจะกลับเข้าสู่ตัวเมืองจันทบุรีก่อน โดยมาเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมถนนปั๊มเชลล์
ก็จะไปยังสะพานตรีรัตน์ได้ แต่ผมเลี้ยวเข้ามาทางถนน ๓๓๔๘ ป้ายบอกว่า ไปค่ายเนินวง
เพราะผมจะไปค่ายเนินวง ในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฎว่าถนนสายนี้พาเข้ามายังในเมือง
มาผ่านวัดไผ่ล้อม
(พระอารามหลวง) วัดไผ่ล้อม มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
เกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ หากเลี้ยวถนนข้างวัดไปอีกประมาณ กม.เศษ ก็จะถึงโบสถ์คาทอลิค
ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ วัดนี้งามนัก เป็นวัดคาทอลิค
ศิลปะโกธิค ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตกแต่งด้วยกระจกสีติดผนัง
เป็นภาพคริสต์ศาสนาที่งดงามอย่างยิ่ง ไม่ว่านับถือศาสนาใด ควรแก่การเข้าชม
เมื่อผ่านวัดไผ่ล้อมมาแล้ว มาผ่านร้านคุณแดง ที่อยู่ตรงข้ามโรงแรม เค.พี.แกรนด์
วันที่ผ่านไปกำลังรื้อร้าน เสียดายฝีมืออาหารพื้นเมือง และกล้วยเสวยหาร้านใดเทียมยาก
แต่พอมาชิมที่ห้องอาหารของรีสอร์ท ก็ยังมีฝีมือระดับนี้ให้ชิม ผ่านหน้า เค.พี
แกรนด์ ก็มาข้ามสะพานตรีรัตน์ ข้ามแม่น้ำจันทบุรี ถนนจะบังคับเดินทางเดียว
มาผ่านย่านขายอัญมณี ผ่านทางเข้าตลาดน้ำพุ
เป็นตลาดสด ของกิน ของฝากมากมาย ไปเมืองจันท์แวะตลาดน้ำพุ ให้ได้สักครั้ง
ผ่านต่อไปจนกระทั่งถึงริมทะเลสาบ (ผมเรียกเอง) ที่ขุดล้อมรอบบริเวณที่สร้างราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช
และจัดงาน "มหกรรมทุเรียนโลก" ผมไปในคืนแรก ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมาเปิดงาน
มีพิธีในตอนเย็น มีประกวดผลไม้ ที่สำคัญคือ การประกวดทุเรียน แบบลูกใหญ่ แบบรสอร่อย
ผลไม้อื่นเห็นมี มังคุด, ลองกอง และสละ เงาะจำไม่ได้ว่ามีประกวดหรือเปล่า
เดินเที่ยวงานที่ร้านอาหารมาออกขายสินค้า ของที่ระลึก พอเมื่อยก็กลับไปกินอาหารค่ำที่ห้องอาหารมณีจันท์
รีสอร์ท เช้าวันรุ่งขึ้น หลังอาหารเช้าในโรงแรมแล้วก็ออกด้านหลังของโรงแรม
มาเลี้ยวขวาเข้าถนนสายที่ว่า เข้ามาจากสุขุมวิท ผ่านทางปั๊มเชลล์ มาข้ามสะพานตรีรัตน์
มายังถนนเลียบถนนทะเลสาบ ผ่านธนาคารกรุงเทพ ฯ เพื่อไปยังค่ายเนินวง
ในตัวเมืองจันทบุรี สถานที่ควรแก่การไปท่องเที่ยว ไปกราบไหว้เคารพบูชาก็มี
พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ไปศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ถนนท่าหลวง
หน้าค่ายทหารเรือ ไปศาลหลักเมืองจันทบุรี อยู่คนละฟากถนนกับศาล ฯ ไปถนนอัญมณี
ได้แก่ บริเวณถนนศรีจันท์ และตรอกกระจ่าง เป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
แถวนี้ผมไม่เฉียดเข้าไปกลัวควักกระเป๋าจ่ายไม่ทัน และวังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี
ริมทางหลวง ๓๑๖ และริมถนนสุขุมวิท ตอนมาจากกรุงเทพ ฯ ผ่านสี่แยกเขาไร่ยา เลยสี่แยกจะอยู่ทางขวามือ
ถึงสี่แยกเขาไร่ยา เลี้ยวขวาเข้าเมือง เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ๓๒๔๙ จะไปยัง อช.
เขาคิชฌกูฎ หลัก กม.๓ มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร (จันทบุรีมีหลายแห่ง)
คือ สวนวงษ์วิทย์ ชิมผลไม้จากต้น ดูการกวนทุเรียน เลยไปถึงหลัก กม.๔ มีฟาร์มจระเข้
และสวนสัตว์ชำโสม มีทางแยกซ้ายไปยังวัดเขาสุกิม ซึ่งพระอาจารย์สมชาย มรณภาพไปแล้ว
ละไว้แต่อนุสรณ์ที่ควรแก่การไปชม และสักการบูชา
ค่ายเนินวง ไปตามถนนที่เลียบทะเลสาบ ผ่านธนาคารกรุงเทพ ฯ ตรงไปตามถนนท่าแฉลบสาย
๓๑๔๗ (จันทบุรี - ท่าใหม่) พอไปประมาณ ๑ กม. จะมีทางแยกซ่ายไปยังอู่ต่อเรือพระเจ้าตาก
ตรงต่อไปประมาณ ๕ กม. จะถึงทางแยกขวาเข้าไปยังค่ายเนินวง ยังอยู่ในท้องที่
ต.บางกะจะ เขต อ.เมืองจันทบุรี ค่ายเนินวง สร้างเพื่อรับศึกญวน ที่จะมาทางทะเล
รัชกาลที่ ๓ โปรดให้สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๗ ภายในเมือง หรือค่ายเนินวงนี้มีศาลหลักเมือง
และวัดโยธานิมิต ยังมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตามริมกำแพงเมืองหลายกระบอก
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี
อยู่ในค่ายเนินวง พอผ่านประตูค่ายเข้ามา เลี้ยวขวามาสัก ๕๐ เมตร อยากรู้เรื่องเรือต้องมาที่นี่
มีอยู่แห่งเดียวในประเทศไทย ชมโบราณวัตถุจากซากเรือใต้ท้องทะเลไทย ชมเรือจำลองที่คนขึ้นไปเดินชมได้
ฯ
วัดพลับ
ออกจากค่ายเนินวง เลี้ยวขวาไปตามถนนไป อ.ท่าใหม่ ประมาณ ๑ กม. มีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าวัดพลับ
บางกะจะ วัดนี้คือสถานที่รวมพลของทัพพระยาตาก
ก่อนที่จะยกเข้าตีเมืองจันทบุรี เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ ได้กระทำพิธีประพรมน้ำมนต์
และสร้างพระยอดธงแจกจ่าย น้ำมนต์วัดพลับจึงศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง นับเป็น
๑ ใน ๑๘ แห่งที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
ภายในวัดมี วิหาร พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา หอไตรกลางน้ำ ปรางค์บรรจุพระยอดธง
อ่าวคุ้งกระเบน - หาดเจ้าหลาว แหลมเสด็จ
คงจะต้องนำเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน เพราะอยู่ในแนวเดียวกัน ติดต่อกันไป เส้นทาง
มาจากค่ายเนินวง ตามป้ายหรือดูจากหลัก กม. ไปจนถึง อ.ท่าใหม่ วิ่งเข้าตัวอำเภอ
ตามถนนสายหลักคือ เหมือนบังคับให้วิ่งไปจะพบหอนาฬิกา ให้เลี้ยวไปตามถนนท่าใหม่คุ้งกระเบน
พบสามแยก หากเลี้ยวขวาจะไปยังอ่าวคุ้งวิมาน ให้เลี้ยวซ้ายวิ่งมาจนผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
ในโครงการพระราชดำริ เลยต่อไปอีกนิดเดียว เลี้ยวซ้ายไปยังชายหาด พบสามแยก
เลี้ยวซ้ายไปยังหาดเจ้าหลาว
หาดสวย มีร้านอาหารหลายร้าน ร้านแบบชายทะเลชะอำ ก็มี คือ ตั้งอาหารสดไว้หน้าเพิงของร้าน
มีโต๊ะพอนั่งกินได้ สั่งอาหารทะเลสด ๆ มาชิมได้ จุดที่เลี้ยวซ้ายมาหาดเจ้าหลาว
หากเลี้ยวขวาจะมายังบริเวณของอ่าวคุ้งกระเบน และไปสุดทางที่แหลมเสด็จ มีวัดแหลมเสด็จ
ซึ่งเป็นสาขาของวัดเขาสุกิม มีอาคารที่พักสำหรับผู้มาปฎิบัติธรรม
อ่าวคุ้งกระเบน
จะเหมือนปลากระเบน เป็นทะเลใน (Lagoon) เป็นเวิ้งอ่าวที่ถูกปิดด้วยสันทราย
มีทางเข้าออกของน้ำทะเลเพียงทางเดียว ต้องไปดูจากจุดชมวิว ที่อ่าวคุ้งวิมาร
จะเห็นเวิ้งอ่าวที่สวยมาก มากันเป็นหมู่คณะพักที่ศูนย์พัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
ก็ได้ ๐๓๙ ๓๖๙ ๒๑๕ - ๘ หาดแหลมเสด็จที่อยู่ต่อไปจากอ่าวคุ้งกระเบน
หาดทรายจะสวยมาก และงามด้วยทิวสน ทะเลริมหาดโค้ง หาดนี้เมื่อก่อนมีปลาพยูน
เดี๋ยวนี้เหลือเพียงอนุสรณ์ "หมูดุด เจ้าแห่งคุ้งกระเบน"
ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนา ฯ ที่เวลากลับออกไปจากแหลมเสด็จ จะอยู่ทางซ้ายมือ
วิ่งรถเข้าไปชมได้ แล้วลงรถเดินชมป่าชายเลน ไปตามสะพานไม้ และหากวิ่งรถเข้าไปตอนในจะเห็นบ่อเลี้ยงกุ้ง
มีศาลาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ๘ ศาลา คือ ศาลากำเนิดอ่าวคุ้งกระเบน ศาลาไม้เบิก
ศาลาดงฝาด งามด้วยดงฝาด ศาลาป่าปลูก ศาลาปู่แสม ศาลาโกงกาง ศาลาประมง ที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบปิด
สุดท้ายคือ ศาลาเชิงทรง
แหลมเสด็จ
มีสถานที่กางเต็นท์ หาดทรายสีขาวหม่น มีร้านอาหารทะเลหลายร้าน ได้เลือกชิมร้านติดกับ
จังเกิล เบย์ รีสอร์ท ก่อนถึง วัดแหลมเสด็จ ที่อยู่เชิงเขาสุดทาง ร้านอยู่ฝั่งขวา
เพิงที่นั่งฝั่งซ้ายติดชายหาด
หอยแมลงภู่อบ, หอยแครงลวก อาหารร้านนี้สดมาก จากทะเล มีน้ำจิ้มรสแซ่บ
ปลากะพง ทอดราดน้ำปลา แปลกกว่าที่อื่นคือ ใช้ปลาทอดมาทั้งตัว ไม่ผ่าแบะออก
น้ำราดชุ่มตัวปลา และเป็นน้ำขลุกขลิก รองรับตัวปลา ด้านติดน้ำรองตัวปลาจะอร่อยมาก
วางมะม่วงหั่นฝอย หอมแดง ผักสลัดไว้ข้างจาน กินปลาตัวนี้คุ้มที่เข้ามาชิม
ปูทะเลผัดผงกะหรี่ ส่งกลิ่นหอม มาแต่ไกล
ไข่เจียวหอยนางรม ขาดไม่ได้ ปิดท้ายด้วยข้าวผัดปู ของหวานไม่มี แต่มีเด็กมาเร่ขายขนมจาก
ที่ปิ้งมาร้อน ๆ นึกว่าช่วยซื้อเด็ก ปรากฎว่าขนมจาก อร่อยมาก ๓ กำ ร้อยบาท
อิ่มแล้ว วิ่งเลียบชายหาดไปก่อน ไปผ่านศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
ฯ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง
และสุดท้ายเข้าไปเที่ยวในศูนย์ศึกษาการพัฒนา
ฯ
ออกจากอ่าคุ้งกระเบน กลับมาแล้วแยก (ตามป้าย) ไปยังอ่าวคุ้งวิมาน
ระยะทางจากจุดแยกไปอีก ๗ กม. หรือจะมาจากถนนสุขุมวิท แยกเข้ามาที่ กม.๓๐๒
วิ่งมาอีก ๒๖ กม. ก็จะมายังคุ้งวิมาน คุ้งกระเบน แหลมเสด็จ และหาดเจ้าหลาว
ได้เช่นกัน
เมื่อมาถึงจุดแยก มีป้ายบอกว่าไปทางซ้าย ไปจุดชมวิวเนินนางพญา
๑,๙๐๐ เมตร พระสังกัจจายน์ ทางขวาไปหินโคร่ง (โขดหินไปนั่งตกปลา) บ่อน้ำจืดในน้ำเค็ม
ไปทางซ้ายก่อนวิ่งลัดเลาะไปตามชายเขา ริมทะเลสวยมากไปถึงจุดชมวิว บอกว่าชมวิวตรงนี้
วิวสวยที่สุดในภาคตะวันออก มองอีกด้านเห็นทะเลในอ่างคุ้งกระเบนชัดเจน มีร้านอาหารริมหาดสัก
๑๐ ร้าน และที่มีชื่อนี้เพราะว่า มีครอบครัวชาวจีนอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่
พบแผ่นดินที่สมบูรณ์ แต่พอดีเรือสำเภาต้องพายุเรือล่ม หัวหน้าครอบครัวจึงบอกกับลูก
ๆ ว่า ให้อดทน เมื่อถึงฝั่งก็เหมือนได้ขึ้นวิมาน จึงตั้งชื่อว่า "หาดคุ้งวิมาน"
..........................................................
|