ทริปนี้ดูเอเซีย.คอม พาเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงรายครับ วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองเชียงราย มาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ควรคู่แก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้แก่ชนรุ่นหลัง ทริปนี้ดูเอเซียเลยอาสาพาเรียนรู้ที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงรายครับ
วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย เป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฎว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่บริเวณนี้มีไม้ไผ่ชนิดหนึ่งคล้ายไผ่สีสุก แต่ไม่มีหนาม ชาวบ้านนิยมนำไปทำคันธนู และหน้าไม้ ชาวเชียงรายจึงเรียกว่าวัดป่าเยี้ย ต่อมาในปี พ.ศ.1977 ฟ้าผ่าเจดีย์ที่ตั้งอยู่หลังพระอุโบสถ จึงได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทององค์หนึ่ง ต่อมาปูนกระเทาะออกจึงพบเห็นองค์พระพุทธรูปเป็นสีเขียวทั้งองค์ หลังจากนั้นวัดนี้จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า วัดพระแก้วครับ
ตามประวัติกล่าวว่าเจ้ามหาพรหมผู้ครองเมืองเชียงรายเป็นผู้อัญเชิญพระแก้วมรกต มาจากเมืองกำแพงเพชร ในช่วงเวลานั้นสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะสู้ดีนักจึงได้พอกปูนทับองค์พระแก้วมรกตแล้วนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์วัดป่าเยี้ย อีก 45 ปีต่อมาเกิดฟ้าผ่าที่องค์เจดีย์ พบพระพุทธรูปลงรักปิดทององค์หนึ่งตกลงมาจากเจดีย์จึงได้อัญเชิญไปไว้วิหาร หลวงได้ 2 เดือน ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิก ( จมูก ) กระเทาะออกจึงเห็นเป็นแก้วสีเขียว เจ้าอาวาสได้กระเทาะปูนออกจึงปรากฎเป็นพระแก้วสีเขียวทั้งองค์
ในช่วงเวลานั้นเชียงรายอยู่ภายใต้การปกครองของเชียงใหม่ในยุคสมัยของพระเจ้าสามฝั่งแกน เมื่อทราบข่าวจึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปเมืองเชียงใหม่ รวมระยะเวลาที่พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ที่เชียงรายเป็นเวลา 45 ปี วัดป่าเยี้ยที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจึงถูกเรียกต่อๆ กันมาว่า วัดพระแก้ว
วัดพระแก้วมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่สำคัญมากมาย อีกทั้งวัดนี้ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ของเหล่าพุทธศาสนิกชน รวมถึงพระภิกษุ สามเณร ภายในวัดพระแก้วยังมีอาคารสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ หอพิพิธภัณฑ์ โรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม และหอพระหยกเชียงรายที่ประดิษฐานพระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยก สร้างขึ้นเป็งองค์แทนพระแก้วมรกตที่ถูกค้นพบ ณ เจดีย์วัดพระแก้วเป็นแห่งแรก
พระอุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2433 มีขนาดกว้าง 9.50 เมตร ยาว 21.85 เมตร เดิมเป็นพระวิหาร ต่อมาได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ได้ ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา และบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2503 พระอุโบสถ หลังนี้มีความวิจิตรงดงามมาก เป็นการก่อสร้างแบบทรงเชียงแสน มีลักษณะฐานเตี้ย เชิงหลังคาลาดต่ำ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน ซึ่งชาวเชียงรายเรียกพระประธานองค์นี้ว่า “พระเจ้าล้านทอง” พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ถือเป็นพระพุทธรูปในสกุลช่างศิลปปาละที่ใหญ่ และสวยที่สุดในประเทศไทย
พระเจ้าล้านทอง หน้าตักกว้าง 2 เมตร สูงจากเกตุถึงยอดพระรัศมี 2.80 เมตร รอบพระเศียร 1.60 เมตร นั่งขัดสมาธิราบ พระรัศมีเป็นลักษณะมีดอกบัวตูมอยู่ในเปลวเพลิง ชายสังฆฏิสั้นเหนือรายพระถัน เม็ดพระศกใหญ่ พระหนุเป็นปมใหญ่และชัดมาก พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นพระพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเชียงรายเคารพนับถือเป็นอย่างมาก แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเจ้าล้านทอง ต่อมากลายเป็นวัดร้างจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดดอยงำเมือง และได้เชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานที่วัดพระแก้วเมื่อปี 2504 เป็นต้นมา
พระแก้วหยก เป็นพระพุทธรูปหยกที่คณะสงฆ์และเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายร่วมกันสร้างขึ้น เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2533 โดยพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2434 หลังจากนั้นชาวเชียงรายได้อันเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดพระแก้ว เรียกว่า พระหยกเชียงราย ตั้งแต่นั้นมา
พระเจดีย์ เป็นสถานที่ค้นพบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ( พระแก้วมรกต ) เมื่อ พ.ศ. 1977 เป็นพระเจดีย์ฐานรูปแปดเหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมกว้าง 5.20 เมตร วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 9.50 เมตร เมื่อครั้งท่านเจ้าคุณพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์เป็นเจ้าอาวาส ได้มีการขออนุญาตกรมศิลปากรบูรณะ ตั้งแต่ พ.ศ.2495 – 2497 และได้รับการบูรณะครั้งใหม่ โดยมีการหุ้มทองแผ่นทองแดง และลงรักปิดทอง เมื่อครั้งที่พระเทพรัตนมุณี เป็นเจ้าอาวาส
อาคารสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์งานสมโภชสมณศักดิ์เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ( สุวรรณ สุวัณณโชตมหาเถร ) ปฐมสมเด็จของล้านนา เป็นอาคาร 4 ชั้น ขนาดกว้าง 25 เมตร ยาว 40 เมตร
บรรยากาศภายในวัดพระแก้วร่มรื่น และอากาศเย็นสบาย มีต้นไม้ทั้งน้อยทั้งใหญ่ปลูกเรียงรายทั่วบริเวณวัด และต้นไม้ที่ปลูกภายในวัดก็ยังมีป้ายบอกชื่อด้วยว่าแต่ละต้นมีชื่อว่าอะไร นอกจากนี้ก็ยังมีต้นสมุนไพรท้องถิ่นไว้ให้ศึกษาเรียนรู้ มีสระน้ำขนาดกลางเป็นบ่อเลี้ยงปลา และเต่า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาทำบุญปล่อยปลา ปล่อยเต่า หรือจะให้อาหารปลา ก็ได้ครับ
การมาเที่ยวที่วัดพระแก้วในทริปนี้ นอกจากจะได้ชื่นชมความวิจิตรงดงามภายในวัดแล้ว ยังได้สงบจิต สงบใจ ไปพร้อม ๆ การเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ หากเพื่อน ๆ มีโอกาสมาที่เชียงราย ก็อย่าลืมที่จะเที่ยวแบบบูรณาการที่วัดพระแก้วแห่งนี้นะครับ สำหรับทางมาวัด ก็เริ่มจากห้าแยกพ่อขุนเม็งราย กลางตัวเมืองเชียงรายเลยละกัน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสิงหไคล แล้วตรงมาเรื่อย ๆ จนสุดทางสามแยก เลี้ยวซ้ายประมาณ 100 เมตร จะเห็นวัดพระแก้วอยู่ทางขวามือครับ
ขอบคุณภาพ www.facebook.com/Watphrakeawchaingrai