เกาะหินงาม

0

เกาะหินงาม จ.สตูล

ถ้าเอ่ยถึงเกาะ แน่นอนว่าเพื่อน ๆ ต้องนึกถึงชายหาดสวย ๆ สีขาวน้ำตาลทราย ทอดเป็นแนวยาวบวกกับน้ำทะเลใส ๆ ด้วยแล้ว นั้นมันเกาะสวรรค์ชัด ๆ แต่ทริปนี้ดูเอเซียดอทคอมจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวเกาะแบบไม่มีหาดทรายกันบ้าง ที่เกาะนี้มีแต่หินที่เรียงรายทับถมกันเป็นเวลาหลายล้านปีจนกลายเป็นเกาะ ๆ หนึ่งขึ้นมา และที่เกาะนี้มีความแปลกตรงที่หินมันเรียงรายกลายเป็นทางเดินแนวยาวเหมือนชายหาด ชาว จ.สตูลเรียกที่นี้ว่า “เกาะหินงาม” เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่งเป็นอุทยานทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทยเรานี้เอง และถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้นั่งเรือออกท่องเที่ยวไปตามเกาะต่าง ๆ ของทะเลอันดามัน แต่ที่สะดุดตาและไม่เหมือนใครเลยก็คงต้องหนีไม่พ้น “เกาะหินงาม” แห่งนี้แน่นอน เรามาดูกันดีกว่าว่า ที่เกาะหินงามนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

เกาะหินงามเป็นเกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของเกาะอาดัง ทั้งเกาะนี้เต็มไปด้วยหินสีดำกลมเกลี้ยงเป็นมันวาว เรียงกันสวยงามมาก ๆ ค่ะ เล่ากันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครนำติดตัวกลับไปด้วยจะเกิดแต่หายนะ โอ้! ฟังแล้วน่ากลัวมาก ๆ แต่ว่าหากเพื่อน ๆ ไปชมแล้วเรียงก้อนหินได้ 12 ชั้น แล้วอธิษฐานขอพรก็จะได้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง ว้าว! อันนี้แหละ ที่น่าสนใจค่ะ เพราะคนไทยชอบเรื่องอะไร ๆ ที่มันศักดิ์สิทธิ์และมีความเล้นลับ ทำให้ที่เกาะหินงามแห่งนี้เป็นอีกเกาะในอุทยานแห่งชาติเกาะตะตุเตา ที่ได้รับความนิยมจากนั่งท่องเที่ยวที่ต้องแวะขึ้นมาชมความงามและลองเรียงหินขึ้นให้ได้ 12 ชั้น เพื่อที่จะได้สมความปรารถนา บางคนก็เรียงได้ บางคนก็เรียงไม่ถึง แล้วแต่บุญกรรมและความพยายามของแต่ล่ะคนแล้วกันน่ะค่ะ

เกาะหินงาม เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย ใด ๆ เลยทั้งเกาะ มีแต่ต้นไม้เล็ก ๆ ขึ้นบนเกาะ และรอบบ ๆ เกาะมีหินกลมมนสีดำมีลักษณะมันวาวคล้าย ๆ กับหินที่เอาไว้ประดับในตู้ปลา มีอยู่มากมายทับถมกันไปทั่วทั้งเกาะ กลายเป็นจุดเด่นหรือลักษณะเฉพาะที่ซึ่งมีอยู่เกาะเดียวในประเทศไทยเลยค่ะ หินเหล่านี้มีทั้งก้อนใหญ่และเล็กถูกน้ำพัดพามากองกันไว้ด้วยกันและการที่หินทุกก้อนกลมมน ลวดลายสวยงามแปลกตานั้น เกิดจากการกัดกร่อนด้วยแรงลมและคลื่นจนทำให้หินเหล่านี้มากองรวมกันได้อย่างแปลกประหลาด นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ๆ และหินเหล่านี้เมื่อถูกน้ำทะเลสาดใส่มันจะแวววามและเปล่งประกายสวยงามยิ่งวันไหนแดดจ้าล่ะก็ แสงของแดดจะลงมากระทบกับก้อนหินที่มันวาวทำให้เกาะหินงามดูสว่างมาก ๆ เหมาะแก่การถ่ายภาพที่สุด แต่ในวันที่เราไปโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ อากาศครึ้ม ๆ หน่อย ๆ ทำให้ไม่มีแดดสาดส่องลงมาในตอนที่อยู่เกาะหินงาม แต่ก็ทำให้อากาศดีไม่ร้อนค่ะ ก็ถือว่าได้อย่างเสียอย่าง และบนเกาะหินงามแห่งนี้ ไม่มีที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเกาะร้างที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมความสวยงามในตอนกลางวันเท่านั้น

บนเกาะมีป้ายเตือนเกี่ยวกับคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาอยู่มีใจความว่า “ผู้ใดบังอาจเก็บหินงามจากเกาะนี้ไป ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายนะ นานานับประการ” ยิ่งได้ฟังเรื่องเล่าจากพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลความปลอดภัยบนเกาะหินงามแล้ว ยิ่งขนลุกเลยค่ะ เพราะว่าเมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเคยมาเที่ยวแล้วนำหินที่เกาะกลับไปด้วย แต่สุดท้ายนักท่องเที่ยวคนนั้นก็ต้องนำหินกลับมาคืนที่เกาะ เพราะทนความเฮี้ยนของคำสาปไม่ไว้… น่ากลัวไหมค่ะ เพื่อน ๆ เก็บแต่ภาพความประทับใจกลับมาจะดีกว่าค่ะ ปล่อยให้เค้าอยู่ในที่ของเค้าน่าจะดีที่สุด

การเดินทาง

ไม่อยากค่ะ นั่งเรือมาจากท่าเรือปากบารา สู่เกาะหลีเป๊ะ แนะนำว่าพักเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้วค่อยเหม่าเรือจากเกาะหลีแป๊ะมาจะสะดวกที่สุดค่ะ เพราะเกาะหินงาม เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะอาดังประมาณ 2.5 กิโลเมตร นั่งเรือหางยาวจากเกาะหลีเป๊ะไปจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก่อนถึงเกาะหินงามจะผ่านเกาะจาบัง ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่เหทาะแก่การดำน้ำดูปะการัง มาก ๆ ค่ะ

เป็นไงค่ะกับความสวยงามและความแปลกตาไม่เหมือนใครของเกาะหินงาม หนึ่งเดียวในประเทศไทยเลยค่ะ นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ๆ ที่ก้อนหินเหล่านี้มารวมตัวทับถมกันจนเกิดเกาะ ๆ หนึ่งขึ้น นับว่าเป็นที่ ๆ ควรมาสัมผัสกันสักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ มาเรียงหินให้ครบ 12 ชั้นกัน เผื่อสิ่งที่เราหวังจะได้สมความปรารถนาสักที อิอิ

หากเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่ จ.สตูล อย่าลืมแวะมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาแห่งนี้ มีเกาะสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ เลือกลงไปสัมผัสกับความงามค่ะ แต่ยังไงก็ห้ามพลาดเกาะหินงามน่ะค่ะ สุดยอดมากๆ 

 ขอบคุณภาพ เกาะหินงาม (หมู่เกาะอาดัง-ราวี) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล

เชิญแสดงความคิดเห็น