ดูเอเซีย.คอม พาดูพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะหลีเป๊ะ เกาะสวรรค์บนทะเลอันดามัน เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่เงียบ มีปลานีโม่มากให้ว่ายน้ำให้ได้ดูกันด้วย เกาะหลีเป๊ะ แห่งนี้มีหาดที่ชื่อว่าหาดพัทยา หาดพัทยาเป็นหาดเล็กๆ มีนักท่องเที่ยวมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเดินเที่ยว พักผ่อน เดินเล่นกินลมชมวิว อยู่เรื่อยๆไม่ขาดสาย ตอนที่เกิดสึนามิ เกาะหลีเป๊ะนี้ไม่โดนกับเขาเลย เพราะมีเกาะเล็กเกาะน้อยกั้นอยู่โดยรอบ ยากนักที่จะเกิดสึนามิขึ้นได้
เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ มีชาวบ้านหรือคนในพื้นที่มาขายอาหารอยู่ตลอดแนว อาหารทะเล ผลไม้ไทยๆ อาหารตามสั่ง โรตีผลไม้ มีกันตลอดเส้นทางเดิน ถนนหนทางก็ไม่ได้ลาดยาง เป็นแบบทางเดินเท้านี่แหละที่นักท่องเที่ยวแสวงหา
เกาะหลีเป๊ะเพิ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วนี่เอง หากถามถึงตอนนี้ก็มีนักท่องเที่ยวไม่มาก อาหารการกินก็สมบูรณ์ ส่วนเรื่องน้ำก็มีน้ำบาดาลให้ใช้กัน เพราะเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้สมบูรณ์มากจึงมีน้ำบาดาล แต่ด้วยความที่ยังคงมีธรรมชาติมากกว่าที่อื่น ชาวบ้านที่นี่ก็ยังคงช่วยกันอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติไว้ เช่นไฟฟ้า เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้มีไฟฟ้าใช้เหมือนกับเกาะอื่นๆ แต่จะเปิดปิดตามเวลาตั้งแต่ 18:00 น.- 6:00 น. หากใครที่อยากจะชาต์แบตเตอร์รี่อะไรๆก็เป็นเวลานะครับ ดูเอเซียบอกก่อนล่วงหน้าการเดินทาง
เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้มำไฮไลท์ที่อยากจะนำเสนอก็คือ “พลายน้ำ” พลายน้ำก็คือฟอสฟรอรัส หรือสารเรืองแสงนั่นเอง การคืนเดือนมืดจะเห็นได้ชัดมากเพราะจะเรืองแสงได้ดี แต่หากเดือนหงายหรือพระจันทร์เต็มดวง จะไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่ หากใครที่มองภาพไม้ออกว่าเป็นอย่างไร ก็ลองนึกถึงตอนที่พี่เบริ์ด ธงไชย แม็คอินไตย ซุปเปอร์สตาร์ของเราที่มาเป็นพรีเซ้นเตอร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มาตีน้ำตอนกลางคืนกับน้องสุดใจและน้ำก็เรืองแสงสวยงาม นั่นและเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ก็เป็นเช่นนั้น หากที่ไหนสมบูรณ์มากจะมีฟอสฟรอรัสอยู่
พระอาทิตย์ตกดินยามเย็น มีนักท่องเที่ยวมานั่งเล่นพักผ่อนเต็มหาดไปหมด เพราะพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมาก ใครที่ต้องการดูพระอาทิตย์ตกดินหลีเป๊ะให้มามาดูอีกฟากของหาดพัทยา เพราะหากอยู่ที่หาดพัทยาก็จะมองไม่เห็น พระอาทิตย์สีส้ม ท้องฟ้าน้ำทะเลสีส้ม มีเรือประมงวิ่งผ่านไปมา สวยงาม เงียบสงบ ความเป็นส่วนตัวมีอยู่มาก อย่างที่เราได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนกันนั่นไง
การเดินทางไปที่เกาะหลีเป๊ะนี้ถึงแม้จะไกลหน่อยแต่คุ้มค่าหรือคุ้มเกินคุ้ม เพราะสวยงามจริงๆ จากกรุงเทพไปท่าเรือปากบาราใช้เวลาเดินทาง1คืนเต็มๆจากท่าเรือปากบาราขึ้นเรือประมงใหญ่ๆไปอีก 4 ชั่วโมงก็ถึงเกาะหลีเป๊ะดูเอเซีย.คอม ขอแนะนำท่านที่มีเวลาไม่มากนักให้ท่องเที่ยวแบบทัวร์ 5วัน4คืนก็ได้หากใครที่มีเวลาเยอะก็เดินทางเองก็ได้แต่ต่องไปนานๆหน่อยเพราะจะได้คุ้มค่าการเดินทางครับผม
หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
สำนักงานจังหวัด โทร.0 7471 1055
ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร.0 7472 1375
สถานีตำรวจภูธร โทร.0 7473 2502-3
สถานีตำรวจน้ำสตูล โทร.0 7471 1043
ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ใกล้สุเหร่า) โทร.0 7471 1080
เทศบาลตำบลกำแพงอำเภอละงู โทร.0 7478 1382,0 7478 1338
โรงพยาบาลจังหวัดสตูล โทร.0 7472 3500-1
ตำรวจท่องเที่ยว โทร.1155
ตำรวจทางหลวง โทร.1193
สตูลอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 973 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,478 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลยาว 80 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเนินสูง มีที่ราบป่าเขา ห้วยลำธารในเขตภาคตะวันออกของจังหวัด ตอนกลางใกล้ชายทะเลเป็นที่ราบ มีภูเขาและที่ราบลุ่ม ส่วนชายฝั่งทะเลเป็นที่ราบและป่าชายเลนน้ำท่วมถึง มีป่าโกงกางและไม้แสมมาก นอกจากนี้ในเขตจังหวัดสตูลยังมีหมู่เกาะต่างๆ อีกกว่าร้อยเกาะ ที่รู้จักกันดีได้แก่ หมู่เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง-ราวี และหมู่เกาะเภตรา
ที่ตั้ง อยู่ระหว่างเกาะตะรุเตากับหมู่เกาะอาดัง – ราวี ห่างจากเกาะตะรุเตาประมาณ 15 กิโลเมตร
การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือปากบารา – เกาะตะรุเตา – เกาะหลีแป๊ะ เรือโดยสารจะแล่นผ่านเกาะไข่ ซึ่งอยู่ระหว่างทาง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือเฟอร์รี่ปรับอากาศชั้นหนึ่ง ความเร็วสูง ของ บริษัท ไทเกอร์ไลน์ ทราเวล จำกัด เรือเฟอร์รี่จะแถมบริการพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว โดยการนำพาเรือเฟอร์รี่ให้เข้าใกล้เกาะไข่ ให้ได้มากที่สุด และเรือเฟอร์รี่จะทำการจอดหยุดนิ่งประมาณ 10 นาที เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเพื่อชื่นชม และเก็บภาพ “ซุ้มประตูหินโค้ง” อันแสนประทับใจอย่างใกล้ชิด และสวยงามอย่างที่สุด