น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน

0

หากว่าเราได้เดินทางสู่ดินแดนล้านนาอันอุดมด้วยป่าเขาดอยสูงมากมาย เป็นดินแดนที่ที่ทุกคนปรารถนาไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นแล้ว ก็มีเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นเมืองลำปาง มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ทุกคนอยากไปสัมผัส คือ “น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน” อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และยังประกอบด้วยธรรมชาติป่าเขา สายน้ำตกอื่นๆ อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ด้วย จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของจังหวัดลำปาง

ใครที่ชอบอาบน้ำร้อน นอนแช่น้ำแร่ ก็ไม่ผิดหวัง  เพราะที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน นั้นประกอบด้วยธรรมชาติที่ทำให้ทุกคนมีความสุข ผ่อนคลายความตึงเครียด มีลมหายใจธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแจ้ซ้อนที่สวยงาม บ่อน้ำร้อนที่สวยงามในยามเช้า และเราก็จะพบความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 73 องศาเซลเซียส

การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จะเป็นเส้นทางที่สะดวกสบาย เป็นทางราดยางที่รถทุกชนิดเข้าไปถึง ปัญหาอุปสรรคการเดินทางก็ไม่มีอะไรมากนัก ยกเว้นว่าเราจะเลือกเส้นทางวิ่งจากแจ้ซ้อนไปออกเชียงใหม่ที่ต้องใช้เส้นทางลูกรังขึ้นเขาจะข้ามดอยที่สูงชัน จนไปออกถนนสายดอยสะเก็ด-แม่ขะจาน เส้นทางสายนี้เหมาะสำหรับรถปิ๊กอัพหรือรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เราสามารถลัดไปเชียงใหม่ได้ใกล้กว่ากัน จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน คือ น้ำพุร้อน เป็นน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ประกอบด้วยบ่อเล็กบ่อน้อยถึง 9 บ่อ อยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีอุณหภูมิ โดยเฉลี่ยประมาณ 73 องศาเซียลเซียส

  

ทางอุทยานฯ ได้จัดห้องอาบน้ำแร่ไว้ในมุมที่เป็นธรรมชาติ มีความกลมกลืนกับพื้นที่ มีทั้งห้องแช่ส่วนตัว กับห้องตักอาบ โดยเฉพาะห้องแช่ส่วนตัวนั้นมีการออกแบบได้มาตรฐานของห้องอาบน้ำแร่ทั่วไป มีท่อน้ำเย็นสำหรับนำมาผสมกับน้ำร้อน เพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมข้อระเบียบข้อระวังการอาบน้ำแร่ด้วย เพราะการอาบหรือแช่นานเกินไปก็มีผลต่อสุขภาพด้วย อาจเป็นลมหน้ามืดได้ และในบริเวณใกล้เคียงก็มีน้ำตกแจ้ซ้อน ซึ่งมีอยู่ 6 ชั้น มีน้ำตลอดปี และไหลมารวมกับสายน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วไป

จากน้ำร้อนมาเป็นน้ำเย็นที่เราสามารถสัมผัสธรรมชาติได้ 2 รูปแบบในครั้งเดียวกัน โดยเฉพาะเส้นทางน้ำตกเราสามารถท่องเที่ยวไปได้ครบทุกชั้น จะมีเส้นทางให้เดินเลียบขึ้นตามชั้นหน้าผาธรรมชาติของน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนแห่งนี้ มีศักยภาพเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบ ยิ่งช่วงหน้าหนาวก็จะเป็นบรรยากาศที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในช่วงยามเช้าบริเวณบ่อน้ำร้อนจะมีบรรยากาศที่งดงาม ประกอบไปด้วยไอหมอกที่ลอยกรุ่นอยู่เหนือบ่อน้ำร้อน จึงช่วยให้บรรยากาศที่บ่อน้ำพุร้อนเกิดเป็นภาพความงดงามที่ตระการตา นอกจากสถานที่เหล่านี้แล้วก็ยังมี น้ำตกแม่มอน น้ำตกแม่ขุน ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยังคงเป็นธรรมชาติและมีสายน้ำไหลตลอดปีอยู่ท่ามกลางผืนป่าแห่งนี้

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกจัดวางระบบไว้เป็นอย่างดี มีบ้านพัก มีลานตั้งแค้มป์ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีร้านอาหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้หลายอย่าง จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ทีเดียวข้อมูลการเดินทาง  จากตัวเมืองลำปางไปประมาณ 75 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1035 ลำปาง-แจ้ห่ม เป็นระยะทาง 58 กม. จากนั้นต่อด้วยเส้นทาง ร.พ.ช. อีก 17 กม. ก็ถึงที่ทำการอุทยานฯ

การติดต่อ ติดต่อจองบ้านพักที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร.579-7223, 579-5734, หรือ 561-4292 –4 ต่อ 724, 725  และติดต่อที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร.0- 5438- 0000, 08- 9851- 3355  แฟกซ์   0- 5426- 3041

ใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้ว เพื่อนๆ หลายคนคงหาที่เที่ยวพักผ่อนในวันสบายๆ ลมเย็นๆ อากาศหนาวกับคนรู้ใจหรือเพื่อนฝูง และครอบครัวกันแล้วใช่มั้ยคะเมืองเหนือ เป็นเมืองอันดับต้นๆ ในความคิดของใครหลายคนในการท่องเที่ยวฤดูหนาว โดยเฉพาะ จังหวัดฮ๊อตฮิตอย่างเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน จังหวัดที่ได้รับความนิยมของภูมิภาคเหนือ แต่สถานที่ที่เราจะไป ที่ไหน ที่ถูกใจ ที่เหมาะสำหรับวันพักผ่อนดีๆ  ของคุณ เพราะในเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มากมายหลายแห่ง แทบเลือกไม่ถูก จะเป็นการไหว้พระ เที่ยวน้ำตก ขึ้นภูเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือจะเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็แล้วแต่ใจนักเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ดูเอเซียอยากจะแนะนำในวันนี้ก็คือ จังหวัดลำปาง จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ที่ทุกคนอยากไปสัมผัส คือ “น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน” อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และยังประกอบด้วยธรรมชาติป่าเขา สายน้ำตกอื่นๆ อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ด้วย จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของจังหวัดลำปาง

เมื่อเราเดินเข้าสู่บริเวณของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ก็จะพบกับน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ประกอบด้วยบ่อเล็กบ่อน้อยถึง 9 บ่อ อยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีอุณหภูมิ โดยเฉลี่ยประมาณ 73 องศาเซียลเซียส ในบริเวณนี้ นักท่องเที่ยวสามารถนำไข่มาต้มในบ่อน้ำร้อนได้ด้วยค่ะ ซึ่งเป็นการสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ภายในครอบครัว เพื่อนฝูง ได้อีกทางหนึ่งเลยล่ะค่ะ

ข้อแนะนำในการแช่ไข่ไก่ แช่ไว้ในบ่อน้ำร้อนที่จัดไว้ 17 นาที ไข่แดงจะสุข ไข่ขาวจะออกเหลว หากต้องการให้ไข่ขาวแข็งเหมือนไข่ต้ม แช่ไว้ในบ่อประมาณ 35 นาที ส่วน ไข่นกกระทา แช่ไว้ในบ่อน้ำร้อนที่จัดไว้ 10 นาที ไข่แดงจะสุข ไข่ขาวจะออกเหลว หากต้องการให้ไข่ขาวแข็งเหมือนไข่ต้ม แช่ไว้ในบ่อประมาณ 20 นาที และเมื่อได้ทานไข่ไก่อร่อยๆ  แล้วก็อย่าลืมเก็บขยะทุกชิ้นลงถังขยะ รักษาความสะอาดช่วยกันด้วยนะคะเมื่อเดินเข้ามาทางด้านในประมาณ 200 เมตร ก็จะพบกับน้ำตกขนาดใหญ่ และมีสะพานเดินข้ามไปสำหรับอาบน้ำแร่ โดยจะมีการจัดสัดส่วนแบ่งไว้เป็นห้อง ให้ความเป็นส่วนตัวในการอาบน้ำแร่กลางอุทยาน ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ฟังเสียงน้ำตก แช่น้ำแร่ สุขจริงแท้… เราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการอาบน้ำแร่  แบบห้องเดี่ยว ค่าบริการ 50 บาท ต่อคน  หรือห้องรวมแยกชาย-หญิง ค่าบริการ 20 บาทต่อคน และมีบ่อกลางแจ้งคล้ายสระน้ำ ค่าบริการ 10 บาท สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมภายในห้องแช่น้ำแร่ส่วนตัวจะเป็นอ่างสำหรับนั่งแช่ได้ประมาณ 5-6 คนเลยล่ะค่ะ   ในการลงบ่อน้ำแร่ ควรชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน และไม่ควรแช่น้ำแร่ต่อเนื่องนานเกินไป อาจทำให้หน้ามืดได้ เนื่องจากการอาบน้ำแร่ หรือแช่น้ำแร่เป็นการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น เค้าบอกว่าใช้เวลาในการอาบน้ำแร่ประมาณ 10-20 นาทีกำลังสบายตัวพอดิบพอดี ผ่อนคลายเชียวล่ะค่ะ ส่วนผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ไม่แนะนำนะคะ

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในฤดูหนาวนี้มากทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยัง มีบ้านพัก มีลานตั้งแค้มป์ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีร้านอาหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้หลายอย่าง

ถ้าเพื่อน ๆคนไหนยังไม่มีทริปในหน้าหนาวนี้ อยากจะแวะมาแช่น้ำแร่ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ก็สามารถมาตามเส้นทาง จากตัวเมืองลำปางไปประมาณ 75 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1035 ลำปาง-แจ้ห่ม เป็นระยะทาง 58 กม. จากนั้นต่อด้วยเส้นทาง ร.พ.ช. อีก 17 กม. ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนไปเที่ยวกันมาแล้ว ก็อย่าลืมเก็บภาพสวยๆ  มาฝากเพื่อนๆ ดูเอเซียด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง

เชิญแสดงความคิดเห็น