หินงอกสุดสวยที่ถ้ำนกนางแอ่น
ที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูประกอบไปด้วยถ้ำแปลกๆ มากมายแล้ว หนึ่งในนั้นคือ ถ้ำนกนางแอ่น ที่จัดว่าเป็นถ้ำที่ไปง่ายที่สุด คือเป็นถ้ำสว่าง ไม่ต้องใช้ไฟฉาย เดินไม่ไกล แต่ก็ยังต้องล่องตามตามสายน้ำเช่นเดียวกันกับถ้ำอื่นๆ เป็นรูปแบบผจญภัยที่ไม่ควรพลาดอีกถ้ำหนึ่ง
ถ้ำนกนางแอ่น เป็นถ้ำที่อยู่ทางตอนล่างของถ้ำน้ำตก สายน้ำลำคลองงูไหลผ่านปากถ้ำน้ำตกแล้ว จะไหลผ่านถ้ำมืด จนออกมายังถ้ำนกนางแอ่น จากนั้นไหลผ่านถ้ำเสาหิน ก่อนจะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ต่อไป
เริ่มจากหน่วยเขาพระอินทร์ ที่มีเส้นทางไปถ้ำนกนางแอ่น จะเป็นลำลองให้รถไปส่งได้หลายกิโลเมตร ยกเว้นว่าฝนตกทางเละ ก็ต้องใช้รถไถรถอีแต๊ก หากทางรถเข้าไม่ได้ก็ต้องเดินอย่างเดียวจนถึงถ้ำ
ถ้ำนกนางแอ่น เป็นถ้ำสว่างที่มีแสงตลอดทั้งถ้ำ เราจึงไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉาย แต่รูปแบบของการท่องเที่ยวก็ยังเป็นแบบการผจญภัยที่สร้างความตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อเราเดินป่าข้ามเขาและลงสู่แนวหุบลำคลองงู เราก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลดังครืนๆ อยู่ในหุบ จนกระทั่งลงมาถึงบริเวณปากถ้ำในตำแหน่ง Karst Window ที่ 4 ที่มองเห็นนกนางแอ่นบินว่อนอยู่บริเวณปากถ้ำ ลักษณะที่เป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ เป็นปล่องยุบ หรือหลุมยุบ จึงเกิดเป็นปากถ้ำขึ้นมา ที่เรียกว่า Karst Window
ในตำแหน่ง Karst Window ที่ 4 เป็นช่องทางเข้าสู่ถ้ำมืด จุดที่น่าตื่นเต้นที่ดูว่าเป็นอุปสรรคที่เราไม่อาจข้ามไปเองได้ เมื่อกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากที่ปากถ้ำมีลักษณะเป็นแก่งขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่นำทางได้โยงเชือกให้เราเกาะให้แน่น แล้วใช้กระแสน้ำพาเราลอยตามน้ำไปยังจุดน้ำนิ่ง
อารมณ์ของภาพท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่จุดแก่งใหญ่ เราจะเห็นนักท่องเที่ยวกำลังลอยตัวฝ่าแก่งเชี่ยวไปตามเชือกที่มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด บางคนก็ยังมีอาการกล้าๆ กลัวอยู่บ้าง แต่พอเห็นคนอื่นผ่านไปได้ด้วยดี ตัวเองก็กล้าตามลงไป ซึ่งแต่ละคนก็พบกับความสนุกสนานที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ประตูถ้ำนกนางแอ่น
ต่อจากนั้นได้ว่ายน้ำไปขึ้นยังผนังถ้ำอีกด้าน แล้วจึงเลาะเดินตามโขดหินออกมายังจุดสว่างบริเวณปากถ้ำ Karst Window ที่ 5
ในบริเวณปากถ้ำเราก็ได้พบกับความอลังการของธรรมชาติที่เกิดเป็นม่านหินย้อยในรูปลักษณ์ของ Flow Stone คล้ายกับม่านน้ำตกที่งดงามอย่างน่าทึ่ง และมีขนาดใหญ่มาก เป็นม่านหินย้อยที่มีขนาดใหญ่มาก เกิดบนฝาผนังถ้ำ และมีช่วงที่ลดหลั่นราวกับชั้นน้ำตก เหมือนกับน้ำห้วยแม่ขมิ้นหรือน้ำตกเอราวัณ
FLOW STONE เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการหล่อหลอมของหินปูน ที่เป็นการเกิดจากการไหลของน้ำเป็นสายเล็กๆ ตามผนังถ้ำ ทำให้เกิดการจับตัวของหินปูนเป็นแผ่นขึ้นมา และมีลักษณะคล้ายกับน้ำตก ซึ่งพบที่ถ้ำแห่งนี้ได้เป็นภาพขนาดใหญ่ หากเทียบดูกับคนแล้วก็มีขนาดต่างกันมาก
ทะลุออกจากปากถ้ำแล้วเราก็พบปากถ้ำอีกจุดหนึ่ง ได้พบน้ำตกขนาดเล็กที่ไหลมาจากซอกหิน ก่อนที่จะรวมลงลำคลองงู ช่วงถัดมาเราได้เดินตัดขึ้นถ้ำสูง โดยเลี่ยงตามลำน้ำ เพื่อขึ้นไปชมม่านหินงอกหินย้อยที่สวยงามยิ่งใหญ่อีกจุดหนึ่ง แต่ถ้าจะตามสายน้ำก็ได้โดยการลอยคอว่ายตามน้ำลงไป ซึ่งแต่ละคนดูท่าจะเลี่ยงทางน้ำ เนื่องจากน้ำในลำห้วยเย็นมาก อยู่กับน้ำแล้วหนาวเข้ากระดูกทีเดียว
ลัดขึ้นเขาอันเป็นตำแหน่งที่สูงก็สามารถมองไปยังด้านล่างจะพบจุดชมห้องโถงถ้ำนกนางแอ่นขนาดกว้างใหญ่ มองเห็นลำธารไหลอยู่ด้านล่าง มองเห็นคนมีขนาดเล็กมาก มุมมองภาพ จินตนาการแห่งความงดงามมีอยู่มากมายที่เราไดเก็บบันทึกภาพไว้เท่าที่ทำได้ เพราะโอกาสที่เราจะเข้ามาชมถ้ำแต่ละถ้ำนั้นค่อนข้างยากอยู่แล้ว ยังไงเราก็ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์และภาพธรรมชาติทุกอย่างไว้ให้คุ้มค่ากับการเดินทางในรูปแบบผจญภัยอย่างนี้ให้มากที่สุด
เมื่อเราลงมาด้านล่าง ก็พบหินงอกที่มีลักษณะเป็นสัตว์ประหลาดคล้ายตัวเอเลี่ยน ยื่นหัวอยู่เหนือลำน้ำ แสดงความน่าสะพรึงกลัวแฝงไว้ในเถื่อนถ้ำใหญ่แห่งนี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะถูกคำสาปให้กลายเป็นหินไปตลอดกาลเสียแล้ว
จุดสุดท้ายที่เราต้องเดินทางกันต่อ คือ การล่องตามลำน้ำ เสียงกระโดดน้ำตูมๆ อย่างไม่มีการลังเลอีกแล้ว ระดับคงลึกจึงสามารถกระโดดลงจากที่สูงได้เลย แล้วแหวกว่ายตามผืนน้ำสีดำ ออกจากถ้ำนกนางแอ่น เพื่อเดินทางกลับต่อไป
สิ้นสุดการท่องเที่ยวผจญภัยถ้ำลำคลองงูที่มีถ้ำขนาดใหญ่ มีความสวยงามซับซ้อนและแปลกตาอยู่มากมาย แต่ละถ้ำเราก็ใช้เวลากันอย่างเต็มที่ เราใช้เวลา 1 วัน ต่อ 1 ถ้ำ ยิ่งถ้าได้ถ่ายภาพแล้วก็ยิ่งช้ากว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะเราต้องใช้เวลาในการเลือกสรรค์การถ่ายภาพที่มีความยากกว่าการถ่ายภาพที่อื่นๆ เป็นหลายเท่า
หากเมื่อเปรียบเทียบความยากง่ายของการเดินทางของแต่ละถ้ำแล้ว คงต้องยกให้ถ้ำเสาหินเป็นอันดับแรก เพราะต้องเดินป่าค่อนข้างไกล แต่ถ้ำไม่ลึก รองลงมาก็เป็นถ้ำน้ำตก เดินไม่ไกลแต่ถ้ำลึก ส่วนสุดท้ายก็เป็นถ้ำนกนางแอ่นที่ถือว่าง่ายที่สุด เดินป่าสะดวก ถ้ำสว่าง ง่ายต่อการท่องเที่ยว
ข้อมูลการเดินทาง
ควรเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว กาญจนบุรี แล้วต่อไปยังทองผาภูมิ จากนั้นเลี้ยวไปยังสังขละบุรี ถึงแยกพุทโธ บริเวณ กม.ที่ 26 เลี้ยวขวาไปยังบ้านทิพุเย ไปบ้านห้วยเสือ จะเห็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงูอยู่ริมถนน (เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) นักท่องเที่ยวต้องเข้าไปติดต่อที่ตรงนี้ ส่วนที่น้ำตกนางครวญจะเป็นที่ทำการใหม่
การติดต่อ
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตู้ ปณ. 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180
สามารถติดต่อเรื่องการเที่ยวถ้ำ อาหาร และที่พัก ได้พร้อมกันทีเดียว
ที่พัก
มีที่พักของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู หน่วยเขาพระอินทร์ เป็นบ้านพักพอพักกันได้แบบง่ายๆ หรือเราจะไปกางเต็นท์ก็ได้เช่นกัน
อาหาร
เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวถ้ำที่เราต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน คงไม่มีเวลามานั่งทำอาหารกันเอง คงต้องสั่งจากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่มีบริการไม่แพงมากนัก
ช่วงฤดูกาลที่เปิดเที่ยวถ้ำ
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จะเปิดให้เที่ยวถ้ำทั้ง 3 แห่ง เริ่ม 1 มีนาคม ไปสิ้นสุดราวกลางเดือนพฤษภาคม บางถ้ำอาจปิดก่อน หรือขึ้นอยู่กับสภาพฝนที่ทำให้น้ำในถ้ำมีระดับสูง จนอาจเกิดอันตรายขึ้นมาได้
ชูชีพทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงูมีให้เช่า นักท่องเที่ยวควรจัดหาไฟฉายกำลังไฟแรงๆ แบบคาดหัวก็จะดีมาก และควรติดไฟฉายกระบอกเล็กๆ เป็นไฟฉายสำรองไปด้วย
เสื้อผ้าที่สวมใส่เข้าถ้ำ ควรเป็นผ้าที่เบาและแห้งเร็ว และสวมใส่กระกระชับ หากใครมีเว็ทสูทสำหรับดำน้ำ ก็นำมาใช้ได้ ควรใส่เฉพาะตอนเข้าถ้ำเท่านั้น จะช่วยป้องกันหนาวและป้องกันการกระแทกได้ดี
อุปกรณ์สนับแข้ง หมวกกันกระแทก รองเท้าเดินป่าที่สามารถลุยน้ำได้ ปีนหินได้ ควรเลือกเป็นรองเท้ายางหรือรองเท้าพลาสติก
ถุงมือ เนื่องจากถ้ำบางถ้ำมีหินที่แหลมคมมาก จับไปจับมาอาจได้แผลโดยไม่รู้ตัว
หากมีผ้าคาดจมูกติดไปด้วยก็ดี อาจดูยุ่งยากสักนิด แต่ช่วงที่เข้าถ้ำเสาหินจะมีกลิ่นขี้ค้างคาวที่รุนแรงมาก ผ้าคาดจมูกน่าจะช่วยอะไรได้มากทีเดียว
น้ำดื่มควรมีติดเข้าไปด้วย เนื่องจากเราไม่ควรดื่มน้ำในลำธาร เพราะมีสารปนเปื้อนหลายประเภท จึงไม่ควรดื่มเลย
สำหรับคนที่รู้ตัวว่าเป็นตะคริวได้ง่าย ควรหาเกลือแร่ผสมน้ำดื่ม ก่อนเข้าถ้ำ จะช่วยลดาอาการตะคริวได้ดี
สำหรับอุปกรณ์ป้องกันกล้องกันน้ำเข้า ควรใช้ถุงกันน้ำ DRY BAG ของยี่ห้อ KARANA สามารถป้องกันน้ำเข้าได้เป็นอย่างดี และสามารถพาไปลุยน้ำลอยน้ำได้ตลอดรอดฝั่ง