หากใครเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง แน่นอนว่าเพื่อนๆต้องไม่พลาดที่จะได้เยี่ยมชม เหมืองแม่เมาะ ซึ่งเป็นที่ผลิตถ่านลิกไนต์ ส่งให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เปรียบเสมือนศูนย์กลางที่จ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั้งภาคเหนือตอนบนและล่าง เชื่อมต่อไปยังภาคกลางจนถึงกรุงเทพมหานคร และเชื่อมโยงกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย โดยกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 20 % ของกำลังผลิตของทั้งประเทศ
เมื่อเดินทางมาถึงจ.ลำปางเราก็ได้เดินทางไปกราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ และเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย อีกทั้ง พระธาตุลำปางหลวง ยังเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน วัดพระธาตุลำปางหลวง มีความสวยงามและอลังการด้วยศิลปะสถาปัตยกรรม ที่สร้างขึ้นในแนวกำแพงใหญ่ ซึ่งทอดยาวกั้นทุกอย่างไว้ในบริเวณวัด ส่วนบันไดด้านหน้าเป็นนาคสองชั้น หัวนาคชั้นแรกเป็นมังกรคล้ายนาค ชั้นที่สองเป็นหัวนาคหัวเดียว เมื่อเดินขึ้นไปตามบันไดนาคจนถึงประตูซุ้มโค้งหรือประตูโขง ที่ส่วนบนมีลายปูนปั้นเป็นกรองวิมาน มีนาคและหงส์ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงยอดดูสวยงามยิ่ง ข้างบนด้านหน้าจะเป็น พระวิหารหลวง เป็นวิหารเปิดโล่งขนาดใหญ่ เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย ต่อจากนั้นก็แวะรับประทานอาหารเหนือที่ ร้านแกงแค เป็นอีกร้านอาหารท้องถิ่นที่ประทับใจ สำหรับร้านอาหาร “แกงแค” อ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ร้านอาหารบ้านๆ ก่อนจะเข้าสู่เหมืองแม่เหมาะ เรียกว่าเป็นร้านอาหารประจำที่ใครผ่านไปผ่านมา ต้องแวะมาลิ้มลองรสชาติความอร่อยของอาหารเมืองที่นี่เลยทีเดียว เมนูอาหารของร้านแกงแคกันบ้าง มีทั้งอาหารท้องถิ่น และ อาหารทั่วไป แต่ที่เป็นเมนูเด็ด ใครมาก็ต้องสั่งก็คือ “แกงแค” รสชาติจัดจ้าน เครื่องแน่น ถูกปากทั้งขาประจำและนักท่องเที่ยว “ปลานิลเผา” มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็กและผักสด ผักต้ม เพื่อคนรักสุขภาพ “ลาบหมูคั่ว” อาหารเหนือที่ถูกปากใครหลายๆคนค่ะ จากนั้นก็ถึงเวลาเข้าชมเหมืองแม่เมาะกันแล้วค่ะ เมื่อเดินทางมาถึงโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตากันแล้ว สิ่งแรกที่ต้องไปชม ก็คือ “พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดยสถานที่แห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่านหินลิกไนต์ที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง นี้ไว้เพื่อใช้ในราชการ ยังประโยชน์ต่อประเทศชาติจวบจนปัจจุบัน นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายในอาคารประกอบด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ต่าง ๆทางธรณีวิทยาบริเวณเหมืองแม่เมาะ รวมทั้งประวัติความเป็นมาของเหมืองและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า นำเสนอผ่านภาพยนตร์ 3 มิติ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ เปิดให้เข้าชมวันละ 4 รอบ เวลา 09.00 น., 10.30 น., 13.00 น. และ 14.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 5425 4950-5 ส่วนตำแหน่งที่ตั้งของอาคารพิพิธภัณฑ์ด้านหลังเป็นเหมืองแม่เมาะ ซึ่งยังมีส่วนที่มีลักษณะเป็นภูเขาอยู่ด้วย หากเดินมาด้านนอกจะมีสะพานไม้ยื่นออกไปสู่บ่อเหมืองเมื่อเดินเข้าไปจะสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริงเสมือนยืนอยู่กลางบ่อเหมืองและสามารถเห็นภาพวิวโดยรอบบริเวณที่สวยงาม มีความร่มรื่น เรียกได้ว่าไม่มีใครพลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับวิวสวย ๆ มุมนี้เลยสักคน
นอกจากความรู้และความสวยงามภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ฯแล้วนั้น ทุกท่านยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศโดยรอบ ซึ่งตกแต่งเป็นสวนพฤกษชาติตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของบ่อเหมืองเป็นที่ตั้งของศาลาชมวิว ซึ่งมีการจัดแสดงพรรณไม้ต่าง ๆ เอาไว้ในบรรยากาศชาวเหมือง สวนพฤกษชาติแห่งนี้จะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนดอกไม้ลงแปลงตามฤดูกาลและจะมีงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะขึ้นที่นี่ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนคุยสังสรรค์กับครอบครัวซึ่งบริเวณนี้จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ให้สักการะกันด้วย และในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานอย่างสุดเหวี่ยง กับลานสไลเดอร์ ที่เป็นลานพื้นหญ้าที่เทลาดลงสู่บริเวณสนามกอล์ฟ อยู่บริเวณหน้าอาคารจุดชมวิวของสวนพฤกษชาติ นักท่องเที่ยวสามารถนำกล่องหรือแผ่นรองสไลด์ลงตามลานพื้นหญ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด สามารถเช่าแผ่นรองลื่นได้บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์
ขอกระซิบบอกว่าถ้าหากเพื่อนๆหากมาเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคมจะได้ชมทุ่งบัวตอง ที่อยู่ทางตะวันออกของบ่อเหมืองมีพื้นที่กว่า 500 ไร่เกิดจากการนำดินในบ่อเหมืองแร่มาถมเป็นภูเขาเทียมสูงจากพื้นดิน 600 ฟุต โดยบนยอดดอยมี สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ที่มีดอกบัวตองจะบานสะพรั่งเหลืองอร่ามสวยงามสะดุดตาไปทั่วพื้นที่ นับเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสูงระดับเดียวกับปล่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ สามารถมองเห็นโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และการทำงานของเครื่องจักรรถขุดแร่ในโรงไฟฟ้าอยู่เบื้องล่างบางจุด บริเวณจุดชมวิว มีศาลาชมวิว ที่ประดับประดาไปด้วยพันธุ์ไม้ดอก ไม้ใบนานาชนิด ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้เอง สิ่งที่น่าประทับใจและสวยงามที่สุด ก็คือ การได้ชมพระอาทิตย์ตก ขณะที่ในเวลาเช้าของฤดูหนาวก็จะมีทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ สวยสดงดงามอย่าบอกใคร
นอกจากกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้วนั้น บริเวณเหมืองมีบ้านพักรับรองของ กฟผ. แบบบังกะโลและห้องพักจำนวน ราคา 1,200 บาท/คืน สนามซ้อมกอล์ฟ สนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม สโมสร และ Club House ที่อาหารรสชาติอร่อยถูกปากอย่างแน่นอน ดูเอเซียคอนเฟิร์มค่ะ ใครไม่เชื่อผ่านไปผ่านมาแวะไปลองชิมได้นะจ๊ะ สอบถามได้ที่ ฝ่าย ประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โทร. 0 5425 4994 ดูรายละเอียดได้ที่