ช่วงนี้ ดูเอเซียขอพาเที่ยววัดเยอะสักหน่อย อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ เข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญบ่อยๆก็ดีกับตัวเอง จิตใจจะได้สงบ มีสมาธิ ทำให้มีกำลังใจทำงานอื่นๆ ต่อไป มาดูกันต่อ ว่าวันนี้ดูเอเชียจะพาไปเที่ยววัดไหน
เราจะพาไปกราบหลวงพ่อโตที่วัดสังฆทาน กัน วัดแห่งนี้อยู่ในจังหวัดนนทบุรี ใกล้ๆกรุงเทพฯเรานี่แหละ
วัดสังฆทาน สันนิษฐานว่าเดิมชื่อ วัดศาริโข สร้างขึ้นในราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีหลวงพ่อโต พระพุทธรูป ปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้าง ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง และที่อื่น ๆ ยังคงมา เคารพสักการะบูชาองค์หลวงพ่อโตมิได้เสื่อมคลาย เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ด้วยเหตุที่เป็นวัด ร้างไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ชาวบ้านจึงต้องนิมนต์พระจากละแวกใกล้เคียงมาเพื่อถวาย- สังฆทาน จนถูก เรียกขานกันติดปากว่า “วัดสังฆทาน”
ถัดมาติดๆกันจะเป็นอุโบสถแก้วหลังใหญ่ ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนอยู่กลางดอกบัว ซึ่งกว่าจะเป็นอุโบสถแก้วนี้เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2536 หลวงพ่อสนองดำริให้รื้อถอนศาลาเพื่อจะสร้างเป็นโบสถ์ใหม่ เนื่องด้วยศาลาหลวงพ่อโตชำรุดทรุดโทรมและคับแคบไม่เพียงพอที่จะรองรับจำนวนพระภิกษุสามเณรและผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม นอกจากนี้หลังคาสังกะสีเวลาฝนตกจะมีเสียงดังมาก หน้าร้อนก็จะร้อนมาก ดังนั้นพระภิกษุผ้าขาวและชาวบ้านจึงช่วยกันรื้อถอนแม้กระทั่งชาวอังกฤษที่เพิ่งเดินทางมาถึงก็ร่วมช่วยด้วย
โดยท่านตั้งจุดประสงค์ว่าโบสถ์ของวัดสังฆทานต้องเป็นโบสถ์ที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดและถูกต้องตามความเป็นจริง ขนาดของโบสถ์ต้องจุคนได้ ๖๐๐ คน เมื่อแบบจำลองของโบสถ์ออกมาก็ถูกวิจารณ์ว่าทำไมโบสถ์จึงเป็นแก้วแปดเหลี่ยม ไม่ใช่ทรงไทยที่มีช่อฟ้า ใบระกาหลวงพ่อสนองได้ให้เหตุผลว่า หลวงพ่อโตองค์ใหญ่มากมีความสูงหลายเมตรถ้าสร้างโบสถ์เป็นแบบทรงไทยต้องสร้างให้เศียรหลวงพ่อโตต่ำกว่าขื่อต่ำกว่าอกไก่ โบสถ์ต้องใหญ่มากต้องรับน้ำหนักมาก ทำ ๒ ชั้นก็ไม่เหมาะ เพราะต้องการประหยัดพื้นที่ แต่ถ้าทำเป็นรูปเจดีย์แล้ว สามารถให้หลวงพ่อโตอยู่ตรงกลาง หรือตรงริมก็ได้ หลวงพ่อโตก็จะดูสวยสง่า และทรงแปดเหลี่ยมสมมุติเป็นมรรคองค์แปด
และ เนื่องจากทางวัดจำเป็นต้องใช้โบสถ์ในการอุปสมบทหมู่ จุพระเป็นร้อย บรรพชาสามเณรปีละ ๓๐๐ รูป มีการประชุมพระครั้งละสองสามร้อยรูป โบสถ์นี้สามารถจุคนได้ถึง ๖๐๐ คน ด้านล่างใช้เป็นสำนักงาน ห้องเทป ห้องมูลนิธิ ห้องสมุด ฯลฯ มีประโยชน์อเนกประสงค์
ภายในอุโบสถแก้วเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระประธานประจำวัดสังฆทานแห่งนี้ นอกจากนั้นยังมีพระบรมสารีริกธาตุของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูปประดิษฐานอยู่ บรรยากาศภายในก็สงบมากดังนั้นจึงจะพบเห็นผู้คนที่เข้ามานมัสการหลวงพ่อโตมานั่งสมาธิอยู่ในห้องโถงของอุโบสถแก้วแห่งนี้ นอกจากนี้อุโบสถแก้วยังมีชั้นใต้ดินที่ใช้เป็นห้องสมุด ที่มีหนังสือธรรมะของครูบาอาจารย์ที่สำคัญๆ มากมาย และยังเป็นที่จำหน่ายหนังสือธรรมะ ซีดีธรรมะ และเป็นสถานที่ให้ยืมเทปธรรมะ และหากท่านผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรม ก็ต้องลงมาสมัครด้านล่างนี้
ภายในบริเวณรอบๆที่ดูร่มรื่นนี้ ได้มีสิ่งก่อสร้างหลายๆอย่างที่แตกต่างจากวัดอื่นๆ คือกุฏิพระ เพราะกุฏิที่นี่หลายหลังจะสร้างเป็นเรือ และตั้งอยู่ในสระน้ำ ซึ่งมีอยู่หลายลำ และ ยังมีการก่อสร้างศาลาไม้แกะสลักทั้งหลัง แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ก็ยังมีความวิจิตรสวยงามมาก หากเสร็จแล้ว ดูเอเซียคงได้มาเยี่ยมชมอีกครั้ง จุดนี้ดูเอเซียไม่ได้เก็บภาพมาด้วยเพราะ มีป้ายห้ามถ่ายรูป ติดไว้ ดูเอเซียก็รักษามารยาท แต่บอกได้เลยว่าหากท่านได้มีโอกาสได้ไปยังวัดสังฆทาน ต้องแวะเยี่ยมชมให้ได้นะครับ
โดยหลักใหญ่ๆแล้ว วัดสังฆทาน จะมีลานปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นที่สำหรับการปฏิบัติธรรม ของบุคคลทั่วไปที่ต้องการความสงบทางจิตใจ หรือต้องการศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม โดยจะมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
การเดินทางสู่วัดสังฆทาน
วัดตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๐/๑ บ้านบางไผ่น้อย หมู่ที่ ๓ ตำบลบางไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
เราสามารถเดินทางมายังวัดสังฆทานได้ทั้งทางรถและทางเรือ หากขับรถมาก็วิ่งมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระราม5 พอลงสะพานก็จะมีป้ายทางซ้ายมือบอกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าวัด แต่ต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะลงจากสะพานพระนั่งเกล้ามาแค่นิดเดียวเท่านั้นเองก็เตรียมเลี้ยวซ้ายได้เลยครับ อย่าขับเพลินล่ะครับ ไม่อย่างนั้นต้องไปวนรถใหม่แน่ๆ ส่วนถ้าใครเบื่อบรรยากาศรถติดๆ ก็สามารถลงเรือจากท่าน้ำนนท์ข้ามฟากไปท่าน้ำศรีเมือง เรือข้ามฟากจะมีตลอดทั้งวันครับ พอข้ามมาถึงท่าน้ำศรีเมืองก็นั่งรถสองแถวต่อเข้าไปที่วัด ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
