เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามหาปลาในลุ่มน้ำป่าสัก
ทริปนี้ดูเอเซีย.คอมพามาเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ดินแดนแห่งทุ่งทานตะวันของเมืองไทย(อ.พัฒนานิคม) แม้ยามนี้จะไม่มีดอกทานตะวันให้ชม แต่การมาเที่ยวเขื่อนป่าสักก็มีอีกหลายอย่างให้เราได้สนุกสนานผ่อนคลาย ในหลายรูปแบบ ทริปนี้เราจะพาเที่ยวชมเขื่อนพร้อมกับตกปลาในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ รับรองเพลิดเพลินสนุก สนาน สำราญใจ ครับ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งเสือเต้น ตำบลหนองบัว อำเภอ พัฒนานิคม เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้กับเขื่อนแห่งนี้ สร้างภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเขื่อนแกนดินเหนียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 4,860 เมตร ความสูงที่จุดสูงสุด 36.50 เมตร เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2542
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งของจังหวัดลพบุรีที่เหล่าประชาชนทั่วไปให้ความสนใจแวะเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นโครงการของพ่อหลวงของพวกเราชาวไทย สร้างขึ้นเพื่อให้พี่น้องในลุ่มน้ำป่าสักแห่งนี้หลอดพ้นจากภัยแล้งและภัยน้ำท่วม ภายในบริเวณเขื่อนยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด บริเวณเขื่อนยังมี จุดชมวิวสันเขื่อน พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งแสดงความรู้ด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรมของท้องถิ่น รอบตัวเขื่อนเป็นสวนสุขภาพเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจร่มรื่นสวยงามด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์เราเข้าไปเที่ยวกันเลย เริ่มด้วยการขึ้นไปชมวิวของเขื่อนป่าสัก ที่วัดศรีโสภณ ซึ่งเป็นภูเขาเล็ก ๆติดกับเขื่อนป่าสัก วิวสวยครับมองเห็นตัวเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด จากนั้นก็ลงไปชมวิวด้านหลังเขื่อนที่แก่งเสือเต้น ไปดูบริเวณที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่าในสมัยก่อนมีเสือลงมากินน้ำและกระโดดหยอกล้อกันลักษณะเหมือนการเต้น จนชาวบ้านตั้งชื่อหมู่บ้านว่า แก่งเสือเต้น จนมาถึงปัจจุบันเป็น ตำบลแก่งเสือเต้นแล้ว
เราเข้ามาในตัวเขื่อนก็จะมีรถให้นั่งรถชมดินแดนสองจังหวัดคือจังหวัดลพบุรีและสระบุรี มีประชาชนเข้าเที่ยวกันเยอะพอสมควรรอบนี้เต็มความจุรถครับ โดยจะมีน้อง ๆนกเรียนเป็นมัคคุเทศก์ ตัวน้อยแนะนำสถานที่ต่าง ๆให้เราได้รู้จักตั่งแต่ฝั่งลพบุรีจนข้ามตัวเขื่อนข้ามไปจังหวัดสระบุรี น้อง ๆน่ารักมากพูดเก่งแบบมืออาชีพเลยแถมใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สุดยอดครับเยาวชนเมืองลพบุรียกนิ้วให้เลย ในเส้นทางเราก็จะได้เห็นได้รู้จักสถานที่ต่าง ๆ เช่นสถานที่ประทับขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่ของเรา จากนั้นก็เข้าไปดูในตัวเขื่อนกั้นน้ำ สถานที่ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และสถานีส่งน้ำต่าง ๆที่อยู่ด้านหลังเขื่อน มองเห็นทางแม่น้ำป่าสักสายเก่า จากนั้นก็ไปกราบนมัสการหลวงพ่อใหญ่ป่าสักที่ฝั่งสระบุรี ระหว่างทางยังพบเห็นวิถีชีวิตของคนในลุ่มน้ำป่าสักที่เขานิยมเลี้ยงวัวเนื้อและวัวนมกันเป็นจำนวนมาก ระหว่างเดินทางกลับน้อง ๆก็ร้องเพลงให้พังสนุกสนานไปอีกแบบครับ หลังจากนั่งรถชมตัวเขื่อนแล้วเราก็เข้ามาชม ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสักทางด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับ วัตถุโบราณต่าง ๆตั้งแต่สมัยอดีตที่ค้นพบบริเวณลุ่มน้ำป่าสักแห่งนี้ เช่นพวกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องปั้นดินเผา อุปกรณ์การประกอบอาชีพ และวัฒนธรรมของชาวไทยเบิ้ง ที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำป่าสัก เข้าไปด้านในแล้วทำให้เราได้รู้จักลุ่มน้ำป่าสักมากขึ้นแน่นอน จากนั้นเราก็ไปหาของอร่อยกิน ในบริเวณสวนสุขภาพมีร้านบริการอาหารเครื่องดื่มหลายร้านเราเข้าไปชิมไปทานกันได้เลย อาหารพวกปลาแม่น้ำสดและอร่อยครับ หรือจะซื้อของฝากก็มีร้านขายของฝากเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดทานตะวันที่ขั้วกันให้แบบร้อนหรือว่าร่มลายดอกทานตะวันและของที่ระลึกอีกมากมายหรือจะไปซื้อพวกปลาแห้งปลาแดดเดียวก็มีบริการกันอย่างจุใจครับ มีของฝากของที่ระลึกเยอะมากครับเลือกซื้อเลือกหากันตามใจชอบ (ตอนนี้ทางเขื่อนเขากำลังสร้างหอดูดาวอยู่คาดว่าน่าจะได้ชมวิวกันเร็ว ๆนี้อย่างแน่นอนครับ)
หลังจากที่เราเที่ยวเขื่อนกันจนหมดเปลือกแล้วเราก็เดินทางมาบนถนนรอบเขื่อน ออกไปทางวัดเขาดินแล้วมุ่งตรงไปยังวัดเขาพระซึ่งเป็นบริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน พี่ๆ ที่เขื่อนป่าสัก เขาบอกมีที่สำหรับตกปลาที่นั่นเป็นบริเวณกว้าง ไปกันเลยครับ ก่อนถึงวัดเขาพระประมาณ 1 กิโลเมตรเราก็สังเกตเห็นเบ็ดตกปลาตั้งเรียงรายกันเป็นแถวยาวเต็มไปหมด เราเข้าไปตกปลากันเลยบริเวณริมฝั่งก็ มีพี่ ๆนักตกปลากำลังนั่งจ้องมองเบ็ดด้วยความลุ้นระทึก มาจากกรุงเทพก็มี คนในพื้นที่ก็มี บรรยากาศการพักผ่อนที่นี่ออกรสชาติแบบ คึกคัก คึกคักเฮฮาปาร์ตี้ครับ บริเวณนี้ถือว่าเป็นที่นิยมของคนที่ชอบพักผ่อนด้วยการนั่งตกปลาเพราะเป็นช่วงโค้งของอ่างเก็บน้ำ น้ำจะค่อนข้างนิ่ง และปลาจะชอบมาหากินอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ก็จะมีปลา ตะโกก(ปลาชนิดนี้มีมากจริง ๆทุกภูมิภาค)ปลากา,ปลาพะเพียนขาว,ปลากด,ปลาแรด และอีกหลายชนิด เหยื่อที่ใช้ก็แล้วแต่สูตรของใครของมัน ก็มีแบบรำผสมขนมปังและส่วนผสมอื่น,เหยื่อกุ้ง,เหยื่อหอย,มันหมู มีหลากหลายแบบครับแต่ทุกสูตรก็ได้มันกับการตกปลาเหมือนกันหมดแถมได้ปลาอีกด้วย สนุกมากครับกางร่มปูเสื่อตกปลา เวลาปลาติดเบ็ดก็ร้องเรียกเพื่อน ๆที่มาตกปลาด้วยกันเข้ามาลุ้นว่าจะเป็นปลาอะไรตัวใหญ่ขนาดไหน ส่งเสียงเชียกันอย่างสนุกสนาน มันสุดยอด นั่งตกปลาไปพร้อมมีเครื่องเย็น ๆ ผสมแอลกอฮอล์เล็กน้อยจิบไปเรื่อยๆ มันได้บรรยากาศการพักผ่อนอีกแบบ หรือยามแดดร่มลมตกจะก่อกองไฟสักกองแล้วเอาปลาเผาซักตัวสองตัวย่างกินร้อน ๆ รสชาติคงอร่อยน่าดู ถ้ามีเต็นท์สักหลังกางบริเวณริมฝั่งแล้วนั่งรอบกองไฟกันกันยามค่ำคืนชมดวงจันทร์และพระอาทิตขึ้นยามเช้ามันช่างสุดแสนจะลงตัวเป็นที่สุด บริเวณริมน้ำตรงนี้ เป็นพื้นที่ราบและกว้างติดริมฝั่งเลย เหมาะมากที่จะตกปลาและกางเต็นท์ค้างคืนริมฝั่ง มาเป็นหมู่คณะเหมาะสุดครับรับรองสนุกสุดมันแน่นอน รถยนต์ก็ลงไปจอดได้สบายแถมชมวิวเขื่อนทางด้านบนได้สวยงามอีกด้วย ในช่างเดือน พฤศจิกายน-มกราคม จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาพักแรมบริเวณนี้เรียกว่าหาที่กางเต็นท์กันแทบไม่มี หรือถ้าอยากไปค้างแรมแบบบ้านพักก็มีที่หน้าเขื่อนเป็นบ้านพักสวัสดิการเขื่อนป่าสัก บริเวณด้านหน้าที่พักก็มีบริเวณกางเต็นท์เช่นเดียวกัน ติดต่อสอบถามข้อมูลกันได้ หรือจะพักแบบรีสอร์ท บริเวณถนนรอบตัวเขื่อนก็มีที่พักตั้งอยู่หลายที่เชิญเลือกพักกันได้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลากหลายรูปแบบในการพักผ่อนของท่านครับ พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เหมาะที่สุดสำหรับการมาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพเดินทางก็สะดวก นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกวังก้านเหลือง,ทุ่งทานตะวัน(ช่วงเดือนพฤศจิกายน),ปรางค์สามยอด,วังนารายณ์ ,สนามกอล์ฟนารายฮิลล์ ,สวนองุ่นปภัสราหรือคุณมาลี,อุโมงค์ต้นไม้ ท่านสมารถเลือกเที่ยวต่อได้เลย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งเสือเต้น ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี สอบถามที่พัก โทร 036-494243 สอบถามรายละเอียด 036-494032-3, 0 36-41 1022 นอกจากนี้ในช่วงปลายปียังมีบริการท่องเที่ยวทางรถไฟขบวนพิเศษ ไป-กลับ กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ สอบถามรายละเอียดที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0 2220 4334, 1690 เลือกเที่ยวกันได้เลย
การเดินทาง
ก็สะดวกครับ ถ้านำรถมาเองเดินทางมาเส้นกรุงเทพ-สระบุรี ก่อนเข้าตัวเมืองสระบุรี ให้เลี้ยวซ้ายมาถนนหมายเลข 21 แล้วเลี้ยวมาทาง อ.พัฒนานิคม บนถนนหมายเลข 3017 ตรงไปยังเขื่อนป่าสัก หรือจะนั่งรถไฟมาก็ตามที่บอกไว้ครับ หรือถ้ามาจากลพบุรีก็ใช้เส้นทาง 3017 ตรงมายัง อ.พัฒนานิคม ประมาณ 40 ตรงเข้าตัวเขื่อนเลย ถ้าจะไปตกปลา ก็ออกจากตัวเขื่อนมาตรงแยกเลี้ยวขวาไปวัดเขาดินแล้วมุ่งตรงไปยังวัดเขาพระตามถนนรอบเขื่อนประมาณ 4-5 กิโลเมตรก็ถึง
เป็นไงครับทริปนี้เราพาเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แบบทั่วถึงทุกจุด ในวันหยุดของท่านก็อย่าลืมหาเวลามาพักผ่อนที่เขื่อนกันนะครับเพราะอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ หรือใครที่มาจังหวัดลพบุรีก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กันนะครับ เอาไว้ทริปหน้า ดูเอเซีย.คอม จะหาที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ มาฝากกันอีกนะครับ
ขอบคุณภาพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์