สวนชัชนาถรีสอร์ท

0

ใครจะไปภูเรือ ยกมือขึ้น ดูเอเซีย.คอมจะพาไป ช่วงนี้เข้าสู่ปลายฝนตนหนาวแล้วได้เวลาออกเดินทางหาสถานที่ ที่มีอากาศหนาวเย็น แต่ก็ยังได้สัมผัสบรรยากาศอันชุ่มฉ่ำแบบหน้าฝนอีด้วย ต้นไม่ที่เขียวขจี มองดูแล้วสดชื่นสบายตายิ่งนัก  วันนี้เราจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อำเภอภูเรือจังหวัดเลย สถานที่ตั้งของสวนป่า..หลายคนคงจะงง..? ว่าอะไรคือสวนป่าวันนี้เราจะได้รู้กันว่าสวนป่าคืออะไร เมื่อเราออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครฯ นครแห่งความวุ่นวาย มุ่งหน้าสู่ธรรมชาติอันสงบเงียบ เมื่อเรามาถึงภูเรืออากาศสดใส พร้อมกับพระพิรุณที่ประธานพร ประพรมน้ำมนต์ให้เราแต่เช้าตรู่ เมื่อเดินทางมาถึงเราก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง จากพี่จ่อย ผู้หญิงตัวเล็กๆที่น่ารัก ผู้จัดการของสวนชัชนาถที่ขับรถมารับเราถึงที่ขนส่ง บริเวณตลาดภูเรือ แล้วก็มุ่งหน้าสู่สวนชัชนาถใช้เวลาไม่นานนักก็ถึง สวนชัชนาถ สวนป่าที่ส้างขึ้นจากผีมือของมุษย์ หลายคนที่เคยปลูกป่า อาจจะปลูกเพราะตามกระแส เห็นเขาปลูกก็ปลูกบ้าง ปลูกไปโดยไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าอยากจะรู้ว่าป่าที่ปลูกขึ้นเองนั้นจะเป็นยังไงมาดูกันได้ที่นี่ “สวนป่าชัชนาถ”เมื่อเราผ่านเข้ามาในเขตของสวนชัชนาถก็จะพบกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นป่าที่ปลูกขึ้นเองเพราะว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก อากาศเย็นสบาย สดชื่น หายใจแล้วรู้สึกสดชื่นเหมือนกับเรามาฟอกปอดของเราจากสารพิษที่ได้รับมาทุกๆวันจากสภาวะอากาศในเมือง มาที่นี่เราจะได้หายใจเอาอากาศบริสุทธิกันอย่างเต็มที่ เมื่อได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงามได้ซักครู่ เราก็เข้าที่พักเพื่อเก็บของแล้วเตรียมเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามมาฝากให้เพื่อนๆดูเอเซียได้ชื่นชมร่วมไปกับเรา เมื่อเราเห็นที่พักของเราในแว็บแรกรู้สึกว่า นี่แหละมันต้องแบบนี้มันถึงจะไม่เสียบรรยากาศธรรมชาติๆ บ้านพักที่มันดูกลมกลืนไปได้ดีก็บรรยากาศไม่รู้สึกขัดแย้งกันเหมือนหลายๆที่ แบบนี้แหละที่ต้องการ ไม่รอช้าเรารีบเดินสำรวจภายในทันที อุปกรณ์ ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นไม้เกือบทั้งหมด ให้บรรยากาศอันอบอุ่น แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ตูเย็น กระติกน้ำร้อน ขนมคบเคี้ยว แล้วก็สิ่งสำคัญอีกอย่างคือห้องน้ำ ห้องน้ำถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะสำรวจกันเป็นอันดับแรกๆ ห้องน้ำที่นี่มีการออกแบบที่เรียบง่ายสวยงาม มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ตกได้แต่งอย่างลงตัว เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกห้อง เพราะที่นี่ไม่มีคำว่า 2 มาตรฐาน บ้านเล็ก บ้านใหญ่เหมือนกันหมด เมื่อชื่นชมบ้านพักกันแล้วก็ได้เวลา ออกเดินสำรวจบริเวณโดยรอบ แต่โชคไม่ดีที่ฝนตกลงมาเลยเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆได้ไม่มากนัก เดินไปเดินมาเริ่มหิว จึงได้เวลาไปทานอาหารกัน อาหารเช้ามื้อแรกของเราที่ครัวคำภานั้นคือ ไข่กระทะ และ แซนวิชญวน อาหารเช้าดั้งเดิมของเวียดนาม ที่ต้องบอกได้เลยว่ากระทะเดียวคงไม่พอแน่ๆ เพราะฝีมือแม่คำภา แม่ครัวมือหนึ่งของที่นี่ “แม่ช้อยไม่ต้องมารำ..เชลล์ไม่ต้องมาชิม” งานนี้ดูเอเซียชิมเองอร่อยมากกกกก ใครได้มาชิมแล้วจะติดใจ เรานั่งทานอาหารกันท่ามกลางธรรมชาติ กับสายฝนที่โปรยปราย บรรยากาศโรแมนติคสุดๆ ถ้ามากับคนรู้ใจจะดีเป็นอย่างยิ่ง สุขทั้งกายสุขทั้งใจ หลังจากที่พรรณนามาชะนานไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า ความเป็นมากันเลยดีกว่าสวนชัชนาถ ณ ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย สวนป่า “ชัชนาถ” เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2533 จากที่ดินรกร้างที่ซื้อจากชาวบ้านจำนวน 33 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์จะปลูกต้นไม้ยืนต้นให้กลายเป็นป่าให้ได้ ที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ที่ตำบลท่าศาลา บนถนนสาย เลย-ภูเรือ ที่ ก.ม. 36 และมีถนนแบบทางเกวียนเข้าไปยังที่ดินอีกประมาณกิโลกว่าๆ  ตรง ก.ม. 36 นี้ก็คือ ตำบลสานตม ที่ปรากฎอยู่บนหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ของนักเรียนสมัย  50-60 ปีที่แล้วที่ระบุไว้ว่า “ที่ที่หนาวที่สุดของประเทศไทยอยู่ที่ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย” นั่นเอง  เกจิอาจารย์พระป่ากรรมฐานเล่าให้ฟังว่าเวลาไปบิณฑบาตรแถวนั้นตอนหน้าหนาวจะถูกแผ่นน้ำแข็งตามยอดหญ้าบาดเท้าเอาอากาศแถวภูเรือถือว่าเป็นสุดยอดของประเทศไทย เนื่องจากภูมิประเทศเป็นทะเลภูเขาจึงเย็นสบายในฤดูร้อนและจะหนาวเหน็บตอนหน้าหนาว  เรื่อง “แม่คะนิ๊ง” ที่เห็นข่าวทางหนังสือพิมพ์จึงเป็นเรื่องธรรมดามาก ซึ่งอันที่จริงขอชาวบ้านภาวนาขออย่าให้เกิด “แม่คะนิ๊ง” เพราะนอกจากจะหนาวเหน็บจนนอนไม่หลับแล้วต้นไม้ยังจะถูกน้ำแข็งจับตายหมด  บางปีไม่ใช่แค่ “แม่คะนิ๊ง” แต่จะพบน้ำแข็งเป็นแผ่นที่นอกชานบ้านตอนเช้าก็มีบ่อยๆ  ส่วนวิวและภูมิประเทศแถบนั้นก็สวยจับใจผู้คนที่ไปเยือน

ประวัติ ศาสตราจารย์ ดร. ยอดหทัย เทพธรานนท์ ผู้ก่อตั้งและริเริ่มการปูกป่าที่สวนป่าชัชนาถ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ยอดหทัย เทพธรานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2486 ที่กรุงเทพมหานคร ประธานกรรมการบริหารบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (บวท.) เจ้าของรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ของมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาเคมี ประจำปี พ.ศ. 2529 และรางวัลนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดีเด่นอาเซียน ประจำปี พ.ศ. 2538 ด้วยชื่อเสียงอันเป็นที่ยอมรับยกย่องทั้งระดับชาติ และนานาชาติ จนถึงขณะนี้ ศาสตราจารย์ ดร. ยอดหทัย ยังผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณค่าอย่างไม่หยุดยั้ง ชาวบ้านแถวภูเรือเขาไม่เข้าใจการมาปลูกป่าของคนกรุงเทพฯ เลยจริงๆ “คนกรุงเทพฯ” มาซื้อที่ดินที่หมดสภาพ และเป็นเนินเขาแทนที่จะเป็นที่ราบ เพื่อทำการปลูกต้นไม้ไปเพื่ออะไร และสำหรับชาวบ้านแล้วคำว่า “ปลูกป่า” สมัยปี 2533-2534 นั้นเป็นคำที่ตลกสิ้นดี เพราะสำหรับพวกเขานั้นป่ามีไว้ตัดและเผาเพื่อเอาที่ไปทำไร่ และนี่ก็ยังจะไม่ปลูกไม้ผลเพื่อเอาผลผลิตไปขาย แต่จะปลูกป่าเฉยๆเสียอีก!..จนมีเรื่องเล่ากันว่าครูโรงเรียนคนหนึ่งไปปรารภว่า มี “ดอกเตอร์สติเฟื่อง” มาซื้อที่หมดสภาพและแทนที่จะปลูกไม้ผลให้มีประโยชน์แต่กลับมาปลูกป่า แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี พอต้นไม้ตั้งตัวได้เริ่มโตมองเห็นเขียวไปหมด รัฐบาลก็ประกาศโครงการปลูกป่า 5 ล้านไร่ถวายในหลวงพอดี คนก็เริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของป่าไม้ ไอ้ดอกเตอร์สติเฟื่องคนเดิมก็เลยกลายเป็นดอกเตอร์อัจฉริยะ ที่มองเห็นการไกลไปในสายตาของชาวบ้าน

บ้านพัก
บ้านพักที่สวนชัชนาถนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่มาพักอาศัย ได้สัมพัสกลิ่นไอธรรมชาติได้มากที่สุด ผนวกพร้อมด้วยความสะดวกสบายจากเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
บ้านพักทุกหลังยกเว้นหลังใหญ่นั้นจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 2 ห้องนอน โดยต่างมีห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้ที่มีความประสงค์จะอาศัยอยู่เป็นเวลานาน เฉกเช่น นักประพันธุ์ หรือ จิตรกรที่ค้นหาความสงบ หรือแม้แต่นักเดินทางที่ผ่านมาเพียงชั่วค่ำคืนเพื่อที่จะกลับมาเยือนใหม่ก็ตามแต่

บ้านหลังที่ 1 และ 2 ของสวนชัชนาถนั้นเป็นบ้านริมน้ำ ซึ่งผู้ที่มาพักอาศัยจะได้ซึมซับถึงความงดงามของป่าไม้และสายน้ำได้อย่างเต็มที่
บ้านหลังที่ 3 นั้น เป็นบ้านท่าน้ำ ที่มีความเป็นพิเศษตรงที่มันสามารถถ่ายทอดบรรยากาศที่งดงามและเงียบสงบของสวนชัชนาถได้อย่างแท้จริง
บ้านหลังที่ 4 และ 5 นั้นเป็นบ้านแฝดซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ บ้านนี้จึงเหมาะที่สุดสำหรับเพื่อนฝูงที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ก็มีความประสงค์ที่จะมีความป็นส่วนตัวอยู่ด้วย
บ้านหลังที่ 6 และ 7 นั้นอยู่บนเนิน ผู้ที่มาอาศัยจึงจะได้ความรู้สึกของความเป็น ภูเรือ จากบ้านสองหลังนี้
บ้าน ‘ใหญ่’ ของสวนชัชนาถนั้นจะใหญ่เป็นสองเท่าของบ้านหลังอื่นๆ ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ แต่ข้อดีของบ้านนี้คือ ชานบ้านที่กว้างใหญ่มโหฬาร สามารถตั้งโต๊ะกินข้าวสำหรับคน 20-30 คนได้สบาย

ครัวคำภา
ลิ้มรสอาหารอร่อยจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถหาได้ในสวนชัชนาถ ปรุงแต่งโดยแม่คำภา แม่ครัวท้องถิ่นของเมืองเลย ไข่กระทะ และ แซนวิชส์ญวน อาหารเช้าดั้งเดิมของเวียดนาม น้ำสตอเบอร์รี่ปั่นที่เก็บสดๆจากในสวนนั้นชื่นใจเป็นที่สุด ผักสลัดไร้สารพิษหลากหลายชนิด เช่น ไวด์ร้อคเก็ต กรีนโอ็ค กรีนคอส บัตเตอร์เฮด เรดคอรัล มิซูน่า และอื่นๆ เราก็ปลูกเองในสวน เมนูอาหารหลากหลายที่ทำจากวัตถุดิบหาได้ในสวนอย่าง เห็ดหอม เห็ดโคน หรือ หน่อไม้หวาน นั้นก็สุดอร่อยเพราะทำด้วยวัตถุดิบปลูกหรือเก็บเองที่สดใหม่และปราสจากสารพิษ 100% 

กิจกรรมต่างๆ
เดินป่า อ
าจารย์ยอดหทัยได้สร้างเส้นทางเดินป่าภายในสวนชัชนาถเพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ต่างๆเกี่ยวกับป่าไม้สู่คนรุ่นต่อๆไป ซึ่งอาจารย์ได้ติดตั้งป้ายอธิบายที่จุดสำคัญต่างๆ เพื่ออธิบายความเป็นมาและประสบการต่างๆของอาจารย์มีต่อป่าไม้ที่ได้ใช้เวลากว่าค่อนชีวิตสร้างขึ้น

ขี่จักรยานภูเขา การขี่จักรยานภูเขาท่ามกลางบรรยากาศของต้นสนและต้นสักสูงครึ้ม ช่างเป็นการออกกำลังกายที่แสนจะวิเศษต่อร่างกายและจิตใจ

เก็บสตอเบอรี่ สวนชัชนาถนั้นมีไร่สตอเบอรี่ที่ท่านสามารถเก็บมากินสดๆ มาทำน้ำปั่น กินเป็นของหวาน หรือแม้แต่จะนำไปเป็นของฝากสุดพิเศษแก่คนที่บ้าน

เทศการหิ่งห้อย ใครบอกว่าจะดูหิ่งห้อยต้องไปดูที่สมุทรสงคราม ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของสวนชัชนาถนั้ยมีหิ่งห้อยมากมายจนเหลือเชื่อ เวลามองเข้าไปในป่านั้นจะเหมือนมองไฟในงานเทศการเลยทีเดียว ที่วิเศษไปกว่านั้นคือหิ่งห้อยจะบินตามคลื่นเสียง ถ้าเราปิดไฟและเปิดเพลงตอนกลางคืน หิ่งห้อยจะบินเข้ามาเต็มบ้านเลยทีเดียว

กล้วยไม้ป่า ความสุขของอาจารย์ยอดหทัยและนายคำภูผู้ดูแลสวนชัชนาถอีกสิ่งหนึ่ง คือการได้ปลูกกล้วยไม้ป่า ในสวนชัชนาถนั้นมีกล้วยไม้ป่ามากมายหลายชนิด เวลากล้วยไม้ป่าออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนเมษายน สีสันของดอกไม้จะลานตาจนดูไม่เหมือนว่าเราอยู่ในสวนชัชนาถสวนเดิมเลยทีเดียว

สำหรับผู้นิยมดื่มไวน์ สำหรับคนไทยแล้ว ด้วยความที่บ้านเราเป็นเมืองร้อน ยกเว้นเสียแต่ว่าเราอยู่ในห้องแอร์อับชื้นเราก็เกือบจะหมดสิทธิ์ได้ดื่มไวน์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ถ้าหากท่านเป็นผู้ชอบดื่มไวน์แล้วละก็ อะไรจะวิเศษไปกว่าการได้ดื่มไวน์ในอุณหภูมิที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างบนภูเรือท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก อย่างในสวนชัชนาถ

สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย  อินเตอร์เน็ต  นวดแผนไทยโบราณ  ร้านอาหารครัวคำภา  สวนออกกำลังกาย  ปาร์ตี้ส่วนตัว  ห้องจัดสัมมนา

เฮ้อ..นี่แค่บางส่วนนะเนี่ย  บางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความงามทางธรรมชาติ สภาพอากาศมันก็ยากจะเกินบรรยาย  นี่ก็ใกล้จะหนาวแล้วใครอยากสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในสยาม ก็ขอเชิญมาลองดูกันได้ ถ้าอยากรู้ต้องรองมาสัมผัสกันดูได้ที่สวนชัชนาถ ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย จังหวัดที่หนาวเย็นที่สุดในประเทศไทย  แล้วท่านจะติดใจจนไม่อยากจะกลับเลยก็ได้ ดูเอเซีย.คอมขอคอนเฟิร์ม

ขอบคุณภาพ www.chachanat.com

เชิญแสดงความคิดเห็น