แขวงคำม่วน ตั้งอยู่ทางตอนกลางของลาว ติดชายแดนไทยและเวียดนาม มี เมืองท่าแขก เป็นเมืองเอกของแขวง ถือเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจของแขวง รวมถึงการท่องเที่ยว เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระธาตุศรีโคตบอง ตึกอาคารสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ถ้ำพระหนองปาฝา กำแพงยักษ์โบราณ ถ้ำนางแอ่น
แขวงคำม่วน : “เมืองแห่งผืนป่าและธรรมชาติ”
แขวงคำม่วน นับเป็นแขวงที่มีความสำคัญทางประวัติลาว ในอดีตราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 แขวงนี้เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรฟูนันและเจนละโดยได้เรียกขานเมืองนี้ว่า “ศรีโคตรบูร” ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสยกทัพมายังเมืองศรีโคตรบูรในปี พ.ศ. 1910 เมืองศรีโคตรบูรจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมือง “ท่าแขก” ด้วยเหตุนี้ภายในเมืองท่าแขกจะพบตึกอาคารสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสหลายแห่ง
ปัจจุบันชื่อของท่าแขกได้เป็นเพียงชื่อของเมืองหลวงเท่านั้น โดยทางรัฐบาลลาวได้เปลี่ยนชื่อแขวงใหม่ให้เป็นคำม่วน เนื่องจากชื่อท่าแขกไม่สะท้อนถึงความเป็นชนชาติลาวได้ดีเพียงพอ แขวงคำม่วนตั้งอยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ลงมาทางทิศใต้ถึง 350 กิโลเมตร นับเป็นเมืองศูนย์กลสงของการเดินทางและเป็นท่าด่านที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมเดินทางมาจากเวียงจันทน์แต่นิยมใช้บริการเรือข้ามฟากจากจังหวัดนครพนมมากกว่า
• แขวงคำม่วนมีเขตป่าสงวนที่สำคัญถึง 2 แห่ง คือภูหินปั้น และนากาย-น้ำเทิน เป็นป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นับว่าเป็นแขวงที่มีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุด ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขง เมืองหลวงชื่อ “ท่าแขก” ตรงข้ามกับจังหวัดนครพนม สามารถนั่งเรือข้ามโขงไปเที่ยวได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะพักที่เมืองท่าแขก ซึ่งมีเกสเฮาท์เรือนพักริมแม่น้ำโขง พร้อมร้านอาหารริมโขงให้บริการมากมาย หรือจะมาพักสบายๆที่ฝั่งจังหวัดนครพนมก็มีมากมายเช่นกัน
• กิจกรรมท่องเที่ยวในแขวงคำม่วน ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองท่าแขก มีรายการชมวัด เที่ยวชมตัวเมือง ชมอาคารสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสมากมาย และเที่ยววัดศรีโคตรบูร วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมโขง ส่วนด้านนอกเมืองท่าแขกมีรายการท่องเที่ยวธรรมชาติชมถ้ำพระซึ่งต้องพายเรือแจวเข้าไปและเที่ยวถ้ำนกนางแอ่นก็ได้
แขวงคำม่วนวันนี้ เชื่อมต่อกับนครพนม ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 เป็นเส้นทางจากไทยสู่เวียดนาม ไปยังนครหนานหนิงของจีน ที่มีระยะทางใกล้ที่สุด และอีกไม่นานโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ผ่านมาทางเวียงจันทร์-ท่าแขก-เวียดนาม ก็จะเกิดขึ้น ยิ่งทำให้แขวงคำม่วนกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ เป็นที่จับตามองของนักลงทุนตะวันตก ซึ่งรัฐบาลลาวประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจจำเพาะท่าแขก และเขตเขตเศรษฐกิจจำเพาะภูเขียว เพื่อส่งเสริมการลงทุนไว้รองรับแล้ว
ไปถึงท่าแขก แวะดู กำแพงหินโบราณ หรือกำแพงหินยักษ์ ซึ่งบนทางหลวงหมายเลข 13 บนเส้นทางจากเมืองท่าแขกไปเวียงจันทร์ ใกล้หลักเขต กม.8 กำแพงหินยักษ์ที่ว่านี้ ปากทางมีป้ายไม้เล็กๆ บอกว่าไป ถ้ำแม่พระมารีอาแห่งเมืองลูร์ด ตามทางลูกรัง สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่เหมือนเป็นแนวป่า
ไม่ไกลนัก ก็เริ่มเห็นแนวหินตัด ความสูงยังไม่มากเท่าไหร่ แต่ที่สูงมาก และเป็นความมหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อและเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครฟันธง 100 % ว่าเป็นผีมือมนุษย์หรือยักษ์ตามเรื่องเล่า หรือ ธรรมชาติจัดสรร เพราะเป็นแนวกำแพงหินขนาดยักษ์ ที่เหมือนหินก้อนใหญ่ๆ ซ้อนกัน สูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ส่วนความยาวนี่ว่ากันเป็น 10 กม.ทีเดียว แต่ก็ปล่อยให้ถูกทำลาย กร่อนสลายไปตามกาลเวลาอย่างน่าเสียดาย แต่ตอนนี้เห็นมีล้อมรั้วลวดหนามแล้ว
ด้านหนึ่งของกำแพงหินยักษ์นี่เอง มีถ้ำเล็กๆ เป็นสถานที่จำลองถ้ำแม่พระเมืองลูร์ด ข้างๆ กันมีบันไดขึ้นไปยังถ้ำเล็กๆ ข้างบนที่มีรูปปั้นพระแม่มารีอาประดิษฐานอยู่ ดูจากร่องรอยแล้ว มีคนมีกราบไหว้อยู่บ่อยๆ
จากกำแพงหินยักษ์ เดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุสีโคดตะบอง (ตามภาษาลาว) หรือที่ไทยเราเรียกกันว่า วัดพระธาตุศรีโคตรบูร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตลอดทางที่ไป ผ่านบ้านเมือง ที่ทำการแขวง รวมถึงโรงเรียน ที่ดูแล้วยังสบายตา สบายใจ ไม่อัดแน่นไปด้วยตึกรามใหญ่โต
วัดพระธาตุสีโคดตะบอง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ผู้หญิงต้องนุ่งกระโปรงหรือผ้านุ่ง ซึ่งก็มีให้เช่าหน้าวัด ภายในเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านันทเสนแห่งเมืองศรีโคตรบูร ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งแรกในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ภายในวิหารมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่พระเจ้าอนุวงศ์เป็นผู้สร้างไว้ ลายผนังในวิหารบอกเล่าได้ดีถึงเรื่องเล่าขานความเป็นมาของอาณาจักรล้านช้าง และพระยาสีโคดที่ทรงพลัง
แวะตลาดเมืองท่าแขก ที่แม้จะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในย่านนี้ แต่ก็ยังไม่ใหญ่ไปกว่าตลาดในเมืองชนบทของไทย แต่ที่น่าตื่นตา ตื่นใจ ก็คือบรรดาตู้เงิน ตู้ทอง ที่วางขายใส่ตู้กระจกเหมือนเครื่องถมทั่วๆ ไป อยู่ในโซนด้านหน้า ไม่ต้องมีติดกล้องวงจรปิด ไม่ต้องมีตำรวจมานั่งเฝ้าเหมือนกับร้านขายทองในบ้านเรา ด้านในเป็นตลาดผ้า และตลาดสินค้าทั่วๆ ไป
ถ้ำนางแอ่น เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่น่าพลาด เป็นถ้ำที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเคยเสด็จทอดพระเนตร ที่นี่เก็บค่าเข้าชม 5,000 กีบ บังเอิญได้คุยกับเด็กที่พาเข้าชม เป็นลูกหลานคนที่ได้สัมปทานถ้ำ ถึงได้รู้ว่า รัฐบาลให้เอกชนสัมปทานถ้ำนานถึง 90 ปี และคนที่รับสัปทานปัจจุบันก็เป็นลูกหลานแล้ว เรียกว่าเป็นมรดกตกทอดกันจนกว่าจะหมดสัมปทานนั่นแหล่ะ
การเข้าถ้ำที่นี่ เป็นความเชื่อ และถือปฏิบัติกันคือจะต้องเข้าทางขวา ออกทางซ้าย ของปากถ้ำ และก่อนออกจะต้องวักน้ำล้างหน้าล้างตา เหมือนกันปัดเป่าสิ่งไม่ดี ไม่ให้ติดตัวออกมา ในสายตาฉันรู้สึกเสียดาย เพราะถ้ำนี้ถูกดัดแปลงไปมากทั้งบันไดในถ้ำและติดหลอดไฟนีออน ทั้งสีชมพู สีเหลือง ส่องสว่าง ซึ่งมีผลต่อหินงอก หินย้อยเป้นอย่างมาก คนไม่ชอบเที่ยวถ้ำอย่างฉันเลยไม่ค่อยประทับใจ แต่ที่สนใจเห็นจะเป็นธารน้ำในถ้ำ ที่ทอดยาวหายเข้าไปในถ้ำ คนดูแลบอกว่าล่องเรือไปได้ แต่ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง คราวหน้าถ้ามีโอกาส ลบอกว่าล่องเรือไปได้ แต่ได้ แต่มีให้บริการล่องเรือ ซึ่งต้องใช้เวลา ะไม่มีใครเดินไปในจุดที่ทำไว้ แถม่ให้ติดตัฉันจะไม่พลาดแน่ๆ
ที่พักในเมืองท่าแขก
• แขวงคำม่วนเป็นเมืองใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะภายในเมืองท่าแขก เพราะเป็นเมืองท่าด่านมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศข้ามมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถโดยสารขนาดใหญ่ นับเป็นสถานีที่รถจากเวียงจันทน์และจำปาสักต้องมาแวะรับผู้โดยสารตลอดทั้งวัน เมืองท่าแขกจึงมีโรงแรมและเกสเฮาท์ให้เลือกมากมาย
หากต้องการพักโรงแรมระดับสามดาวบริเวณริมแม่น้ำโขงใกล้ท่าเรือ มีโรงแรมแม่น้ำโขง คำม่วน เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองท่าแขก อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่ชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามที่สุดอีกด้วย แต่ถ้าอยากจะประหยัดชอบอยู่อย่างเรียบง่ายบริเวณสถานีรถโดยสานมีเกสเฮาท์เล็กๆทั้งแบบแอร์และพัดลมให้บริการด้วย
ร้านอาหาร
• แม้เมืองท่าแขกจะมีชื่อเสียงเป็นศูนย์กลางของการเดินทาง แต่ภายในเมืองท่าแขกกลับไม่มีร้านอาหารขึ้นชื่อให้เลือกกินสักเท่าไร ร้านส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทตามสั่ง แต่ในยามค่ำคืนบริเวณสถานีรถโดยสารจะมีร้านแผงลอยออกมาวางขายซาลาเปาให้ชิมด้วย
การเดินทาง
• วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับการมาท่องเที่ยวยังแขวงคำม่วนคือการนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งไทยที่จังหวัดนครพนมมายังเมืองท่าแขก เมืองหลวงของแขวงคำม่วน โดยสามารถเลือกใช้บริการรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มาลงที่จังหวัดนครพนมเพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปยังเมืองท่าแขกหรือถ้าขับรถไปจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงจังหวัดสระบุรีบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 107 แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านเข้าสู่จังหวัดมหาสารคาม จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 213 ไปจังหวัดกาฬสินธุ์ จนถึงจังหวัดสกลนคร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 22 ตรงเข้าสู่จังหวัดนครพนม รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 740 กิโลเมตร