นครหลวงเวียงจันทน์ (ลาว: นะคอนหลวงเวียงจัน) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศลาวและเป็นเขตที่ตั้งของกรุงเวียงจันทน์เมืองหลวงของประเทศลาว ลักษณะการปกครองคล้ายกับกรุงเทพมหานคร อยู่ทางตอนกลางของประเทศลาว มีเมืองเอกคือจันทะบูลี มีเขตติดต่อเป็นชายแดนกับประเทศไทยระหว่างเวียงจันทน์กับหนองคายของประเทศไทย ทางสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 แขวงนครหลวงเวียงจันทน์เป็นแขวงที่เจริญที่สุดใน 18 แขวงของประเทศลาว
เขตปกครองนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยแยกออกมาจากแขวงเวียงจันทน์ ตามที่สืบค้นมาพบว่า ชื่อเดิมของเมือง “เวียงจันทน์” มีการเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ได้แก่ เมืองไผ่หนาม เมืองจันทบุรีสีสัตนาทะนะหุ เวียงจันทน์ เป็นเมืองหลวงของลาว จะครบ 450 ป ี ในปี 2553 ซึ่งนับมื้อนับยาม (นับวัน) เวียงจันทน์ได้รับการพัฒนาและเจริญขึ้นเป็นลำดับ
ทำไมจึงตั้งชื่อเมืองว่า “เวียงจันทน์” นั้น ยังหาหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน ไม่ได้ แต่ได้มีการบอกเล่าสืบต่อกันมา 2 ความคิดเห็น ความคิดเห็นแรกคือ เดิมเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยไม้จันทน์หอม ความคิดเห็นที่สอง คือ ตั้งอยู่ริมน้ำโขงในส่วนที่ลำน้ำโขงโค้งดั่งวงพระจันทร์ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว คำว่า “เวียง ” มีความหมายเดียวกับ “บุรี” ซึ่งแปลว่า ” เมือง” ส่วนคำว่า “จันทน์” น่าจะมาจาก พยางค์แรกของชื่อเมืองเดิม ( จันทบุรีสีสัตนาทนห ุ) จึงเรียกชื่อเมืองสั้นๆว่า “เวียงจันทน์” ในโอกาสต่อไป คงต้องสืบค้นให้มีหลักฐาน อ้างอิงที่ชัดเจนน่าเชื่อถือกว่านี้
จากนครหลวงเวียงจันทน์เมื่อเดินทางไปตามถนนหมายเลข 13 เหนือ จะสิ้นสุดเขตนครหลวงเวียงจันทน์ที่หลักกิโลเมตรที่ 52 จะเข้าสู่เมืองโพนโฮง แขวงเวียงจันทน์ สถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ เขื่อนไฟฟ้าน้ำงึม1 และเมืองวังเวียง จากเมืองวังเวียงจะเริ่มขึ้นเขาสูงชั้น ผ่านเมืองกาสี เพื่อเข้าสู่แขวงหลวงพระบาง
เมืองต่างๆ ในนครหลวงเวียงจันทน์
จันทบุรี ศรีโคตรบอง ไชยเชษฐา ศรีสัตตนาค นาทรายทอง ชัยธานี หาดทรายฟอง สังข์ทอง ปากงึม
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
พระธาตุหลวง
ประตูชัย
วัดสีเมือง
วัดสีสะเกด
หอพระแก้ว
หอคำ (ทำเนียบรัฐบาล)
วัดองค์ตื้อมหาวิหาร
วัดเชียงควน
ศูนย์วัฒนธรรมชนกลุ่มน้อย
อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ท่านไกสอน พรหมวิหาน
เขื่อนน้ำงึม
- ธาตุดำ ในอดีต ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สร้างขึ้นเพื่อ เป็นที่อาศัยของพญานาคห้าเศียร เพื่อคอยปกป้องรักษาเมืองจากการรุกรานของชาวสยาม
- ธาตุดำที่ถ่ายจากมุมเดียวกันใน ปี พ.ศ.2552 อยู่ห่างจากตลาดเช้าประมาณ 600 เมตร ซึ่งขาดการสักการะบูชาและการดูแล ปัจจุบันเป็นวงเวียน มีร้านค้าและบ้านอยู่อาศัยรายล้อม
- ถนนท่าเดื่อ จากชายแดนลาว มุ่งสู่กลางนครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 22 ก.ม.
- วิทยาคารป้องกันชาติ ไกสอน พมวิหาน ห่างจากสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ประมาณ 14 ก.ม. ตรงกับ อ. ท่าบ่อ จ.หนองคาย
- อนุสาวรีย์เจ้าสีสะหว่างวง กษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ประดิษฐานอยู่หน้าวัดสีเมือง
- รูปปั้นแม่สีเมืองและเจดีย์เก่าแก่ สร้างเพื่อรำลึกถึงแม่สีเมือง เชื่อกันว่าศักสิทธิ์ ขอได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องความรัก
- หอคำ สร้างในบริเวณที่เคยเป็นพระราชวัง ของนครหลวงเวียงจันทน์ปัจจุบันเป็นที่ทำการ ของประธานประเทศและใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
- หอพระแก้ว เป็นหอพระที่อยู่ในวัง พระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ในหอพระแห่งนี้ ภายหลังที่อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประเทศไทย จึงย้ายตำแหน่งพระประธาน ให้หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศไทย เมื่อชาวลาวกราบพระประธานครั้งใด ก็เหมือนได้กราบพระแก้วมรกตไปพร้อมๆ กัน
- ระเบียงโดยรอบของหอพระแก้ว
- ถนนล้านช้าง เมื่อ ปี พ.ศ.2551 เป็นถนนที่สวยงามของเวียงจันทน์ จากหอคำถึงประตูชัย ไม่มีสายไฟระโยงระยางให้เห็นตามทาง เพราะใช้ระบบสายไฟใต้ดิน มองไปที่สุดถนนจะเห็นประตูชัย
- อนุสาวรีย์เจ้าฟ้างุ้ม กษัตริย์ผู้รวบรวมอณาจักรทั้ง 3 ได้แก่ เวียงจันทน์ หลวงพระบางและจำปาสัก เข้าด้วยกัน เป็นอนาจักรลาวลานช้าง
- ศิลปะการก่อสร้างบ้านแบบโคโรเนียลมีอยู่หลายหลัง บางหลังถูกปล่อยให้ร้างหลังสงคราม
- บ้านหลังนี้รกร้างไร้คนดูแล
- อาค่ร ่หลังนี้ ตั้งอยู่บนถนนล้านช้าง ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับการครอบครอง บูรณะและปรับเปลี่ยนให้อยู่ในสภาพดี
- ปี พ.ศ.2526 ( ค.ศ.1983 )
- ปี พ.ศ.2552 ( ค.ศ.2009 )
- วัดสีเมือง ตั้งอยู่สุดถนนท่าเดื่อหรือหลังอนุสาวรีย์เจ้าสีสะหว่างวง เป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองเวียงจันทน์
- ศาลหลักเมือง วัดสีเมือง ในปี พ.ส . 2553 ศาลหลักเมืองจะมีอายุครบ 1,770 ปี ( เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ ก่อนสถาปนาเป็นเมืองหลวง) และครบรอบการสถาปนาเป็นเมืองหลวง 450 ปี เสาหลักเมืองเป็นศิลปะสมัยขอมเรืองอำนาจ ผู้ที่มาเยือน สปป.ลาว มักจะมาสักการะศาลหลักเมือง
ข้อขอบคุณข้อมูล สำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ไทย/เวียงจันทน์
เชิญแสดงความคิดเห็น