ข้าวเหนียว ส้มตำ ลาบ น้ำตก และอีกสารพัดอาหารอีสาน เป็นที่นิยมกันแพร่หลายสำหรับคนไทย เชื่อว่าหลายจังหวัดต้องมีอาหารประเภทนี้ขายอยู่แน่ๆ อย่างน้อยที่สุดก็จังหวัดละ 1 ร้านแหละน่า ดูเอเซีย.คอมจึงอยากแนะนำร้าน “น้ำตกสีดา” ร้านอาหารอีสานในกรุงเทพฯที่ตั้งอยู่ในตรอกวังหลัง ให้เพื่อนๆได้รู้จักกัน ร้านนี้ไม่มีน้ำตกแหล่งน้ำใดๆให้ลงเล่น ไม่มีนางสีดาในรามเกียรติ์ แต่หากถามถึงอาหารรสแซ่บหลากหลายเมนูละก็ มาถูกที่แล้ว!
น้ำตกสีดาเป็นร้านที่เปิดให้บริการภายในตรอกวังหลังแห่งนี้มาแล้ว 42 ปี ไม่ย้ายไปไหน โดยมีคุณป้าสีดาเจ้าของร้านอันเป็นที่มาของชื่อร้านเป็นผู้บุกเบิกในยุคแรก กระทั่งปัจจุบันนี้คุณป้าจะอายุ 72 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่วางสากปล่อยครก ยังคงนั่งหน้าร้านตำส้มตำให้ลูกค้าได้ลิ้มรสสูตรของร้านแบบต้นตำหรับ แต่ก็มีช่วงเวลาสำหรับการ “ขึ้นครก” ของป้าสีดาค่ะ แกบอกว่าจะมาตอนร้านเปิดประมาณ 9 โมงครึ่งและจะอยู่ถึงประมาณ 3 โมงเย็นก็กลับบ้านพักผ่อน เพราะคนจะเริ่มบางตาลงไปหน่อยแล้ว แต่คนที่มาหลัง 3 โมงเย็นก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะมีมือตำศิษย์ป้าสีดาคอยให้บริการอยู่ ทางเราแอบไปแซวป้าแกตอนกำลังตำปูปลาร้าว่า “ลีลาการตำของป้านี่ ถ้าไม่ตำมา 40 กว่าปีทำไม่ได้นะเนี่ย” ป้าตอบมาแบบเขินๆว่า “แหม… คนนี้ก็ทำได้” แกชี้ไปที่ศิษย์มือตำผู้ซึ่งจะมาลงสนามตำครกแทนแกหลัง 3 โมง เป็นอันว่าไว้ใจได้ค่ะสำหรับผู้ที่มาทานตอนป้าสีดาไม่อยู่ เพราะป้าแกยืนยันมาแล้ว
ความอร่อยของร้านนี้อยู่ที่วัตถุดิบที่สด ต้องจ่ายตลาดทุกวันไม่ใช้ของค้างคืน อีกทั้งส่วนผสมต่างๆทางร้านจะใช้ของดี เช่น กุ้งแห้งก็จะไม่ใช้กุ้งฝอยแต่จะเลือกใช้กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่แทน ปลาร้าก็ทำการต้มเอง น้ำตาลปี๊บก็เคี้ยวเอง ปูที่ใช้ป้าสีดาบอกว่าต้อง “สระผมตัดเล็บ” คือ กระดองปูไม่ใช้ และบรรดาขนที่อยู่ตามตัวปูก็ตัดให้เรียบ หรือแม้แต่ถั่วลิสงก็คั่วเอง ฉะนั้นจึงหายห่วงไปได้เลยในเรื่องของความสะอาดของอาหาร เป็นธรรมดาที่หากส่วนผสม วัตถุดิบ เป็นของดี วิธีการปรุงถูกหลักอนามัยประกอบกับมีสูตรเด็ดประจำตัว อาหารที่ได้ก็จะมีรสชาติอร่อยเป็นเรื่องปกติ
ภายในร้านจะแบ่งการปรุงอาหารเป็น 2 ส่วน ด้านหนึ่งจะให้ป้าสีดานั่งปักหลักตำส้มตำเพียงอย่างเดียวซึ่งเมนูตำมีให้เลือกทานเยอะทีเดียว ที่พิเศษก็น่าจะเป็น ตำหอยดองไข่เค็ม ตำแมงดา ตำกุ้งสด และตำปลาดุกฟู ส่วนอีกด้านก็จะเป็นส่วนที่ไว้ใช้ปรุงอาหารที่เหลือ ตั้งแต่ประเภทย่างไม่ว่าจะเป็นคอหมูย่าง เนื้อย่าง ปลาดุกย่าง หรือ ลาบ น้ำตก ยำ ต้มแซ่บ ซุปหน่อไม้ ส่วนพนักงานในร้านมีอยู่ราวๆ 10 คน ซึ่งคอยทำหน้าที่ให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง เนื่องจากลูกชายคุณป้าสีดา เล่าให้ฟังด้วยอารมณ์ขันว่าที่ร้านนี้ลูกค้าจะชอบมาเล่นเก้าอี้ดนตรีกัน คือคนจะแน่นทุกวัน ผลัดกันเข้าออกจึงทำให้ต้องมีจำนวนพนักงานที่เพียงพอในการดูแลลูกค้า และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น ทางร้านมีเมนูอยู่ไม่เยอะ มีที่ยืนพื้นก็คือ ส้มตำไทย ส้มตำปู ส้มตำปูปลาร้า และเป็นเป็นเภทเนื้อวัว เช่น เนื้อย่าง น้ำตก ลาบเนื้อ เป็นต้น จากนั้นเมื่อเริ่มเห็นว่ามีลูกค้าจำนวนมาก ก็ทำการเพิ่มเมนูให้หลากหลายแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น จนทำให้ปัจจุบันนี้ ร้านน้ำตกสีดามีเมนู 30 กว่าเมนูสิ่งหนึ่งถือว่าเป็นเกียรติสำหรับทางร้านตามคำบอกเล่าของลูกชายป้าสีดาก็คือ การเสด็จมาเสวยอาหารของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (องค์ภา)และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ รวมไปถึงการที่ป้าสีดาตำส้มตำไปถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชในวัง ถึง 20 กว่า ครั้ง ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้ป้าแกมาตลอด หากใครมีโอกาสแวะมาชิมอาหารคงได้เห็นรูปถ่ายที่แขวนไว้บนผนังเรียงราย รวมไปถึงประกาศนีบัตรหรือใบรับรองความอร่อยอีกหลายรายการ เพื่อยืนยันชื่อเสียงของร้านนี้
หากเพื่อนๆชื่นชอบอาหารอีสาน รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดร้อนรสจัดจนเกินไป ทานได้ทุกเพศทุกวัย ไม่จำกัดหน้าตา ลองแวะมาที่ร้านน้ำตกสีดาในตรอกวังหลังกลางซอยสักหน่อย สำหรับการเดินทาง ต้องมาตั้งหลักที่ท่าเรือวังหลังให้ได้เสียก่อน ซึ่งสามารถมาได้โดยเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์หากเดินทางมาถึงท่าเรือวังหลังแล้ว เดินเข้ามาในซอยตลาดวังหลัง ซึ่งเป็นแหล่งขายของมือสอง เดินมาไม่ไกลมาก ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ สังเกตง่ายค่ะเพราะคนจะเยอะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ปิดเฉพาะวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ช่วงเวลาตั้งแต่ 09.30-18.30 น.
ขอบคุณภาพจาก th.foursquare.com
