ทำเอางวยงงตั้งแต่แรกเห็น ชื่อร้านแล้วล่ะครับ “ปลาทูแช็ค” ร้านอาหารย่านลาดพร้าว ร้านอะไรตั้งชื่อเป็น “ปลาทู” หรือว่าเค้าเลี้ยงปลาทู ก็เพราะคำว่า Shack แปลเป็นภาษาไทยว่า กระท่อม ปลาทูแช็คก็กระท่อมปลาทู เค้าก็ต้องเลี้ยงปลาทู หรือไม่เจ้าของร้านเค้าก็ต้องชอบกินปลาทูแน่นอน เดาไปเรื่อยสงสัยว่าจะไม่ได้การ คนชอบกิน ชอบเที่ยวอย่าง ดูเอเซียซะอย่าง ถ้าเกิดฉงนและสงสัยเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ แปลว่า ต้องเข้าไปพิสูจน์ให้ได้ เข้าไปดูกันซิว่า ร้านนี้เค้ามีที่มาที่ไปอย่างไรเดินดุ่มๆ เข้าไปไม่รู้แหละว่า ภายในร้านเค้าจะมีหน้าตายังไง แต่ดูจากภายนอกแล้ว บรรยากาศร่มรื่น ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี แต่ถ้ามองจากภายนอกเพียงอย่างเดียว ผมเชื่อเลยว่าคุณจะไม่มีทางรู้กลิ่นอายความ คลาสสิค และ ความมีเสน่ห์ของร้านนี้อย่างแน่นอน นอกจากบรรยากาศที่สร้างความประทับใจให้ผมแล้ว การตกแต่งร้าน ที่ผมบอกไปแล้วนั้น สำหรับคนที่ชอบ ความคลาสสิค ของ มนต์สเน่ห์ ยุด Sixty ล่ะก็ ต้องโดนใจอย่างแน่นอน เพราะเพลงและดนตรีของร้านนี้จะเป็นแนวนี้ทั้งน้าน… ได้อารมณ์คนชอบชิว เค้านำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทีเดียวเชียว มันโบราณ มันเท่ห์แบบบอกไม่ถูก เริ่มติดใจร้านนี้เข้าอย่างจังแล้วล่ะ อีกอย่าง ณ เวลาที่ผมมาก็อยู่ในช่วงเย็นย่ำพอดี โรแมนติกไม่ใช่น้อยดื่มด่ำบรรยากาศจนเกือบลืมจุดมุ่งหมายของตัวเอง ว่า วันนี้ผมจะเข้ามาหาคำตอบของชื่อร้าน “ปลาทูแช็ค” ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร กวาดสายตาไปโดยรอบก็ยังไม่เห็น บ่อเลี้ยงปลาทูสักบ่อ ตกลงว่ามันยังไงกันแน่ และแล้วผมก็มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่เจ้าของร้านนี้ พี่เค้าเล่าให้คนอยากรู้ฟังแบบคร่าวๆ ว่า “ความจริงแล้วร้านนี้แต่ก่อนชื่อร้าน “ปลาทู” คือหุ้นส่วนในร้านหนึ่งคนเป็น คนแม่กลอง จะคุ้นเคยกับ ปลาทูเป็นอย่างดี เราก็เลยคิดกันว่าเราก็ควรจะหาจุดเด่นของร้านที่เกี่ยวกับปลาทู เราก็พยายามคัดสรรเมนูที่แตกต่างและหลากหลายออกมาเรื่อย จนตอนนี้กว่า 8 ปีแล้ว แต่ตอนประมาณช่วงสี่ปีที่แล้ว เราย้ายร้านมาจาก ลาดพร้าว 84 แล้วเราก็เพิ่มรายการอาหารเป็นอาหารฝรั่งด้วย เพื่อความเป็นอินเตอร์เราก็เลยใส่คำว่า Shack ที่แปลว่า กระท่อมลงไปค่ะ”
หลังจากที่ผมรู้ประวัติความเป็นมาแล้ว ไม่มีทางใช่มั้ยครับ ที่ผมจะไม่อยากยลโฉม เมนูปลาทู ที่ว่าอยากรู้ว่า จะเยอะอย่างที่ร่ำลือหรือเปล่า เยอะจริงๆ ครับ ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่า “ปลาทู” จะนำมาทำอาหารได้เยอะขนาดนี้ ลองเลือกมารับประทานสักสามอย่าง ปลาทูต้มมะดัน,ปลาทูเมาเม็ด,เมี่ยงปลาทู และที่พี่เจ้าของร้านเค้าแนะนำอีกหนึ่งเมนู ที่โดดเด่นและถือเป็นเมนูหาทานยากซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ “ปลาทู” หรอกครับ นั่นก็คือ “ผัดกะเฉดชะลูดน้ำ”
ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งรอเพื่อนๆ ของผม คือเจ้าปลาทู ตัวน้อย ผมก็ไม่ลืมที่จะเก็บบรรยากาศโดยรอบของร้านนี้มาฝากทุกคน มุมหนึ่งของร้านนี้จะมี มุมภาพถ่าย “โลโม” ซึ่งเป็นการทำขึ้นจากสมาชิกในชมรม คนรักโลโม ภาพถ่ายพวกนี้จะหน้าตาแปลกๆนิดนึง แต่ถ้าใครที่ชอบก็คงจะหลงใหลมุมภาพถ่ายมุมนี้แน่นอน
นอกจากเมนูปลาทูที่ผมสั่งไปนั้น ทางร้านมีอาหารนานาชนิดให้ท่านได้เลือกกินกันตามสบาย และอย่างเด็ดๆ แหวกแนวทั้งนั้น บอกให้หมดคงไม่ไหว ขอบอกเฉพาะเมนูปลาทุแล้วกัน อาทิ
- ฉู่ฉี่ปลาทู
- ปลาทูต้มมะนาว
- ปลาทูต้มระกำ
- ปลาทูต้มส้ม
- ปลาทูแดดเดียว
- ปลาทูสดทอด
- ยำปลาทู
- พล่าปลาทู
- แกงส้มปลาทู
- ปลาทูนึ่งมะนาว
- ปลาทูผัดขี้เมา
- ปลาทูผัดกะเพรา
- ปลาทูน้ำตก
- น้ำพริกกะปิ-ปลาทู
- ขิงผัดตะไคร้ปลาทู
- ข้าวผัดปลาทู
- ปลาทูกล้วยดิบ
- ปลาทูต้มมะดัน
- ปลาทูเมาเม็ด
- เมี่ยงปลาทู
และขอทิ้งท้ายด้วย เมนูแนะนำของร้านนี้ ผักระเฉดชะลุดน้ำ- เมนูนี้ก็เหมือนกับผัดกะเฉดไฟแดงนี่แหละ ที่คุณรู้จักกันมั้ยล่ะ “กะเฉดชะลูดน้ำ” บอกตามตรงผมก็เพิ่งจะรู้จักนี่แหละ ผักกะเฉดชนิดนี้ เป็นผักกะเฉดที่ถูกคิดค้นขึ้นจาก เกษตรกรผู้หนึ่ง ในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ลักษณะของมันคล้ายผักกะเฉดทั่วไป แต่จะเหมือนเป็นแค่ตรงยอดของมัน ซึ่งไม่ใช่แค่รูปร่างเท่านั้น รสชาติของมันก็อร่อยและกรอบกว่า ไม่เหม็นเขียว ที่สำคัญหาทานยากมาก ต้องสั่งมาเฉพาะเท่านั้น สำหรับใครที่อยากกินก็คงต้องไปที่ ตลาดปราจีนบุรี แต่ถ้าไม่ว่างไปก็ที่นี่ “ปลาทูแช็ค” ครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ร้าน “ปลาทูแช็ค”
เปิดบริการตั้งแต่ 17.00-00.00 น. หยุดเฉพาะวันสงกรานต์
สอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์ 089-770-3343,02-539-5035-6
การเดินทาง
ร้าน “ปลาทูแช็ค” ตั้งอยู่ที่ 45/109 ถ.นาคนิวาส ซอย ลาดพร้าว 71 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. ถ้าท่านมาจากถนนลาดพร้าว เข้ามาในซอย ตรงมาตามทางประมาณ 5 กิโลเมตร เจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย และเจอสามแยกต่อไปให้เลี้ยวขวา ร้านอยู่ตรงเลยแยกไปนิด ซ้ายมือ
ขอบคุณภาพจาก eataroi.com