ช่วงรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำหรับทุกคนที่ชอบและรักในการเดินทาง ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆนั้น ผมเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งสำคัญที่หลายคนต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกนั่นก็คือ หนึ่งในปัจจัยสี่ “ที่พักหรือที่อยู่อาศัยนั่นเอง” ไม่ว่าท่านจะเดินทางนานแค่ไหนก็ตามทุกคนต้องการที่หลับนอนพักผ่อนหย่อนกายทั้งสิ้น
ซึ่งสำหรับในเรื่องนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการพื้นฐานของแต่ละคน หากใครที่ต้องการเที่ยวแบบลุยๆ หน่อยก็กางเต้นท์นอน ซึ่งกระผม ดูเอเซีย ก็ชอบเหมือนกันนะแล้วแต่อารมณ์นะครับ ขึ้นอยู่ว่าไปเที่ยวที่ไหน แต่บางคนก็อาจจะต้องการความสะดวกสบายขึ้นมาหน่อยเวลาออกเดินทางทีหนึ่งก็ต้องหาทีพักก่อนผมเชื่อเป็นเช่นนั้น แต่ก็อาจจะมีอีกกลุ่มหนึ่งครับที่หลงใหลกับบรรยากาศของที่พักให้ความสำคัญมากหน่อย ต้องบรรยากาศดี ห้องสวยงามและครบถ้วยสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แต่สำหรับกลุ่มนี้นั้นพื้นฐานก็คงไม่มีอะไรมากนอกจาก “เงิน”ครับ
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนั้นอาจจะต้องคิดกันมากหน่อยล่ะครับในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เอาเป็นว่ ขอเข้าเรื่องเลยครับ ดูเอเซีย เกริ่นเป็นทางการมาขนาดนี้ เรื่องของเรื่องก็คืออยากจะแนะที่พักที่หนึ่งซึ่งประทับใจจ็อดเป็นที่สุดเลยพี่น้องคร้าบ….
ผมจะต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อแสดงความยินดีกับหลานๆ ที่กำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัย รามคำแหงครับ หลายวันเหมือนกัน ซึ่งถ้าจะให้ผมดิ้นรนจากเชียงใหม่มาเช้าเย็นกลับนี่ก็คงจะไม่ไหว แก่แล้ว..ก็อย่างเนี้ยะ เมื่อวันก่อนมีโอกาสได้เข้ามากรุงเทพฯเพื่อติดต่องาน ก็เลยลองหาที่พักเพื่อที่จะกบดานอยู่ในช่วงรับปริญญานั่นแหละ แต่ด้วยความที่ไม่มีข้อมูลในหัวเลยว่าจะพักแถวไหนรู้แต่ว่าความต้องการคือ อยากให้อยุ่ในตัวเมืองเดินทางสะดวก รับปริญญาเสร็จก็สามารถเข้าเมืองคุยงานได้อีก เลยมุ่งไปที่ซอยรามคำแหง 81 ก่อนเห็นเค้าบอกว่าที่นี่มีห้องพักรายวันเยอะ ที่สำคัญซอยนี้ยังสามารถไปทะลุ ลาดพร้าว 130 ได้อีกด้วย ถือว่าตรงจุดประสงค์ไปครึ่งใกล้เมืองใกล้มหาวิทยาลัย
ดูเอเซียไม่รอช้าดิ่งตรงเข้าไปครับ ขับรถเข้าซอยลาดพร้าวไปเรื่อยๆ ประมาณ1 กิโลเมตร ซอยนี้เค้ามีห้องพักเยอะดีนะครับ แต่ที่ผมเตะตาที่สุดเห็นจะเป็นโรงแรมแห่งนี้ เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ไฮโซหรูหรา โรงแรม MetroPoint Bangkok ซึ่งถ้าลองเปรียบเทียบกับที่อื่นแล้วผมคิดว่าโดดเด่นที่สุดแล้ว ในหัวสมองก็กำลังจะจอดรถแล้วครับ แต่อีกด้านหนึ่งของสมองกลับบอกว่า ไฮโซขนาดนี้ราคาคงแพงแน่เลยเรา อยู่หลายวันซะด้วยจะโดนไปเท่าไหร่เนี่ย และนี่แหละครับผมถึงบอกว่ามันอยู่ที่พื้นฐานะของแต่ละคน ผมก็อยู่ได้พอประมาณ ถ้าราคาไม่สูงมาก็ดี แต่ก็อยากได้คุณภาพด้วย เลยลองเข้าไปดูก่อนมันจะไปเสียหลายอะไรไหนๆ ก็มาแล้วถ้าไม่ชอบค่อยออกไปก็ได้ไม่เห็นเป็นไร ผมเสร็จแล้วผมก็เดินไปที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ครับ ภายในของที่นี่ดูใหม่มากครับ ก็เลยถามพวกเธอว่า “อยากได้ห้องพักที่นี่มีประเภทไหนบ้าง”
พนักงานคนสวยพาผมเดินดูบริเวณโดยรอบภายในของโรงแรมแห่งนี้โอ่อ่าหรูหรามากครับ ไม่ผิดหวังที่ดูจากข้างนอก ด้านในออกแบบให้ดูไม่อึดอัดส่วนกลางของพื้นที่ เป็นที่โล่งตั้งแต่ มองเห็นทุกชั้นของห้องพัก พนักงานบอกผมว่า “ตรงส่วนนี้เรากำลังจะจัดเป็นสวนในร่มเพื่อสร้างบรรยากาศค่ะ”
ผมรู้สึกชอบอ่ะ ชอบมากๆ อยากเข้าไปดูในห้องแล้ว ผมได้เข้าไปดูห้อง 3 แบบครับ เป็นห้อง เมโทรสวีท(Metro Suite),ดีลักซ์ ดับเบิ้ล(Deluxe Double)และ ซูพีเรียดับเบิ้ล(Superior Double) ครับ รู้สึกชอบในการตกแต่งของที่นี่ ดูสะอาดสะอ้าน ซึ่งน้องพนักงานบอกว่าเฟอร์นิเจอร์ของทุกห้องซึ่งมีกว่า 172 ห้องนั้น มาจากประเทศจีนด้วยครับ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าประเทศไทยต้องไม่มี แน่นอน แต่ก็ไม่สำคัญหรอกครับ ทุกอย่างมันอยู่ที่ความรู้สึกที่เราสัมผัสได้ ห้องที่ผมไปเดินชมบางห้อง เห็นมุมบรรยากาศกรุงเทพฯตอนกลางคืนเห็นพระจันทร์ด้วยครับ สวยจริงๆ
งานนี้ผมก็เลยแอบตอบตกลงปลงใจไปแล้วคนเดียวครับ ลืมไปว่าผมยังไม่ได้ถามเรื่องราคาเลย พอพนักงานชี้แจงให้ฟัง ผมถึงกับอึ้งเลยครับ บอกได้คำเดียวว่าไม่ใช่อย่างที่ผมคิดไว้ว่า หรูหราแล้วต้องแพง ราคาไม่สูงแถมคุณภาพทุกอย่างระดับโรงแรมหลายดาว ผมขอยกนิ้วให้ แล้วก็เลยจองไปเลย 3 ห้องเผื่อญาติและหลานๆ มาพักกันช่วงรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แถมก่อนกลับผมยังได้ขออนุญาตถ่ายรูปกลับมาฝากทุกๆ ท่านด้วยครับ
พลาดไม่ได้สำหรับห้องพักหรูหราแต่ราคากันเองแบบนี้ ดูเอเซีย ขอยกนิ้วสนับสนุนเต็มที่เลยครับ และนอกจากห้องพักสวยๆ แล้วที่นี่เค้าก็ยังมีห้องสัมมาไว้บริการด้วย สามารถจุได้กว่า 60-80 คน ห้องอาหารที่มีไว้ต้อนรับทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยด้วยครับ
ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 02-3770999 หรือ อีเมล์ booking@metropointbangkok.com
ขอบคุณภาพ MetroPoint Bangkok Hotel โรงแรมเมโทรพอยท์