ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี

www.dooasia.com >> ลาว




แผนที่
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
The Lao People's Democratic Republic


 
ข้อมูลทั่วไป
พื้นที่ ๒๓๖,๘๐๐ ตารางกิโลเมตร (ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศไทย)
เมืองหลวง นครหลวงเวียงจันทน์
ประชากร ๕.๖ ล้านคน (ปี ๒๕๔๘) ประกอบด้วยลาวลุ่มร้อยละ ๖๘ ลาวเทิงร้อยละ ๒๒ ลาวสูงร้อยละ ๙ รวมประมาณ ๖๘ ชนเผ่า
ศาสนา ร้อยละ ๗๕ นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๑๖-๑๗ นับถือผี ที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน) และอิสลาม (ประมาณ ๓๐๐ คน)
ภาษา ภาษาลาวเป็นภาษาราชการ
รูปแบบการปกครอง ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดยพรรคการเมืองเดียว คือ พรรคประชาชนปฏิวัติลาวซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดตั้งแต่ลาวเริ่มปกครองในระบอบสังคมนิยม เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๑๘
         ประมุข พลโท จูมมะลี ไชยะสอน ประธานประเทศ
         หัวหน้ารัฐบาล นายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี
         รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายทองลุน สีสุลิด
สถาบันการเมืองที่สำคัญ

                 ๑. พรรคประชาชนปฏิวัติลาว
                ๒. สภารัฐมนตรี (พรรคฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี)
                ๓. สภาแห่งชาติ (ประชาชนเลือกสมาชิกสภาแห่งชาติ จากผู้ที่พรรคฯ เสนอ)
รัฐธรรมนูญและกฎหมาย ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๓๔ (เดิมกฎหมายอยู่ในรูปของคำสั่งฝ่ายบริหาร คือ ระเบียบคำสั่งของพรรคและสภารัฐมนตรี)
การแบ่งเขตการปกครอง แบ่งเป็น ๑๖ แขวง และ ๑ เขตปกครองพิเศษ (นครหลวงเวียงจันทน์) แขวงที่สำคัญได้แก่ เวียงจันทน์ สะหวันนะเขต หลวงพระบาง จำปาสัก คำม่วน
วันชาติ ๒ ธันวาคม
ระบบเศรษฐกิจ เริ่มปฏิรูปจากระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาด ตามนโยบาย “จินตนาการใหม่” เมื่อปี ๒๕๒๙
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ๓.๐๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี ๒๕๔๘)
(GDP)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว ๔๙๑ ดอลลาร์สหรัฐ (ปี ๒๕๔๘)
(GDP per capita)
อัตราการเพิ่มของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ร้อยละ ๗.๕ (ปี ๒๕๔๙)
(GDP Growth)
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ๒๑๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี ๒๕๔๘)
สกุลเงิน กีบ
เงินเฟ้อ ร้อยละ ๙.๖ (ปี ๒๕๔๘)
อัตราแลกเปลี่ยน ๑ บาท : ๒๗๐ กีบ (มีนาคม ๒๕๕๐)
ธนาคารต่างชาติ ดำเนินการได้ ธนาคารไทยมี ๕ แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ตลาดหุ้น ไม่มี
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี
แหล่งนำเข้าที่สำคัญ ไทย จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี
สินค้าส่งออกที่สำคัญ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ไม้ สินแร่ เศษโลหะ ถ่านหิน หนังดิบ และหนังฟอก ข้าวโพด ใบยาสูบ กาแฟ ในปี ๒๕๔๘ ลาวส่งออกสินค้าเป็นมูลค่าประมาณ ๓๗๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๔๗ ร้อยละ ๒
สินค้านำเข้าที่สำคัญ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน อาหาร ผ้าผืน สารเคมี และเครื่องอุปโภคบริโภค ในปี ๒๕๔๘ ลาวนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่าประมาณ ๕๔๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปี ๒๕๔๗ ร้อยละ ๐.๒๑ (หมายเหตุ : สถิติการนำเข้า-ส่งออกดังกล่าวไม่รวมถึงการค้าชายแดนซึ่งมีปริมาณประมาณร้อยละ ๒๕-๓๐ ของมูลค่าการนำเข้า-ส่งออก)
ทรัพยากรสำคัญ ไม้ ดีบุก ยิบซั่ม ตะกั่ว หินเกลือ เหล็ก ถ่านหินลิกไนต์ สังกะสี ทองคำ อัญมณี หินอ่อน น้ำมัน และแหล่งน้ำผลิตไฟฟ้า
การลงทุน รัฐบาลลาวได้ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น อาทิ มาตรการด้านภาษี อนุญาตให้นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงจำปาสัก และแขวงหลวงพระบาง มีอำนาจอนุมัติโครงการลงทุนที่มีมูลค่าไม่เกิน ๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแขวงอื่น ๆ สามารถอนุมัติโครงการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนไม่เกิน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศในลาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ๒๕๔๖ มีมูลค่า ๔๖๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี ๒๕๔๗ มีมูลค่า ๕๓๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปี ๒๕๔๘ มีมูลค่า ๑.๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย จีน
วันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ๑๙ ธันวาคม ๒๔๙๓
เอกอัครราชทูตประจำ สปป.ลาว นายวิบูลย์ คูสกุล
เอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย นายอ้วน พมมะจัก

การเมืองการปกครอง
นโยบายรัฐบาล สปป.ลาว
• พรรคประชาชนปฏิวัติลาวเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดผูกขาดการปกครองประเทศ ตามระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ พรรคฯ ได้กำหนดนโยบายและเป้าหมายการพัฒนาประเทศในการประชุมสมัชชาพรรคฯ ครั้งที่ ๘ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๔๙ ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือปฏิบัติ ดังนี้
- ปี ๒๕๖๓ ต้องพ้นจากสถานะการเป็นประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ต้องมีความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจต้องขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประชาชนต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากปัจจุบัน ๓ เท่าตัว
- ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๓ เป็นช่วงของการเสริมสร้างพื้นฐานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศที่กำหนดไว้สำหรับปี ๒๕๖๓ เศรษฐกิจต้องมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ยุติการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย แก้ไขปัญหาความยากจนให้หมดสิ้นไป เตรียมพัฒนาบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรม ประชากรมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า ๘๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี
• ลาวดำเนินนโยบายต่างประเทศที่มุ่งสร้างเสริมความสัมพันธ์แบบรอบด้านกับทุกประเทศบนพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยไม่แบ่งแยกลัทธิอุดมการณ์เพื่อขอรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือในการพัฒนาประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามที่พรรคฯ กำหนดไว้ ทั้งนี้ ลาวให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นลำดับแรก ได้แก่ เวียดนาม จีน พม่า กัมพูชาและไทย รองลงมาเป็นประเทศร่วมอุดมการณ์ ได้แก่ รัสเซีย เกาหลีเหนือ และคิวบา อย่างไรก็ดี แม้ว่าลาวจะพยายามดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ให้สมดุลเพื่อลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นหลัก แต่ด้วยข้อจำกัดของลาวที่ไม่มีทางออกทะเล และระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ด้อยอยู่ ประกอบกับความใกล้ชิดด้านอุดมการณ์และประวัติศาสตร์ การต่อสู้เพื่อเอกราช ทำให้ลาวมีความสัมพันธ์พิเศษกับเวียดนามและจีน อันเป็นผลให้ประเทศทั้งสองสามารถรักษาและขยายอิทธิพลในลาวได้ต่อไป

สถานการณ์สำคัญ
๑.ด้านการเมืองและความมั่นคง
• สถานการณ์ภายในประเทศโดยรวมมีความสงบเรียบร้อย แม้ว่ายังคงมีรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลตามแขวงต่าง ๆ แต่ทางการลาวสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยได้จัดวางกองกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเข้มงวดทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๙ ยุบเขตการปกครองพิเศษไชสมบูน ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง โดยโอนพื้นที่การปกครองไปขึ้นกับแขวงเชียงขวางและแขวงเวียงจันทน์ เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นแล้ว
• เมื่อวันที่ ๑๘-๒๑ มีนาคม ๒๕๓๙ ที่ประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ครั้งที่ ๘ มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกพลโท จูมมะลี ไชยะสอน รองประธานประเทศ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะบริหารศูนย์กลางพรรค (Central Committee) และสมาชิกคณะกรมการเมือง (Politburo) ลำดับที่ ๑ แทนพลเอกคำไต สีพันดอน อดีตประธานประเทศที่สละตำแหน่งในพรรคทุกตำแหน่ง และได้แต่งตั้งคณะบริหารพรรค ได้แก่ คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรค จำนวน ๕๕ คน คณะกรมการเมือง จำนวน ๑๑ คน คณะเลขาธิการศูนย์กลางพรรค จำนวน ๗ คน และคณะกรรมการตรวจตราพรรคฯ ระดับศูนย์กลางพรรคฯ จำนวน ๓ คน รวมทั้งได้กำหนดแผนพัฒนาประเทศระยะสั้นปี ๒๕๕๓ และระยะยาวปี ๒๕๖๓ เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ
• เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๙ สปป.ลาวได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ ชุดที่ ๖ โดยพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้คัดเลือกส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง จำนวน ๑๗๕ คนเพื่อเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ จำนวน ๑๑๕ ที่นั่งใน ๑๗ เขตเลือกตั้ง (๑๖ แขวงและนครหลวงเวียงจันทน์) ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่ามีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละร้อย สมาชิกสภาแห่งชาติที่ได้รับเลือกจำนวน ๑๑๕ คน เป็นสมาชิกพรรคประชาชนปฏิวัติลาว จำนวน ๑๑๓ ที่นั่ง และผู้สมัครอิสระจำนวน ๒ ที่นั่ง แบ่งเป็นชนเผ่าลาวลุ่ม ๙๒ คน ลาวเทิง ๑๗ คน และลาวสูง ๖ คน
• การประชุมสภาแห่งชาติ ชุดที่ ๖ ครั้งที่ ๑ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘ – ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๙ โดยในการประชุมวันแรก ที่ประชุมได้รับรองผู้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศ รองประธานประเทศ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมทั้งได้มีการปรับ/จัดตั้งกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ปรับกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมไปรวมกับกระทรวงการค้า เป็น “กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า” และจัดตั้ง “กระทรวงพลังงาน และบ่อแร่” ขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ และนำศักยภาพด้านพลังงาน (พลังงานน้ำและแร่ธาตุ) มาใช้ในการพัฒนาประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด

๒. ด้านเศรษฐกิจ
• ภาวะเศรษฐกิจของ สปป.ลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับ โดยในช่วง ๒๐ ปีนับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาดเมื่อปี ๒๕๒๙ สปป.ลาวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ ๖.๒ ต่อปี ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ ๒๐๐ ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี ๒๕๒๙ เป็น ๔๙๑ ดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๕๔๘ ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ ต่อปี โดยอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าเป็นสาขาหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
• ในปี ๒๕๔๘ สปป.ลาวมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ ๗.๒ เพิ่มจากร้อยละ ๖.๖ ในปี ๒๕๔๗ ภาคเกษตรกรรม มีพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ๑๙๐,๐๐๐ เฮกตาร์ (๑,๑๘๗,๕๐๐ ไร่) และผลิตข้าวได้ ๒.๖ ล้านตัน ภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล สปป.ลาวได้อนุมัติสัมปทานโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเหมืองแร่ (ทองคำ ทองแดง ดีบุก ถ่านหิน สังกะสี ยิปซั่ม) โครงการผลิตซีเมนต์และเหล็กในหลายพื้นที่เพื่อเพิ่มการส่งออก ด้านการคมนาคมขนส่ง การก่อสร้างถนนเชื่อมโยงลาวกับประเทศในอนุภูมิภาคมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนที่สร้างแล้วเสร็จ ได้แก่ ถนนหมายเลข ๙ (ไทย-ลาว-เวียดนาม) และถนนหมายเลข ๑๘ B (ลาว-เวียดนามตอนใต้) ในขณะที่ถนนหมายเลข ๓ (ไทย-ลาว-จีน) ถนนหมายเลข ๘ และหมายเลข ๑๒ (ไทย-ลาว-เวียดนาม) จะแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๐
• อย่างไรก็ดี ลาวยังคงประสบปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ที่สำคัญได้แก่ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดดุลการค้าที่สูง การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และการฉ้อราษฎร์บังหลวง

๓. ด้านสังคม
• ปัญหายาเสพติดเป็นประเด็นที่รัฐบาล สปป.ลาวให้ความสำคัญในลำดับต้นและ ประสบความสำเร็จในการขจัดพื้นที่การปลูกฝิ่นในลาวให้หมดสิ้นไปภายในปี ๒๕๔๘ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้รวมทั้งได้จัดทำแผนขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาชนบท ป้องกันไม่ให้ประชาชนหวนกลับไปปลูกฝิ่นอีก สำหรับปัญหาอื่น ๆ ได้แก่ ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหา ความไม่รู้หนังสือของประชาชน ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์และปัญหาการเก็บกู้กับระเบิดที่ตกค้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่การเกษตรและเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการเสียชีวิตของประชากรลาว

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ความสัมพันธ์กับประเทศไทยและสถานะปัจจุบันของความร่วมมือ
ยุทธศาสตร์ของไทยต่อลาว
สนับสนุนและส่งเสริมลาวในทุกทางเพื่อให้มีความก้าวหน้า เข้มแข็ง รุ่งเรืองและเป็นมิตรประเทศที่ดีของไทย

กลไกความร่วมมือไทย-ลาว
ความสัมพันธ์ไทย-ลาวในปัจจุบันดำเนินไปอย่างราบรื่นใกล้ชิด ทั้งสองฝ่ายได้ใช้กลไกและเวทีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีผลักดันความร่วมมือและแก้ไขปัญหา เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติวิธี ที่สำคัญได้แก่
๑. คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว เป็นกลไกกำกับดูแลการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-ลาวในภาพรวม ตั้งขึ้นเมื่อพฤษภาคม ๒๕๓๔ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ ทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม สองฝ่ายได้ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมขึ้นทุกปี โดยมีผู้แทนจากทุกหน่วยงานหลักของไทยและลาวเข้าร่วม การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ มกราคม ๒๕๔๙ ที่จังหวัดตราด
๒. คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย-ลาว ตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๓๔ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศเป็นประธานร่วม เป็นกลไกกำหนดแนวทางและมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพตามชายแดน การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๑๕ เมื่อวันที่ ๑๘-๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๙ ที่กรุงเทพ มหานคร
๓. คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว ตั้งขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๓๙ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและลาวเป็นประธานร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมตลอดแนวชายแดน การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๗-๘ มีนาคม ๒๕๕๐ ที่หลวงพระบาง
๔. คณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ลาว เป็นผลสืบเนื่องจากการเยือนลาวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๔๐ และการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๗ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๐ การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ครั้งที่ ๑ มีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๑ กรุงเทพมหานคร มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและการท่องเที่ยวลาวเป็นประธานร่วม ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนเป็นการประชุมแผนความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจการค้าไทย-ลาว มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย-ลาวเป็นประธานร่วม ได้จัดประชุมครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๙ ณ นครหลวงเวียงจันทน์
๕. คณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนไทย-ลาว (เปลี่ยนชื่อมาจากคณะกรรมการไกล่เกลี่ยแก้ไขข้อพิพาทด้านธุรกิจและการลงทุนไทย-ลาว) จัดตั้งโดยมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๗ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๐ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย เป็นประธานร่วม เพื่อเป็นกลไกอำนวยความสะดวกการไกล่เกลี่ยแก้ไขข้อพิพาทด้านธุรกิจและการลงทุนและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจระหว่างไทย-ลาว การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๙ ที่เกาะช้าง จังหวัดตราด
๖. การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย-ลาว จัดตั้งโดย มติที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๖ เมื่อกันยายน ๒๕๓๙ ณ จังหวัดสงขลา การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๖ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ สิงหาคม ๒๕๔๙ ที่แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยในระดับจังหวัดกับแขวงเพื่อเป็นกลไก ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาตามบริเวณชายแดนในระดับท้องถิ่นมิให้ลุกลามเป็นปัญหาระดับชาติ
๗. การประชุมทวิภาคีว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นกลไกความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานฝ่ายไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานประเทศเป็นประธานฝ่ายลาว การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๖-๗ กันยายน ๒๕๔๙ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
๘. สมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพ จัดตั้งโดยกระทรวงการต่างประเทศเมื่อปี ๒๕๓๗ เพื่อเป็นกลไกเสริมในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ลาวในระดับประชาชนต่อประชาชน ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยฝ่ายลาวได้จัดตั้งสมาคมลาว-ไทยเพื่อมิตรภาพ ภายใต้ศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว เป็นสมาคมร่วมดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ กับสมาคมไทย-ลาวฯ ทั้งสองสมาคมมีการประชุมร่วมกันทุกปี การประชุม ร่วมระหว่างสองสมาคมครั้งล่าสุด คือ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๔๙ ที่กรุงเทพมหานคร

สถานะความร่วมมือ
พัฒนาการที่สำคัญของความสัมพันธ์ไทย-ลาวได้แก่การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-ลาวอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗ ณ แขวงจำปาสัก และจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นการประชุม ครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายสามารถหารือในปัญหาที่คั่งค้างเป็นเวลานานได้อย่างตรงไปตรงมา และหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกันได้ และได้ผลักดันความร่วมมือในระยะต่อไปเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายได้นำผลการประชุมดังกล่าวมาปฏิบัติจนมีผลคืบหน้า สรุปได้ ดังนี้

ด้านการเมืองและความมั่นคง
• ความร่วมมือด้านการทหาร กองทัพไทย-ลาวมีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งในระดับส่วนกลางและท้องถิ่น สามารถแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความมั่นคงทำให้พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-ลาวส่วนใหญ่ มีความสงบเรียบร้อยดี พัฒนาการที่สำคัญ ได้แก่ การลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-ลาว ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๖ ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติงานให้ชายแดนไทย-ลาวเป็นชายแดนแห่งมิตรภาพ สันติภาพ และความมั่นคง โดยขณะนี้กองทัพไทย-ลาวอยู่ระหว่างจัดทำแผนงานประกอบ ความตกลงเพื่อนำสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
• การแก้ไขปัญหาบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาว หรือ “คนบ่ดี” ทางการไทยได้ยืนยันกับลาวในทุกโอกาสว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายชัดเจนที่จะไม่ยินยอมให้กลุ่มหรือบุคคลใด ใช้ดินแดนไทยเป็นฐานหรือทางผ่านเข้าไปก่อความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านและได้ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๖ เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางดำเนินการและจัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลผู้ต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร (blacklist) เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจสอบและอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวเข้าเมือง สำหรับกรณีชาวม้ง ในที่พักสงฆ์ถ้ำกระบอกทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๖ ยินดีรับชาวม้งดังกล่าว ซึ่งมีจำนวน ๑๕,๖๓๙ คน ไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ และได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๔๗– พฤษภาคม ๒๕๔๘ และกรณีชาวม้งลาวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในการเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๙ สองฝ่ายเห็นชอบให้คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย-ลาวเป็นกลไกแก้ไขปัญหาซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
• การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย-ลาว เขตแดนไทย-ลาวมีระยะทางทั้งสิ้นประมาณ ๑,๘๑๐ กิโลเมตร แบ่งเป็นเขตแดนทางบก ๗๐๒ กิโลเมตร และเขตแดนทางน้ำ ๑,๑๐๘ กิโลเมตร ไทยและลาวได้ลงนามความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตลอดแนวร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดทำหลักเขตแดนตลอดแนวเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้ที่ตั้งของเส้นเขตแดนอย่างแน่ชัดและได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาวขึ้นเป็นกลไกกำกับดูแลการดำเนินงานดังกล่าว มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและลาวเป็นประธานร่วม นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๐ ที่สองฝ่ายได้เริ่มสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในภูมิประเทศจริงจนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๔๙ สามารถจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกันได้ ๑๙๐ หลัก ระยะทางประมาณ ๖๗๖ กิโลเมตร ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว ครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๗-๘ มีนาคม ๒๕๕๐ ได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายเร่งรัดดำเนินการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนให้แล้วเสร็จตลอดแนว โดยทางบกให้สำเร็จภายในปี ๒๕๕๑ และทางน้ำภายในปี ๒๕๕๓
• ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไทยและลาวได้ลงนาม ในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ สารตั้งต้น เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๔ หน่วยงานด้านปราบปรามยาเสพติดไทย-ลาวมีความร่วมมือทั้งด้านวิชาการ แลกเปลี่ยนข้อมูล และความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยได้จัดการประชุม ว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดเป็นประจำทุกปี การประชุมครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ ๙ เมื่อวันที่ ๖-๗ กันยายน ๒๕๔๙ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ความคืบหน้าของความร่วมมือที่สำคัญ ได้แก่
- เจ้าหน้าที่สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติด อย่างต่อเนื่อง และขยายไปสู่การปฏิบัติการร่วมในการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ
- ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดตั้งสำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (Border Liaison Office- BLO) เพิ่มเติมอีก ๔ จุด (อ.บึงกาฬ จังหวัดหนองคาย – เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ / อ.เมือง จ.มุกดาหาร- เมืองไกสอน แขวงสะหวันนะเขต / อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี – เมืองชะนะสมบูน แขวงจำปาสัก / อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี – เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต) จากเดิมที่มีอยู่ ๔ แห่ง (อ.เชียงของ จ.เชียงราย – เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว / ด่านสะพานมิตรภาพหนองคาย-เวียงจันทน์ / อ.เมือง จ.นครพนม-เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน และด่านช่องเม็ก-วังเต่า) รวมทั้งลาดตระเวนร่วมตามลำแม่น้ำโขงในบริเวณดังกล่าว
- โครงการก่อสร้างศูนย์บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่แขวง จำปาสัก ที่ฝ่ายไทยให้ความช่วยเหลือมูลค่า ๒๔.๗๕ ล้านบาทได้ก่อสร้างเสร็จและส่งมอบให้ฝ่ายลาวเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๔๘ และฝ่ายไทยได้มอบวัสดุ/อุปกรณ์ในโครงการความร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด มูลค่าประมาณ ๒ ล้านบาทให้ฝ่ายลาวเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ๒๕๔๘
• ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรของประชาชน ไทยและลาวมีพรมแดนติดต่อกันรวม ๑๑ จังหวัด / ๙ แขวง สองฝ่ายได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๗ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม๒๕๔๗ และได้ร่วมกันเปิด/ยกระดับจุดผ่านแดนที่เห็นเหมาะสมร่วมกัน ในปี ๒๕๔๙ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบ ในหลักการให้ขยายเวลาทำการด่านช่องเม็ก-วังเต่า จากเดิมเวลา ๐๖.๐๐-๑๘.๐๐ น. เป็น ๐๖.๐๐-๒๐.๐๐ น. รวมทั้งได้เปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มอีก ๑ จุด ที่สะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙

ด้านเศรษฐกิจ
• ความร่วมมือด้านการค้า การค้าไทย-ลาวมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี ๒๕๔๙ การค้าไทย-ลาว มีมูลค่ารวม ๕๗,๕๘๓.๓ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๓.๖๓ จากปี ๒๕๔๘ ที่มีมูลค่าการค้า ๔๐,๐๙๒ ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค ยานพาหนะและอุปกรณ์ สิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้านำเข้าจากลาวที่สำคัญ ได้แก่ ไม้และไม้แปรรูป เชื้อเพลิง สินแร่โลหะ ทั้งนี้ ที่ประชุมกำหนดแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทย-ลาว ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๙ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น ๒ เท่า และเพิ่มมูลค่าการส่งออกจากลาวไปไทยเป็น ๓ เท่า ภายในปี ๒๕๕๓ เอกสารแนบ
• ความร่วมมือด้านการลงทุน ไทยเป็นประเทศที่ลงทุนในลาวมากที่สุด ในช่วงปี ๒๕๔๔-๒๕๔๘ มีบริษัทไทยได้รับอนุมัติโครงการลงทุนในลาวจำนวน ๑๐๒ โครงการ มูลค่าประมาณ ๖๐๖.๕๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาขาที่มีการลงทุนมาก ได้แก่ พลังงานไฟฟ้า ขนส่งและโทรคมนาคม ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธนาคาร อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ เครื่องนุ่งห่มและหัตถกรรม
• การให้สิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากรในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากลาว ไทยมีนโยบายสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งลาว ทั้งในกรอบอาเซียน และ ACMECS เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับในปี ๒๕๔๗ ไทยได้ให้สิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากร ในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากลาวทั้งในรูปของการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ (ASEAN Integration System of Preferences – AISP) และยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าในลักษณะ One Way Free Trade รวมจำนวน ๑๘๗ รายการและเพิ่มเป็น ๓๐๐ รายการในปี ๒๕๔๘ – ๒๕๔๙ และ ๓๐๑ รายการ ในปี ๒๕๕๐-๒๕๕๒
• ความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง กระทรวงคมนาคมไทยและลาวได้ประชุมหารือเพื่อแก้ไขความไม่สะดวกในการสัญจรของประชาชนและยานพาหนะ และได้ร่วมกันกำหนดแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
- การอำนวยความสะดวกในการสัญจรของยานพาหนะ ทั้งสองฝ่ายได้ออกเอกสารประจำรถลักษณะเดียวกับหนังสือเดินทางเพื่อขอรับการตรวจเข้าเมืองที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ทำให้ประชาชนไทยและลาวสามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางผ่าน เข้า-ออก ดินแดนของแต่ละฝ่ายได้โดยสะดวกซึ่งแต่เดิมนั้นหากจะนำรถยนต์เข้าลาวต้องจอดรถไว้ที่ฝั่งไทยแล้ว ดำเนินการเพื่อขออนุญาตนำรถเข้าจากหน่วยงานกลางที่เวียงจันทน์ใช้เวลาประมาณ ๒ วัน
- การขนส่งสินค้าผ่านแดน รัฐบาลไทยและลาวได้เห็นชอบให้เปิดเสรีผู้ประกอบการขนส่งทางถนนผ่านแดนไทย-ลาวจากเดิมที่จำกัดเพียง ๕ ราย ให้ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด มาขออนุญาตเป็นผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไทย-ลาวได้ไม่จำกัดจำนวน มีผลปฏิบัติเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ณ เดือนตุลาคม ๒๕๔๙ มีผู้ประกอบการได้รับอนุญาตจำนวน ๒๔๘ ราย จำนวนรถที่ได้รับอนุญาต ๗,๑๑๑ คัน ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลงร้อยละ ๒๐-๓๐
- การขนส่งผู้โดยสาร สองฝ่ายได้เปิดเดินรถโดยสารประจำทางในเส้นทาง
(๑) อุดรธานี-เวียงจันทน์ (๒) หนองคาย-เวียงจันทน์ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๔๗ (๓) อุบลราชธานี-ปากเซ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ และ (๔) มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๕๐ รวมทั้งจะขยาย/เปิด เดินรถในเส้นทางอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในระยะต่อไป
• ความร่วมมือด้านการเงินและการธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับธนาคารแห่ง สปป.ลาว ทั้งในด้านคำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนและบริหารนโยบายการเงินและการคลัง การฝึกอบรมพนักงาน การศึกษาภาวะการค้าชายแดนร่วมกัน นอกจากนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่ง สปป.ลาวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก และการสร้างความเชื่อมั่นในการชำระเงินระหว่างสองประเทศ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ และ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่ สปป.ลาวเพื่อลงทุนในโครงการก่อสร้างเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม ๒ โดยไทยจะให้ความช่วยเหลือ ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาวเพื่อลงทุนในโครงการน้ำงึม ๒ โดยให้กู้วงเงินกู้ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท หรือสกุลเงินอื่นที่มีมูลค่าเทียบเท่า และให้รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวออกพันธบัตรสกุลเงินบาท ในประเทศไทยมูลค่าไม่เกิน ๑,๕๐๐ ล้านบาท โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Eximbank) เป็นผู้ค้ำประกันพันธบัตรดังกล่าวซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้รัฐบาล สปป.ลาวในการระดมทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในอนาคต
• ความร่วมมือด้านไฟฟ้าและพลังงานอื่น ๆ ลาวให้ความสำคัญต่อโครงการพลังงานเนื่องจากเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญให้แก่ประเทศ ไทยและลาวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วย การพัฒนาไฟฟ้าในลาว ๒ ฉบับเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๓๖ และเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๓๙ สรุปว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือพัฒนาไฟฟ้าในลาวเพื่อจำหน่ายให้ไทยจำนวน ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ภายในปี ๒๕๔๙ ปัจจุบัน มีโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ที่ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วและโครงการที่มีศักยภาพ จำนวน ๑๑ โครงการ รวมกำลังผลิต ณ จุดส่งมอบประมาณ ๖,๑๘๑ เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยแล้ว ๒ โครงการ รวม ๓๑๓ เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการน้ำเทิน-หินบูน (เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๑) และโครงการห้วยเฮาะ (เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๒) มีกำลังผลิต ณ จุดส่งมอบ ๑๘๗ เมกะวัตต์ และ ๑๒๖ เมกะวัตต์ ตามลำดับ และเนื่องจากการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวจำนวน ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ตามบันทึกความเข้าใจฯ สิ้นสุดภายในปี ๒๕๔๙ กอปรกับไทยมีความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น ฝ่ายไทยจึงได้ตกลงขยายการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวเพิ่มเป็น ๕,๐๐๐ เมกะวัตต์ภายในปี ๒๕๕๘ โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป.ลาว ในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙
• ความร่วมมือด้านการพัฒนาเครือข่ายคมนาคม ไทยให้ความสำคัญกับความ ร่วมมือเพื่อพัฒนาเครือข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไทย-ลาว ซึ่งนอกจากจะทำให้ประชาชนไทย-ลาวสามารถเดินทาง ไปมาหาสู่กันได้สะดวกยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือให้ลาวเปลี่ยนจากประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล เป็นจุดเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคตามนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลลาวด้วย ปัจจุบัน โครงการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมที่ไทยให้ความช่วยเหลือแก่ลาวมีความคืบหน้าตามลำดับ โครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำเหืองระหว่างจังหวัดเลยกับแขวงไชยะบุรี การพัฒนาสนามบินวัดไตที่นครหลวงเวียงจันทน์ การก่อสร้างทางลาดขึ้น-ลง (ramp) บริเวณท่าเทียบเรือแขวงคำม่วน และโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมท่าเทียบเรือแขวงคำม่วน-ถนนหมายเลข ๑๓ และสะพานข้ามแม่น้ำโขงระหว่างจังหวัดมุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต นอกจากนั้น ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก ที่สำคัญคือ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงระหว่างจังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงระหว่างจังหวัดอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย – เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว
• ความร่วมมือในกรอบพหุภาคีเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ ไทยและลาว มีความร่วมมือในกรอบพหุภาคีที่สำคัญ ได้แก่
- อาเซียน ลาวเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๐ ได้เป็นประธาน คณะกรรมการประจำอาเซียนเมื่อกรกฎาคม ๒๕๔๗ ไทยได้ให้ความร่วมมือแก่ลาวเพื่อให้สามารถมีส่วนร่วม ในอาเซียนได้อย่างทัดเทียมกับประเทศสมาชิกอาเซียนเก่า ทั้งในกรอบความริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (IAI) การให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (AISP) รวมทั้งให้ความร่วมมือแก่ลาวเตรียมความพร้อมในโอกาสที่ลาวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๐ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๗ โดยได้จัดการดูงานให้เจ้าหน้าที่ลาว ให้การสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์สำหรับจัดตั้งศูนย์ข่าว มูลค่าประมาณ ๑๑.๘๐ ล้านบาท และให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อปรับปรุงสนามบินวัดไตมูลค่าประมาณ ๓๒๐ ล้านบาท

- ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy - ACMECS) ลาวมีส่วนร่วมในกรอบ ACMECS อย่างแข็งขันโดยได้เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับ ACMECS Plan of Action และทบทวนโครงการความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ระหว่างวันที่ ๑-๒ มิถุนายน ๒๕๔๙ ที่กรุงเทพมหานคร และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ACMECS ระดับรัฐมนตรีที่เมืองดอนโขง แขวงจำปาสัก ระหว่างวันที่ ๓-๔ กรกฎาคม ๒๕๔๙ นอกจากนั้น โครงการความร่วมมือไทย-ลาวในกรอบ ACMECS มีความคืบหน้ามากกว่าประเทศอื่น อาทิ โครงการ Contract Farming เป็นต้น
- ความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมมรกต ลาวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมมรกต ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๔๖ ที่แขวงจำปาสัก ที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวซึ่งมีสาระสำคัญมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก และได้กำหนดพื้นที่ความร่วมมือเพื่อผลักดันให้กรอบความร่วมมือมีความเด่นชัด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา และภาคใต้ของลาว ทั้งนี้ ไทยได้จัดสรรงบประมาณ ๒ ล้านบาท ในโครงการปรับปรุงศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมมรกตที่แขวงจำปาสักด้วย
ด้านสังคมและการพัฒนา
• ความร่วมมือด้านแรงงานไทยและลาวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วย ความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๕ ทั้งสองฝ่ายได้หารือทั้งในระดับนโยบายและ ระดับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดแนวทางร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง กำหนดขั้นตอนการจ้างแรงงาน และให้การคุ้มครองแรงงานสัญชาติของแต่ละฝ่ายอย่างเหมาะสม ปัจจุบัน ความร่วมมือมีความคืบหน้าตามลำดับ ดังนี้
- การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวในไทย ทางการลาวได้จัดส่งคณะเจ้าหน้าที่มาพิสูจน์สัญชาติแรงงานลาวในไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๔๘ ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ สรุปได้ว่า มีแรงงานสัญชาติลาวมาขอรับการพิสูจน์สัญชาติจำนวน ๔๓,๗๘๘ คน จากที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในปี ๒๕๔๘ จำนวน ๙๐,๐๗๓ คน ได้รับการรับรอง ๔๓,๖๕๗ คน และจะร่วมมือดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานลาวรอบใหม่เพื่อปรับเปลี่ยนสถานะแรงงานส่วนที่เหลือ ระหว่างวันที่ ๒๓ เมษายน - วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๐
- การนำแรงงานลาวกลุ่มใหม่มาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมาย ไทยมีความต้องการแรงงานจากลาวจำนวนมากเพื่อรองรับการขยายตัวทางอุตสาหกรรมและการเกษตร ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ กรมการจัดหางานได้ส่งข้อมูลแจ้งความต้องการจ้างแรงงานของนายจ้างให้ฝ่ายลาวรับสมัคร และคัดเลือกคนงาน จำนวน ๕๒,๑๐๖ คน และได้มีการส่งแรงงานลาวมาทำงานในไทยแล้วประมาณ ๓,๕๐๐ คน
• ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทยและลาวได้ลงนามในบันทึก ความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็กไทย-ลาว เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ทั้งสองฝ่ายได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมและผู้ประสานงานกลาง รวมทั้งจัดทำร่างแผนปฏิบัติการตามบันทึกความเข้าใจ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดสรรงบประมาณจำนวน ๒ ล้านบาท แก่สหพันธ์แม่หญิงลาวเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการฝึกอาชีพแม่บ้านให้แก่สตรีลาวที่ประสงค์จะมาทำงาน ในประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงหญิงลาวมาทำงานในไทยและปัญหาการค้ามนุษย์
• ความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไทยได้เริ่มดำเนิน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการกับลาวตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ เน้นด้านการพัฒนาบุคลากรในลักษณะการให้ ทุนการศึกษา ทุนฝึกอบรม/ดูงาน และโครงการพัฒนาใน ๓ สาขาหลัก ได้แก่ การเกษตร การศึกษา และสาธารณสุข ความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างประเทศทั้งสองเป็นไปตามแผนงานโครงการความร่วมมือ ทางวิชาการรายปีซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการ ขีดความสามารถและความพร้อมของแต่ละฝ่าย ตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ - ๒๕๔๙ ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ แก่ลาวเป็นมูลค่าประมาณ ๖๕๙.๘๙ ล้านบาท ล่าสุด ฝ่ายลาวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมมือทางวิชาการ ไทย-ลาว ครั้งที่ ๑๒ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๙ ที่เมืองหลวงพระบาง เพื่อกำหนดแผนงานความร่วมมือ สำหรับปี ๒๕๔๙/๒๕๕๐ ซึ่งไทยตกลงให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท จำนวน ๒๕ ทุน และ ทุนฝึกอบรม/ดูงานในสาขาต่าง ๆ จำนวน ๑๐๐ ทุน
• โครงการสันถวไมตรี กระทรวงการต่างประเทศได้จัดสรรงบประมาณภายใต้โครงการสันถวไมตรีเพื่อช่วยเหลือลาวพัฒนาด้านการศึกษาโดยได้ก่อสร้างอาคารเรียนที่โรงเรียนประถมแขวงสะหวันนะเขต (๑ ล้านบาท) แขวงบ่อแก้ว (๒.๓ ล้านบาท) แขวงอุดมไชย (๒ ล้านบาท) แขวงจำปาสัก ๑.๕ ล้านบาท และได้สร้างหอนอนโรงเรียนเด็กกำพร้าแขวงไชยะบุรี (๒.๔ ล้านบาท) รวมทั้งได้ให้ความช่วยเหลือสร้างสุขศาลาที่เมืองดอนโขง แขวงจำปาสัก (๓.๒ ล้านบาท)

ความตกลงไทย-ลาวที่สำคัญ
๑ ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน (๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๓)
๒ ความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว (๙ พฤษภาคม ๒๕๓๔)
๓ ความตกลงว่าด้วยการค้า (ฉบับแก้ไขใหม่) (๒๐ มิถุนายน ๒๕๓๔)
๔ ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว (๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๔)
๕ สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือไทย-ลาว (กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕)
๖ ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต (๘ ตุลาคม ๒๕๓๗)
๗ ความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตลอดแนวร่วมกัน (๘ กันยายน ๒๕๓๙)
๘ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ (๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๐)
๙ ความตกลงว่าด้วยการเดินทางข้ามแดนไทย-ลาว ฉบับลงนาม ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๐ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๐ เป็นความตกลงฉบับใหม่ที่ใช้แทนความตกลงเรื่องข้อบังคับร่วมกัน ว่าด้วยการจราจรชายแดนระหว่างประเทศไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส (๑๖ สิงหาคม ๒๔๘๖)
๑๐ ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการ(๕ มีนาคม ๒๕๔๒)
๑๑ ความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนน (๕ มีนาคม ๒๕๔๒) ซึ่งใช้แทนความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าผ่านแดนไทย-ลาว ลงวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๒๑ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงกำหนดรายละเอียดการขนส่งทางถนนเมื่อ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๔
๑๒ สนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (๕ มีนาคม ๒๕๔๒)
๑๓ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น (๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๔)
๑๔ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน (๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๕)
๑๕ ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดน (๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖)
๑๖ สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗)
๑๗ ความตกลงว่าด้วยกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย-ลาว (๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗)
๑๘ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา (๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗)
๑๙ ความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินกีบและเงินบาท (๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗)
๒๐ ความตกลงว่าด้วยการสนับสนุนสภาพคล่องเงินบาท (๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗)
๒๑ ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทย-ลาว (๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๗)
๒๒ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็กไทย-ลาว (๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๘)
๒๓ ความตกลงว่าด้วยสะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) (๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙)
๒๔ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในลาว (๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙)
๒๕ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสนับสนุนทางการเงินแก่ สปป.ลาวเพื่อลงทุนในโครงการก่อสร้างเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม ๒ (๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙)

การแลกเปลี่ยนการเยือน
๑ การเยือนของฝ่ายไทย
๑.๑ การเสด็จเยือนของพระราชวงศ์
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนลาวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๓ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลลาว
• สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เยือนลาวอย่างเป็นทางการ
ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของนายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศลาว เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๓๕
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนลาว เพื่อถวาย
ผ้าพระกฐินพระราชทานและทรงติดตามผลการดำเนินโครงการส่งเสริมกิจกรรมโรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำพร้า หลัก ๖๗ แขวงเวียงจันทน์ ตามพระราชดำริ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๓๕
• สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงร่วมพิธีศพนายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศลาวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๕
• พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนลาวระหว่างวันที่ ๘-๙ เมษายน ๒๕๓๗ (ภายหลังจากที่ทรงเป็นประธานร่วมกับนายหนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศลาวในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวที่จังหวัดหนองคาย) ซึ่งเป็นการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศครั้งแรกในรอบ ๒๗ ปีของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ ได้เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว อันเป็นโครงการในพระราชดำริ ร่วมกับประธานประเทศลาวที่เมืองนาทรายทอง แขวงเวียงจันทน์ รวมทั้งทอดพระเนตรโครงการส่งเสริมกิจกรรมโรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำพร้าฯ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วย
• สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเยือนลาว เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๗
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ เยือนแขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือทางใต้ของลาว และเป็นองค์ประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยซอนและระบบส่งน้ำของโครงการระหว่างวันที่ ๘-๑๑ เมษายน ๒๕๓๙
• สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เสด็จเยือนลาว เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๓๙
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนแขวงอุดมไซและแขวงหลวงน้ำทา ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ มกราคม ๒๕๔๐
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนลาว เพื่อทรงติดตาม ความคืบหน้าของโครงการตามพระราชดำริ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ มีนาคม ๒๕๔๑
• สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเยือนลาวเพื่อถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่วัดแสนสุขาราม เมืองหลวงพระบาง ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๑
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนแขวงพงสาลี ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนลาวเพื่อทรงติดตามความก้าวหน้าของโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร (หลัก ๒๒) และโรงเรียนวัฒนธรรม แขวงเวียงจันทน์ (หลัก ๖๗) ที่นครหลวงเวียงจันทน์ และเสด็จฯ เยือนแขวงเชียงขวาง ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม ๒๕๔๔
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนแขวงหัวพัน (โรงเรียนมัธยมสมบูนพันซำ โรงพยาบาลแขวงหัวพัน วัดโพไซซะนาราม และอนุสรณ์สถานถ้ำผู้นำ) ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนนครหลวงเวียงจันทน์เพื่อทรงติดตามความคืบหน้าของโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร (หลัก ๒๒) และโรงเรียนวัฒนธรรมแขวงเวียงจันทน์ (หลัก ๖๗) ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ มีนาคม ๒๕๔๗
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนนครหลวงเวียงจันทน์ แขวงสะหวันนะเขต และแขวงจำปาสัก ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ มีนาคม ๒๕๔๘

• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนแขวงสะหวันนะเขต ในโอกาสทรงเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) (๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙)

๑.๒ การเยือนของนายกรัฐมนตรี
• นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เยือนลาวอย่างเป็นทางการ (มิถุนายน ๒๕๓๖)
• นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี เยือนลาวอย่างเป็นทางการ (มิถุนายน ๒๕๓๙)
• พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เยือนลาวอย่างเป็นทางการ (มิถุนายน ๒๕๔๐)
• นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เยือนลาวอย่างเป็นทางการ (พฤษภาคม ๒๕๔๓)
• พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยือนลาวอย่างเป็นทางการ (มิถุนายน ๒๕๔๔)
• พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยือนลาว (แขวงจำปาสัก) เพื่อเข้าร่วมการประชุม คณะรัฐมนตรีร่วมไทย-ลาวอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗ และเป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ที่จังหวัด มุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต
• พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเยือนลาว (นครหลวงเวียงจันทน์) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๐ ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
• พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเยือนลาว (แขวงคำม่วน) เพื่อเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน ๒” เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๘
• พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเยือนลาวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๙
• พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปแขวงสะหวันนะเขตในโอกาสเข้าร่วมพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙

๒. การเยือนไทยของฝ่ายลาว
๒.๑ การเยือนในระดับประมุข
• นายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศลาว และภริยา เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะราชอาคันตุกะในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๓๕
• นายหนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศลาวและภริยาเยือนไทยในฐานะราชอาคันตุกะ
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘
๒.๒ การเยือนของนายกรัฐมนตรี
• นายคำไต สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ (กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕)
• นายสีสะหวาด แก้วบุนพัน นายกรัฐมนตรีลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ (มีนาคม ๒๕๔๒)
• นายบุนยัง วอละจิด นายกรัฐมนตรีลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ (สิงหาคม ๒๕๔๔) และร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่กรุงเทพ มหานครระหว่างวันที่ ๒๘-๓๐ เมษายน ๒๕๔๖
• นายบุนยัง วอละจิด นายกรัฐมนตรีลาว เยือนไทย (จังหวัดอุบลราชธานี) เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วม ไทย-ลาวอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗ และเป็นประธานร่วม ในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เมื่อวันที่ ๒๑มีนาคม ๒๕๔๗ ที่จังหวัดมุกดาหาร และแขวงสะหวันนะเขต
• นายบุนยัง วอละจิด นายกรัฐมนตรีลาวเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ระหว่างวันที่ ๑-๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ที่กรุงเทพมหานคร
• นายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรีลาวเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙

เอกสารแนบ

เรียบเรียงโดย กองเอเชียตะวันออก 4 กรมเอเชียตะวันออก โทร. 0-2643-5209-10Fax. 0-2643-5208 E-mail : eastasian05@mfa.go.th



ข้อมูลประเทศอื่นๆทั่วโลก
อัฟกานิสถาน  แอลเบเนีย  แอลจีเรีย  อันดอร์รา  แองโกลา  แอนติกาและบาร์บูดา  อาร์เจนตินา  อาร์เมเนีย  ออสเตรเลีย  ออสเตรีย  อาเซอร์ไบจาน  บาฮามาส  บาห์เรน  บังกลาเทศ  บาร์เบโดส  เบลารุส  เบลเยียม  เบลีช  เบนิน  ภูฏาน  โบลิเวีย  บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา  บอตสวานา  บราซิล  บรูไนดารุสซาลาม  บัลแกเรีย  บูร์กินาฟาโซ  บุรุนดี  กัมพูชา  แคเมอรูน  แคนาดา  เคปเวิร์ด  แอฟริกากลาง  ชาด  ชิลี  จีน  ฮ่องกง  มาเก๊า  ไต้หวัน  โคลัมเบีย  คอโมโรส  คอสตาริกา  โครเอเชีย  คิวบา  ไซปรัส  เช็ก  สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก  เดนมาร์ก  จิบูตี  โดมินิกา  โดมินิกัน  เกาหลีเหนือ  เอกวาดอร์  อียิปต์  เอลซัลวาดอร์  อิเควทอเรียลกินี  เอริเทรีย  เอสโตเนีย  เอธิโอเปีย  ฟิจิ  ฟินแลนด์  ฝรั่งเศส  กาบอง  แกมเบีย  จอร์เจีย  เยอรมนี  กานา  กรีซ  เกรเนดา  กัวเตมาลา  กินี  กินีบิสเซา  กายอานา  เฮติ  นครรัฐวาติกัน  ฮอนดูรัส  ฮังการี  ไอซ์แลนด์  อินเดีย  อินโดนีเซีย  อิหร่าน  อิรัก  ไอร์แลนด์  อิสราเอล  อิตาลี  จาเมกา  ญี่ปุ่น  จอร์แดน  คาซัคสถาน  เคนยา  คิริบาส  คูเวต  คีร์กิซ  ลาว  ลัตเวีย  เลบานอน  เลโซโท  ไลบีเรีย  ลิเบีย  ลิกเตนสไตน์  ลิทัวเนีย  ลักเซมเบิร์ก  มาซิโดเนีย  มาดากัสการ์  มาลาวี  มาเลเซีย  มาลี  มอลตา  หมู่เกาะมาร์แชลล์  มอริเตเนีย  มอริเชียส  ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง  เม็กซิโก  ไมโครนีเซีย  มอลโดวา  โมนาโก  มองโกเลีย  โมร็อกโก  โมซัมบิก  พม่า  นามิเบีย  นาอูรู  เนปาล  เนเธอร์แลนด์  นิวซีแลนด์  นิวซีแลนด์  นิการากัว  ไนเจอร์  ไนจีเรีย  นอร์เวย์  องค์การรัฐอเมริกัน  โอมาน  ออร์เดอร์ ออฟ มอลตา  ปากีสถาน  ปาเลา  ปานามา  ปาปัวนิวกินี  ปารากวัย  เปรู  ฟิลิปปินส์  โปแลนด์  โปรตุเกส  กาตาร์  คองโก  เกาหลีใต้  กลุ่มริโอ  โรมาเนีย  รัสเซีย  รวันดา  เซนต์คิตส์และเนวิส  เซนต์ลูเซีย  เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์  ซามัว  ซานมาริโน  เซาโตเมและปรินซิเป  ซาอุดีอาระเบีย  เซเนกัล  เซอร์เบีย  เซเชลส์  เซียร์ราลีโอน  สิงคโปร์  สโลวาเกีย  สโลวีเนีย  หมู่เกาะโซโลมอน  โซมาเลีย  แอฟริกาใต้  สเปน  ศรีลังกา  ซูดาน  ซูรินาเม  สวาซิแลนด์  สวีเดน  สวิตเซอร์แลนด์  ซีเรีย  ทาจิกิสถาน  แทนซาเนีย  ติมอร์-เลสเต  โตโก  ตองกา  ตรินิแดดและโตเบโก  ตูนิเซีย  ตุรกี  เติร์กเมนิสถาน  ตูวาลู  ยูเออี  ยูกันดา  ยูเครน  สหราชอาณาจักร  สหรัฐอเมริกา  อุรุกวัย  อุซเบกิสถาน  วานูอาตู  เวเนซุเอลา  เวียดนาม  เยเมน  แซมเบีย  ซิมบับเว 



 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์