|
แผนที่
|
สาธารณรัฐวานูอาตู Republic of Vanuatu
|
|
ที่ตั้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียและอยู่ห่างจากฟิจิไปทางตะวันตกประมาณ 800 กิโลเมตร
พื้นที่ 12,190 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะต่าง ๆ ประมาณ 80 เกาะ มีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 680,000 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง พอร์ตวิลา (Port Vila) ตั้งอยู่บนเกาะ Efate
ประชากร ประมาณ 215,000 (2549) คน ร้อยละ 94 เป็นชาวเมลานีเซียน (Melanesian) เรียกว่า ni-Vanuatu อีกร้อยละ 6 เป็นชาวยุโรป จีน เวียดนาม และชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้และอื่นๆ (ประชากรส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 ตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะหลัก 4 เกาะ คือ Efate, Expiritu Santo,Malakula และ Tafea) ความหนาแน่นประชากร 12.6 คน ต่อตารางกิโลเมตร
ภาษา อังกฤษและฝรั่งเศส เป็นภาษาราชการ Pidgin (Bislama) เป็นภาษาประจำชาติ
ศาสนา คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ รองลงมาคือเพรสไบทีเรียน และโรมันคาทอลิก
หน่วยเงินตรา Vatu (วาตู)
GDP 349 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
GDP per capita 1,571 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
Real GDP Growth ร้อยละ 3 (ปี 2549)
อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 2.3 (ปี 2549)
อุตสาหกรรม เนื้อมะพร้าวตากแห้ง แปรรูปเนื้อวัว ท่องเที่ยว บริการการเงิน
สินค้าส่งออก เนื้อมะพร้าวตากแห้ง กาแฟ และปลาแช่เย็น
ตลาดส่งออกสินค้า อินเดีย ไทย สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น
สินค้านำเข้า อาหารสัตว์ เรือและชิ้นส่วนอุปกรณ์
ตลาดนำเข้าสินค้า ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน นิวซีแลนด์ สิงคโปร์
รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา (สภาเดี่ยว มีสมาชิก 52 คนได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี )
ประมุขรัฐ ประธานาธิบดี H.E. President Kalkot Mataskelekele
นายกรัฐมนตรี The Hon. Ham Lini
รัฐมนตรีต่างประเทศThe Hon. Sato Kilman
ฝ่ายนิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฏรเป็นสภาเดี่ยว (unicameral) ประกอบด้วยสมาชิก 46 คน (อยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี) ในปี 2543 ได้มีการกำหนดให้มีสมาชิกเพิ่มเป็น 52 คน พรรคการเมืองที่สำคัญ คือ พรรค UMP (พรรคอนุรักษ์นิยมประกอบด้วย ชาวเมลานีเซียนที่พูดภาษาฝรั่งเศส (Francophone) และนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาธอลิค และ NUP ประกอบด้วยชาวเมลานีเซียนที่พูดภาษาอังกฤษ (Anglophone)
สถานการณ์ทางเการเมืองปัจจุบัน
การเมืองของวานูอาตูอยู่ในภาวะอ่อนแอ รัฐบาลอาจล้มด้วยมติไม่ไว้วางใจในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากรัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม รวมพรรคเล็กมากกว่า 8 พรรค จึงง่ายต่อการย้ายข้างไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
วานูอาตูเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศเครือจักรภพ Pacific Islands Forum , Francophone
Community, สหประชาชาติ, กลุ่ม G 77, IMF, World Bank, ADB, ACP, WTO เป็นต้น มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 74 ประเทศ ปัจจุบันมีประเทศที่มี สอท.ในวานูอาตู 5 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ 2 ประเทศ คือ ปาปัวนิวกินีและสวีเดน
ภาพรวม
โครงสร้างทางเศรษฐกิจของวานูอาตูมีลักษณะเป็น resource based โดยประชากรประมาณ ร้อยละ 80 ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม ป่าไม้ และการประมง ผลผลิตที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อมะพร้าวตากแห้งเพื่อส่งออก ด้านปศุสัตว์ วานูอาตูมีโรงงานแปรรูปและบรรจุกระป๋องเนื้อสัตว์ที่ได้มาตรฐานของประชาคมยุโรปและสหรัฐฯ วานูอาตูส่งออกไม้ ทั้งไม้แปรรูป ไม้จันทน์ และผลิตภัณฑ์จากไม้ แต่ถูกกดดันจากประเทศพัฒนาแล้วเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อุตสาหกรรมปลาทูนาได้ดำเนินการในวานูอาตูมาประมาณ 20 ปี โดย South Pacific Fishing Company และ ในปี 2530 วานูอาตูได้ลงนามในความตกลงให้อดีตสหภาพโซเวียต ทำการประมงในน่านน้ำวานูอาตูเป็นเวลา 1 ปี โดยคิดค่าธรรมเนียม 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาวานูอาตูร่วมกับ Pacific Forum Fisheries Agency ทำข้อตกลงกับสหรัฐโดยอนุญาตให้เรือประมงสหรัฐฯ เข้ามาจับปลาในน่านน้ำเพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี นอกจากนั้น วานูอาตูได้ลงนามในสัญญาการประมงกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน อนุญาตให้เรือประมงไต้หวันเข้ามาจับปลาทูนาโดยใช้เบ็ดราวและคิดค่าธรรมเนียม 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อลำ
ปัญหาเศรษฐกิจ ได้แก่ การขาดแคลนบุคลากร การพึ่งสินค้าออกที่เป็นสินค้าขั้นปฐม เพียงไม่กี่ประเภท การขาดแคลนการลงทุน การบริหารเศรษฐกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ ตลอดจนภัยธรรมชาติ (cyclone) ทำให้สภาพเศรษฐกิจขาดการพัฒนา
วานูอาตูมีแหล่งแร่แมงกานีส สินแร่ทองคำ นิเกิลและทองแดงด้วย นักธุรกิจชาวไต้หวันได้ประกาศโครงการลงทุนในเมือง Espirito Santo (ในเขต Luganville)
วานูอาตูกำลังดำเนินโครงการปฏิรูปครบวงจร (Comprehensive Reform Program CRP) ซึ่ง ADB ได้ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากในด้านต่าง ๆ อาทิ การลดจำนวนกระทรวง เหลือ 9 กระทรวง และลดการจ้างงานข้าราชการ การปรับปรุงประสิทธิภาพข้าราชการและการปกครอง นำระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้ การปรับโครงสร้างธนาคารชาติ ฯลฯ
สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
ในปี 2549 เศรษฐกิจของวานูอาตูคาดว่าจะเติบโตในระดับปานกลาง โดยมีการเติบโตด้านก่อสร้างและท่องเที่ยวเป็นแรงหนุน แต่ยังประสบปัญหาในการส่งออกสินค้าสำคัญหลายชนิด เช่น มะพร้าวแห้ง (Copra) คาวา (kava) โกโก้ และเนื้อวัวคุณภาพดี ในเดือนมี.ค. 2549 สหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินทุนจำนวน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งรัฐบาลวานูอาตูเชื่อว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านการเกษตรและท่องเที่ยว นอกจากนี้ วานูอาตูสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดนิวซีแลนด์ได้มากขึ้น แต่ยังประสบปัญหาการส่งออกคาวาไปยังออสเตรเลีย
สถิติการค้าไทย-วานูอาตู (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ปี มูลค่าการค้า ส่งออก นำเข้า ดุลการค้า
2546(2003) 28.9 1.3 27.6 -26.3
2547(2004) 107.1 1.8 105.3 -103.5
2548(2005) 124.6 5.1 119.5 -114.4
2549(2006) 160.2 4.0 156.2 -152.1
หมายเหตุ ข้อมูลจากเวปไซด์กระทรวงพาณิชย์
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐวานูอาตู |
1.ความสัมพันธ์ทั่วไป
ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับวานูอาตู เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2525 โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา มีเขตอาณาครอบคลุมวานูอาตู
วานูอาตูได้เคยลงคะแนนเสียงสนับสนุนร่างข้อเสนอของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหากัมพูชาต่อ สหประชาชาติ เมื่อปี 2532 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ไทยได้เสียงสนับสนุนจากวานูอาตู นอกจากนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเคยพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศวานูอาตูในการประชุม ESCAP ที่นครเซี่ยงไฮ้ ในปี 2547
2.เศรษฐกิจและการค้า
ในปี 2548 มูลค่าการค้ารวม 124.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกมูลค่า 5.1 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 119.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลการค้า 114.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าที่ไทยส่งออก ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าผืน อาหารกระป๋องและแปรรูป ทองแดงและของทำด้วยทองแดง
สินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ ปลาทูน่าสดแช่เย็นและแช่แข็ง
3. การเยือนของผู้นำระดับสูง
ฝ่ายไทยเยือนวานูอาตู
- ร้อยตรีประพาส ลิมปะพันธุ์ รมช.กต. เมื่อวันที่ 10 - 12 กุมภาพันธ์ 2528
ฝ่ายวานูอาตูเยือนไทย
- นาย Sato Kilman รอง นรม. และ รมว.กต. วานูอาตู เยือนไทยในฐานะแขกของ กต. ระหว่างวันที่ 19-20 เม.ย. 2548 และได้พบหารือทวิภาคีกับ รมว.กต. (นายกันตธีร์ ศุภมงคล) เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2548 และดูงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง (จังหวัดฉะเชิงเทรา) สินค้า OTOP และธุรกิจสปา ซึ่งนาย Sato ได้แสดงความชื่นชมการพัฒนาของไทย
กองแปซิฟิกใต้
กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
วันที่ 22 สิงหาคม 2550
เรียบเรียงโดย กองแปซิฟิกใต้ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ โทร. 0-2643-5000 ต่อ 3034 Fax. 0-2643-5119 E-mail : nidthas@mfa.go.th
|
|