ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี

www.dooasia.com >> กาบอง






สาธารณรัฐกาบอง
Gabonese Republic


 
ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้ง ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก มีอาณาเขต
ทิศเหนือติดกับอิเควทอเรียลกินีและแคเมอรูน
ทิศตะวันออกและ ทิศใต้ติดกับสาธารณรัฐคองโก
ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแอตแลนติก
พื้นที่ 267,667 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง กรุงลีเบรอวิล (Libreville)
เมืองสำคัญอื่น ๆ เมือง Port-Gentil ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เมือง Franceville และเมือง Moande ซึ่งเป็นศูนย์กลางการทำ เหมืองแร่
ภูมิอากาศ อากาศร้อนชื้นแถบเส้นศูนย์สูตร อุณหภูมิสูงและฝนตกชุก มีฤดูแล้งยาวนานตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกันยายน หลังจากนั้นเป็นฤดูฝนช่วงสั้น ๆ และจะเป็นฤดูแล้งอีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นฤดูฝนอีกครั้งฝนตกโดยเฉลี่ยประมาณ 2,510 มิลลิเมตรต่อปี
จำนวนประชากร 1,454,867 คน (ประมาณการเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550)
เชื้อชาติ ได้แก่ เผ่า Bantu เผ่าต่าง ๆ ที่สำคัญ 4 เผ่า คือ Fang Eshira Bapounou และ Bateke นอกจากนี้ มีชาวอัฟริกันอื่น ๆ และชาว ยุโรปประมาณ 154,000 คน ซึ่งรวมทั้งชาวฝรั่งเศส 10,700 คน และมีผู้ถือสองสัญชาติ 11,000 คน
ศาสนา ประชากรร้อยละ 55 ถึง 75 นับถือศาสนาคริสต์ ประชากรที่เหลือส่วนใหญ่นับถือความเชื่อดั้งเดิม และมีผู้นับถือศาสนาอิสลาม น้อยกว่าร้อยละ 1
ภาษา ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ และมีภาษาถิ่นอื่น ๆ ที่สำคัญ คือ Fang Myene Bateke Bapounou Eshira และ Bandjabi

รูปแบบการปกครอง ระบอบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข
สถาบันการเมือง มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายบริหาร ประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 7 ปี นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีโดยได้รับคำแนะนำจากประธานาธิบดี
ฝ่ายนิติบัญญัติ ระบบสองสภา (bicameral) โดยวุฒิสภา มำจำนวนที่นั่ง 91 ที่นั่ง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี (ตั้งขึ้นในปี 2538) เลือกจากสมาชิกสภาท้องถิ่น สมาชิกสภานิติบัญญัติ จำนวน 120 ที่นั่ง ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี
ฝ่ายตุลาการ ศาลฏีกา
ประมุขแห่งรัฐ/ผู้นำรัฐบาล นาย El Hadj Omar Bongo Ondimba ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2510 โดยได้รับเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2548 เป็นการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 6
หัวหน้ารัฐบาล นาย Minister Jean Eyeghe NDONG (ตั้งแต่ 20 มกราคม 2549)
รัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Jean PING
วันชาติ 12 มีนาคม วันที่ก่อตั้งพรรค Gabonese Democratic Party (PDG)

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ 9.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2549)
อัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 3.9 (2549)
รายได้ประชาชาติต่อหัว n/a
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ปิโตรเลียม แก๊สธรรมชาติ เพชร ไนโอเบียม (niobium) แมงกานีส ยูเรเนียม ทองคำ ไม้ แร่เหล็ก และพลังงานน้ำ
ผลิตภัณฑ์ทางการเกาตรที่สำคัญ โกโก้ กาแฟ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ยางพารา โคกระบือ ไม้เนื้ออ่อน (Okoume) และปลา
อุตสาหกรรมที่สำคัญ การสกัดปิโตรเลียม เหมืองแร่แมงกานีส ทอง เคมีภัณฑ์ การซ่อมเรือ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ ซีเมนต์ ไม้ซุงและไม่อัด
หนี้สินต่างประเทศ 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการค้า 1,151 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าออกที่สำคัญ น้ำมันดิบ (ร้อยละ 75) ไม้ แมงกานีส และยูเรเนียม
สินค้าเข้าที่สำคัญ เครื่องมือและเครื่องจักร อาหาร เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ ปิโตรเลียมและวัสดุก่อสร้าง
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ
ส่งออก สหรัฐฯ (ร้อยละ 53.5) จีน (ร้อยละ 6.3)ฝรั่งเศส (ร้อยละ 6.4) และ ตรินิแดดและโตบาโก (ร้อยละ 4)
นำเข้า ฝรั่งเศส (ร้อยละ 40.6) สหรัฐฯ (ร้อยละ 6.4) แคเมอรูน (ร้อยละ 4.2)
หน่วยเงินตรา เงินฟรังก์เซฟา (Communaute Financiere Africaine Franc) (XAF)
อัตราแลกเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยน 522.4 เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

การเมืองการปกครอง
ประวัติศาสตร์โดยสังเขป
กาบองมีระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ และเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกาตะวันตก มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ โดยมาจากการเลือกตั้งโดยตรง และเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลและเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีโดยการหารือกับประธานาธิบดี ในปี 2533 กาบองเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญให้มีระบบการเมืองหลายพรรค รัฐสภาของกาบองเป็นระบบสภาคู่ โดยสภาผู้แทนจำนวน 120 ที่นั่งมาจากการเลือกตั้งทั่วไป และอยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี ในส่วนของวุฒิสภาจำนวน 91 ที่นั่ง (ตั้งขึ้นในปี 2538) เลือกจากสมาชิกสภาท้องถิ่น และอยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี

เดิมดินแดนกาบองเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์แอฟริกาตะวันตกของฝรั่งเศส ในปี 2501 กาบองได้รับสิทธิในการปกครองตนเอง และได้ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2504 โดยมีนาย Leon M’ba เป็นประธานาธิบดีคนแรก ในปี 2507 ได้เกิดการรัฐประหารขึ้น แต่ด้วยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส นาย Leon M’ba ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตามเดิมจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2510

นาย Albert-Bernard Bongo (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Omar Bongo Ondimba) รองประธานาธิบดี ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสให้เข้ารับตำแหน่งแทน และจัดตั้งระบบการปกครองแบบพรรคการเมืองเดียว โดยมีพรรค Parti democratique gabonais (PDG) เป็นพรรครัฐบาล โดยประธานาธิบดี Bongo ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งซ้ำในปี 2516 ปี 2522 และปี 2529 โดยไม่มีคู่แข่ง

ในปี 2533 ภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ รัฐบาลกาบองได้จัดให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงเป็นระบบการเมืองแบบหลายพรรค อย่างไรก็ตาม พรรค PDG ของประธานาธิบดี ยังคงได้รับเสียงข้างมากในสภาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีขึ้นในปี 2536 นาย Bongo ยังคงได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้งซ้ำในปี 2541

ในปี 2540 ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเพิ่มระยะเวลาให้ประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่ง
จากเดิมวาระละ 5 ปี เป็นวาระละ 7 ปี และมีการแต่งตั้งตำแหน่งรองประธานาธิบดีขึ้นมาอีกครั้ง และในปี 2546 ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งโดยยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ซึ่งทำให้นาย Bongo มีสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2548 และชนะการเลือกตั้ง โดยนับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 6 และถือเป็นประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในแอฟริกา

อนึ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2555 ซึ่งนาย Bongo จะมีอายุ 77 ปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่านาย Bongo จะดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะเสียชีวิต หรือว่าจะแต่งตั้งทายาททางการเมืองสืบอำนาจแทน ทั้งนี้ โดยเฉพาะนาย Ali Bongo บุตรชายซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลปัจจุบัน

ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
ในอดีตกาบองดำเนินนโยบายต่างประเทศโดยเอนเอียงไปทางฝ่ายตะวันตก โดยเฉพาะกับฝรั่งเศส โดยมีความร่วมมือทางด้านการทหารและเศรษฐกิจ ในด้านการทหาร ฝรั่งเศสได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคมาให้การฝึกอบรมการใช้อาวุธสมัยใหม่ มีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดทหารซึ่งสอนโดยทหารฝรั่งเศส ปัจจุบันยังมีกองกำลังทหารฝรั่งเศสประมาณ 3-4 พันคนประจำการอยู่เพื่อดูแลผลประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ กาบองกับฝรั่งเศสได้มีข้อตกลงทางด้านการค้า การลงทุน การบินและอุตสาหกรรม อาทิ
ในปี 2548 ฝรั่งเศสได้สัมปทานสร้างทางรถไฟสาย “Trans-Gabon” ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกาบองอีกด้วย

อย่างไรก็ดี กาบองได้พยายามลดการพึ่งพิงฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคมเดิม และขยายความสัมพันธ์กับมิตรประเทศอื่น ๆ อาทิ จีน บราซิล แอฟริกาใต้ และอินเดีย เพื่อขอรับการช่วยเหลือด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและที่มิใช่น้ำมัน (oil and non-oil sectors) ของประเทศ ปัจจุบัน กาบองดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ความสัมพันธ์ระหว่างกาบองกับจีนมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นโดยลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2547 ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในลักษณะ State Visit โดยผู้นำของประเทศทั้งสอง ในการเยือนกาบองของประธานาธิบดีหูจินเท่าของจีน ได้มีการลงนามความตกลงระหว่าง China Petroleum and Chemical Corporation Refinery กับ Gabon and France’s Total Gabon ซึ่งจะรับประกันการส่งน้ำมันกาบองไปยังประเทศจีนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ มีรายงานว่า จีนกำลังก่อสร้างตึกรัฐสภาแห่งใหม่ ศูนย์มัลติมีเดีย และท่าเรือในกาบองอีกด้วย การเยือนดังกล่าวสะท้อนถึงความสำคัญของจีนในฐานะหุ้นส่วนทางการค้าและการพัฒนาของกาบอง

ความสัมพันธ์ระหว่างกาบองกับสหรัฐฯ มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีกาบองเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในลักษณะ State Visit เมื่อเดือนพฤษภาคม 2547 และผู้บังคับบัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐฯ เยือนกาบองในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เพื่อหารือประเด็นความมั่นคง น้ำมัน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของกาบองในฐานะประเทศยุทธศาสตร์ในแอฟริกาตะวันตกของสหรัฐฯ

กาบองเป็นประเทศที่มีบทบาทในองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ อาทิ สหประชาชาติ (UN) สหภาพแอฟริกา (AU) กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (NAM) องค์การการประชุมอิสลาม (OIC) และประชาคมเศรษฐกิจแอฟริกา (ECA) เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2549 กาบองได้ร่วมกับองค์กรอาหารและยาแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การอนามัยโลก (WHO) โครงการเพื่อการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จัดการประชุมระดับอนุภูมิภาคเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในทวีปแอฟริกาตะวันตกขึ้นที่กรุงลีเบรอวิล ประเทศกาบอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความพยายามในการหยุดการแพร่ระบาดและหามาตรการป้องกันเชื้อไข้หวัดนกในแอฟริกาตะวันตก

กาบองมีข้อพิพาททางดินแดนกับอิเควทอเรียลกินี โดยทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะ 3 เกาะ คือ Mbanie Cocotier และ Conga ซึ่งเชื่อกันว่ามีน้ำมันอยู่มาก เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ ปี 2549 ประธานาธิบดีกาบอง และประธานาธิบดีอิเควทอเรียลกินี ได้ตกลงที่จะจัดทำความตกลงเพื่อยุติข้อขัดแย้งการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะดังกล่าว โดยมีนาย Kofi Annan เลขาธิการสหประชาชาติเป็นผู้ไกล่เกลี่ย อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศยังไม่สิ้นสุด แม้กาบองจะเสนอให้มีการแบ่งสรรการใช้ทรัพยากรจากเกาะดังกล่าว

เศรษฐกิจการค้า
สภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไป
กาบองเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยเนื่องมาจากน้ำมัน โดยเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับที่ 27 ของโลก ในปี 2546 กาบองมีรายได้ต่อหัวสูงถึง 6, 397 ดอลลาร์สหรัฐฯ เศรษฐกิจของกาบองพึ่งพาการส่งออกน้ำมันปิโตรเลียมเป็นสินค้าหลัก โดยร้อยละ 81 ของรายได้ประชาชาติมาจากการส่งออกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจกาบองโดย เฉพาะระหว่างวิกฤตน้ำมันในช่วงปี 2523 และในปี 2541 อนึ่ง กาบองได้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) ในปี 2538 เนื่องจากต้องการผลิตน้ำมันเกินโควต้าที่ OPEC กำหนด ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจของกาบองดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกขยับตัวสูงขึ้น

แม้ว่ากาบองจะถือเป็นประเทศร่ำรวย แต่ก็ยังประสบปัญหาภาระหนี้สินระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส ธนาคารโลก และ IMF โดยมีพันธะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ IMF ในการเร่งรัดการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การเปิดเสรีทางการค้า และเร่งรัดพัฒนาอุตสาหกรรมที่ไม่ใช้น้ำมัน เพื่อลดปัญหาการว่างงาน

นโยบายหลักของรัฐบาล คือการพยายามดำเนินการตามเงื่อนไขของ IMF เพื่อให้สามารถได้รับการสนับสนุน และหวังจะได้รับการผ่อนปรนระยะเวลาชำระหนี้จากกลุ่มประเทศ G7 รัฐบาลพยายามลดการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยให้ความสำคัญมากขึ้นกับการผลิตแมงกานีส การกลั่นน้ำมัน การแปรรูปผลิตภัณฑ์ไม้ การก่อสร้าง และการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจตามคำแนะนำของ IMF โดยได้ประกาศปฏิรูปภาคป่าไม้ (timber) เป็นต้น

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 รัฐบาลได้ประกาศนโยบายเพื่อให้สามารถดำเนินตามแผนปฏิบัติการสามปีในกรอบของ IMF อาทิ การเปิดประมูล Gabon Telecom การปรับโครงสร้างไปรษณีย์กาบอง และการก่อตั้ง Air Gabon International แทน Air Gabon ซึ่งอยู่ในสภาพย่ำแย่ การสร้างความโปร่งใสให้กับภาคน้ำมันและการขุดเจาะแร่ธาตุ นอกจากนี้ โดยที่มีการประเมินกันว่า การผลิตน้ำมันของกาบองจะหมดลงภายในปี 2555 หากไม่มีการสำรวจบ่อน้ำมันใหม่ ๆ รัฐบาลจึงได้พยายามพัฒนาการสำรวจน้ำมันเพิ่มเติมโดยการดึงดูดการลงทุน ในสาขาพลังงาน (energy sector) โดยมีการปรับระบบกฎหมายและมาตรการต่างๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

กาบองประสบปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมาก รวมทั้งปัญหาด้านสาธารณสุข
ของกาบองยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร อัตราโรงพยาบาลและแพทย์ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย โรคที่ระบาดมากได้แก่มาลาเรีย และเอดส์ ทั้งนี้ กาบองยังมีอัตราการแพร่กระจายของโรคเอดส์สูงถึงร้อยละ 8.1 (พ.ศ. 2546) และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 3,000 คน (พ.ศ. 2546)

สถิติการค้าระหว่างไทยกับกาบอง (ดังเอกสารแนบ)

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐกาบอง
ความสัมพันธ์ทั่วไป
b>ความสัมพันธ์ด้านการเมือง
ประเทศไทยกับกาบองได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2519 โดยฝ่ายไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ มีเขตอาณาครอบคลุมกาบอง และฝ่ายกาบองได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตกาบองประจำกรุงโซล มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย เอกอัครราชทูตคนปัจจุบัน คือ นาย Jean-Pierre SOLE-EMANE กาบองได้แต่งตั้งให้นายทวีเกียรติ นาโคศิริ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์กาบองประจำประเทศไทย

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2544 - 2548) การค้าระหว่างไทยกับกาบองมีมูลค่าเฉลี่ย 44.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั้งสองมีปริมาณไม่มากนัก และมีความผันผวนมากในแต่ละปี ที่ผ่านมาไทยเสียดุลการกับกาบอง ในปี 2549 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกาบองจำนวน 9,506 ล้านบาท ไทยส่งออกไปกาบองมูลค่า 998.5 ล้านบาท และไทยนำเข้าจากกาบองถึง 8,507.5 ล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งออกไปกาบอง 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. ข้าว 2. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 3. เคหะสิ่งทอ 4. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 5. ผลิตภัณฑ์พลาสติก 6. เสื้อผ้าสำเร็จรูป 7. ผ้าผืน 8. อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 9. กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 10. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล สำหรับสินค้าที่ไทยนำเข้าจากกาบอง 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. น้ำมันดิบ 2. ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ 3. พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช 4. เคมีภัณฑ์ 5.เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 6. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 7. แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ 8. กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ 9. เครื่องจักรและส่วนประกอบ 10. เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การทดสอบ


ความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรม
ไทยให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการเผยแพร่เทคโนโลยีด้านการผลิตยารักษาโรคมาลาเรียและยาต้านโรคเอดส์แก่ประเทศในแอฟริกา โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขไปประเทศบูร์กินาฟาโซ แกมเบีย เซเนกัล กาบอง และมาลี เพื่อเผยแพร่เทคโนโลยีด้านการผลิตยารักษาโรคมาลาเรีย โดยในกาบอง ดำเนินการระหว่างวันที่ 2-8 กันยายน
ปี 2549

ความตกลงที่สำคัญ ๆ กับไทย
- ความตกลงแม่บทว่าด้วยความร่วมมือ (ลงนามเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2529)

การเยือนที่สำคัญ
ฝ่ายไทย
รัฐบาล
ร้อยตรีประพาส ลิมปะพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- วันที่ 16 – 19 มีนาคม 2529 เดินทางไปเยือนกาบอง
ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี
- วันที่ 22-24 สิงหาคม 2549 เยือนกาบองอย่างเป็นทางการ

ฝ่ายกาบอง
รัฐบาล
Omar Bongo Ondimba ประธานาธิบดี
- ปี 2527 เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในลักษณะ Working visit
- วันที่ 2 – 5 พฤศจิกายน 2528 เยือนไทยเป็นการส่วนตัวโดยได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2528
- วันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2546 เดินทางเยือนไทยเป็นการส่วนตัวพร้อมภริยา
- วันที่ 10 – 15 ตุลาคม 2546 เดินทางเยือนไทยเป็นการส่วนตัวพร้อมภริยา
- วันที่ 30 เมษายน 2549 ถึง 6 พฤษภาคม 2549 เดินทางเยือนประเทศไทยเป็นการส่วนตัว พร้อมด้วยภริยา และนาย Jean Ping รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
Edith Lucie Bongo Ondimba ภริยาประธานาธิบดี
- วันที่ 8-14 กรกฎาคม 2547 เข้าร่วมการประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ครั้งที่ 15
Jean Ping รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- วันที่ 16 - 20 เมษายน 2548 เดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมภริยา

ผู้แทนทางการทูต
ฝ่ายไทย
เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐกาบอง ถิ่นพำนัก ณ กรุงดาการ์ คือ นาวาตรีอิทธิ ดิษฐบรรจง ร.น. (LIEUTENANT COMMANDER ITTI DITBANJONG)
ที่อยู่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์
Royal Thai Embassy
10 Rue Leon G. Damas
Angle F., Fann Residence,
B.P. 3721. Dakar
Tel. (221) 824-3076, 825-7095
(221) 824-3801 Ambassador
Fax. (221) 824-8458, 825-6360

ฝ่ายกาบอง
เอกอัครราชทูตกาบองประจำประเทศไทยถิ่นพำนัก ณ กรุงโซล คือ
H.E. Mr. Emmanuel Issoze Ngondet
ที่อยู่สถานเอกอัครราชทูตกาบอง
The Embassy of the Gabonese Republic
4th Floor, Yoosung Building
738 – 20, Hannam-dong, Yongsam-ku
Seoul, The Republic of Korea
โทรศัพท์ 793-9575-6
โทรสาร 793-9574

กงสุลกิตติมศักดิ์กาบองประจำประเทศไทย คือ นายทวีเกียรติ นาโคสิริ (Mr. Tavekiat Nakosiri)
ที่อยู่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์กาบอง
The Consulate of the Gabonese Republic
No. 13 Pradipat 10
Pradipat Road
Kwang Samsennai
Khet Phayathai, Bangkok 10400
โทรศัพท์ 279-2800–1
โทรสาร 271-1142

มิถุนายน 2550

เอกสารแนบ

เรียบเรียงโดย กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา โทร. 0-2643-5047-48 E-mail : southasian04@mfa.go.th



ข้อมูลประเทศอื่นๆทั่วโลก
อัฟกานิสถาน  แอลเบเนีย  แอลจีเรีย  อันดอร์รา  แองโกลา  แอนติกาและบาร์บูดา  อาร์เจนตินา  อาร์เมเนีย  ออสเตรเลีย  ออสเตรีย  อาเซอร์ไบจาน  บาฮามาส  บาห์เรน  บังกลาเทศ  บาร์เบโดส  เบลารุส  เบลเยียม  เบลีช  เบนิน  ภูฏาน  โบลิเวีย  บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา  บอตสวานา  บราซิล  บรูไนดารุสซาลาม  บัลแกเรีย  บูร์กินาฟาโซ  บุรุนดี  กัมพูชา  แคเมอรูน  แคนาดา  เคปเวิร์ด  แอฟริกากลาง  ชาด  ชิลี  จีน  ฮ่องกง  มาเก๊า  ไต้หวัน  โคลัมเบีย  คอโมโรส  คอสตาริกา  โครเอเชีย  คิวบา  ไซปรัส  เช็ก  สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก  เดนมาร์ก  จิบูตี  โดมินิกา  โดมินิกัน  เกาหลีเหนือ  เอกวาดอร์  อียิปต์  เอลซัลวาดอร์  อิเควทอเรียลกินี  เอริเทรีย  เอสโตเนีย  เอธิโอเปีย  ฟิจิ  ฟินแลนด์  ฝรั่งเศส  กาบอง  แกมเบีย  จอร์เจีย  เยอรมนี  กานา  กรีซ  เกรเนดา  กัวเตมาลา  กินี  กินีบิสเซา  กายอานา  เฮติ  นครรัฐวาติกัน  ฮอนดูรัส  ฮังการี  ไอซ์แลนด์  อินเดีย  อินโดนีเซีย  อิหร่าน  อิรัก  ไอร์แลนด์  อิสราเอล  อิตาลี  จาเมกา  ญี่ปุ่น  จอร์แดน  คาซัคสถาน  เคนยา  คิริบาส  คูเวต  คีร์กิซ  ลาว  ลัตเวีย  เลบานอน  เลโซโท  ไลบีเรีย  ลิเบีย  ลิกเตนสไตน์  ลิทัวเนีย  ลักเซมเบิร์ก  มาซิโดเนีย  มาดากัสการ์  มาลาวี  มาเลเซีย  มาลี  มอลตา  หมู่เกาะมาร์แชลล์  มอริเตเนีย  มอริเชียส  ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง  เม็กซิโก  ไมโครนีเซีย  มอลโดวา  โมนาโก  มองโกเลีย  โมร็อกโก  โมซัมบิก  พม่า  นามิเบีย  นาอูรู  เนปาล  เนเธอร์แลนด์  นิวซีแลนด์  นิวซีแลนด์  นิการากัว  ไนเจอร์  ไนจีเรีย  นอร์เวย์  องค์การรัฐอเมริกัน  โอมาน  ออร์เดอร์ ออฟ มอลตา  ปากีสถาน  ปาเลา  ปานามา  ปาปัวนิวกินี  ปารากวัย  เปรู  ฟิลิปปินส์  โปแลนด์  โปรตุเกส  กาตาร์  คองโก  เกาหลีใต้  กลุ่มริโอ  โรมาเนีย  รัสเซีย  รวันดา  เซนต์คิตส์และเนวิส  เซนต์ลูเซีย  เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์  ซามัว  ซานมาริโน  เซาโตเมและปรินซิเป  ซาอุดีอาระเบีย  เซเนกัล  เซอร์เบีย  เซเชลส์  เซียร์ราลีโอน  สิงคโปร์  สโลวาเกีย  สโลวีเนีย  หมู่เกาะโซโลมอน  โซมาเลีย  แอฟริกาใต้  สเปน  ศรีลังกา  ซูดาน  ซูรินาเม  สวาซิแลนด์  สวีเดน  สวิตเซอร์แลนด์  ซีเรีย  ทาจิกิสถาน  แทนซาเนีย  ติมอร์-เลสเต  โตโก  ตองกา  ตรินิแดดและโตเบโก  ตูนิเซีย  ตุรกี  เติร์กเมนิสถาน  ตูวาลู  ยูเออี  ยูกันดา  ยูเครน  สหราชอาณาจักร  สหรัฐอเมริกา  อุรุกวัย  อุซเบกิสถาน  วานูอาตู  เวเนซุเอลา  เวียดนาม  เยเมน  แซมเบีย  ซิมบับเว 



 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์