ผู้ที่ไปมาเลเซียมาแล้ว มักจะพูดว่า “ถ้าไม่มีเก็นติ้งไฮแลนด์ นั่งกระเช้าลอยฟ้า ขึ้นไปเล่นกาสิโนบนยอดเขาแล้ว มาเลเซีย ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ” มาปีนี้มาเลเซียพลิกโฉมสร้างจุดขายใหม่ดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชายหาด ดำน้ำ ชมธรรมชาติ ช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมลดราคา
ปี ๆ หนึ่งชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยว “ประเทศมาเลเซีย” มากมาย พอ ๆ กับที่ชาวเมเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย อาจเพราะ เที่ยวมาเลเซีย ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกสบาย และค่าครองชีพก็ไม่สูงจนเกินไปนัก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย นิยมแวะเวียนไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองมุสลิมที่สวยงาม อะ ๆ แล้วอยากรู้ไหมว่าไป เที่ยวมาเลเซีย ต้องเยือนที่ไหนกันบ้าง ถ้าอยากรู้ตามเราไป เที่ยวมาเลเซีย กันเลย…
กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) كوالا لومڤور , 吉隆坡
กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) كوالا لومڤور , 吉隆坡 เมืองหลวงของมาเลเซีย จะได้ไปเห็นตึกแฝดสูงที่สุดในโลก ที่มีชื่อว่า Petronas มีความสูงถึง 452 เมตร หรือสูงกว่าตึกใบหยกบ้านเรา 148 เมตร ออกแบบโดยชาวอเมริกัน Cesar Pelli ก่อสร้างโดยบริษัทจากญี่ปุ่น และบริษัทเกาหลี รับผิดชอบกันคนละตึก และต่างก็ต้องแข่งขันกันด้วย เพราะหากใครสร้างเสร็จก่อนก็จะเป็นผู้สร้างสะพานเชื่อมตึกทั้งสองในชั้นที่ 42 ปรากฏว่าแรกๆเกาหลีสร้างได้เร็วมาก แต่หลังจากญี่ปุ่นตั้งหลักได้ก็แซงเกาหลีและเสร็จก่อนประมาณ 1 เดือน
อาคารหอคอยคู่เปโตรนาส (Petronas Twin Towers)
อาคารหอคอยคู่เปโตรนาส (Petronas Twin Towers) เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ออกแบบโดย เซซาร์ เปลลี ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของเมือง ที่แวดล้อมด้วยสวนสาธารณะ และส่วนอาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ (KLCC-Kuala Lumpur Convention Center) อาคารเปโตรนาส มี 2 อาคารหอคอย ซึ่งนับเป็นอาคารที่สูงอันดับ 3 และ 4 ของโลก รองจากอาคารเซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์เมืองเซี่ยงไฮ้ และอาคารไทเป101 ประเทศไต้หวัน มีความสูงทั้งหมด452เมตร 88 ชั้น
เก็นติ้งไฮแลนด์ (genting highland)
เก็นติ้งไฮแลนด์ (genting highland) เป็นแหล่งบันเทิงที่รวมความหลากหลายไว้ในที่เดียวกัน เป็น City of Entertainment ระดับโลกที่มีมานานหลายสิบปี จากเดิมที่เคยมีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งกาสิโนที่ละลานตา ภายในห้องโถงขนาดใหญ่เทียบได้กับสนามฟุตบอล มีเครื่องเล่นที่สามารถดูดเงินในกระเป๋ามาแล้วมากมาย เป็นการสูญเงินบนความสนุกก็อาจจะพูดได้…เขาเก็นติ้งมีความสูงปะมาณ 1800 เมตร มีโรงแรมอยู่บนความสูงระดับเมฆ ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยกล่าวว่าได้มาอยู่เหนือเมฆ ได้มารับไอเย็น แม้บางคนจะไม่ชอบเรื่องการพนันแต่ก็อยากมาได้เห็นปุยเมฆอย่างใกล้ชิด และมีให้เห็นกันตลอดปี ปัจจุบันเก็นติ้งไฮแลนด์เปลี่ยนโฉมจากสถานบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ มาเป็นศูนย์รวมความสนุกสนานของความครัว ที่เดินทางขึ้นเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้า ไต่ระดับความสูงขึ้นมาอยู่เหนือระดับเมฆในระทางราว3 กม. เป็นความตื่นเต้นที่หลายคนอยากมาเห็นกับตาว่าเป็นอย่างไร หากจะพูดถึงเก็นติ้งแล้ว คงจะมีเรื่องเม้าท์กันได้ตลอด เอาเป็นว่าประเทศมาเลเซียได้เงินจากค่าเช่าค่าภาษีจำนวนไม่น้อยในต่ละปีดูดเงินจากคนไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมทั้งชาติตะวันออกก ที่นี่บรรดาชาติต่างๆจากโลกอาหรับเดินกันให้ควั๊ก หนุ่มอาหรับนุ่งยีนส์ลากรองเท้าแตะเดินควงสาวชุดดำที่เห็นแต่ลูกกะตา แต่ก็พอมองออกว่าขาวเนียน ตาคม ซึ่งคงจะเป็นความสุขที่หาไม่ได้ในประเทศตนเองที่มีกฏเข้มงวด…แต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลกันขึ้นมาอยู่รวมกันบนยอดเขาเก็นติ้งนับหมื่นๆคน โดยเฉพาะเย็นวันศุกร์จะหนาแน่นเป็นพิเศษ แต่ข้างบนนี้ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างโดยเฉพาะที่พักรองรับได้หลายหมื่นคน.. First World Hotel เป็นโรงแรมที่กรุ๊ปทัวร์จะจองที่พักกันมีห้องพักถึง 6,300 ห้อง เป็นแชมป์อันดับ 1 ของโลกในขณะนี้
ปุตราจายา (putrajaya) ڤوتراجاي
ปุตราจายา (putrajaya) ڤوتراجاي เมืองราชการแห่งใหม่ของมาเลเซีย เป็นอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย คำว่า ปุตราจายา คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้จักคำนี้ดี รายการโทรทัศน์หลายรายการเคยไปถ่ายทำสารคดีที่นั่น ซึ่งต่างก็กล่าวถึงความสวยงาม ความใหญ่โต และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างพร้อมสรรพ ด้วยแนวคิดของคำว่า “Gaden City ” และ ” Inteligent City ” ที่หมายถึงเมืองที่เป็นสวน และเมืองแห่งความฉลาด ทำให้ Putra Jaya ถูกเนรมิตจากความฝันให้เป็นเมืองแห่งความจริง ที่เป็นทั้งศูนย์อาคารทางราชการ อาคารรัฐสภา ที่อยู่อาศัยของข้าราชการเจ้าหน้าที่ มีมัสยิดเพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนาใหญ่ที่สุดของประเทศ มีสถานพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติมากมาย รวมไปถึงเป็นศูนย์กลางด้านไอทีหรือระบบสารสนเทศที่ทันสมัย ซึ่งได้กำหนดให้เป็น Cyberjaya พร้อมระบบเครือข่ายที่ทันสมัย เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้นำด้าน MSC ( Multimedia Super Corridor) ซึ่งเป็นโลกของอนาคตทางด้านไอที ปุตราจายากลาย เป็นความฝันของคนมาเลเซียรุ่นใหม่ ที่อยากมาทำงานในสถานที่แห่งนี้ ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมเป็นจำนวนมาก
วัดถ้ำเปรัก (perak cave)
วัดถ้ำเปรัก (perak cave) เมืองฮิโปร์ ในมาเลเซียแม้จะมีชาวพุทธเป็นส่วนน้อยแต่ก็มีวัดจีนหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวทุกชาติทุกศาสนานิยมไปแวะชมและสักการะ วัดถ้ำเปรัก ในเมืองฮิโปร์ เป็นวัดถ้ำที่สำคัญวัดหนึ่งของมาเลเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางมักแวะเข้าไปชมหากมีโอกาสผ่านไปในเส้นทางนี้ ภูเขาหินลูกเล็กๆที่อยู่ริมทางแต่ก็มีถ้ำและศาสนสถานที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน ที่นิยมสร้างวัดติดกับภูเขา หรือสร้างบนยอดเขา? ภายในถ้ำมีภาพจิตรกรรมผนังถ้ำที่วาดโดยจิตรกรชาวจีนที่อาศัยอยู่ฮ่องกง เป็นภาพขนาดใหญ่มาก วัดถ้ำแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม พระสังขจายองค์ใหญ่ วัดนี้หากจะเทียบกับบ้านเราแล้วถือว่าเป็นวัดใหม่ที่พึ่งเปิดเมื่อปี ค.ศ 1970 หรือ พ.ศ 2513 หลังจากมาเลเซียได้รับเอกราชได้เพียง 13 ปี
เมืองมะละกา (Malacca) 马六甲, ﻣﻼﻙ ﺩﺍﺭﺍﻟﻌﻈﻴﻢ
เมืองมะละกา (Malacca) 马六甲, ﻣﻼﻙ ﺩﺍﺭﺍﻟﻌﻈﻴﻢ เมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าสำคัญที่มีการติดต่อค้าขายหรือเป็นเมืองเศรษฐกิจจนได้รับฉายาว่า Golden Age หรือขวานทอง เป็นต้นเหตุต่อการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมาเลเซียอยู่หลายครั้งหลายหน มีมรดกตกทอดทางสถาปัตยกรรมของชาติยุโรปอยู่หลายแห่ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ของมาเลเซีย
คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highlands)
คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highlands) เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชมธรรมชาติ ระหว่างทางสู่คาเมรอน จะได้ผ่านชมไร่พืชผักอันเขียวขจีและไร่สตอร์เบอร์รี่จำนวนมากมาย ที่โดดเด่นและไม่ควรพลาดชมระหว่างทางสู่คาเมรอนก็คือ ไร่ชาที่สวยงามกลางหุบเขา บนคาเมรอนไฮแลนด์มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและป่าดงดิบแวะชมฟาร์มผึ้งและเป็นที่พกผ่อน ตากอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของมาเลเซีย
วัดเขาเต่า (Wat Khao Tao)
วัดเขาเต่า (Wat Khao Tao) หรือ เค็ก ลก ซี (Kek Lok Sri) ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ภายในวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ และเจดีย์หมื่นพระ เป็นพุทธศิลป์ที่ผสมผสานความงามของเป็นอันดับ 3 ประเทศไว้ด้วยกัน คือ ไทย จีน พม่า ซึ่งเชื่อกันว่า วัดนี้เป็นสถานที่ ที่ศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการจะสมหวังในเรื่องของความรัก ส่วนเหตุผลที่เรียกว่าวัดเขาเต่านั้น ก็เพราะว่า เมื่อเดินขึ้นไปถึงระหว่างทางจะพบว่ามีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีเต่าอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน
ย่านดาตารัน เมอร์เดก้า (Dataran Merdeka)
ย่านดาตารัน เมอร์เดก้า (Dataran Merdeka) สถานที่ฉลองเอกราช ชมอาคารสวยๆรอบๆ เช่น อาคาร Sultan Abdul Samad ปัจจุบันเป็นที่ทำการของศาลสูง อาคารที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน มาเลเซีย Selangor Club ของผู้ดีชาวอังกฤษในสมัยก่อน
มัสยิดปุตรา (putra mosque)
มัสยิดปุตรา (putra mosque) เป็นมัสยิดที่สำคัญในปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย มัสยิดปุตรานั้นเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1997 จนแล้วเสร็จอีก 2 ปีถัดมา ตั้งอยู่ข้างกับเพอร์ดานาปุตรา ซึ่งเป็นทำเนียบรัฐบาลของมาเลเซีย และทะเลสาบปุตราจายา ทะเลสาบที่สร้างโดยมนุษย์ ด้านหน้าของมัสยิดยังมีจตุรัสที่ประดับด้วยธงแต่ละรัฐของมาเลเซีย
ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (fort cornwallis)
ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (fort cornwallis) นั้นได้มีการก่อสร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 17 แต่เดิมนั้นทำด้วยไม้ ภายหลังจึงเปลี่ยนมาเป็นคอนกรีตในปี ค.ศ.1804 ซึ่งใช้แรงงานจากนักโทษ ก่อสร้างที่ป้อมนี้มีโรงละครกลางแจ้ง ส่วนภายในป้อมเป็นศูนย์ศิลปหัตถกรรมของชาวพื้นเมือง มีโบราณวัตถุที่สำคัญคือ ปืนใหญ่ ที่ชื่อว่า สรีรัมไบ เป็นโบราณสถานของชาวดัทช์มอบให้สุลต่านแห่งยะโฮร์ ผู้ปกครองเมืองปีนังในสมัยนั้น
ป้อมปราการอาฟาโมซา (fort a famosa)
ป้อมปราการอาฟาโมซา (fort a famosa) ป้อมป้องกันเมืองของโปรตุเกส ซึ่งถูกทำลายโดยอังกฤษจนเกือบหมด เพราะไม่ต้องการให้มะละกามีเขี้ยวเล็บ ยังควเหลือไว้เพียงแค่ประตู Porta De Santiago
อาคารสุลต่านอับดุลซามัค (Sultan Abdul Samad Building)
อาคารสุลต่านอับดุลซามัค (Sultan Abdul Samad Building) และ หอนาฬิกา สูง 40 เมตร เป็นตัวอาคารเก่าแถบ Merdeka Square ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม แบบ มัวร์ ส่วนที่เป็นหอนาฬิกาสูง 40 เมตรที่นั้นมักจะเรียกกันว่าเป็น บิ๊กเบนของมาเลเซีย ส่วนด้านบนจะเป็นโดมขนาดใหญ่สีทอง อาคารนี้สร้างเมื่อเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อใช้เป็นศูนย์บริหาร อาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล
หอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย (Queen Victoria Clock Tower)
หอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย (Queen Victoria Clock Tower) สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ60 พรรษาของพระราชินีวิคตอเรีย แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ.1897 โดยมหาเศรษฐีชาวปีนัง ชื่อเซียะห์ เช็น อ็ก หอนาฬิกาแห่งนี้สูง 60 ฟุต
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves)
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) ซึ่งเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู อยู่ทางเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ไป 12 กม. สร้างขึ้นเป็นวัดในศาสนาฮินดูเพื่ออุทิศถวายแด่พระขันธกุมาร เทพองค์หนึ่งในศาสนาฮินดู ซึ่งพระขันธกุมารนั้นเป็นพระโอรสของพระอิศวรและพระอุมา และเป็นพี่ชายของพระพิฆเณศวร์หรือพระคเณศ ด้านหน้าปากทางขึ้นบันไดไปยังถ้ำบาตูนั้น ข้างบนจะมีรูปปั้นของพระขันธกุมารสูงถึง 42.7 เมตร ยืนเด่นเป็นสง่าเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้มาเยือน สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2549
วัดไทยไชยมังคลาราม(wat chayamangkalaram)
วัดไทยไชยมังคลาราม(wat chayamangkalaram) เป็นวัดไทย ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย วัดไชยมังคลารามเป็นวัดไทยที่มีชื่อเสียงมานานบนเกาะปีนัง โดยภายในอุโบสถมีพระนอนยาวที่สุดในประเทศมาเลเซีย โดยมีความยาว 108 ฟุต สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยมีชื่อว่าพระพุทธชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานนามให้ในคราวเสด็จประพาสเมื่อ วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2505 วัดไชยมังคลารามเป็นวัดเก่าแก่ สร้างในปี พ.ศ. 2388 มีอายุกว่า 160 ปี สร้างโดยบริษัทอินเดียตะวันออก ศิลปะของวัดไชยมังคลารามเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่า และจีนผสมผสานกันอย่างลงตัวและมีสีสันสะดุดตา ดูแปลกไปจากวัดในประเทศไทย ที่เน้นศิลปะที่อ่อนช้อย แต่ศิลปะของวัดแห่งนี้จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีการแกะสลัก ทำลวดลายให้ดูวิจิตรมากนัก
น้ำตกอีสกันดา (Lata Iskandar Waterfall)
น้ำตกอีสกันดา (Lata Iskandar Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามแบบธรรมชาติอย่างมาก ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางลงจากคาเมรอนไฮแลนด์ โดยชื่อเต็มน้ำตกอีสกันดาก็คือ Lata Iskandar Waterfall อยู่ในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยเป็นน้ำตกธรรมชาติที่มีความชุมชื่นและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี
มหาวิหารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Church)
มหาวิหารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Church) ที่บริสุทธิ์ หรือมหาวิหารเซนต์แมรีเป็นโบสถ์ของสังฆมณฑลของมาเลเซียของชาวอังกฤษ โบสถ์ของเอเชียอาคเนย์ กัวลาลัมเปอร์ตั้งอยู่มาเลเซียมันเป็นของนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์บิชอปเห็น ตกอยู่ในปกครองของบิชอปแห่งมาเลเซียแม่ และโบสถ์แห่งสังฆมณฑล ตัวอาคารประกอบด้วยวิหาร 87 ฟุตกว้าง 28 เมตรยาว 29 เมตรยาว 22 เมตรกว้างพลับพลา และใช้ปลายเหลี่ยม พร้อมกับสวดมนต์ และช่องปาก ที่จะรองรับผู้ชุมนุม 180 คน และดุมพลับพลา นักร้อง 20 แห่งใน 2501 ด้านหลังของวิหารคือห้องโถงที่เรียกว่าห้องโถงวโรกาสให้กว้างขึ้น ในปัจจุบันการขยายงานเพิ่มเป็นอาคารใหม่ที่ซับซ้อน
รูปปั้นนักบุญ St Fracis
รูปปั้นนักบุญ St Fracis ถือเป็นนักบุญที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก จากตำนานที่มีการเล่ากันว่า เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว นักบุญ Farncis ได้สิ้นชีวิตไปเกือบ 1 ปี เขาได้ฝังศพไว้ในมะละกา ต่อมาได้ขุดศพนักบุญ Farncis ขึ้นมาเพื่อที่จะนำท่านไปฝังที่เมืองกัวร์ ประเทศอินเดีย แต่เมื่อขุดศพท่านขึ้นมาปรากฏว่า ศพท่านเหมือนคนนอนหลับ จึงได้ทำการขอตำแหน่งนักบุญให้แก่ท่านจากพระราชวังวาติกัน แต่ทางพระราชวังได้ตอบกลับมาอีก 16 ปี ขอให้ตัดแขนนักบุญ Farncis ไปพิสูจน์ เมื่อตัดแขนปรากฏว่ามีเลือดไหลเหมือน ยังมีชีวิตอยู่จึงได้รับประกาศให้เป็นนักบุญ St. Francis Xavier และอีก60 ปีผ่านไป ทางมะละกาต้องการสร้างอนุสาวรีย์ของท่านไว้บนยอดเขา St. Paul Hill เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ปรากฏว่าในวันหนึ่งเกิดฟ้าผ่าลงมาถูกกิ่งไม้ใหญ่หักลงมาถูกแขนหัก เหมือนแขนข้างที่ตัดส่งให้ พระราชวังวาติกัน St. Francis Xavier จึงมีผู้นับถือทั่วโลกและมีโรงเรียนในชื่อท่านทั่วโลก
พระราชวังอิสตานาเนการา(istana negara palace)