อุทยาน แห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยในท้องที่อำเภอแกลง และอำเภอเมือง จังหวดระยอง ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในท้องทะเล ตลอดจนเกาะต่างๆ ประกอบด้วยเกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะมะขาม และเกาะปลายตีน เขาแหลมหญ้าและชายทะเลด้านทิศตะวันตกของเขาแหลมหญ้า สถานที่ที่เด่นที่สุดเป็นที่รู้จักกันดี คือ เกาะเสม็ดหรือเกาะแก้วพิศดาร ซึ่งกล่าวไว้ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ความงดงามตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้เป็นที่ยอมรับของนักท่อง เที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศว่า มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อน ในปี พ.ศ. 2518 ได้มีนายทุนกลุ่มหนึ่ง รวมหุ้นกันเพื่อดำเนินการขอเช่าเกาะเสม็ดจากจังหวัดระยอง เพื่อจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจะสร้างกระเช้าลอยฟ้าข้ามจากฝั่งเขาแหลมหญ้าไปยังเกาะเสม็ดเพื่อบริการ นักท่องเที่ยว แต่โครงการต้องระงับไปเพราะได้ถูกกลุ่มนิสิต นักศึกษาเป็นจำนวนมากจากหลายสถาบันเดินขบวนคัดค้าน และในปีเดียวกันนั้นสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือที่ 538/2518 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2518 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้ความเห็นว่า ควรมีการอนุรักษ์เกาะเสม็ด (เกาะแก้วพิสดารในเรื่องพระอภัยมณีอันเป็นวรรณกรรมเอกของสุนทรภู่) ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สงวนไว้เป็นสมบัติของประชาชนโดยทั่วไป โดยจัดตั้งเป็นวนอุทยานทางทะเล และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ประสานกับจังหวัดระยอง พิจารณาในการจัดตั้งเกาะเสม็ดเป็นอุทยานแห่งชาติ ขณะนั้นเกาะเสม็ดอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ กรมป่าไม้จึงได้มีหนังสือ ที่ กษ 0808/1713 ลงวันที่ 31 มกราคม 2522 ขอพื้นที่ดังกล่าวไปอยู่ในความควบคุมดูแลของกรมป่าไม้ ซึ่งกองทัพเรือได้มีหนังสือ ที่ กห 0352/6405 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2522 ตอบไม่ขัดข้องที่จะให้กรมป่าไม้เข้าควบคุมดูแลเกาะเสม็ด และต่อมาคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 5/2522 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2522 แจ้งให้กรมป่าไม้ดำเนินการอนุรักษ์เกาะเสม็ดเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่ง ที่ 82/2523 ลงวันที่ 14 มกราคม 2523 ให้นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี ออกไปทำการสำรวจพื้นที่ป่าไม้บริเวณเขาแหลมหญ้าและบริเวณข้างเคียง ท้องที่บ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ และให้ทำการจัดตั้งเป็นวนอุทยานเขาแหลมหญ้า ซึ่งจากการสำรวจของสมบูรณ์ วงศ์ภักดี พบว่า เขาแหลมหญ้าประกอบด้วยเขาดินลูกรังเตี้ยๆ ชายทะเลทางทิศตะวันตก มีหาดทรายกว้าง และทอดตัวโค้งยาวออกไปสวยงามมาก น้ำทะเลใสจนสามารถมองเห็นแนวปะการังที่สวยงามได้อย่างชัดเจน เกาะเสม็ดประกอบด้วยหาดทรายขาวรอบเกาะ เป็นหาดทรายที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีหาดทรายและธรรมชาติสวยงาม เหมาะสมต่อการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำผลการสำรวจเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2523 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2523 เห็นสมควรให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาแหลมเทียน เขาเปล็ด เขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง และตำบลแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ 81,875 ไร่ หรือ 131 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ หน้า 6 เล่ม 98 ตอนที่ 162 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 34 ของประเทศไทย
ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยาน แห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จัดเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งผสมหมู่เกาะในทะเล ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลของอ่าวไทยฝั่งตะวันออก พื้นน้ำทะเลประมาณ 123 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 94 ของพื้นที่ทั้งหมด สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาหินแกรนิต บริเวณเขาเปล็ด และเขาแหลมหญ้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 108 เมตร หาดทรายและห้วงน้ำทะเลตื้นเป็นแนวยาวบริเวณที่เรียกว่า หาดแม่รำพึง มีความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร ภูมิประเทศของเกาะเสม็ดประกอบด้วยภูเขาและเนินเขาเตี้ยๆ เช่น เขากระโจม เขาพลอยแหวน และเขาพระเจดีย์ ด้านทิศตะวันตกของเกาะมีความลาดชันมาก ส่วนด้านทิศตะวันออกมีความลาดชันน้อย และมีหาดทรายยาวต่อเนื่องตลอดแนวด้านทิศตะวันออก ด้านทิศเหนือมีความกว้างมากที่สุดประมาณ 2,500 เมตร มีความยาวถึงท้ายเกาะประมาณ 6,500 เมตร ทางตอนกลางของเกาะจะเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก มีที่ราบซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านเรือนของราษฎรอยู่ตามริมฝั่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก บริเวณปลายแหลมด้านทิศใต้มีเกาะเล็กๆ อยู่ใกล้อีก 3 เกาะ คือ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม และหินขาว นอกจากนี้ยังมีเกาะในทะเลใกล้ชายฝั่งรวม 8 เกาะ ได้แก่ เกาะปลายตีน เกาะเกล็ดฉลาม เกาะมะขาม เกาะกรวย เกาะกุฎี เกาะท้ายค้างคาว เกาะทะลุ และเกาะยุ้งเกลือ
ลักษณะภูมิอากาศ
บริเวณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีฝนตกโดยเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 1,500 มิลลิเมตร ช่วงมรสุมอยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน จะมีคลื่นลมแรงมาก ออกทะเลไปเที่ยวเกาะต่างๆ ไม่ได้เป็นบางครั้ง เฉลี่ยแล้วในรอบ 1 เดือน จะมีคลื่นลมแรงประมาณ 15 วัน และระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ในบางวันอาจจะมีลมมรสุมและฝนตกหนักออกทะเลไม่ได้เช่นกัน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 29 องศาเซลเซียส อากาศร้อนที่สุดอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน และระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นที่สุด
พรรณไม้และสัตว์ป่า
ลักษณะ การกระจายของพันธุ์พืชบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จะแปรผันไปตามลักษณะภูมิประเทศ ซึ่งสามารถจำแนกสังคมพืชออกได้เป็น ป่าดงดิบแล้ง เป็นสังคมพืชที่พบเป็นส่วนใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติทั้ง บนฝั่งและบนเกาะ บนฝั่งจะพบมากบริเวณเขาแหลมหญ้า เขาเปล็ด และเขาเทียน บนเกาะพบกระจายอยู่ทั่วไป สภาพป่าค่อนข้างโปร่ง ไม่พบไม้ขนาดใหญ่เนื่องจากได้มีการเข้าทำลายและตัดฟันไม้ออกเป็นจำนวนมาก พันธุ์พืชที่พบได้แก่ มะนาวป่า นกนอน พลองใบใหญ่ เขล็ง โมกมัน ประดู่เลือด มะเดื่อ มะกล่ำต้น ตะแบกเปลือกบาง ลาย กาสามปีก แสนคำ มะรุม มะเม่า มะหาด หว้า ก่อนก เข็มป่า เต่าร้าง ไผ่ และเอื้องม้าลาย เป็นต้น ป่าชายหาด เป็นป่าที่ปกคลุมอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลที่ดินเป็นทรายจัด น้ำทะเลท่วมไม่ถึงหรือบริเวณที่เป็นหินชิดฝั่งทะเล ดินค่อนข้างเค็ม ได้รับไอเค็มจากทะเล ต้นไม้ที่พบโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นพุ่ม ลำต้นคดงอและแตกกิ่งก้านมาก กิ่งสั้นใบหนาแข็ง พันธุ์พืชที่พบได้แก่ โพทะเล ข่อย ตะบัน หูกวาง สนทะเล เตยทะเล และผักบุ้งทะเล เป็นต้น จากการสำรวจความหลากหลายของสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะ เสม็ด พบว่า มีสัตว์ป่าที่มีกระดูกสันหลังไม่น้อยกว่า 144 ชนิด ได้แก่ กระจงหนู อีเห็นเครือ ลิงแสม กระรอกหลากสีสีแดง กระจ้อน กระแตเหนือ ค้างคาวแม่ไก่เกาะ นกยางทะเล เหยี่ยวนกเขาชิครานกแอ่นตาล นกนางแอ่นบ้าน นกแซงแซวหางปลา นกแซงแซวปากกา นกเอี้ยงสาริกา งูสิงหางลาย งูเขียวดอกหมาก ตะกวด เหี้ย แย้ กิ้งก่าบินหัวแดง จิ้งจกหางหนาม จิ้งเหลนหลากหลาย ตุ๊กแกบ้าน คางคกบ้าน กบนา ปาดบ้าน และ อึ่งอ่างบ้าน เป็นต้น ในส่วนของทรัพยากรใต้ทะเลจะพบแนวปะการังในบริเวณรอบเกาะเสม็ด บริเวณหมู่เกาะกุฎี และบริเวณเกาะทะลุ แนวปะการังที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอยู่ในบริเวณหินคันนา หินอ่าวไผ่ อ่าวเจ็ก อ่าวกิ่วหน้าใน เกาะจันทร์ เกาะปลายตีน เกาะกุฎี และเกาะทะลุ ความหลากหลายของสัตว์ทะเลที่พบได้แก่ ปะการังโต๊ะ ปะการังพุ่มไม้ ปะการังโขด ปะการังสมอง ปะการังเห็ด ปะการังอ่อน ปะการังถ้วยส้ม ฟองน้ำครก เม่นหนามดำ ปลิงทะเล เต่าตนุ ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อลายแปดเส้น ปลาโนรีครีบยาว ปลาสินสมุทรลายน้ำเงิน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาอมไข่ ปลากล้วยฟ้าหลังเหลือง ปลากะรัง ปลาสีกุน ปลาโมง ปลาบู่ ปลากะตัก ปลาเห็ดโคน หอยมือเสือ หอยนมสาว หอยเบี้ยเล็ก หอยเต้าปูน หอยตลับ หอยหนาม ปูลม และปูใบ้ ฯลฯ
สามารถ เดินทางจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดระยองได้ โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 ซึ่งแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 136 ซึ่งจะทำให้ระยะทางสั้นลง ประมาณ 35 กิโลเมตร เมื่อถึงตัวเมืองระยองแล้วเดินทางต่อไปอีก 12 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาตรงหลักกิโลเมตรที่ 231 เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ไปยังบ้านเพ เพื่อลงเรือไปเกาะเสม็ด สำหรับการเดินทางบนเกาะเสม็ดมีถนนเพียงสายเดียวซึ่งแต่เดิมใช้เป็นทางเดิน ถนนสายนี้ยาว 6 กิโลเมตร เริ่มจากตอนเหนือของอ่าวทับทิมตัดผ่านสระน้ำอโนดาต ลงสู่หาดทรายแก้ว ระยะทางจากบ้านเกาะเสม็ดถึงหาดทรายแก้ว ประมาณ 800 เมตร
การเดินทางไปยังเกาะกุฎี ต้องเช่าเหมาเรือเท่านั้น เนื่องจากไม่มีเรือโดยสารเหมือนเกาะเสม็ด อัตราค่าเช่าเหมาเรือ ประมาณ 3,500 - 4,000 บาท สามารถติดต่อเช่าได้ที่ท่าเรือบ้านเพ และบนเกาะกุฎีใช้ไฟปั่น ซึ่งจะปั่นระหว่างเวลา 17.00-24.00 น.
การ เดินทางโดยเรือไปยังเกาะเสม็ดจะต้องลงเรือที่ท่าเรือบ้านเพ (บนฝั่ง) ซึ่งมีท่าเรือโดยสาร 3 แห่ง มีเรือโดยสารหลายขนาดบรรจุคนได้ตั้งแต่ 10-100 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น. สำหรับท่าเรือที่เกาะเสม็ดทั้ง 3 แห่ง (บนเกาะ) คือ ท่าเรือด้านหัวเกาะ ด้านอ่าววงเดือน (อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ) และด้านอ่าวพร้าว (อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ) นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่อยู่บริเวณอ่าวที่มีขนาดเล็กนิยมใช้ เรือเร็วส่วนตัวในการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากบ้านเพ ไปยังรีสอร์ทของตนเอง
เดิน ทางโดยรถยนต์โดยสารประจำทางของบริษัทขนส่ง จำกัด จะมีทั้งรถยนต์โดยสารธรรมดาและปรับอากาศ ระหว่างกรุงเทพฯ-บ้านเพ ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) ถนนสุขุมวิท ประมาณชั่วโมงละคัน ตั้งแต่เวลา 05.00-20.30 น.
ท่านสามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ต www.dnp.go.th ของกรมเท่านั้น (กรมไม่มีตัวแทนการจองที่พักกับภาคเอกชนรายใดทั้งสิ้น) จองล่วงหน้าได้ 60 วัน จองต่อเนื่องได้ครั้งละ 3 วัน กำหนดชำระเงินภายใน 2 วันทำการ ณ เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการจองให้โดยโทรมาที่ 0 2562 0760 หรือติดต่อจุดจองที่พักในส่วนภูมิภาค กรณีที่ชำระเงินกับทางธนาคาร กรมจะทราบข้อมูลการชำระเงินได้โดยออนไลน์กับทางธนาคาร ก็จะทราบว่ารายการจองใดได้ชำระเงินแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องโทรสารเอกสารแสดงการชำระเงินมาที่กรมอีก โปรดนำหลักฐานการจองและเอกสารการชำระเงิน เฉพาะบมจ.ธนาคารกรุงไทย เท่านั้น ไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก และในกรณีที่ชำระเงินกับหน่วยงานในสังกัดกรม ให้นำใบเสร็จรับเงินไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก ดูคำแนะนำเพิ่มเติ่ม คลิกที่นี่
อุทยาน แห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยในท้องที่อำเภอแกลง และอำเภอเมือง จังหวดระยอง ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในท้องทะเล ตลอดจนเกาะต่างๆ ประกอบด้วย เกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะกรวย เกาะขาม และเกาะปลายตีน เขาแหลมหญ้าและชายทะเลด้านทิศตะวันตกของเขาแหลมหญ้า มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
เกาะกรวย เกาะขาม และเกาะปลายตีน เกาะ กรวย เกาะมะขาม และเกาะปลายตีน เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะกุฎีประมาณ 600 เมตร เกาะกรวยและเกาะมะขามจะอยู่ติดกัน มีแนวหาดทรายและโขดหินเชื่อมต่อเห็นชัดเจนโดยเฉพาะช่วงน้ำลงเต็มที่ ส่วนเกาะปลายตีนห่างจากเกาะกรวย และเกาะมะขามประมาณ 400 เมตร เกาะมะขามและเกาะปลายตีนมีสันทรายเชื่อมรอบเกาะ ใต้ทะเลโดยรอบ มีปะการังที่สวยงาม
เกาะกุฎี เกาะ กุฎี เป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรมของสุนทรภู่ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 8.5 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 0.16 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 100 ไร่ และมีเกาะขนาดเล็กเป็นบริวาร 2 เกาะ คือ เกาะท้ายค้างคาว และเกาะถ้ำฤาษี เกาะกุฎีเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ญส.3 มีธรรมชาติที่เงียบสงบ หาดทรายสวยงาม ผานิลมังกรอยู่ทางด้านทิศใต้บนหน้าผาที่สูงชัน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลและสวยงามอย่างยิ่ง สามารถเดินป่าศึกษาธรรมชาติได้ใน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเกาะกุฎี ระยะทาง 1.1 กิโลเมตร รอบๆ เกาะมีแนวปะการังตลอดชายฝั่งเหมาะแก่การดำน้ำดูปะการัง ดังภาพที่แสดง คือ ปะการังรอบๆ เกาะกุฎี ช่วงน้ำลง
เกาะจันทร์ เกาะจันทร์ เป็นเกาะที่เล็กที่สุดของอุทยานแห่งชาติ อยู่ทางทิศใต้สุดของเกาะเสม็ด เป็นจุดชมทิวทัศน์ เหมาะแก่การดำน้ำลึก
เกาะทะลุ เกาะ ทะลุ อยู่ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะเด่นของเกาะทะลุอยู่ตรงที่มีความแปลกของธรรมชาติซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เกาะ โดยบริเวณด้านทิศเหนือจะเป็นแหลมที่มีผาหินคล้ายกับสะพานธรรมชาติ ช่วงกลางจะเป็นช่องกว้างน้ำทะเลลอดทะลุ ด้านทิศตะวันออกและทิศใต้มีหาดทรายขาวบริเวณกว้างอยู่ 2 จุด เหมาะสำหรับการตั้งแค็มป์พักแรม ใต้ท้องทะเลรอบเกาะทะลุ ตะวันออก โดยเฉพาะหน้าหาดทราย ด้านทิศตะวันออกจะมีปะการังขนาดใหญ่เป็นแหล่งดำน้ำลึกและน้ำตื้นอีกแห่ง หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีนกนางนวลและค้างคาวแม่ไก่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เกาะเสม็ด เป็น เกาะที่ใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติ มีพื้นที่ประมาณ 9.6 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากฝั่งบ้านเพ 6.5 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ญส.1 (อ่าวปะการัง) และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ญส.2 (แหลมลูกโยน) ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นหน้าผาสูงชัน และลาดชันลงสู่ฝั่งตะวันออกที่มีชายหาดเว้าแหว่งทำให้เกิดหาดที่สวยงามหลาย แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออกของเกาะ อาจเป็นเพราะที่เกาะเสม็ดนี้มีหาดทรายขาวปานแก้วอยู่ทั่วไป จึงได้รับการขนานนามในกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่ว่า เกาะแก้วพิสดาร ดังที่ปรากฏในวรรณคดีไทยเรื่อง พระอภัยมณี และเหตุที่ชื่อว่าเกาะเสม็ดก็เพราะมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ชาวบ้านน้ำมาใช้ทำไต้ โดยใช้เปลือกเสม็ดชุบในน้ำมันยางนำมาห่อด้วยกาบหมาก มัดเป็นลำ ในอดีตใช้เป็นคบไฟใช้ส่องทางในเวลากลางคืน และใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับก่อไฟ อุทยานแห่งชาติได้จัดทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาบ่อทอง อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (เกาะเสม็ด) ไปทางอ่าวไผ่ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ไว้ให้บริการ สถานที่ท่องเที่ยวเกาะเสม็ดมีอยู่มาก ประกอบด้วย อ่าวและหาดทรายสวยงามมากมาย
เกาะหินขาว เป็น เกาะขนาดเล็ก พบแนวหินโสโครกอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเสม็ด ก้อนหินที่อยู่บนเกาะทั้งหมดเป็นสีขาวนวล เป็นที่วางไข่สำหรับนกนางนวล สามารถประกอบกิจกรรมได้ ทั้งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
เขาแหลมหญ้าและเขาเปล็ด เป็น ภูเขาเตี้ยๆ ติดชายทะเลและที่เชิงเขาแหลมหญ้าเป็นที่ตั้งของ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ตามประวัติเขาแหลมหญ้าและเขาเปล็ดเป็นป่าทึบ เป็นที่ซ่องสุมของพวกโจรสลัดในอดีต แต่ปัจจุบันยังเหลือสภาพป่าบางส่วน และมีสัตว์ป่าพวกลิง ลิ่น และกระจงอาศัยอยู่อีกไม่น้อย บริเวณเชิงเขาด้านล่างนั้นสามารถมองเห็นหมู่เกาะเสม็ดได้ชัดเจนและสวยงามที่ สุด ด้านทิศตะวันตกของเขาแหลมหญ้าเป็นหาดแม่รำพึง แหลมเกตุ ซึ่งบริเวณบางส่วนจะเป็นผาหินและน้ำลึก จุดเด่นที่น่าสนใจมีหินขาว หินดำ และอ่าวเครื่องบินตก ส่วนด้านทิศใต้จะมีแหลมประดับ ซึ่งบางครั้งเรียกแหลมยา หรือแหลมหญ้า ซึ่งมีสภาพเป็นดงหญ้าตั้งแต่ชายฝั่งขึ้นไปจนเกือบถึงยอดเขาสวยงามมาก บริเวณนี้มีน้ำลึก จากแหลมประดับไปทางทิศตะวันออกเป็นอ่าวสลัดและแหลมตาล ซึ่งมีสภาพเหมือนย่อส่วนจากแหลมพรหมเทพที่เกาะภูเก็ต บริเวณอ่าวสลัดมีดงปะการังใกล้ชายฝั่งที่ยังบริสุทธิ์อยู่ นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาธรรมชาติใน ทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาแหลมหญ้า ซึ่งอุทยานแห่งชาติได้จัดไว้บริการ ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปทางทิศใต้
หาดแม่รำพึง เป็น หาดทรายชายทะเลฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ขาวสะอาด และยาวที่สุดของฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดระยอง เป็นหาดทรายที่มีความลาดชันน้อย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตั้งแต่เชิงเขาแหลมหญ้าทอดตัวออกไปยาวถึง 12 กิโลเมตร เป็นสถานที่เหมาะแก่การเล่นน้ำบริเวณชายหาดร่มรื่นด้วยต้นไม้ เหมาะแก่การพักผ่อน อยู่ห่างจากบ้านเพประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ประมาณ 9 กิโลเมตร และห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 500 เมตร สุดชายหาดเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านก้นอ่าว การลงเล่นน้ำบริเวณนี้ ต้องหลีกเลี่ยงบริเวณพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ติดป้ายเตือน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง
อ่าวกลาง อยู่ ตอนเหนือของเกาะเสม็ด มองเห็นจากฝั่งบ้านเพ มีหาดทรายขาวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของชุมชนหมู่เกาะเสม็ด และเป็นที่จอดเรือท่องเที่ยว หาดทรายแก้ว อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ห่างจากหมู่บ้านเกาะเสม็ดประมาณ 300 เมตร เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดของเกาะ เพราะมีหาดทรายละเอียดขาวสะอาด ยาวประมาณ 780 เมตร อ่าวไผ่ อยู่ติดหาดทรายแก้ว เป็นอ่าวเล็กๆ ที่มีหาดทรายสวยงาม อ่าวพุทราและอ่าวทับทิม เป็นชายหาดอยู่ถัดจากอ่าวไผ่ ตัวหาดยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ส่วนด้านหน้าของอ่าวทับทิมเป็นแนวเขากระโจมซึ่งติดต่อกับเขาพลอยแหวนที่ช่วย กำบังลมทางด้านแหลมทับทิม มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายอยู่ เหมาะสำหรับนั่งชมธรรมชาติท้องทะเล อ่าวนวล เป็นอ่าวขนาดเล็กตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างอ่าวทับทิมกับอ่าวช่อ แต่มีความเงียบสงบ ประกอบด้วยหาดทรายที่ขาวเนียนและน้ำทะเลที่ใสสะอาด อ่าวช่อ เป็นอ่าวขนาดกลาง อยู่ห่างจากอ่าวทับทิมประมาณ 500 เมตร มีหาดทรายที่ขาวเนียน ทิวไม้ที่ร่มรื่น อ่าวคอกหรืออ่าววงเดือน อยู่อยู่ห่างจากอ่าวช่อประมาณ 100 เมตร เป็นอ่าวโค้งคล้ายพระจันทร์ครึ่งดวง หาดทรายขาวสะอาดยาวประมาณ 500 เมตร อยู่ห่างจากหาดทรายแก้วไปตามชายทะเลประมาณ 1.5 กิโลเมตร เดินผ่านอ่าวไผ่และอ่าวช่อไม่เกิน 20 นาที เป็นอ่าวที่มีความสงบและธรรมชาติเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ บริเวณด้านหลังจะมีหน้าผาที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากจุดหนึ่ง
อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวเตย อ่าวเทียน อ่าวไผ่ และอ่าวพร้าว อ่าว หวาย อ่าวกิ่ว อ่าวเตย อ่าวเทียน อ่าวไผ่ และอ่าวพร้าว เป็นจุดที่เหมาะกับการดำน้ำดูปะการังมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะมีแนวปะการังอยู่ใกล้กับฝั่ง ทุกอ่าวจะมีหาดทรายสวย โดยเฉพาะที่อ่าวกิ่ว
ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักและค่ายพักแรม ให้บริการดังนี้
ลานกางเต็นท์ อุทยาน แห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณเขาแหลมหญ้า (บนฝั่ง) บรรยากาศชายทะเล อยู่ใกล้เคียงกับบ้านพักนักท่องเที่ยว การ สำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ที่ อุทยานแห่งชาติโดยตรง
ที่จอดรถ มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง อยู่บริเวณหาดทรายแก้ว บนเกาะเสม็ด มีอุปกรณ์โสต ทัศนูปกรณ์และนิทรรศการ