อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น |
|
|
ใน
ปี พ.ศ. 2541
จังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือถึงกรมป่าไม้แจ้งว่า
พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง ท้องที่ตำบลขุนซ่อง
อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
มีความเหมาะสมในการที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
เนื่องจากเป็นป่าดงดิบในพื้นที่ราบที่ยังคงสภาพสมบูรณ์
อยู่ระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขา
สอยดาว เป็นพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการบุรกรุกทำลาย
และเป็นป่าดงดิบในที่ราบที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด
เหมาะแก่การศึกษาและท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป
สมควรกำหนดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่
ตลอดไป
และเป็นการสนองพระราชดำริในการดูแลรักษาป่าและสัตว์ป่าตามโครงการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัด
(ภาคตะวันออก)
ต่อมากรมป่าไม้มีคำสั่งที่ 1151/2543 ลงวันที่ 9 มิถุนายน
พ.ศ. 2543
ให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง
ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
ว่ามีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติหรือไม่
ซึ่ง นายชัยณรงค์ จันทรศาลทูล นักวิชาการป่าไม้ 7 ว
นายอุดมศักดิ์ สุพรรณพงศ์ เจ้าหน้าที่บริหารป่าไม้ 6
และนายศุภโชค เต็มสอาด เจ้าพนักงานป่าไม้ 5
และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดจันทบุรี ได้รายงานว่า
ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่องตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง
อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 75,000
ไร่ หรือ 120 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเด่น คือ
ป่าดิบชื้นในพื้นที่ราบหรือป่าลุ่มต่ำ มีน้ำตก
มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีความหลากหลายทางชีวภาพ
เหมาะแก่การท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ
หรือศึกษาวิจัยทางวิชาการ และมีขนาดพื้นที่พอเหมาะ
มีศักยภาพเพียงพอต่อการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ
กรมป่าไม้จึงแต่งตั้งให้ นายวินัย โสมณวัตร์
นักวิชาการป่าไม้ 7 ว
ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง
เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อว่า
อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น |
|
ลักษณะภูมิประเทศ |
|
|
สภาพ ภูมิประเทศของป่าขุนซ่องนี้
ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบลูกคลื่นลอนลาด
ซึ่งจัดเป็นที่ราบต่ำที่กว้างใหญ่
มีพื้นที่เป็นภูเขาสูงติดต่อกันเป็นเทือกยาวลงมาจากเหนือจดใต้
ทางด้านตะวันออกเป็นแนวขนานขยายถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาสิบห้าชั้น มีความสูง 802
เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ในตอนกลางของพื้นที่จะมีภูเขาลูกต่ำๆ คือ เขาสะท้อน
ทางตอนใต้ของพื้นที่มีเขาสะบ้า
ด้านทิศเหนือติดต่อเข้าไปเป็นผืนป่าเดียวกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขา
อ่างฤาไน ตลอดผืนป่าแห่งนี้จะมีลำคลองหลายสาย
คลองที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ คือ คลองโตนด
จัดเป็นคลองที่กว้างและลึก
มีความยาวเกือบตลอดพื้นที่จากด้านทิศเหนือไหลมาออกทางด้านทิศตะวันตก
มีน้ำไหลปริมาณมาก ทางด้านทิศเหนือจะมีคลองทราย
นอกจากนั้นยังมีลำคลองอื่นๆ ที่เป็นลำน้ำที่มาจากคลองโตนด
ได้แก่ คลองดินสอ คลองไทร คลองคต คลองอีเกก คลองน้ำเป็น
คลองสะบ้า คลองยาง เป็นต้น |
|
ลักษณะภูมิอากาศ
|
|
|
ลักษณะ
ภูมิอากาศโดยทั่วไปได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมประเทศไทย
จึงทำให้มีลักษณะของฤดูกาลที่เด่นชัดทั้งสามฤดู คือ
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
เป็นฤดูกาลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
มีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง
เดือนที่มีอากาศหนาวเย็นมากที่สุดคือเดือนมกราคม
ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
และเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดในรอบปี
และฤดูฝน
เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกลางเดือนตุลาคม
เป็นระยะที่มีมรสุดตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ประเทศไทย
อากาศจะชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตลอดฤดูฝน
มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 3,059 มิลลิเมตร
เดือนที่มีฝนตกชุกมากที่สุดคือ เดือนกันยายน
อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส
|
|
พรรณไม้และสัตว์ป่า |
|
|
สภาพป่าของป่าสงวนแห่งชาติขุนซ่อง
เป็นป่าที่เคยผ่านการสัมปทานทำไม้มาแล้ว
ซึ่งจากการสำรวจพบชนิดป่าทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่
1) ป่าดิบชื้น พบบริเวณที่ลุ่มหุบเขาและเชิงเขา
เป็นป่าที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและนิเวศวิทยา
เนื่องจากมีพรรณไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลายชนิด
พืชพื้นล่างได้แก่ ระกำ หวายสกุลต่างๆ และเร่ว
2) ป่าดิบแล้ง
ในพื้นที่จะมีป่าดิบแล้งปริมาณน้อยกว่าป่าดิบชื้น
พบบริเวณเชิงเขา โครงสร้างของสังคมพืช แบ่งได้เป็น 4
ชั้นคือ ไม้ชั้นบน ไม้ชั้นกลาง ไม้ชั้นล่าง และไม้พื้นล่าง
3) ป่าเต็งรัง เป็นสังคมพืชที่พบน้อยมาก
พันธุ์ไม้เด่น ได้แก่ กราด กระโดน ส้าน เต็ง พะยอม รัง
และแสลงใจ เป็นต้น พืชพื้นล่าง ได้แก่ หญ้าคา กระเจียว
หญ้าคมบาง และหญ้าขจรจบ
สัตว์ป่าที่สำคัญในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ได้แก่ ช้างป่า กวางป่า เก้ง วัวแดง กระทิง เสือ หมี
และสัตว์จำพวกนก ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกกระสาคอขาว
ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าหลังขาว เป็นต้น |
|
|
|