อุทยานแห่งชาติคลองพนม |
|
|
อุทยาน แห่งชาติคลองพนม อยู่ในท้องที่ตำบลคลองศก ตำบลพนม
และตำบลพลูเถื่อน และตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนบางแห่งมีหน้าผาสูงชัน
และสวยงามมาก
เรียงรายสลับซับซ้อนเชื่อมต่อกันเป็นแนวสันเขา
มีฝนตกชุกตลอดปี เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำตาปี
ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญสายเดียวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์
และมีจุดเด่นที่น่าสนใจเช่น ถ้ำแก้ว ถ้ำน้ำลอดเขาวงก์
น้ำตกโตนไทร น้ำตกเขาวงก์ ไผ่เฉียงรุน บัวผุด
การล่องแก่งฯลฯ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพันธุ์ไม้มีค่าและหายากขึ้นอยู่ เช่น
ตะเคียน ตาเสือ จิก เขา กระท้อน ขนุนป่า เสียดช่อ อินทนิล
นากบุด หงอนไก่ จำปาป่า เป็นต้น มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ
256,500 ไร่ หรือ 410.4 ตารางกิโลเมตร
ความเป็นมา : ตามหนังสือของอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่
กษ. 0713(ขส)/68 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2532
ได้ส่งรายงานการสำรวจเบื้องต้นป่าคลองสกและป่าคลองพนม
อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย นายเรืองศักดิ์ ทีฆะสุข
นักวิชาการป่าไม้ 4 ปฏิบัติงานประจำอุทยานแห่งชาติเขาสก
ซึ่งการสำรวจเบื้องต้นพบว่า
เห็นสมควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติโดยเร่งด่วน คือ
ป่าคลองสกและป่าคลองพนม อยู่ในท้องที่อำเภอพนม
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ประมาณ 290,000 ไร่ หรือ
460 ตารางกิโลเมตร
สภาพป่าสมบูรณ์เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำตาปี
ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญสายเดียวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และตามคำสั่งของกรมป่าไม้ที่ 1627/2530 ลงวันที่ 19 ตุลาคม
2532 ให้ นายธวัธชัย นิลเอก เจ้าพนักงานป่าไม้ 5
ไปดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม
และจัดตั้งพื้นที่ป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าคลองสกและป่าคลองพนม เพื่อประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
ตามนัยมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
โดยให้ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ
และได้กำหนดชื่ออุทยานแห่งชาติ
ประจำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองสกและป่าคลองพนมว่า
อุทยานแห่งชาติคลองสก-คลองพนม เป็นการชั่วคราว
และตามหนังสือกองอุทยานแห่งชาติ ที่ กษ. 0713/1115
ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2533 อนุมัติให้ใช้ชื่อ
อุทยานแห่งชาติคลองพนม และใช้อักษรย่อว่า (คพ)
ตามที่คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ประชุมครั้งที่ 4/2537
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2537 ได้มีมติเห็นชอบ
ให้กรมป่าไม้ดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติคลองพนม ตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.
อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
ต่อมาหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือ ที่
0204/15466 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2543
ประกาศกำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองสก และป่าพนม ในท้องที่
ตำบลคลองศก ตำบลพนม และตำบลพลูเถื่อน อำเภอพนม
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งประกาศไว้ในในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนที่ 105 ก
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2543 |
|
ลักษณะภูมิประเทศ |
|
|
สภาพ ภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ประมาณ 80
เปอร์เซ็นต์ของเนื้อที่
โดยเฉพาะตอนเหนือของพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน
บางแห่งมีหน้าผาสูงชัน และสวยงาม
เรียงรายสลับซับซ้อนเชื่อมติดต่อเป็นแนวสันเขา
ยาวจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก
จุดสูงสุดจากพื้นอยู่บริเวณตอนกลางของพื้นที่
มีความสูงประมาณ 870 เมตรจากระดับน้ำทะเล
พื้นที่ราบมีอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่
ส่วนใหญ่เป็นที่ราบระหว่างหุบเขา
มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร ปรากฏอยู่ทั่วไป
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของคลองพนมและคลองศก
ซึ่งจะไหลไปรวมกับคลองแสงเป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวงที่เป็นสาขาหนึ่งของแม่
น้ำตาปี |
|
ลักษณะภูมิอากาศ
|
|
|
ลักษณะ ภูมิอากาศของป่าแห่งนี้
มีลักษณะคล้ายคลึงกับแห่งอื่น ในภาคใต้ของประเทศไทย คือ
มีฝนตกชุกตลอดปี ประกอบกับได้รับอิทธิพลของทะเล
ซึ่งสามารถรับลมมรสุมได้ทั้งลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
และอิทธิพลของภูเขาสูงที่เป็นสิ่งกีดขวางลมมรสุม
มีป่าไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่น
จึงทำให้ฝนตกมากกว่าในท้องที่ทั่วๆ ไป
ซึ่งสามารถจำแนกได้ชัดเจนเพียง 2 ฤดู คือ
ฤดูฝนเริ่มจากเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม
ฤดูร้อนเริ่มจากเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน
โดยมีฝนตกชุกมากที่สุด ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม
และมีอากาศร้อนมากที่สุดในต้นเดือนเมษายน
|
|
พรรณไม้และสัตว์ป่า |
|
|
สภาพ ป่าทั่วทั้งพื้นที่มีสภาพเป็นป่าดงดิบ อุดมสมบูรณ์
มีพันธุ์ไม้มีค่านานาชนิดขึ้นคละปะปนกันอยู่อย่างหนาแน่น
ไม้ขนาดใหญ่ ได้แก่ โดแหลม ตะเคียน ยาง ตาเสือ หงอนไก่
กระบาก กระท้อน จิกเขา ขนุนป่า มะม่วงป่า เสียดค่าง
อินทนิล นากบุด ลำแพนเขา มังคะ จำปาป่า ยมหอม ฯลฯ
พืชพื้นล่าง ได้แก่ ไผ่ ระกำ หวาย เต่าร้าง กูด เฟิน ฯลฯ
นอกจากนี้ยังพบไม้เถานานาชนิดขึ้นอยู่ทั่วๆไป
มีความชุ่มชื้นเขียวชอุ่มตลอดปี จากการสำรวจโดย ดร.เต็ม
สมิตินันทน์ พบว่า มีพันธุ์ไม้ที่หายากบางชนิด ได้แก่
ตะเคียนชันตาแมว และไม้ยวนแหล
เป็นเขตกระจายพันธุ์ของพันธุ์ไม้ทั้งสองชนิด
ไผ่เฉียงรุน
เป็นไม้ไผ่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสำรวจพบในประเทศไทย
มีเส้นรอบวงประมาณ 60-80 เซนติเมตร ขนาดลำต้นยาวประมาณ
30-40 เมตร ความหนาของเนื้อไม้ประมาณ 1 นิ้วฟุต
ไผ่เฉียงรุนจะไม่ขึ้นปะปนกับไม้ไผ่ชนิดอื่น
จะอยู่เป็นหมู่ๆ กอละ 20-30 ลำ สำรวจพบอยู่บนพื้นที่ประมาณ
30 ไร่ บน เขาพรุชิง
เนื่องจากสภาพป่าแห่งนี้ มีสภาพที่อุดมสมบูรณ์
จึงมีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด สัตว์ป่าที่สำคัญ ได้แก่
ช้างป่า กวางป่า สมเสร็จ เสือ หมี เลียงผา หมูป่า ชะนี ลิง
ค่าง ไก่ฟ้า กระรอก เก้ง กระจง นกนานาชนิด
และสัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆ |
|
|
|
ด้านธรรมชาติที่สวยงาม |
|
ถ้ำแก้ว อยู่
ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติคลองพนมประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยเดินเลียบตีนเขาไปถึงปากถ้ำประมาณ 1 กิโลเมตร
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามแปลกตามากมาย
แบ่งเป็นห้องย่อยๆ ได้ 4 ห้อง ได้แก่ ห้องเกล็ดแก้ว
ห้องฤาษี ห้องม้าน้ำ และห้องหม้อยา
ใช้ระยะเวลาเดินชมประมาณ 40 นาที
ก็สามารถชมความงามของถ้ำได้ทั้งหมด |
|
กิจกรรม :
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
|
|
ถ้ำน้ำลอดเขาวงก์ อยู่
ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คพ.1 (บ้านคลองพนม)
ประมาณ 5 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีน้ำไหลผ่านตลอด
มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม
และมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่จำนวนมาก
ใช้เวลาเดินผ่านถ้ำประมาณ 40 นาที
อีกด้านหนึ่งของถ้ำเป็นที่ตั้งของค่ายคอมมิวนิสต์เก่า
ซึ่งมีเนื้อประมาณ 1,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยภูเขา
ซึ่งทางเข้าค่ายเก่านี้ต้องเข้าจากถ้ำน้ำลอดเขาวงก์แห่งเดียวเท่านั้น |
|
กิจกรรม :
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
|
|
น้ำตกเขาวงก์ อยู่
ห่างจากถ้ำน้ำลอดเขาวงก์ประมาณ 2 กิโลเมตร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูง 8 ชั้น
ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงสู่ลำห้วยเบื้องล่าง
น้ำตกแห่งนี้เป็นแนวต่อเนื่องกับสายน้ำที่ไหลมาจากถ้ำน้ำลอดเขาวงก์โดยไหล
ผ่านพื้นที่เกษตรกรรมของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่เคยตั้งอยู่ในพื้นที่
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 เรียกว่า ค่ายเขาวงก์
และเป็นต้นน้ำของคลองพนม |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
|
|
น้ำตกโตนไทร เป็น
น้ำตกที่มีตลอดปี มีความสูง 12 ชั้น
มีความสวยงามตามธรรมชาติและป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้ตลอดจนสัตว์ป่า
และนกชนิดต่างๆ
บริเวณน้ำตกจะมีต้นไทรขึ้นปกคลุมแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว
น้ำตกโตนไทรอยู่ห่างจากหมู่บ้านสะพานนาค หมู่ที่ 5
ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 3.5
กิโลเมตร
โดยมีทางรถยนต์เข้าถึงหมู่บ้านและเดินเท้าต่อจนถึงน้ำตก
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
|
|
ด้านศึกษาธรรมชาติ |
|
เส้นทางเดินป่าเพื่อไปชมบัวผุด บัว
ผุด พบมากบริเวณเขาหลังบ้านถ้ำผึ้ง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก
อำเภอพนม ห่างจากถนนสายหลัก สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า
เข้าไปช่วงหลักกิโลเมตรที่ 108 ประมาณ 4 กิโลเมตร
แล้วเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงแหล่งบัวผุด
ซึ่งโดยมากบัวผุดจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม
ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศและดินมีความชื้นพอเหมาะ
บัวผุด เป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นกาฝากชนิดหนึ่งอาศัยกินน้ำเลี้ยงจาก "ย่านไก่ต้ม"
พบมากบริเวณเขาหลังบ้านถ้ำผึ้ง
โดยมากดอกบัวผุดจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม
|
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมพรรณไม้
|
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ อยู่
บริเวณหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 200 เมตร
มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
ในเส้นทางมีจุดเด่นที่น่าสนใจได้แก่ ต้นกระบากขาว
วัดรอบต้นได้ 12 เมตร เป็นจุดเด่นของเส้นทาง
และมีจุดชมทิวทัศน์บนโขดหินที่สวยงามโดดเด่น
นอกจากนี้องค์ประกอบของเส้นทางก็มีป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์
มีกลุ่มไม้ขนาดใหญ่หลายชนิดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น
มีจุดพักผ่อนที่น่ารื่นรมย์ในเส้นทาง |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมพรรณไม้
|
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ
ล่องแก่งลำน้ำคลองพนม-บ้านเบญจา เริ่ม
ต้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คพ.1 (บ้านคลองพนม)
โดยจะใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งประมาณ 4 ชั่วโมง ตลอด 2
ฝั่งคลองจะพบทัศนียภาพที่สวยงาม
มีพันธุ์พืช-พันธุ์สัตว์ต่างๆ
มากมายเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและท้าทาย
ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแก่การล่องแก่ง คือ ช่วงน้ำหลาก
ประมาณเดือนสิงหาคม-ธันวาคม |
|
กิจกรรม :
พายเรือแคนู/คยัค
ล่องแก่ง
|
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ ล่องลำน้ำคลองศก
(วังมัจฉา-บ้านเชียวปง) เริ่ม
ต้นที่วังมัจฉาห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1
กิโลเมตร ซึ่งจะได้พบกับฝูงปลามากมายหลายชนิด เช่น
ปลาตะเพียนหางแดง ปลาแรด ปลากดหิน ฯลฯ
ตลอดสองฝั่งคลองจะมีภูเขาหินปูนสูงชันเป็นหน้าผาที่สวยงาม
โดยจะใช้เวลาในการล่องลำน้ำคลองศก ประมาณ 2 ชั่วโมง
ก็สามารถชมทัศนียภาพสองฝั่งคลองที่สวยงามและสร้างความประทับใจแก่ผู้มา
เยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี |
|
กิจกรรม :
พายเรือแคนู/คยัค
|
|