โซน |
ชื่อที่พัก-บริหาร |
ห้องนอน |
ห้องน้ำ |
คน/หลัง |
ราคา/คืน |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
โซนที่ 1 |
1. ผาแต้ม 011 - ห้องประชุมตะวันฉาย (18.00 - 21.00 น.) |
0 |
0 |
40 |
400 |
ห้องพัดลม ไม่เกิน 40 คน, เครื่องขยายเสียง, ไมโครโฟน,
โต๊ะ, เก้าอี้
|
โซนที่ 1 |
2. ผาแต้ม 011 - ห้องประชุมตะวันฉาย (13.00 - 16.00 น.) |
0 |
0 |
40 |
400 |
ห้องพัดลม ไม่เกิน 40 คน, เครื่องขยายเสียง, ไมโครโฟน,
โต๊ะ, เก้าอี้
|
โซนที่ 1 |
3. ผาแต้ม 011 - ห้องประชุมตะวันฉาย (09.00 - 12.00 น.) |
0 |
0 |
40 |
400 |
ห้องพัดลม ไม่เกิน 40 คน, เครื่องขยายเสียง, ไมโครโฟน,
โต๊ะ, เก้าอี้
|
โซนที่ 1 |
4. ผาแต้ม 101/1 (มณีเทวา) |
2 |
1 |
6 |
1,200 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), พัดลม, โต๊ะอาหาร,
ตู้เสื้อผ้า, ผ้าเช็ดตัว, แก้วน้ำ, น้ำดื่ม
|
โซนที่ 1 |
5. ผาแต้ม 101/2 (มณีเทวา) |
2 |
1 |
6 |
1,200 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), พัดลม, โต๊ะอาหาร,
ตู้เสื้อผ้า, ผ้าเช็ดตัว, แก้วน้ำ, น้ำดื่ม, ตะเกียง
|
โซนที่ 2 |
6. ผาแต้ม 103 (สร้อยสุวรรณา) |
2 |
1 |
5 |
2,000 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องปรับอากาศ, พัดลม,
เครื่องทำน้ำอุ่น, ผ้าเช็ดตัว, แก้วน้ำ, น้ำดื่ม
|
โซนที่ 2 |
7. ผาแต้ม 104 (ทิพเกสร) |
2 |
1 |
5 |
2,000 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องปรับอากาศ, พัดลม,
เครื่องทำน้ำอุ่น, ผ้าเช็ดตัว
|
โซนที่ 2 |
8. ผาแต้ม 105 (สรัสจันทร) |
2 |
1 |
5 |
2,000 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องปรับอากาศ, พัดลม,
เครื่องทำน้ำอุ่น, ผ้าเช็ดตัว, แก้วน้ำ, น้ำดื่ม
|
ด้านประวัติศาสตร์ |
|
คอกหิน กอง
หินที่อยู่ด้านหน้านี้ มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
เป็นเกิดจากการนำก้อนหินมากองรวมกันไว้ในลักษณะเป็นวงกลม
ซึ่งพบมานานหลายร้อยปี
ส่วนสาเหตุที่มีการนำก้อนหินเหล่านี้มากองรวมกันเป็นวงกลมเช่นนี้
ยังไม่มีผู้ทราบเห๖ยลที่แท้จริง แต่มีผู้สันนิฐานว่า
อาจเป็นฝีมือคนในยุคก่อนที่มีความเชื่อเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
หรือเป็นการประกอบพิธีกรรมบางอย่าง
อาจเป็นการประกอบพิธีกรรมก่อนการออกล่าสัตว์หรือหลังจากประสบผลสำเร็จจากการ
ล่าในแต่ละครั้ง
หรืออาจเป็นการแสดงความเคารพดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ เป็นต้น
คอกหิน เป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
อีกแหล่งหนึ่ง โดยนักโบราณคดี
เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของฝีมือมนุษย์
ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มภาพเขียนสีที่ผาแต้ม
และอาจจะเป็นสถานที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คอกหินนี้มีลักษณะ คล้ายวัฒนธรรมหินตั้ง
อันเป็รระบบความเชื่อดั่งเดิมที่พบแร่หลายในเอเชียอาคเนย์เกี่ยวกับความอุดม
สมบูรณ์ และการนับถือบรรพบุรุษ การปักหินตั้งเป็นสัญลักษณ์
ของการเชื่อโยงระหว่างคนที่ยังมีชีวิตอยู่กับผู้ที่ตายไปแล้ว
โดยเชื่อว่าผู้ที่ตายแล้วมีพลังที่สามารถบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
และมีคติในเรื่องความเชื่อทางศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระพุทธศาสนามาเป็นความ
เชื่อที่เกี่ยวกับการปักเสมาหินเนื่องจากได้มีการพบกลุ่มเสมาหินมากในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมพรรณไม้
ดูนก
|
|
ผาเจ็ก-ผาเมย จาก
น้ำตกสร้อยสวรรค์เดินไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
ตลอดเส้นทางจะพบทุ่งดอกไม้งามหลายแห่ง ผาเจ็ก-ผาเมย
เป็นหน้าผาหินที่มีลักษณะเหมือนบริเวณ ผาแต้ม
และปรากฏภาพเขียนสีโบราณเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าภาพเขียนจะมีจำนวนน้อยกว่าก็ตาม
แต่ลักษณะภาพเขียนสีที่พบแตกต่างกัน
ผู้สนใจเดินป่าจากน้ำตกสร้อยสวรรค์มาผาเจ็ก
ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง เนื่องจากเส้นทางไม่ชัดเจน |
|
กิจกรรม :
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
|
|
ผาแต้ม ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ 3,000 - 4,000 ปี เมื่อ
ดูจากแม่น้ำโขง จะเห็นเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ
ในบริเวณที่เป็นหน้าผา
จะปรากฏภาพเขียนสีโบราณโดยฝีมือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
3,000 - 4,000 ปี
เรียงรายตามความยาวของหน้าผาติดต่อกันยาวประมาณ 180 เมตร
มีไม่ต่ำกว่า 300 ภาพ ซึ่งเป็นจำนวนภาพเขียนสีโบราณ
ที่มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบในประเทศไทยและในต่างประเทศ
ลักษณะของภาพแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ภาพคนทำนา
ภาพสัตว์ ภาพมือ ภาพลายเรขาคณิต และภาพตุ้ม
(เครื่องมือจับปลาของชาวประมงริมโขง)
ผาแต้มอยู่บริเวณเดียวกันกับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ใกล้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
เดินป่าระยะไกล
ดูดาว
|
|
ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 2 (ผาแต้ม) ภาพ
เขียนสีกลุ่มที่ 2 ผาแต้ม
เป็นภาพเขียนสีกลุ่มที่ใหญ่อยู่ห่างจากเขียนกลุ่มผาขาม 300
เมตร ภาพเขียนสีในจุดนี้ เป็นกลุ่มภาพเขียนสีที่มีขนาดใหญ่
และ ยาวถึง 180 เมตรมีหลากหลายแบบทั้งภาพคน สัตว์ และอื่นๆ
กว่า 300 ภาพ ปะปนกัน บางภาพก็ซ้อนทับกันอยู่
ภาพที่พบในจุดนี้จะมีลักษณะ
สามารถแยกประเภทได้ชัดเจนใช้สีแดงเป็นส่วนใหญ่
มีการใช้เทคนิคทั้งการลงสี
และการทำรูปรอยลงในเนื้อหินลักษณะเด่นของกลุ่มภาพเขียนสีที่ผาแต้มนี้จะเป็น
ภาพของฝ่ามือมนุษย์ แบบทึบ และแบบโปร่ง
ภาพสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นทั้งสัตว์บก
และสัตว์น้ำ ภาพเขียนที่เป็นสัตว์บก เช่น ช้าง วัว หมา
และภาพเขียนสีที่เป็นสัตว์น้ำ เช่น เต่าหรือตะพาบ
ปลาบึก(ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่พบในลำน้ำโขง)
ลักษณะของการวาดภาพมีทั้งการวาดโครงร่าง และการระบายสีทึบ
ภาพสัตว์ต่างๆ
ที่ปรากฏอยู่นี้ควรเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคนั้น
การสร้างภาพเขียนสีสร้างโดย 2 เทคนิคใหญ่ๆ คือ 1. การลงสี
(Pictograph) หรือการสร้างภาพด้วยสี ในวิธีต่างๆ
เช่นวาดด้วยสีแห้ง(Drawing Withdraw Pigment) เขียนหรือ
ระบายเป็นรูป (Painting) พ่นสี (Stenciling) สะบัดสี
(Paint Splattering) การทาบหรือทับ (Imprinting) 2.
การทำรูปรอยลงในหิน มีวิธีต่างๆ เช่นฝน จารขูดขีด แกะหรือ
ตอก ฯลฯ
การใช้สีที่พบจะเป็นสีแดงจะสัมพันธ์กับพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความตาย
เพราะตามแหล่งโบราณคดีหลายแห่งในประเทศไทย
มักจะพบสีแดงหรือสิ่งของ
สีแดงในหลุมฝังศพงานศิลปะที่ผาแต้ม
จึงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความตายของผู้ตายในสมัย
นั้นภาพเขียนสีในอุทยานแห่งชาติ
ผาแต้มที่พบและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยมีทั้งหมด 4
กลุ่มตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติชื่อว่าศิลปะถ้ำ
สีที่คนในยุคโบราณมักใช้ในการวาดคือ หินเทศ
ที่จริงแล้วก็คือ หินทราย ชนิดหนึ่ง
มีชื่อหลักว่าหินทรายแดง จะพบได้ทั่วไปในพื้นที่ประเทศไทย
และจะพบมากในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาหินทราย
หินทรายแดงจะประกอบด้วยอนุภาคดินทรายแป้งที่ความละเอียดมาก
สีเทาปนแดง
แร่ที่เป็นองค์ประกอบหลักคือแร่ควอตร์และแร่เหล็กที่เรียกว่า
hematite คนในยุดก่อนรู้จักนำเอาหินทรายแดงมาใช้
ประโยชน์โดยเฉพาะตามแหล่งภาพเขียนสีโบราณจะพบว่ามีการนำเอาหินทรายแดงหรือ
หินเทศมาใช้เป็นวัตถุดิบในการวาดภาพตามผนังถ้ำ ตามหน้าผา
หรือวาดลงบนเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมพรรณไม้
|
|
ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 1 (ผาขาม) ภาพ
เขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 1(ผาขาม)หรือ ศิลปะถ้ำ
คือ ศิลปะหรือภาพที่เกิดจากการวาด/เขียนเป็นสี
และทำรูปรอยลงบนพื้นหิน มักพบตามถ้ำเพิงผา ผนังหิน ก้อนหิน
ที่มักเรียกรวมๆ กันไปว่าถ้ำ จึงมักเรียกงาน
ภาพเขียนถ้ำนี้ว่าศิลปะถ้ำ ศิลปะถ้ำที่สร้างขึ้นด้วย 2
เทคนิคใหญ่ๆ คือ 1. การลงสี
หรือการสร้างภาพด้วยสีในวิธีต่างๆ เช่น วาดด้วยสีแห้ง
เขียน หรือระบายเป็นรูป พ่นสี สะบัดสี การทาบหรือทับ 2.
การทำรูปรอยลงในหิน มีวิธีต่างๆ เช่น ฝน จาร ขูดขีด
แกะหรือ ตอก ฯลฯ
การใช้สีที่พบในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป้นสีแดง
จะสัมพันธ์กับพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความตาย
เพราะตามแหล่งโบราณคดีหลายแห่งในประเทศไทยมักจะเป็นสีแดง
หรือสิ่งของสีแดง
ในหลุมฝังศพงานศิลปะที่ผาแต้มจึงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่เกี่ยว
กับความตายของผู้ตายในสมัยนั้น
ภาพเขียนสีในอุทยานแห่งชาติผาแต้มที่พบ และเป็นที่รู้จัก
มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีกลุ่มภาพเขียน ทั้งหมด 4 กลุ่ม
ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชื่อว่า "ศิลปะถ้ำ"
สีที่คนในยุคนั้นใช้ จะเป็นสีจากแร่ชนิดหนึ่ง
ที่มีชื่อเรียกว่า เฮมาไทด์ หรือ หินเทศ
ภาษาพื้นบ้านเรียกชหินชนิดนี้ว่า ดินลูกรัง
ที่จริงแล้วก็คือหินทรายชนิดหนึ่ง มีชื่อหลักว่า
หินทรายแดง จะพบได้ทั่วไปในพื้นที่ประเทศไทย
และจะพบมากในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาหินทราย
หินทรายแดง ประกอบด้วยอนุภาคดินทรายแป้งที่มีความละเอียดมา
มีสีเทาปนแดง แร่ที่เป็น องค์ประกอบหลักคือแร่ควอตร์
และแร่เหล็กที่เรียกว่า เฮมาไทด์ (HEMATITE)
ภาพเขียนกลุ่มที่ 1
นี้เป้นกลุ่มภาพเขียนสีจุดแรกที่อยู่ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติศิลปะถ้ำ
อยู่ด้านใต้หน้าผาของผาขามมีความสูงจากยอดเขาถึงทางราบแนวหน้าผา
260 เมตร ภาพเขียนสีกลุ่มที่ 1 นี้
อาจจะมองเห็นไม่ชัดเจนมากนักต้องสังเกตตามผนังหิน
จะปรากฏภาพที่ระบายด้วยสีแดงออกคล้ำคล้ายสีน้ำหมาก
ภาพที่ปรากฏคือ ภาพปลา ภาพสัตว์ 4 เท้า ที่ค่อนข้างเลือน
จำนวน 1 ตัว คือ ภาพช้าง โดยมีเส้นตั้ง เส้นเฉียง
และเส้นนอน วาดทับบนรูปภาพเหล่านั้น ลักษณะของภาพปลา
จะเป็นการแสดงภาพแบบโครงสร้างภายใน
หรือเรียกว่าภาพเอกซเรย์ ขนาดของภาพ จะแตกต่างกันไป |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
|
|
ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 3 (ผาหมอน) เมื่อนักท่อเที่ยวเดินตามเส้นทางเรียบหน้าผาถัดจากกลุ่มภาพเขียนสีกลุ่มที่
2 ผาแต้ม ประมาณ 860 เมตร
ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ
ตามเส้นทางศิลปะถ้ำและท่านจะพบภาพเขียนสีกลุ่มที่ 3
ผาหมอนน้อย ภาพที่ปรากฎตามผนังหน้าผา จะมีภาพที่เขียนไว้
สูง ประมาณ 6 เมตร ภาพที่ปรากฏ เป็นลักษณะลายเส้น ที่ขีด
เป็นเส้นตรงและจัดเป็นกลุ่ม แบบรัศมีครึ่งวงกลม
แสดงถึงการดำรงชีวิตโดยเพาะปลูกธัญชืพชนิดหนึงที่เหมือนข้าว
แบบนาเมือง เมือเดินตรงไปอีก 20 เมตร
ท่านก็จะพบภาพเขียนสีที่เขียนเป็นรูปเลขาคณิตสีแดงเป็นเส้นคู่ต่อกันเป็น
ตาข่ายหรือตารางบนแท่นหินติดกับผนังที่ยื่นออกมาจากผนัง
สูง 3 เมตร เมื่อท่านสังเกตจะเห็นคลาบสีเขียว
แมละไคท์(MALACHLTE) ฉาบอยู่ที่รอยแยกของหินทราย
ระหว่างแนวคราบสีเขียวมีภาพมือ |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
ชมพรรณไม้
|
|
ภูผาขาม ภูเขาหินทราย ข้าง
บนเป็นลานหินเรียบ
ด้านล่างเป็นบริเวณที่ปรากฏภาพเขียนสีโบราณ
เมื่อยืนดูอยู่ด้านบนจะเห็นทิวทัศน์ตามริมแม่น้ำโขงสุดสายตา
เป็นทิวทัศน์ของป่าเขาและลำน้ำสวยงามมาก |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมทิวทัศน์
ดูดาว
|
|
ภูโลง ได้
มีการค้นพบโลงศพของมนุษย์อยู่ภายในซอกหิน
ซึ่งไม่ถูกแดดไม่ถูกฝนอยู่บนภูโลง
เข้าใจว่าเป็นโลงศพของมนุษย์สมัยก่อน
ส่วนของกระดูกและสิ่งของภายในโลงหายไปก่อนที่จะค้นพบ
ลักษณะของโลงใหญ่มาก
ไม้ที่ใช้ทำโลงบางส่วนผุพังไปตามธรรมชาติ
แต่ยังคงสภาพส่วนใหญ่อยู่ |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
แค้มป์ปิ้ง
|
|
ด้านธรรมชาติที่สวยงาม |
|
แก่งมโนราห์
ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้ง
ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกบ้านซะซอม หมู่ที่
ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
ห่างจากบ้านซะซอมประมาณ 1 กิโลเมตร
อยู่ในความรับผิดชอบดูแลพื้นที่ของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
หน่วยที่ 4 (ห้วยทราย)
และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้มประมาณ 37
กิโลเมตร
สภาพภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ เป็นที่ราบสลับเนินเขา
ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณแก่งมโนราห์
อยู่ในลำห้วยแสงจันทร์ ขนาดของลำห้วยมีความกว้างเฉลี่ย 8
10 เมตร มีแก่งหิน
โผล่เป็นระยะความลึกของลำห้วยสูงสุดประมาณ 10 เมตร
และในบริเวณแก่งมโนราห์มีความลึกประมาณ 2 - 4 เมตร
สภาพป่าบริเวณ ข้างเคียงเป็นป่าเต็ง รัง
สลับพื้นที่ลานหินทราย พันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ ได้แก่ เต็ง,
รัง, ตะแบก, กระบก, พะยอม, ประดู่, มะค่าแต้, ฯลฯ
สังคมพืชพื้นล่าง ที่พบส่วนใหญ่เป็นจำพวก ดอกไม้ป่า
ตามซอกหิน เช่น เอ็นอ้า
บริเวณริมห้วยจะมีทุ่งดอกไม้ป่าเกิดขึ้น
อยู่กระจายทั่วพื้นที่ ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา
กระดุมเงิน แต่มีจำนวนไมามากนัก
สภาพภูมิอากาศ
อุณหภูมิในแต่ละฤดูแตกต่างกันอย่าง มาก
ในฤดูฝนจะมีพายุฟ้าคะนอง ในฤดูหนาวอากาศเย็นจัด
ความชื้นในบรรยายกาศมีน้อย ในฤดูร้อนอากาศร้อนจัด
ช่วงฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเป็นช่วงฤดูฝน
ตั้งแต่เดือน มิถุนายน - พฤศจิกายน
แหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่ใกล้เคียง
- อยู่ห่างจากน้ำตกแสงจันทร์ ประมาณ 16 กิโลเมตร
- อยู่บริเวณทางขึ้นผาชะนะได ห่างจาก ผาชะนะได ประมาณ
12 กิโลเมตร
จุดเด่นของพื้นที่
เป็นลำห้วยที่มีแก่งหิน โผล่เป็นระยะๆ
เมื่อน้ำไหลจะกระทบหินก่อให้เกิดเป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ
และสวยงาม ลำห้วยมีความกว้าง
และความลึกพอดีที่จะทำการล่องแก่ง และพายเรือยางพจญภัย
รวมทั้งสามารถใช้ห่วงยางเล่นน้ำได้ อย่างสนุกสนาน
ประกอบกับสถานที่ดังกล่าวอยู่ติดกับแหล่งท่องที่ยวที่มีชื่อเสียงและกำลัง
ได้รับความนิยมของแหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำตกแสงจันทร์
ป่าดงนาทาม ผาชะนะได สามารถเดินทางถึงแหล่งท่องเที่ยว
ได้โดยสะดวก
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่เหมาะสม
1. ล่องแก่ง
2. จักรยานเสือภูเขา
3. พายเรือยาง (เรือแคน)
|
|
กิจกรรม :
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
ชมวัฒนธรรมและประเพณี
ดูดาว
|
|
ชมตะวันขึ้นก่อนใครที่ ผาชนะได เป็น
ป่าสนสองใบตามธรรมชาติที่ขึ้นอยู่บริเวณหน้าผา
เมื่อมองทะลุป่าสนสองใบจะเห็นภูเขาทะมึนสลับซับซ้อนของประเทศลาว
เป็นฉากอยู่ข้างหลังตัดกับท้องฟ้าที่อยู่ด้านบน
และลำน้ำโขงที่อยู่ด้านข้าง เป็นจุดพยากรณ์ดวงอาทิตย์ขึ้น
ของกรมอุตุนิยมวิทยา
อุทยานแห่งชาติผาแต้มจัดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้ 3
เส้นทางด้วยกัน สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี คือ
- เส้นทางผาแต้ม สร้อยสวรรค์
- เส้นทางทุ่งนาเมือง ผาชะนะได
- เส้นทางถ้ำปาฏิหารย์ ผาชะนะได
|
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
เดินป่าระยะไกล
ดูดาว
|
|
ตะวันลับขอบฟ้าก่อนใครในสยาม อุทยาน
แห่งชาติผาแต้มเป็นพื้นที่พยากรณ์พระอาทิตย์ขึ้น
และเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกก่อนใคร
จึงเป็นจุดท่องเที่ยวของดินแดนสุดเขตประเทศไทย
เห็นตะวันก่อนใครในสยาม
นักท่องเที่ยวจึงเข้ามาชมความสวยงามทางธรรมชาติเป็นจำนวนมาก |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
ดูดาว
|
|
ทุ่งดอกไม้ป่า บริเวณน้ำตกสร้อยสวรรค์ ทุ่ง
ดอกไม้ป่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างความประทับใจในธรรมชาติของพันธ์ดอกไม้
ป่าพันธุ์ต่าง
และเป็นดอกไม้ป่าที่สมเด็จฯพระนาเจ้าพระบรมราชินีนาถพระราชทานนาม
ดอกไม้ป่าไว้ 5 ชนิด ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุสวรรณา ทิพเกสร
มณีเทวา สรัสจันทร
พันธุ์ดอกไม้ป่านี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ดอกไม้ป่าจะบานเต็มที่ ช่วงปลายเดือน
พฤศจิกายน ถึงปลายเดือน ธันวาคม ของทุกปี |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
เดินป่าระยะไกล
|
|
น้ำตกทุ่งนาเมือง น้ำตก
ทุ่งนาเมือง ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่
4 (คันท่าเกวียน)
สามารถไปท่องเที่ยวได้โดยเดินทางไปตามเส้นทางบ้านทุ่งนาเมือง
ต.นาโพธิ์กลาง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ประมาณ
40 กิโลเมตร เส้นทางรถยนต์สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
เดินป่าระยะไกล
|
|
น้ำตกสร้อยสวรรค์ บริเวณห้วยสร้อย จาก
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้มไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข
2112 อีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกสร้อยสวรรค์
เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ แซสร้อย
และแซไผ่ ไหลตกลงมาบรรจบกันดูลักษณะคล้ายสายสร้อย
บริเวณริมลำธารมีพลาญหินซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว
จะมีดอกไม้หลากสีสันออกดอกงดงามเต็มลานหิน |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
|
|
น้ำตกสร้อยสวรรค์ บริเวณห้วยสะหนม จาก
แยกทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข
2112 อีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกสร้อยสวรรค์
เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ แซสร้อย
และแซไผ่ ไหลตกลงมาบรรจบกันดูลักษณะคล้ายสายสร้อย
บริเวณริมลำธารมีพลาญหินซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว
จะมีดอกไม้หลากสีสันออกดอกงดงามเต็มลานหิน |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
|
|
น้ำตกแสงจันทร์ อยู่
ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตามหมายเลขทางหลวงที่ 2112
ประมาณ 30 กิโลเมตร มีทางแยกเข้าไปน้ำตกทุ่งนาเมือง
น้ำตกแห่งนี้มีลักษณะพิเศษคือ เมื่อสายน้ำตกจากผาลงมาแล้ว
จะไหลลับหายไปในซอกหิน ชาวบ้านเรียก
น้ำตกลอดรู
ส่วนน้ำตกแสงจันทร์มีทางเดินเท้าไปอีกไม่ไกลนัก
สายน้ำตกลงมาจากช่องโพรงของเพิงผา บางคนเรียกว่า
น้ำตกลงรู |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
|
|
ภูกระบอ เป็นภูผาหินทราย
ที่มีเสาเฉลียงเป็นจำนวนมาก
ตั้งเรียงรายกระจายทั่วพื้นที่ดูลักษณะคล้ายสวนหิน |
|
กิจกรรม :
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
|
|
เภาวัลยักษ์ บริเวณน้ำตกทุ่งนาเมือง เถา
วัลยักษ์ เป็นความเก่าแก่ของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นนาน 400
ปี อยู่ติดกับทางลงชมน้ำตกทุ่งนาเมือง
เป็นความมหัสจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวควรได้สัมพัส |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
|
|
เสาเฉลียงคู่ เป็น
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ
สายลมและแสงแดดมีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น
มีส่วนบนเป็นแผ่นหินวางอยู่โดยไม่ติดกัน มองดูคล้ายดอกเห็ด
อุทยานแห่งชาติมีเสาเฉลียงให้ชม 2 จุด
จุดที่ชมได้ง่ายอยู่ก่อนถึงผาแต้ม 1 กิโลเมตร
กับเสาเฉลียงที่ต้องเดินทางขึ้นเหนือไปทางบ้านผาชันอีกราว
70 กิโลเมตร |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
|
|
เสาเฉลียงใหญ่ เสา
เฉลียงใหญ่ ตั้งอยู่ที่บ้านผาชัน อำเภอโพธ์ไทร
เส้นทางถนนหมายเลข 2112 สายโขงเจียม โขงเจียม - เขมราฐ
ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม 50 กิโลเมตร
ลักษณะเป็นหินทรายขนาดใหญ่ มีความสูง 15 เมตร
ตั้งวางทับกันที่เกิดจากการกัดกร่อนของ ลม น้ำ อากาศ
เป็นอีกสถานที่หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
|
|
หาดวิจิตรา หาด
วิจิตตรา
เป็นชายหาดที่ทอดยาวยื่นออกไปสู่กลางลำน้ำโขงเป็นหาดทรายสีดำ
มีพื้นที่ที่สวยงามในยามเช้า
และช่วงเวลาตะวันตกจะมองเห็นวิวเกาะ
บวกกับแสงตะวันกระทบพื้นน้ำกลางลำน้ำโขง ในช่วงฤดูหนาว
ถึงฤดูร้อนจะมีความสวยงามน่าชม
พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน
รอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้แก่บ้านหนองผือน้อย
บ้านกุ่ม และบ้านตามุย
สถานที่ตั้งห่างจากอุทยานแห่งชาติผ่แต้ม 4 กิโลเมตร
รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ เป็นเส้นทางริมโขง
มองจากเส้นทางด้านล่างจะเห็นแนวหน้าผาจุดชมวิวผาแต้ม
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมหาดได้ในช่วงฤดูหนาว
และฤดูร้อนเท่านั้น |
|
กิจกรรม :
ล่องแพ/ล่องเรือ
กิจกรรมชายหาด
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
ชมทิวทัศน์
แค้มป์ปิ้ง
|
|
หินโยกมหัศจรรย์ หิน
โยกมหัศจรรย์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มี
ชื่อในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
เป็นหินขนาดใหญ่หนักขนาด 50 ตัน
และนักท่องเที่ยวสามารถโยกได้ด้วยมือเดียว
สถานที่ตั้งห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ประมาณ 48
กิโลเมตร
และห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแต้ม(หน่วย
คันท่าเกวียน ) ในทางเดินเท้าประมาณ 6 กิโลเมตร
อยู่ในเขตหมู่บ้านคันท่าเกวียน อำเภอนาโพธิ์กลาง
ตำบลห้วยไผ่ จังหวัดอุบลราชธานี |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมทิวทัศน์
เดินป่าระยะไกล
|
|
แหล่งกำเนิดแม่น้ำโขง
แม่ น้ำโขง มีต้นกำเนิดจากบริเวณที่ราบสูงธิเบต
แถบเทือกเขาตังกุลา (Tanggula) มณฑลชิงไห่ (Qinghai)
ประเทศจีน
ไหลผ่านมณฑลยูนานและออกจากประเทศจีนที่เมืองเชียงรุ้ง
(Cheingrong) เป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศจีนกับประเทศพม่า
เป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศพม่ากับประเทศลาว
รวมทั้งเป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว
โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงตอน คือ
ช่วงตอนบนกั้นพรมแดนระหว่างพื้นที่จังหวัดเชียงรายของประเทศไทยกับพื้นที่
แขวงบ่อแก้วของประเทศลาว
แล้วไหลเข้าประเทศลาวที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว
กลับมาไหลออกจากประเทศลาวอีกที่เมืองสานะคาม
กำแพงนครเวียงจันทน์
และเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาวในช่วงตอนล่าง
ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างพื้นที่ 6 จังหวัดของประเทศไทยได้แก่
จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร
จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี
กับพื้นที่ของประเทศลาวได้แก่ กำแพงนครเวียงจันทน์
แขวงบอลิคำไซ แขวงคำม่วน แขวงสะหวันนะเขต แขวงสาละวัน
และแขวงจำปาสัก
จากนั้นไหลเข้าไปในประเทศลาวอีกตอนหนึ่งที่เมืองปากเซ
แขวงจำปาสัก
แล้วไหลออกจากประเทศลาวที่เมืองโขง แขวงจำปาสัก
เข้าสู่ประเทศกัมพูชา ที่จังหวัด สตึงเตรง (Stung treng)
ไหลออกจากประเทศกัมพูชาที่จังหวัดพนมเปญ (Phanom Phen)
เข้าสู่ประเทศเวียดนามและแยกออกเป็นหลายสาย
บริเวณที่เรียกว่า ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้
มีความยาวตลอดสายรวมทั้งสิ้นประมาณ 4,880 กิโลเมตร (จเร
ศิลา 2537: รายงานการประชุม, สาธารณรัฐประชาชนจีน)
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. อยู่ในประเทศจีน ประมาณ 2,130 กิโลเมตร
2. เป็นเส้นเขตแดนกั้นระหว่างจีน - พม่า ประมาณ 31
กิโลเมตร
3. เป็นเส้นเขตแดนกั้นระหว่างพม่า - ลาว ประมาณ 234
กิโลเมตร
4. เป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างไทย - ลาว ประมาณ 955
กิโลเมตร
5. อยู่ในประเทศลาว ประมาณ 789 กิโลเมตร
6. อยู่ในประเทศกัมพูชา ประมาณ 490 กิโลเมตร
7. อยู่ในประเทศเวียดนาม ประมาณ 230 กิโลเมตร
ปัจจุบันแม่น้ำโขงเป็นเส้นเขตแดนกั้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว
ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ตอนแรกอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 85
กิโลเมตร และตอนที่ 2 อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตั้งแต่จังหวัดเลยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางประมาณ 832
กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 917 กิโลเมตร
ลักษณะที่สำคัญของแม่น้ำโขงนั้น
ตลิ่งทั้งสองฝั่งจะมีความสูงชันมาก
กระแสน้ำจะไหลออกเหนือลงใต้ตลอดทั้งปี
ระดับน้ำในฤดูแล้งกับฤดูฝนจะมีความแตกต่างกันมากถึง 14
เมตร ความเร็วของกระแสน้ำขึ้นอยู่กับฤดูกาล
ซึ่งโดยปกติจะมีความเร็วของกระแสน้ำ ตั้งแต่ 2 - 12 นอต
สภาพในลำแม่น้ำโขงจะมีลักษณะเป็นเกาะ หรือดอน หรือสันทราย
และแก่งหินโขดหินปรากฎอยู่ทั่วไป
โดยทวีขนาดและเพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วงฤดูแล้ง
ซึ่งดอนเหล่านี้ในช่วงระดับน้ำลดลงจะเหลือเพียงทางน้ำเล็ก
ๆ เป็นเส้นกั้นเขตแดน
หรือบางแห่งระดับน้ำตื้นเขินมากจนกลายเป็นผืนดินติดต่อกันกับฝั่งไทย
โดยไม่มีทางน้ำให้เห็นแต่อย่างใด
|
|
กิจกรรม :
ล่องแพ/ล่องเรือ
ชมทิวทัศน์
ชมวัฒนธรรมและประเพณี
|
|
ด้านท่องเที่ยวผจญภัย |
|
เส้นทางเดินป่าระยะไกล อุทยาน
แห่งชาติผาแต้ม เป็นพื้นที่มีความหลากหลายของนานาชีววิทยา
มีธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
โดยมีเส้นทาง ต่อไปนี้
เส้นทางที่ 1 จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
หน่วยที่ 4 (ห้วยทราย) ถึงชุดปฎิบัติการพิเศษดงนาทาม
หน่วยที่ 5 (ดงนาทาม) มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ
ถ้ำปาฎิหาริย์ หินเต่าชมจันทร์ น้ำตกกิ้ต น้ำตกซะปัน ตาน้ำ
ผลาญหินถ้ำไฮ เสาเฉลียงคู่ โหง่นแต้ม เนินสนสองใบ ผาชะนะได
น้ำตกห้วยพอก ผากะปั่น ผาหินแตก ถ้ำฝ่ามือแดง น้ำตกกวางโตน
น้ำตกซ้อย สวนหินภูกระบอ(มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์)
ภูโลง(สถานที่ทำพิธีศพของมนุษย์ถ้ำ และโลงศพโบราณ)
เส้นทางที่ 2 จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
หน่วยที่ 3 (คันท่าเกวียน) ถึงชุดปฏิบัติการพิเศษดงนาทาม
หน่วยที่ 5 (ดงนาทาม) มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ
น้ำตกแสงจันทร์หรือน้ำตกลงรู น้ำตกทุ่งนาเมือง
น้ำตกห้วยนาเมืองใหญ่ ภูน้ำถ้ำ ผาหินฝน ถ้ำโบกโลง
เสาเฉลียงภูจ้อมก้อม หินโยกมหัศจรรย์
ผาแดง(มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์) |
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ชมประวัติศาสตร์
ขี่จักรยานศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
ชมพรรณไม้
ชมทิวทัศน์
เดินป่าระยะไกล
ดูนก
|
|
ด้านศึกษาธรรมชาติ |
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อุทยาน
แห่งชาติผาแต้ม
จัดทำเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะสั้นเหมาะแก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ที่ ต้องการความสวยงานตามธรรมชาติ 3 เส้นทาง ดังนี้
เส้นทางแมกไม้สายธาร
เส้นทางศิลปะถ้ำ
เส้นทางทุ่งดอกไม้ป่าตามรอยเสด็จ
|
|
กิจกรรม :
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
|
|
เสาเฉลียงผาแต้ม เมื่อ
ประมาณ 4,600 ล้านปี ที่ผ่านมา ซึ่งนักดาราศาสตร์
สันนิษฐานว่าเกิดจากการรวมตัวของ กลุ่มก๊าซในอวกาศ
ด้วยความกดดันที่สูงมาก
และเกิดพลังงานความร้อนมหาศาลจนมวลสารที่รวมตัวกันหลอมละลาย
ซึ่งใช้เวลานับล้านปี จึงเย็นตัวลงเป็นเปลือกโลก
แต่ว่าสภาพบรรยากาศที่ปกคลุมโลกอยู่
เต็มไปด้วยก๊าซชนิดต่าง สภาพลมฟ้าอากาศแปรปรวน
ก๊าซที่ปกคลุมผิวโลกอยู่รวมตัวกัน ความหนาแน่นมากขึ้น
จนกลั่นตัวลงมาเป็นฝนนานนับหมื่นปี
เมื่อสิ้นสุดฝนในครั้งนั้น โลกก็เย็นตัวลง มากขึ้น
เกิดผืนน้ำ แม่น้ำลำธารมากมาย
เกิดการกัดเซาะพังทลายของเปลือกโลก (กษัยการ)
เกิดวัฏจักรของหิน ต่อมาเมื่อประมาณ 3,500 ล้านปี
ที่ผ่านมา จึงกำเนิดชีวิตแรกในท้องน้ำ เป็นสิ่งมีชีวิต
เซลล์เดียว ประเภท โปรคารีโอต ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของพืช
และสัตว์ทุกชนิด ตามสายวิวัฒนาการ
เสาเฉลียง.
เป็นประติมากรรมหินทรายที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเป็นหน่วยหิน
ภูพาน ที่เกิดขึ้นในยุค ครีเตเชียส (Cretaceous Period)
เมื่อประมาณ 130 ล้านปี เสาเฉลียงประกอบด้วย หินสองส่วน
หินทรายต้นถึงกลางยุค
หินส่วนบนเกิดจากการสะสมตะกอนของหินทราย
ช่วงปลายยุคครีเตเชียส
โดยผ่านกระบวนการการกัดกร่อนทางธรรมชาติที่ยาวนานหลายล้านปี
อันมีสาเหตุมาจากกระแสน้ำ แรงลม และ
ความแปรปรวนของลมหลายล้านปีอันมีสาเหตุมาจากกระแสน้ำ
แรงลมและความแปรปรวนของลมฟ้าอากาศ
กระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของเปลือกโลกครั้งสำคัญ(การเคลื่อนตัว
การโก่งตัว และการทรุดตัว )
เป็นผลให้เกิดการกัดกร่อนของชั้นหินส่วนล่างที่เหลือจากการกัดกร่อนซ้อนอยู่
ในแนวดิ่ง
และหินส่วนบนที่เหลือจากการกัดกร่อนซ้อนอยู่ในแนวนอน
เมื่อมองดูหินทั้งสองส่วนประกอบด้วยความแตกต่างของช่วงเวลาการสะสมของหิน
ทรายที่ได้สร้างประติมากรรมหินทรายอันทรงคุณค่า
และน่าทึ่งไว้ให้เราได้ชื่นชม * หมายเหตุ เสาเฉลียง
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำสายลม
และแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี
มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น มีส่วนบนเป็น
แผ่นหินวางอยู่โดยไม่ติดกันมองดูคล้ายดอกเห็ดนับเป็นประติมากรรมชิ้นเอกของ
ธรรมชาติ
ชาวท้องถิ่นเรียกเสาหินลักษณะนี้ว่าเสาเฉลียงซึ่งแผลงมาจากคำว่าสะเลียง
เป็นภาษาส่วยหมายถึง เสาหินที่มีลักษณะแปลก นั่นเอง*
|
|
กิจกรรม :
เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ชมทิวทัศน์
|
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
|
ห้องน้ำ-ห้องสุขาชาย
มีห้องสุขาชายไว้บริการ
บริเวณด้านทิศตะวันออกของลานจอดรถ
ใต้อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ด้านหลังร้านอาหาร
และลานกางเต็นท์ |
|
ห้องน้ำ-ห้องสุขาหญิง
มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ
บริเวณด้านทิศตะวันออกของลานจอดรถ
ใต้อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ด้านหลังร้านอาหาร
และลานกางเต็นท์ |
|
ที่พักแรม/บ้านพัก
อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณตรงข้ามด่านเก็บค่าธรรมเนียม
และบริเวณหลังที่ทำการอุทยาน |
|
ที่จอดรถ
อุทยานแห่งชาติได้จัดลานจอดรถไว้ในบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
และตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ สามารถรองรับได้ประมาณ 500
คัน |
|
บริการอาหาร
มีร้านอาหาร จำนวน
6 ร้าน ไว้ให้บริการในบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
|
|
ร้านขายของที่ระลึก
อุทยาน
แห่งชาติผาแต้มมีพื้นทีบริการสินค้าที่ระลึก สินค้า 1
ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP )
และของแซบจากชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม |
|
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ก่อนที่จะไปพักผ่อนศึกษาธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ |
|
อื่นๆ
ที่
ทำการอุทยานแห่งชาติ ตั้งอยู้พื้นที่ส่วนกลาง
ท้องที่บ้านหนองผือน้อย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม
จ.อุบลราชธานี เป็นจุดรับบริการ ติดต่อราชการ
และติดต่องานด้านการท่องเที่ยว
พร้อมทั้งรับบริการด้านการจองที่พักบริการนักท่องเที่ยว
สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 045 - 318026
, 045 - 246332 โทรสาร 045 - 246333 ,045-318026 หรือ
E- Mail : phataem_3@hotmail.com |
|
เต็นท์
สามารถ เข้าพักได้
2 - 3 คน ปัจจุบันมีเต็นท์ให้บริการ 42 หลัง
อัตราค่าบริการ/เต็นท์ 150 บาท
ไม่เข้าระบบการจองออนไลน์ (สำรวจข้อมูล 17 กรกฎาคม
2552 ) |
|
เต็นท์
สารมารถเข้าพักได้
4- 5 คน มีเต็นท์ไว้บริการ จำนวน 7 หลัง
อัตราค่าบริการ 500 บาท ( ข้อมูล 1 พฤศจิกายน 2551 ) |
|
เต็นท์
สามารถ เข้าพักได้
4 - 6 คน ปัจจุบันมีเต็นท์ไว้บริการ จำนวน 13 เต็นท์
อัตราต่าบริการ/เต็นท์ 300 บาท สามารถเข้าจองในบระบบออนไลน์ได้
(สำรวจข้อมูล 17 กรกฎาคม2552 ) |
|
เต็นท์
สามารถ เข้าพักได้
3 - 6 คน ปัจจุบันมีเต็นท์ให้บริการ จำนวน 3 หลัง
อัตราค่าบริการ/เต็นท์ 225 บาท ไม่เข้าระบบจองออนไลน์
( สำรวจข้อมูล 17 กรกฎาคม 2552 ) |
|
เวทีกลางแจ้ง
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการจัดนิทรรศการ
การแสดงความสามารถ ในวันหยุด พิเศษ ช่วงเทศกาลต่างๆ |
|
ทางจักรยานศึกษาธรรมชาติ
นัก
ท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยตามและต้องการศึกษาธรรมชาติ
อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีไว้บริการเส้นทางจักรยานเสือภูเขา
แก่งมโนราห์ - ผาชะนะได รวมระยะทาง 15 กิโลเมตร |
|
ทางจักรยานศึกษาธรรมชาติ
นักท่องเที่ยวที่สนใจในผจญภัยตามเส้นทางจักรยานเสือภูเขา
อุทยานแห่งชาติ มีพร้อมให้บริการ |
|
ห้องประชุม
อุทยาน
แห่งชาติผาแต้มมีบริการห้องประชุมสัมนา
โดยนักท่องเที่ยว/หน่วยงานราชการ/หน่วยงานเอกชน
สามารถเข้าจองห้องประชุมได้ที่ www.dnp.go.th
ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
โดยคิดอัตราค่าบริการ |
|
จักรยานเสือภูเขา
อัตรา ค่าบริการ
50 บาท/ ชัวโมง ถ้าเกิน 1 ชั่วโมง คิดเป็นราคา 100 บาท
ปัจจุบันมีให้บริการ จำนวน 23 คัน (สำรวจข้อมูล 17
กรกฎาคม 2552) |
|