ปู๊น ๆ และแล้วก็ได้เวลานั่งรถไฟ ไปโอบหมอก หยอกสายลม ชมอารยธรรมกันอีกครั้ง กับทริปรถไฟ 15 เส้นทางหรรษา ซึ่งทริปนี้ดูเอเซียได้เข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ อย่างทริปไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต ซึ่งเป็นทริปสุดท้ายแล้วของโครงการ 15 เส้นทางหรรษา โดย ททท.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย(สนท.) เป็นผู้สนับสนุนและค่อยดูแลตลอดการเดินทางในครั้งนี้เลยค่ะ เอาเป็นว่าไปชมภาพบรรยากาศของการทัวร์อีสานในครั้งนี้ที่ดูเอเซียเก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันอย่างเช่นเคย ว่ามีอะไรบ้างที่สร้างความประทับใจในการเดินทางครั้งนี้ ตามดูเอเซียดอทคอมมาเลยจ้าทริปนี้เริ่มต้นออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 20.00 น. โดยขบวนน้องครึกครื้น ฯ พ่วงรถด่วนขบวนที่ 69 จุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือมุ่งหน้าสู่จังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงได้ค่ะ โดยเดินทางถึงขอนแก่นในตอนเช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง เวลา 07.00 น. เมื่อถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ทางคณะทัวร์ออกเดินทางต่อไปยัง จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วยรสบัตร 2 คันสถานที่แรกของทริปนี้คือการเดินทางไปสักการะพระธาตุยาคู ณ อำเภอกลมาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พระธาตุยาคูเป็นพระธาตุโบราณเก่าแก่ มีความเชื่อกันว่าถ้าใครได้มากราบสักการะ ชีวิตจะร่มเย็นเป็นสุข จากนั้นเดินทางกันต่อสู่พิพิธภัณฑ์สิรินธร สถานที่รวบรวมและจัดแสดงฟอสซิลที่ค้นพบจากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ซึ่งที่นี้มีซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มากกว่า 700 ชิ้นด้วยกัน(ประมาณ 7 ตัว) หลังจากนั้นแวะรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของพิพิธภัณฑ์สิรินธรเพื่อเติมพลังในการเดินทางสู่สถานที่ต่อไปจากนั้นเดินทางกันต่อไปยังจังหวัดสกลนคร เพื่อนมัสการพระธาตุเชิงชุม และสักการะหลวงพ่อองค์แสน พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร จากนั้นไปอิ่มบุญกันต่อกับการนมัสการพระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์สารีกธาตุรวม 7 องค์ เชื่อกันว่าผู้ไปนมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ “สัมฤทธิผลในการทำงาน” จากนั้นปิดท้ายวันแรกของการทำบุญไหว้พระธาตุ 4 เมือง ด้วยการแวะไปนมัสการพระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์
เข้าสู่การเดินทางทัวร์อีสานวันที่ 2 โดยทุกคนตื่นแต่เช้า ออกมาทำบุญและสักการะพระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ แวะว่าฝนจะตกฟ้าจะครึม ก็ทำอะไรชาวพุทธอย่างเราไม่ได้เลยค่ะ อิอิ หลังจากทำบุญให้จิตใจเบิกบานกันแล้ว ออกเดินทางกันต่อสู่ พิพิธภัณฑ์เมืองจวนผู้ว่าเก่าจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นจวนเก่าในสมัยอดีต ที่มีสไตล์แบบไทยผสมเวียดนาม ภายในมีประวัติความเป็นมาและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามมาอย่างช้านาน ไม่ว่าจะเป็นประเพณี วัฒนธรรม การค้าขาย รวมไปถึงสิ่งของต่าง ๆ หลังจากเต็มอิ่มกับประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครพนมแล้ว ออกเดินทางกันต่อสู่หมู่บ้านมิตรภาพไทย เวียดนาม เพื่อเข้าเยี่ยมชมบ้านลุงโฮ สถานที่ที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ อดีตผู้นำเวียดนาม ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ฯ และพำนักอยู่เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ในปี พ.ศ 2467 2474จากนั้นไปไหว้พระธาตุเสริมสิริมงคลกันต่อ ที่พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการพระธาตุมหาชัยจะได้อานิสงส์ทำให้ชีวิตพบแต่ชัยชนะ จากนั้นต่อด้วยการนัมสการพระธาตุศรีคูณ พระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร แล้วแวะเติมพลังกันที่ครัวนาแก แวะชิมอาหารอีสานกันซะหน่อย
เมื่ออิ่มหนำแล้ว พระธาตุต่อไปที่เราจะไปสักการะกันคือ พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันจันทร์ กราบนมัสการกันกลางสายฝนเลยทีเดียว เพราะฝนเริ่มตกหนัก แต่ก็ไม่ทำให้ชาวคณะที่มีใจรักในพระพุทธศาสนาอย่างเราล่าถอยไม่ค่ะ ต่อจากนั้นลุยฝนกันต่อไปนมัสการพระธาตุพนม พระธาตุประจำวันอาทิตย์ โดยเชื่อกันว่าหากใครที่ได้มาสักการะจะทำให้มีผู้คนเคารพนับถือค่ะ แล้วก็จบการเดินทางในวันที่ 2 วันนี้เข้าวัดเข้าวาจนอิ่มบุญอิ่มใจกันเลยทีเดียว
และก็เข้าสู่วันสุดท้ายของการทัวร์อีสาน ไหว้พระธาตุ 4 เมืองกันแล้วค่ะ เช้านี้ชาวคณะมีโอกาสได้นั่งสกายแลป ออกตะลุยในเมืองเพื่อเดินทางไปกราบไว้ศาลหลักเมืองประจำจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นออกเดินจทางไปชมความมหัศจรรรย์ของธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ เพื่อชมประติมากรรมหินรูปทรงแปลกตาแล้วแต่ตามจินตนาการของทุกคน ซึ่งหินทุกก้อนที่ตั้งโผล่ขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากฝีมือของธรรมชาติทั้งนั้นเลยค่ะ นับว่ามหัศจรรย์มาก ๆ และวันนี้ฟ้าเปิดซะด้วยทำให้พี่ ๆ ชาวคณะทั้งหลายเก็บภาพสวย ๆ กันไปเป็นที่ระลึกอย่างสนุกสนาน
เมื่อเต็มอิ่มกับธรรมชาติแล้ว เดินทางกันต่อไปสู่ จ.ขอนแก่น โดยระหว่างทาง แวะสักการะและชมความยิ่งใหญ่ของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล พระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน บนยอดผาน้ำย้อย ขอบอกว่าสวยงามยิ่งใหญ่จริง ๆ ค่ะ
เมื่อถึงขอนแก่นแวะสักการะวัดเจติยภูมิเพื่อกราบนมัสการพระธาตุขามแก่นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “เมืองขอนแก่น” อานิสงส์ที่จะได้รับคือ “เรื่องร้ายจะกลายเป็นดีดุจดังแก่นขามตายแล้วฟื้น รักยั่งยืน โรคภัยไม่มี หลีกลี้ห่างหาย” จากนั้นออกเดินทางไปยังสถานที่สุดท้ายแล้วของทริปนี้ ที่บึงแก่นนคร เพื่อกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระมหาธาตุแก่นนคร (เจดีย์ 9 ชั้น) อานิสงส์ที่จะได้รับคือ “ก้าวหน้ารุ่งเรือง สักการะพระธาตุ 9 ชั้น ก้าวหน้ารุ่งเรืองเปรียบดังบูชาองคืสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์” จากนั้นเดินทางสู่สถานีรถไฟขอนแก่นเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพค่ะจบแล้วค่ะกับทริปไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง ขอบอกว่าอิ่มบุญ อิ่มใจมาก ๆ เพราะนับว่าหาได้อยากมากที่การมาอีสานครั้งเดียวแล้วจะมีโอกาสได้สักการะองค์พระธาตุสำคัญ ๆ ได้ครบขนาดนี้ จัดว่าเป็นทริปที่ดีอีกทริปหนึ่งเลยค่ะ ได้ทั้งนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และยังได้ความรู้จากโบราณสถานต่าง ๆ จากภาคอีสานนับง่าคุ้มค่ามาก ๆ ยังไงก็ต้องขอบคุณทาง ททท.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย(สนท.) ที่จัดทริปดี ๆ แบบนี้ให้กับชาวพุทธที่มีใจศรัทธาในพระพุทธศาสนา แม้ว่าทริปนี้จะมีอุปสรรคในเรื่องของฝนฟ้าที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ แต่เราชาวพุทธก็ไม่หวั่นค่ะ