พระธาตุช่อแฮ-พระธาตุจอมแจ้ง
พระธาตุช่อแฮ
- พระธาตุจอมแจ้ง
พระธาตุช่อแฮ ซึ่งอยู่ที่อำเภอเมือง ฯ จังหวัดแพร่ นั้นชื่อเสียงโด่งดัง รู้จักกันไปทั่ว
แต่องค์พระธาตุจอมแจ้งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน และเกิดก่อนพระธาตุช่อแฮ คนมักจะไม่รู้จักผมเลยรวมเอามาเล่าให้ฟังเสียทีเดียว
จังหวัดแพร่อยู่ภาคเหนือ ต่อจากแพร่คือจังหวัดน่าน ถ้าต่ออีกทีก็หลุดเข้าประเทศลาวไปเลย
ซึ่งแผ่นดินที่เชื่อมต่อกับลาวนั้น เมื่อข้ามโขงไปแล้วก็จะไปตรงกับเมืองหลวงพระบาง
การเดินทางไปจังหวัดแพร่ไปได้หลายเส้นทาง คราวนี้ผมไปตามเส้นทางนี้คือ จากกรุงเทพ
ฯ ไปยังนครสวรรค์แล้วตัดออกไปอีก
๑๒๙ กิโลเมตร ก็จะถึงจังหวัดพิษณุโลก
เส้นทางนี้กำลังขยายเป็นถนนสี่เลนคงจะอีก ๒ - ๔ ปีกว่าจะเสร็จ ที่พิษณุโลกแวะกินอาหารกลางวันเป็นประเภทบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมไพลิน
อาหารดีราคาไม่แพง ต่อจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัยที่อยู่ห่างออกไปอีก
๖๐ กิโลเมตร ไปพักที่โรงแรมไพลิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสุโขทัยเมืองเก่า ไม่มีโอกาสแวะชิมก๋วยเตี่ยวสุโขทัย
"ตาปุ้ย" ซึ่งร้านตาปุ้ยนี้หากไปจากตัวเมืองสุโขทัย มุ่งหน้าไปทางสุโขทัยเมืองเก่าที่อยู่ห่างออกไปเพียง
๑๒ กิโลเมตร พอผ่านปั๊ม ปตท. ทางขวามือก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวตาปุ้ย อยู่เยื้องกันทางฝั่งซ้ายมือ
ขายก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยอร่อยนัก ขายตั้งแต่สาย ๆ ไปจนบ่ายก็หมดแล้ว และหากคนแยะจะสั่งขนมจีนแกงต่าง
ๆ มาชิมเสียก่อนก็ได้ ขนมไทย ๆ ก็มีให้ชิม
ที่สุโขทัยเมืองเก่า
เที่ยวชมเมืองเก่าด้วยวิธีการขึ้นรถที่ทำรูปร่างหน้าตาเหมือนรถรางสมัยก่อนของกรุงเทพ
ฯ หรือที่ลพบุรี (จังหวัดเดียวที่มีรถราง ๑ สาย ไม่น่าเลิกเสีย) แต่ใช้เครื่องยนต์
เก็บค่าโดยสารคนละ ๒๐ บาท มีสาวนักเรียนเป็นคนขับ มีสาวไกด์คอยอธิบาย ใช้เวลาในเมืองเก่าประมาณครึ่งชั่วโมง
ก็จบรายการพามาที่เดิมหรือลงเสียที่หน้าราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง
พักที่โรงแรมไพลิน ๑ คืน พอรุ่งขึ้นเช้าก็ไปศาลแม่ย่า ที่อยู่หน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย
ศาลนี้ต้องไปให้ได้เพราะเชิญพระวิญญาณของแม่นางเสือง พระมารดาของพ่อขุนรามคำแหงและเชิญพระวิญญาณของพ่อขุนรามคำแหง
ให้สิงสถิตอยู่ ณ ศาลนี้สร้างศาลไว้งดงาม
จากสุโขทัย ขึ้นเหนือต่อไปทางอำเภอสวรรค์โลก
อำเภอศรีสัชนาลัย แต่ไม่มีโอกาสแวะเข้าไปยัง
ศรีสัชนาลัยเมืองเก่า คงแวะที่ตลาดศรีสัชนาลัย เพื่อชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทองและแวะซื้อผ้ากัน
จากศรีสัชนาลัย เดินทางต่อไปจนกระทั่งถึงสามแยก หากเลี้ยวซ้ายจะไปลำปาง หากตรงต่อไปก็จะไปผ่านเด่นชัย
และเมื่อผ่านสามแยกที่บอกว่า เลี้ยวซ้ายไปลำปางได้หน่อยเดียว หากมีเวลาอย่าข้ามไปเป็นอันขาด
เพราะวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีอยู่ทางขวามือ เป็นวัดที่แม้จะสร้างขึ้นใหม่ไม่ถึง
๒๐ ปีกระมัง แต่สร้างได้สวยงามเหลือเกิน โดยเฉพาะองค์พระธาตุนั้นเล่าว่าจำลองตามแบบรูปพระธาตุเจดีย์ชเวดากองของพม่ามาเลยทีเดียว
ตอนเช้าแสงแดดจับองค์พระธาตุเป็นสีทองจะงดงามมาก ในอุโบสถก็สวย มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
มีพิพิธภัณฑ์สร้างแบบล้านนาด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ท่านเจ้าอาวาสเป็นพระหนุ่มแต่มีความรู้สูง
จึงสามารถสร้างวัดนี้ขึ้นมาได้และเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกมาตราบเท่าทุกวันนี้ และท่านยังมีฝีมือในการปั้นพระพุทธรูปได้เองอีกด้วย
ผ่านวัดพระธาตุไปแล้วก็จะถึงสามแยกที่หากเลี้ยวขวาไป จังหวัดอุตรดิตถ์มาพิษณุโลกได้
เป็นเส้นตรงที่จะมายังแพร่ แต่ที่ผมมานั้นอ้อมมาเพราะจะไปสุโขทัยกันก่อน หากจะตรงมายังแพร่เลยก็สามารถมาจากพิษณุโลก
มาผ่านอุตรดิตถ์มายังแพร่ได้โดยจะผ่านเด่นชัยก่อน
อาหารชวนชิมของผมวันนี้คือมื้อเที่ยงที่เด่นชัยนี่แหละ จึงขอพาชิมอาหารก่อนที่จะเลยไปนมัสการองค์พระธาตุจอมแจ้ง
และพระธาตุช่อแฮ
สวนอาหารไซทอง อยู่ห่างจากสามแยกเด่นชัยไปทางตัวจังหวัดแพร่ ประมาณ ๕๐๐ เมตร
อยู่ทางขวามือสวนอาหาร หัตถกรรมเกวียนเก่า และมีหนังสือตัวโต ๆ บอกไว้ว่าไส้กรอกย่างเตาดิน
ให้เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย ที่จอดรถกว้างขวาง ศาลาอาหารยิ่งกว้างขวางมากเป็นศาลาไม้สักเก่าทั้งหลัง
หลังคาเป็นกระเบื้องไม้ มีเกวียนเก่า เรือเก่า เครื่องไม้เก่า ๆ อยู่มากมาย
เป็นร้านอาหารแบบบริการด้วยตนเอง ไปดูเมนูที่อยู่ใกล้ ๆ เตาย่างไส้กรอกแล้วสั่งอาหารที่โต๊ะใกล้ ๆ กัน
ถือใบสั่งไปรออีกโต๊ะหนึ่งใกล้ ๆ กัน พอถึงคิวของเราตามเลขหมายในใบสั่งเขาก็ให้เราจ่ายเงิน
ยกไปหาที่นั่งกินเอาเอง มีโต๊ะมากมายหลายสิบโต๊ะนั่งสบาย เย็นสบายไม่ต้องใช้พัดลม
มีก๊อกน้ำล้างมือพร้อม แต่ตอนสั่งอาหารกะให้ดี สั่งให้พร้อมทั้งอาหารและน้ำ
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินมาสั่งใหม่ มาต่อคิวกันใหม่
ไส้อั่ว หรือไส้กรอกปิ้งเตาดิน รายการนี้ต้องสั่ง เขาจะหั่นเฉียงใส่จานมาให้
ขอบจานจะวางมาเขือเทศและผักกาดหอม ถือเป็นจานทีเด็ดของเขา "ไส้อั่ว" ผมยกย่องอยู่
๓ เจ้าคือ เจ้าไซทองนี้,เจ้าที่อยู่ติดกับโรงรับจำนำอำเภอเมืองพะเยา และเรือนคำอิน
ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ซอยตรงข้ามวัดเจ็ดยอด ยกให้อยู่ ๓ เจ้า เจ้าอื่น ๆ ต้องขออภัยที่ยังไม่ได้ไปชิม
หรือที่ชิมแล้วก็ยังไม่ถูกใจเท่า ๓ เจ้านี้
ไก่ย่าง สีน่ากินตั้งแต่มองเห็นยังไม่ทันชิม สีเกรียม นุ่ม เวลาเคี้ยวเพลินหมดคำไม่รู้ตัว
ให้ถือเกณฑ์ ๒ คนต่อไก่ครึ่งตัว สั่งมากกว่านี้เดี๋ยวไก่เต็มท้องไม่ได้ชิมอย่างอื่นกัน
ลาบหมู ลาบหมูสุก ลาบที่นี่ไม่เผ็ดด้วย และลาบเมืองแพร่นั้นจะใส่เมล็ดมะแกว่นทำให้หอมดับกลิ่นคาว
แกงแค ใส่ชามมาร้อนโฉ่เลยทีเดียว กินอาหารร้านนี้จะได้รับความทรมานอยู่ตอนหนึ่ง
คือตอนไปรออาหาร ตอนที่จะจ่ายเงิน อาหารของคนอื่นเขาจะทยอยมาตามลำดับ ทั้งกลิ่นหอมและสีที่ชวนมอง
จำทำให้ลูกกระเดือกของเราวิ่งรอกได้
ยังมีอาหารอีกแยะที่น่าสั่ง ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่มา เช่นมี พริกหนุ่ม แคบหมู
ห่อหมกใบตอง แหนมห่อใบตองปิ้ง และต้องไม่ลืมสั่งข้าวนึ่ง หรือข้าวเหนียวมาด้วยคนละกะติ๊บนั่นแหละกำลังดี
อิ่มแล้วจึงออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองแพร่
ก่อนถึงตัวเมืองจะผ่านบ้านไม้สักใหญ่โต เฉพาะเสาไม้สักต้นใหญ่ ๆ คงจะมีถึงร้อยต้น
ชื่อว่าบ้านเพื่อนฝูงอยู่ตรงกิโลเมตร ๑๒๐ อีกแห่งชื่อบ้านประทับใจ มีเสา ๑๒๐
ต้น เลยเมืองไป ๑๐ กิโลเมตร
เข้าเมืองแพร่แล้วก็วิ่งตรงต่อไปทางจะไปยังจังหวัดน่าน
โดยไปตามถนนอ้อมเมือง เมื่อผ่านตัวเมืองไปแล้วมี ๔ แยก หากเลี้ยวซ้ายก็กลับเข้าเมือง
หากเลี้ยวขวาจะมาทางอำเภอร้องกวาง
ไปทางจะไปอำเภอร้องกวาง ๙ กิโลเมตร จะถึงทางแยกเข้าองค์พระธาตุ
พระธาตุจอมแจ้ง เมื่อถึงเชิงดอยพระธาตุช่อแฮ จะมีถนนแยกขวา ให้เลี้ยวขวาไปอีก
๒ กิโลเมตร เพื่อไปพระธาตุจอมแจ้งก่อน แล้วจึงกลับมานมัสการพระธาตุช่อแฮ
|
วัดพระธาตุจอมแจ้ง
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า พระธาตุจอมแจ้งหรือจวนแจ้งนี้ พระพุทธองค์เสด็จมาโปรดสัตว์ถึงที่ดอย
ซึ่งเป็นดอยที่ไม่สูง และทอดพระเนตรเห็นทุกทิศสว่างไสวสมควรเป็นที่ตั้ง แห่งพระพุทธศาสนาต่อไป
และขณะนั้นเป็นเวลาใกล้รุ่งแล้ว พระพุทธองค์ทอดพระเนตร เพื่อหาแหล่งน้ำมาสรงพระพักตร์แต่ไม่มี
จึงทรงอธิษฐานให้ได้น้ำแล้วใช้พระหัตถ์ขวาเจาะบ่อลงไปบนภูเขาลูกนี้ ด้วยอานุภาพของพระพุทธองค์
น้ำใสสะอาดบริสุทธิ์จึงเกิดขึ้นในบ่อนั้น และยังปรากฏอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้
เรียกว่าบ่อน้ำทิพย์ อยู่ในบริเวณวัดพระธาตุจอมแจ้งนี้เอง
เมื่อมีพระพุทธดำรัสว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่รื่นรมย์ยินดีสมควร เป็นที่ตั้งแห่งพุทธศาสนาสืบต่อไป
พระอานนท์เถระจึงทูลขอพระเกศาธาตุ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ประทานด้วยการลูบพระเศียร
ได้พระเกศาธาตุมา ๒ เส้น
มีเรื่องเล่ากันต่อ ๆ มาอีกว่า พระมหาธรรมราชาตั้งแต่ยังทรงเป็นอุปราชเมืองสุโขทัย
พระราชบิดาได้ให้ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ได้มาบูรณะพระธาตุจอมแจ้ง ซึ่งมีเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุไว้องค์หนึ่ง
เมื่อ พ.ศ. ๑๘๐๐ เศษ ซึ่งแสดงว่าพระธาตุจอมแจ้งได้สร้างไว้ก่อนแล้วจึงมีการบูรณะ
และได้มอบให้ขุนลัะก๊อมออกสำรวจภูมิประเทศ เพื่อสร้างพระธาตุอีกแห่ง
ขุนลัะก๊อม ขึ้นไปยืนบนภูเขาลูกหนึ่งมองเห็น"โกสียธซัคบรรพต"
เป็นทำเลที่ดีจึงสร้างพระธาตุช่อแฮ
นำพระเกศาธาตุอีกองค์หนึ่งมาบรรจุไว้ที่พระธาตุช่อแฮ และกลับไปยังดอยที่ยืนมองเห็น
"โกสียธชัคบรรพต" สร้างพระธาตุขึ้นอีกองค์หนึ่งชื่อว่า พระธาตุดอยเล็ง |
แต่ประชาชนมักจะนิยมไปนมัสการพระธาตุช่อแฮมากกว่าไปพระธาตุจอมแจ้ง หากให้วิเคราะห์น่าจะวิเคราะห์ได้ว่า พระธาตุช่อแฮอยู่บนดอยสูงเด่นเป็นสง่า
และถึงก่อนพระธาตุจอมแจ้ง การเตรียมการเพื่อให้ประชาชนมานมัสการต่างกัน พระธาตุช่อแฮดีกว่า
การพัฒนาสถานที่ต่างกัน ทั้ง ๆ ที่พิพิธภัณฑ์ของแพร่ก็อยู่ที่นี่ บ่อน้ำทิพย์ก็อยู่
หากวัดพระธาตุจอมแจ้งได้เตรียมการรับประชาชนให้ดีกว่านี้ รวมทั้งทางจังหวัดและการท่องเที่ยวได้ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
ให้คนรู้จัก ไปนมัสการพระธาตุช่อแฮแล้วให้ไปนมัสการพระธาตุจอมแจ้งด้วย ประชาชนก็จะได้บุญกุศลในการเดินทางมานมัสการพระธาตุสำคัญของเมืองแพร่มากขึ้น
จังหวัดแพร่ มีองค์พระธาตุและวัดสำคัญอีกหลายแห่ง เช่น
พระธาตุพระลอ บ้านเวียงพระลอ อำเภอสอง
หรือพระธาตุนิมลัม
พระธาตุดอนคำ
วัดห้วยอ้อ ตำบลห้วยอ้อ อำเภอสอง
พระธาตุวัดพระลวง
อำเภอสูงเม่น
พระธาตุวัดศรีชุม,วัดหัวช่วง อยู่ในเขตอำเภอเมือง ฯ
รวมทั้งวัดสำคัญอีกวัดคือ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อยู่กลางเมืองแพร่
ซึ่งวัดนี้สร้างขึ้นสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นที่ประดิษฐานพระคู่บ้านคู่เมืองแพร่
คือ พระพุทธโกศัย ศิริชัยมหาศากยมุนี
มีรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระเจดีย์มิ่งเมืองซึ่งเป็นพระเจดีย์เก่าแก่
วัดจอมสวรรค์ อยู่ถนนยันตรกิจโกศล
ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นวัดไทยใหญ่ สร้างแบบศิลปะพม่า
(น่าจะเป็นศิลปะของไทยใหญ่เอง) ตัวอารามเป็นไม้ล้วน เป็นทั้งโบสถ์วิหารและกุฎิไปในตัว
ภายในมีศิลปะการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ด้วยฝีมือการฉลุไม้ประดับกระจกสีงดงาม
โบราณวัตถุในวัดได้แก่ "หลวงพ่อลาน"
พระพุทธรูปที่สร้างโดยใช้ไม่ไผ่สานเป็นองค์ แล้วลงรักปิดทอง พระพุทธรูปงาช้าง
ซึ่งเป็นศิลปะแบบพม่า คัมภีร์งาช้าง จารึกเป็นตัวอักษรพม่า และบุษบกใส่พระพุทธรูปหินอ่อน
วัดสระบ่อแก้ว ตั้งอยู่ริมถนนน้ำ
คูเมือง เป็นวัดศิลปะพม่าที่สวยแปลกตา มีพระพุทธรูปหินอ่อนแบบพม่า
วัดหลวง ตั้งอยู่ที่ถนนคำลือซอย
๑ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองแพร่ที่เก่าแก่ที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อม
ๆ เมืองแพร่ สิ่งสำคัญภายในวัดคือ พระธาตุหลวงไชยช้างค้ำ
พระเจดีย์ศิลปะเชียงแสน พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปเก่าแก่อายุร่วม ๕๐๐ ปี คุ้มพระลอซึ่งเป็นการจัดแสดงตัวอย่างบ้านแบบล้านนาโบราณ
ซึ่งจะเปิดให้ชมเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และหอวัฒนธรรมจังหวัดแพร่
วัดพระนอน อยู่ใกล้วัดหลวง เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง
มีพระนอนองค์ใหญ่ในวิหาร และหน้าบันวิหาร เป็นศิลปะลวดลายการแกะสลักแบบล้านนาไทยที่งดงามมาก
แพะเมืองผี อย่าไปกลัวว่าไปแล้วจะไปเจอผีแพะ
แพะแปลว่าป่าละเมาะ เมืองผีหมายถึง สถานที่สงบเงียบ การไปแพะเมืองผีนั้น เมื่อกลับจากนมัสการพระธาตุช่อแฮแล้ว
กลับมาขึ้นถนนใหญ่ บ่ายหน้ามาทางจังหวัดน่าน หรือทางอำเภอร้องกวาง ประมาณ
๙ กิโลเมตร จะมีป้ายบอกให้แยกขวาไปประมาณ ๓ กิโลเมตร แล้วแยกขวาอีกทีไปอีกสัก
๒ กิโลเมตรเศษ ๆ ก็จะถึงวนอุทยานแพะเมืองผี
ซึ้งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของผิวโลก และการถล่มของดิน ส่วนที่เป็นดินที่แข็งตัวมากจะคงตัวอยู่มองดูคล้ายเสา
แต่รูปร่างแปลกมีสัก ๕ ต้น ตั้งโด่สูงขึ้นไป และที่เหมือนดอกเห็ดก็มี และมีอีกแห่งที่สวยงามเหมือนเสาหินคือที่
"ฮ่อมจ๊อม" จังหวัดน่าน
จากแพะเมืองผี กลับมาขึ้นถนนใหญ่ มุ่งหน้าไปทาง จังหวัดน่าน หรืออำเภอร้องกวาง ได้นิดเดียวจะเข้าเขตบ้านแม่หล่าย
ที่หมู่บ้านนี้ผมค้นพบขนมครกอร่อยขายอยู่ในเพิงที่ลึกเข้าไป ตั้งเตาขนมครกเต็มไปหมดคงนานร่วม
๒๐ ปีมาแล้ว และคนเมืองแพร่นิยมออกมาซื้อไปชิมเพราะหวานมัน เดี๋ยวนี้กลายเป็นหมู่บ้านใหญ่
ร้านขนมครกก็ใหญ่ตามไปด้วย ผมเคยเอามาเขียนชวนชิมไว้เมื่อร่วม ๒๐ ปีที่แล้ว
ขนมครกยังอร่อยเหมือนเดิมแต่พัฒนาใส่กล่องเสียสวยเทียว
|