|
|
|
|
|
|
|
|
www.dooasia.com >
มรดกไทย >
มรดกท่องเที่ยว
> เขาค้อถึงเพชรบูรณ์
จากเขาค้อถึงเพชรบูรณ์
จากเขาค้อถึงเพชรบูรณ์
ผมจะพาไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว ซึ่งทางวัดบอกว่าเป็นเจ้าแม่ที่สร้างขึ้นด้วยหยกสีขาว
มีขนาดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะใหญ่จริงหรือเปล่าผมไม่ทราบ แต่เท่าที่เห็นด้วยตาจากที่ผ่าน
ๆ มาก็น่าจะใหญ่จริง เพราะองค์นี้สร้างด้วยหยก และผมไม่ทราบว่ามีประเทศไหนอีกที่นำหยกมาสร้างเจ้าแม่กวนอิม
ก่อนที่จะไปยังเขาสมอแครง
ที่ตั้งของวัดราชคีรีหิรัญยาราม
ก็ติดตามเส้นทางของผมเสียก่อน ผมเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ผ่านสระบุรี ไปกินอาหารกลางวันที่เพชรบูรณ์
อยู่ในตัวเมือง หากจะแวะไปชิมที่ร้านนี้ พอวิ่งเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ให้ดูหลัก
กม. เอาไว้ อยู่กลางถนน พอถึงหลัก กม. ที่ ๓๒๒ มองทางขวาจะเห็นประตูนครบาลใหญ่โต
ให้วิ่งเลยมานิดหนึ่งถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวากลับรถ แล้วชิดซ้ายวิ่งเข้าประตูนครบาลไป
วิ่งตรงไปถึงวงเวียนนครบาลมีเสาตั้งโด่กลางวงเวียน ให้วิ่งตรงต่อไปตามถนนสันคูเมืองถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวาไปสัก
๑๐๐ เมตร ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ศาลาโปร่งโล่งดี ไปชิมไก่เขย่า ไม่ทราบว่าเขย่าอีท่าไหนอร่อยดี
ปลาทับทิมเจี๋ยน ปลาช่อนสามรสผัดตะไคร้หอม และลูกชิ้นปลากรายผัดฉ่า อิ่มแล้วไม่มีของหวานต้องวิ่งไปตามถนนสายหน้าร้านซึ่งชื่อถนนประชาสิทธิ์
ไปจนสุดสายตรงสามแยก ทางซ้ายมีร้านไอศกรีมทอด คอฟฟี่ ทู บี ติดกับโรงเรียนวัชรชัย
จากตัวเมืองเพชรบูรณ์วิ่งไปอีก ๑๒ กม. ถึงตำบลนางั่ว
เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาค้อ ถนนสายนี้ไปยังเขาค้อทางด้านนี้เวลากลางคืนจะมืดสนิท
ไม่มีไฟเลย แม้แต่ตอนที่ผ่านหมู่บ้านก็ยังไม่มีการปักเสาพาดสาย ติดตั้งไฟฟ้าริมถนน
ก็เลยเรียนท่านผู้ว่า ดิเรก ถึงฝั่ง ไว้ตรงนี้ด้วยว่าท่านหาทางปักเสา พาดสายให้มีไฟทางกับเขาบ้าง
เพราะหากขึ้นเขาค้อทางด้านแคมป์สน
คือ หากมาจากพิษณุโลก ตามถนนสาย ๑๒ พอถึง กม. ๑๐๐ จะมีทางแยกขวาขึ้นเขาค้อเรียกว่า
ขึ้นทางแคมป์สน เส้นนี้ชันน้อยกว่าทางนางั่ว สะดวกสำหรับผู้เดินทางจากพิษณุโลก
แต่ไกลสำหรับผู้มาทางจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่หากขึ้นในเวลากลางคืน สายนี้มีไฟทางจึงอยากให้สายที่ขึ้นจากนางั่วมีไฟทางบ้าง
หรือมีเป็นบางจุดก็ยังดี เพราะหนุ่ม สาวประเภทนอนเต้นท์มักขึ้นเขาค้อกันในเวลาเย็น
ค่ำ หากรถเสียขึ้นมาจะมืดมองไม่เห็นอะไรเลย มีไฟฟ้าเป็นเพื่อนบ้างก็ยังดี
และที่ขอฝากท่านไว้อีกเรื่องหนึ่ง หรือ ๒ เรื่องคือ บนเขาค้อแหล่งที่ควรจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งคือ
ที่อ่างเก็บน้ำรัตนัย
หากได้มีการตกแต่งขอบอ่างให้เป็นที่พักผ่อน หรือออกกำลังกายจะดียิ่ง แต่ต้องวางกฎเกณฑ์กันให้แน่นอนเคร่งครัด
มิฉะนั้นก็จะเป็นการทำเพื่อให้นักเลงกินเหล้า ที่อ้างว่าจะต้องหาบรรยากาศไปนั่งกินเหล้ากันริมอ่างเก็บน้ำ
ขั้นต่อไปก็แม่ค้า พ่อค้า ขายคนขี้เหล้า ก็จะตามมาพร้อมด้วยความสกปรกและไม่มีระเบียบ
สถานที่ท่องเที่ยวหลายสิบแห่งที่พลาดท่าให้แม่ค้าพ่อค้ามาขายอาหารเพื่อเอาใจลูกค้าแล้ว
ก็ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ณ จุดนั้นไป นักเลงสุราแท้ ๆ เขาไม่กระเสือกกระสนต้องหาที่ดื่มเหล้าให้มันพิสดาร
ขอให้มีเพื่อนดื่มที่ถูกใจ สำคัญต้องมีเหล้ากับแกล้มก็ไม่เท่าไร ไม่เชื่อขอให้ถาม
บก.สส.ของ ตต.ดูก็แล้วกัน ผมกับท่านดื่มกันใต้ต้นสาเกบ้านท่านมาตั้งแต่เมื่อ
๒๗ ปีที่แล้ว บรรยากาศก็ที่เดิมทำไมไปดื่มกันอยู่ได้ทุกวันเสาร์ ขอให้มีเพื่อนที่ถูกใจเถอะ
เป็นดวดกันได้ตลอดวัน ไม่เชื่อก็ถามพยานท่าน บก.ตต. ดูอีกคน
อีกเรื่องหนึ่งที่ขอฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ (ท่านที่กำลังเป็นใน
พ.ศ.๒๕๔๗) คือ ชาวเขาเผ่าม้ง เวลานี้เริ่มบุกรุกขึ้นสู่เขาค้อแล้ว
เดิมก็มีมากอยู่แล้ว ลองสำรวจสำมะโนครัวราษฎรอำเภอเขาค้อดูเถอะ จะเห็นว่าชาวเขาเผ่าม้งน่าจะมีร่วมครึ่งอำเภอหรือมากกว่านี้
มีรถกะบะขับ ชาวเราบนเขาค้อเสียอีกยังมีฐานะสู้เขาไม่ได้ เขาเริ่มใช้วิธีบุกรุกที่ค่อย
ๆ คืบเข้ามาแบบถ้ำกระบอกสระบุรี เช่นคนหนึ่งซื้อที่ดินแปลงใหญ่สัก ๑๐ ไร่
ซึ่งราคาไม่แพงเพราะที่ดินเขาค้อส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นที่ดิน "ภบท.๕"
(ภาษีบำรุงท้องที่) ซื้อขายกันง่ายไม่ต้องไปโอนยังที่ว่าการอำเภอ แค่กำนัน
ผู้ใหญ่บ้านเป็นพยานโอนกันได้แล้ว พอซื้อมาสัก ๑๐ ไร่ เขาก็จะซอยให้เป็นแปลงย่อย
แล้วให้พรรคพวกเขามาเช่าอาศัยอยู่ ต่อไปพรรคพวกที่มาเช่าอาศัยอยู่ในที่ดิน
๑๐ ไร่ นั้นก็ขยับฐานะเป็นเจ้าของที่ดินเอง ด้วยการแยกไปซื้อที่ดินแปลงที่ใกล้เคียงกัน
ไม่ขายก็โดนข่มขู่ เวลานี้พวกม้งถ้ำกระบอกเริ่มรุกเข้ามาอยู่ตรงเลย ขอบอ่างเก็บน้ำรัตนัยมาหน่อย
ไม่น้อยกว่า ๒๐๐ คนแล้ว และยอมอยู่กันอย่างยัดเยียดเพื่อให้ได้มาอยู่เสียก่อน
ต่อไปก็คงขยับขยายอย่างที่ผมบอก และเมื่อถึงวันนั้นอ่างเก็บน้ำรัตนัยของชาวเขาค้อ
แหล่งท่องเที่ยวที่ชาวเขาค้อเขาฝันไว้ว่าจะมีเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นชุมชนของม้งชาวเขาไป
ซึ่งเวลานี้ก็มีไปทั่วแล้ว ส่วนใหญ่กระจายกันอยู่ เว้นที่บ้านเล่าลือนั่นเป็นหมู่บ้านชาวม้งมานานแล้ว
และผมมีส่วนในการช่วยพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเล่าลือ
สมัยที่ผมยังรับราชการผมไปเขาค้อบ่อยเพื่อไปเยี่ยมบัณฑิตเกษตร ที่เกิดขึ้นด้วยความริเริ่มของ
ฯพณฯ องคมนตรี พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ สมัยที่ท่านเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบการต่อสู้เบ็ดเสร็จ
(โดยตำแหน่ง) โดยมีผมเป็นรองผู้อำนวยการ ผมจึงมาเขาค้อบ่อย ๆ และนำสิ่งของเครื่องใช้สอยที่ขาดแคลนมามอบให้ศูนย์
ฯ แห่งนี้ ยิ่งเวลาเด็กในศูนย์กว่า ๕๐ คน ยิ่งขาดแคลนมากขึ้น ได้การช่วยเหลือน้อยเต็มที
ใครไปเที่ยวเขาค้อมีเสื้อผ้าเด็กใช้แล้ว ข้าวสาร อาหารแห้งไปมอบให้ด้วย เลี้ยวซ้ายเข้าไปสัก
๑.๕ กม. ตรงป่ายที่อยู่ระหว่าง กม. ๑๕ - ๑๖ จะได้กุศลแรง
ที่ผมหาญกล้าไปเรียนท่านผู้ว่าเพชรบูรณ์ ท่านที่เป็นอยู่ในวันนี้ เพราะผมถือว่าท่านผู้ว่าเพชรบูรณ์วันนี้กับท่านผู้ว่า
ฯ ยะลา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๙ - ๒๕๓๐ เป็นสหายศึกของผม เป็นผู้มีส่วนอย่างสูงในการทำให้
"จคม." โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายามอบตัว เพราะตอนนั้นท่านผู้ว่า ฯ เป็นนายอำเภอเบตง
พวก จคม. สายรัสเซียสนับสนุนถูกฝ่ายทหารที่มีผมทำหน้าที่แม่ทัพ ส่วนหน้า กดดัน
ปิดล้อมมากเข้าอดอยากและลำบากมากเข้า (รบวิธีของผมไม่เปลืองกระสุน และสูญเสียกำลังพล)
ก็ไปติดต่อนายอำเภอเบตง นายอำเภอมารายงานท่านผู้ว่ายะลา ท่านผู้ว่ารายงานมายังผมตามสายงาน
กอ.รมน. วางแผนร่วมกันจน จคม. ๕๔๒ คน ออกมามอบตัวในวันเดียว เวลาเดียวกันคือ
วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐ เวลา ๐๘.๐๐ ที่ตำบลตาเนาะ แมเราะ อำเภอเบตง จ.ยะลา
จนสิ้นการสู้รบที่ทำกันมานานถึง ๒๖ ปี แม้ผมจะไม่ได้พบท่านผู้ว่าอีก หลังจากที่ผมย้ายมารับราชการในกรุงเทพ
ฯ แต่ก็ทราบข่าวของท่านเสมอ และดีใจที่ท่านย้ายจากรองผู้ว่านนทบุรี ๆ เป็นผู้ว่า
ฯ เพชรบูรณ์ ดีใจที่จะได้บอกท่าน เพราะท่านเป็นนักพัฒนา และทำงานรวดเร็ว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมือนท่านผู้ว่าระนอง
(๒๕๔๗) นั่นแหละทำงานแบบเดียวกัน อย่าเพิ่งรีบย้ายสองท่านนี้ไปไหนเสีย
ท่านขึ้นไปเขาค้อพอจะผ่านอำเภอ ทางขวามือจะมีศาลาชมวิวจะเห็นอ่างเก็บน้ำ และจุดนี้เกือบตลอดปีตอนเช้าจะมองเห็นทะเลหมอก
เกิดจากอ่างเก็บน้ำ แต่หากยืนที่ศาลาชมวิวแล้วเห็นกระท่อมบ้านของม้งที่ไม่มีระเบียง
จุดชมวิว ชมทะเลหมอกของเขาค้อจะหมดความหมายไป
ตอนขึ้นมาที่ถึงสี่แยกสะเดาะพง
ก่อนถึงตัวอำเภอสี่แยกนี้หากตรงไปก็จะไปยังโครงการพระราชดำริคือบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมเขาค้อ
ที่มีสินค้าจำหน่าย โดยเฉพาะน้ำแพชั่นฟรุ๊ท
ผลแพชั่นฟรุ๊ท เริ่มดังเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๑ ประมาณนี้ ผมว่าต่วยตูนมีส่วน เพราะผมก้มหน้าก้มตาเขียนเชียร์คุณประโยชน์ของแพชั่นฟรุ๊ทในต่วยตูน
เขียนจนตลาดรับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ไหว นายของผมท่านเลยคิดตั้งโรงงานทำน้ำผลไม้กระป๋อง
เรียกหุ้นจากราษฎรแล้วให้เขาเอาผลผลิตมาขายในราคาประกัน ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มพ่อค้า
นักธุรกิจใหญ่ ๆ หลายท่าน จึงสร้างสำเร็จด้วยเงินไม่เท่าไร ผมมีหุ้นหนึ่งหุ้น
ไม่มีปันผล หากท่านขึ้นไปถึงสี่แยกสะเดาะพงก็ตรงไปสัก ๑๐๐ เมตร ไปแวะซื้อสินค้าและดื่มน้ำผลไม้โดยเฉพาะน้ำแพชั่นฟรุ๊ทที่เดี๋ยวนี้บรรจุแก้วขนาดพร้อมดื่มแช่เย็นไว้
รับรองจะชื่นใจ เกิดพลังมหาศาลทีเดียว ผมไปก็ชื้อขนกลับมาเป็นลัง เอามาดื่มเพิ่มพลังเป็นประจำ
วิ่งต่อไปจะถึงทางขึ้นยอดเขาค้อ ซึ่งเมื่อขึ้นไปแล้วก็จะไปชมพิพิธภัณฑ์อาวุธ
ไปชมอนุสรณ์สถาน และตรงมุมขวาของทางเลี้ยวขึ้นยอดเขานี้มีศาลเจ้าพ่อเขาค้อ
นั่งหนวดยาวเป็นฤาษี ส่วนทางขวาของถนนก่อนเลี้ยวเข้ามาดอกไม้สวยมากคือหอสมุดนานาชาติ
ที่บริเวณด้านหน้าปลูกดอกไม้ไว้สวยจริง
ๆ และมีศาลรูปเหมือนของหลวงพ่อทบ มีพระบรมธาตุเจดีย์
ซึ่งได้พระบรมสารีริกธาตุมาจากลังกา
เลยต่อไปจนถึง กม. ๑๙ หลัก กม. บนเขาค้อเขานับกันคนละทาง ผมบอกหลัก กม. จะเห็นว่าสับสนมากแล้วทำไมลดลงอีก
ขอให้เอาหมายเลขที่หลักเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน
ถนนสาย ๒๑๙๖ จากแคมป์สน พอถึง กม. ๑๙ ก็คือวัดวิชมัย
และพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
ที่ผมเป็นผู้ริเริ่มในการก่อสร้างเอาไว้เมื่อ
พ.ศ.๒๕๓๔ และเป็นหัวหน้าคณะทำงาน แต่สร้างสำเร็จด้วยประธานก่อสร้างคือนายของผม
ท่าน พล.อ.พิจิตร กลุละวณิชย์ ตอนนี้กำลังซ่อมแซม ค่าก่อสร้างร่วม ๕๐ ล้านบาท
ไม่ทราบว่าบริษัทสร้างอย่างไร ไม่ถึง ๕ ปี น้ำรั่วซึมลงมาในห้องใต้ฐานพระบรมธาตุแล้ว
ไร่จันทร์แรม กม. ๑๕ อยู่เลยพระบรมธาตุไปประมาณ ๕ กม. ผมไปตรวจงานก่อสร้างศาล
๓ มหาราช เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วางแผนกับท่านเจ้าอาวาสว่าเราจะต้องสร้างศาลเทพ
ฯ จะทอดผ้าป่าในปี ๔๗ เสร็จแล้วผมก็มาพักมากินมานอนที่ไร่จันทร์แรม ซึ่งเป็นรีสอร์ทชั้นดี
อาหารชั้นยอด ราคาย่อมเยาว์ หากท่านไปแบบแพคเกจ คิดเพียงหัวละ ๖๐๐ บาท มีอาหารให้
๒ มื้อ เย็นกับเช้า ซดข้าวต้มเห็ดร้อน ๆ ก็คุ้มแล้ว จันทร์แรมคือบัณฑิตบนเขาค้อ
รุ่นที่ ๓ เป็นคนหนึ่งที่ประสาบความสำเร็จจากการที่เป็นบัณฑิตเกษตร ซึ่งจะต้องสัญญาว่าจะไม่รับราชการ
ไม่เป็นลูกจ้างใคร จึงสร้างตัวจากทำไร่ จากที่ดินที่โครงการจัดหาให้ จนได้เป็นเจ้าของรีสอร์ท
ร้านอาหาร และยังเป็นนายก อบต.เขาค้ออีกด้วย บัณฑิตเกษตรเหล่านี้ไม่ว่าที่เขาค้อหรือที่บุรีรัมย์
ฯ จะเรียก พล.อ.พิจิตร ฯ ว่าพ่อเสือ เรียกผมว่าพ่อโอภาส และผมยังติดต่อไปเยี่ยมไปเยียนอยู่ตลอดเวลา
ไร่จันทร์แรม ๐๕๖ ๗๒๘๑๕๐ - ๑ ไปครั้งหลังได้ชิมเห็ดหอม ผัดน้ำมันหอย ปลาทอดไร่จันทร์แรม
ผัดยอดผักแม้ว ตอนเช้าก็ข้าวต้มเห็ดหอม วิเศษนัก
ลงจากไร่จันทร์แรม จะไปพิษณุโลก แวะซื้อต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ จากเพิงขายข้างทาง
ราคาถูก เช่นกุหลาบพันปี ราคาเพียงกระถางละ
๑๕๐ บาท ซื้อฟักหอมเนื้อเหนียวหนึบ เก็บไว้ได้เป็นเดือนไม่ต้องเข้าตู้เย็น
อย่าเพิ่งปลอกเปลือกก็แล้วกัน แกงจืดอร่อยนัก
ถนนสาย ๑๒ จากปากทางขึ้นแคมป์สน กม. ๑๐๐ พอดี จะผ่านน้ำตกหลายแห่ง และน้ำตกจะอยู่ไม่ไกลจากถนนเลี้ยวเข้าไปชมได้
แต่วันที่ผมไปเริ่มเข้าแล้งแล้ว น้ำจึงน้อย เช่นน้ำตกปอย
เลี้ยวเข้าไป ๑ กม. มีลานหินรถวิ่งข้ามน้ำได้ น้ำตกคือน้ำในแม่น้ำเข็ก
มีอีกหลายน้ำตก อ่านป้ายดูข้างทางก็แล้วกัน น้ำตกแก่งโสภา
กม. ๗๑ น้ำตกปอย กม. ๕๙ - ๖๐ น้ำตกแก่งซอง กม. ๔๕ น้ำตกสกุโณทยาน
เป็นต้น
วิ่งมาจนถึงอำเภอวังทอง
ประมาณ กม. ๒๐ เลยต่อไปจนถึง กม. ๑๕ มาขวามือจะมีทางแยกขวาเข้าไปยังวัดราชคีรีหิรัญยาราม
ซึ่งอยู่บนยอดเขาสมอแครง
เขาเล็ก ๆ สูงเพียง ๒๓๗ เมตร แยกเข้าไป ๑.๕ กม. รถวิ่งขึ้นเขาได้สบาย เมื่อไปถึงวัดเลี้ยวเข้าไปจะพบ
.-
อุโบสถที่กำลังสร้างอยู่ทางขวามือ มีพระประธานประทับนั่งกลางแจ้ง
หน้าอุโบสถที่กำลังสร้าง มีหินก้อนใหญ่ สีขาว ปักป้ายไว้ว่าจะแกะสลักเป็นรูปเหมือนของสมเด็จพุฒาจารย์
(โต พรหมรังษี) แต่คงไม่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะตำแหน่งนี้ คุณสรพงษ์ ชาตรี
ไปสร้างไว้ที่ อ.ปากช่อง นครราชสีมาแล้ว ส่วนเจ้าแม่กวนอิมที่สร้างด้วยหยกนั้นอยู่ในวิหารแปดเหลี่ยม
เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีน้ำหยกขาวหนัก ๓ ตัน มาแกะสลักเป็นแจ้าแม่ตามต้นแบบที่มีอายุ
๑,๕๐๐ ปีแล้ว แกะสลักที่เมืองต้นแบบคือเมืองหางโจว ประเทศจีน แกะสลักแล้วจึงอัญเชิญมาเมืองไทยมาประดิษฐานไว้ที่วัดราชคีรี
ฯ เขาสมอแครง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ ภายในวิหารมีร้านขายเครื่องสักการบูชา และวัตถุมงคล
ผมเลยเช่าบูชาน้ำเต้ามาหนึ่งลูกจะได้เอามาแขวนเรียกเงินเรียกทองไว้ที่หน้าบ้าน
ส่วนวิธีบูชาเจ้าแม่นั้นก็ซื้อเครื่องบูชาและน้ำดื่มเขาใส่ถุงเอาไว้มี ๕ ขวด
เอาน้ำขวดไปถวายเจ้าแม่วางไว้ที่ขอบด้านหน้าท่าน จุดธูป จุดเทียนแล้วไปขอพรทางด้านหลังเจ้าแม่
พนมมืออธิษฐานขอพร ขอพรเสร็จแล้วหยิบน้ำ ๕ ขวดกลับไปบ้าน ๑ ขวด ถือว่าน้ำนั้นได้กลายเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว
น้ำที่นำกลับมาเขาให้เอามาดื่ม ไปผสมน้ำอาบก็ได้ ผู้ศรัทธาก็จะขอพรเช่นขอให้รวย
ขอให้หายเจ็บป่วย ขอลูก หรือระบุไปว่าขอบุตรชาย หญิง จะสมปรารถนา
หน้าวิหารเจ้าแม่ ยังมีศาลพระสังกัจจายน์
เขาให้ขอพรให้ร่ำรวย แล้วเอาเหรียญบาทใส่สะดือหลวงพ่อ แล้วจึงขอพร จบแล้วควักเอาเหรียญบาทกลับคืนมาเป็นก้นถุง
จะใส่สะดือหลวงพ่อกี่เหรียญก็ได้
จบแล้วออกจากวัดจะไปศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย ศาลเจ้าพ่อเสือ สำนักสงฆ์สระสองพี่น้อง
จุดชมวิว ก็วิ่งขึ้นเขาต่อไป ไม่ชัน รถเก๋งวิ่งขึ้นได้สบาย
จากวัดเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว ผมมาพักที่โรงแรม หากมาจากในตัวเมืองพิษณุโลก เลยปั้มน้ำมันเจตไปแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป
ที่พักดีมากร่มรื่น ลดราคาให้ข้าราชการ ๒๕% แถมอาหารเช้า จัดสัมมนายิ่งดี
หนีเที่ยวยาก ๐๕๕ ๒๒๐๙๙๙
จากโรมแรมที่พัก ผมวิ่งเข้าเมืองก่อน พอข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรแล้ว
ไปเลี้ยวขวาเพื่อไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ศาลที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนพิษณุโลกวิทยาคม
ซึ่งด้านหลังขวาของศาลได้งบประมาณมาปรับปรุง รื้อถอนปรับพื้นที่ซึ่งได้ค้นพบว่าตรงนี้คือที่ตั้งพระราชวังจันทร์
ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่ประทับในสมัยเป็นพระมหาอุปราช ทางรัฐบาลเห็นความสำคัญ เมื่อค้นพบแล้วก็ตั้งงบประมาณรื้อถอน
ปรับพื้นที่ ๙ ล้านบาทเศษ และจะตั้งงบประมาณอีก ๔๐๐ ล้านบาทเศษ เพื่อย้ายโรงเรียนพิษณุโลกออกไป
แต่ไม่ได้บอกว่าตั้งงบประมาณอีกเท่าไรเพื่อจะสร้างวังสนามจันทร์ให้ได้ ขอให้สร้างให้สำเร็จ
สร้างให้ใหญ่โตเท่าของจริงในอดีตเท่าที่จะหาหลักฐาน หรือจินตนาการออกมาได้
สร้างเพื่อมหาราชที่ยิ่งใหญ่ ที่ ๑๕ ปี แห่งการครองราชสมบัตินั้นทรงประทับนอนกลางดิน
เสวยกลางทราย รวมทั้งก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ น่าจะกว่าครึ่งชีวิตของพระองค์ท่านที่เสด็จสวรรคต
เมื่อพระชนม์มายุเพียง ๔๘ พรรษา
สักการะศาลสมเด็จ ฯ แล้ว ผมจะไปนมัสการพระพุทธชินราชทุกครั้ง
ปกติจะไปก่อนแล้วมาศาล แต่เดี๋ยวนี้เลี้ยวยากหากมาจากทางนอกเมือง เลยมาศาลก่อนแล้วกลับไปวัด
ผมเลยไปจอดนอกวัดด้านขวา หน้าวัดนางพญา กราบนมัสการแล้วออกมาที่วิหารด้านข้างขวาของพระอุโบสถ
"วิหารพระพุทธเจ้านิพพาน"
ในวิหารนี้มีหีบพระบรมศพ มีพระบาทโผล่พ้นหีบ มีพระมหากัสสปะ
นั่งปลายพระบาท ให้ไปไหว้แล้วอธิษฐานขอพร ผมไปวัดพระศรีมหาธาตุคงจะเกินร้อยก็พึ่งได้เห็นและได้เข้าไปนมัสการครั้งนี้
เพราะมองเห็นยาก แม่ค้าล้อมวิหารไว้หมด
ทีนี้ไปร้านอาการอิสลาม ไปได้หลายทาง ผมจะเอาเส้นทางที่หาง่ายกว่าเส้นทางอื่นคือ เมื่อมาจากวังทองจวนจะถึงตัวเมืองอยู่แล้วจะมีถนนแยกซ้าย
ถนนไปสนามบินสาย ๑๐๖๑ พอเลี้ยวเข้ามาจะผ่านบิ๊กซีทางซ้าย วิ่งต่อไปอยากจะตั้งชื่อว่าถนนข้าวต้มกลางคืน
เพราะทางขวาของถนนมีร้านข้าวต้มกลางคืนหลายร้าน วิ่งเรื่อยมาจนพบสี่แยก หากเลี้ยวซ้ายจะไปยังสนามบิน
หากเลี้ยวขวากลับหลังแล้วชิดซ้ายจะพบร้านข้าวต้มเหรียญบาท ชิมแล้วอร่อยดี
อาหารจานที่แพงที่สุด ๗๑ บาท จานที่ถูกที่สุดคือถั่วงอกผัด กับผักบุ้งผัด
ราคา ๑๑ บาท หากไม่เลี้ยว ตรงต่อไปประมาณ ๕๐๐ เมตร จะผ่านโรงแรมอู่ทอง จวนจะสุดถนนถึงทางแยก
ทางซ้ายมือมีป้ายใหญ่โตชื่อร้าน มีรถเข็นทำโรตีทำกันอยู่ที่หน้าร้าน
ผมหวิดถูกทำร้าย วันนี้ผมไม่ได้ลงไปชิม ร้านนี้ชิมกันมาหลายครั้งไม่เคยเขียน
วันนี้จะกลับเลยและอิ่มอาหารเช้ามาจากโรงแรมแล้ว ให้เลขา ฯ ประจำตัว ลงไปซื้อเพื่อเอากลับไปกินเป็นมื้อเย็นที่กรุงเทพ
ฯ ส่วนผมนั่งในรถเปิดกระจกเอากล้องมาซูมถ่ายภาพรถเข็นทำโรตี ถ่ายได้ ๒ - ๓
ภาพ มีชายร่างใหญ่ มีหนวด เดินข้ามถนนเอวตุงมายังรถของผม หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม
หน้าดุมาก มาถึงก็ตวาดถามว่า "ถ่ายรูปทำไม" ผมก็ชักโมโหตวาดกลับไปว่า "จะถ่ายรูปรถเข็นโรตีไม่ได้หรือ"
อ้ายร่างใหญ่ชักนิ่ง เลยบอกต่อว่าเป็นนักเขียนในคอลัมน์เที่ยวไปกินไป (ตอนนี้
บก.ฯ เติมนำหน้าว่าขับไปให้อีกคำ) ทีนี้อ้ายร่างใหญ่ชักหน้าเสีย เขาเลยบอกว่าพวกผมมานั่งกินกาแฟ
และปรึกษากันเพราะพวกเขาจะลงสมัครนายก อบจ. กันในวันที่ ๑๔ มี.ค.๔๗ นี้ เห็นถ่ายรูปนึกว่ารับจ้างมาถ่ายรูปเพื่อให้
"ยิง" ไม่ผิดตัว ก็เลยบอกเขาว่าผมไม่หาเรื่องติดคุกตอนอายุใกล้ร้อยหรอก แล้วก็บอกยศบอกชื่อจริงไป
ทีนี้ไหว้ไม่ยอมเลิก ขอโทษขอโพยอยู่นั่นแหละ ป่านนี้คงรู้ผลเลือก อบจ.ไปแล้ว
ไม่ทราบว่าได้ไหม เพราะตรงหน้ารถผมมีรถของพรรคที่เดินเอวตุงมาหาผมจอดอยู่
ไม่ทราบว่านักการเมืองท้องถิ่นสมัยนี้ต้องดุกันแบบนี้ เคราะห์ผมยังดีหากไอ้เอวตุงเดินมาถึงแล้วไม่ถามไม่ไถ่อะไร
ส่วนผมก็นั่งดูเขาเดินนึกว่าแฟนหนังสือจะมาทัก มาถึงลั่นโป้ง เข้าให้เจอเอาเวลาหลวงพ่อจำวัดพอดี
ผมก็เด็ดสะมอเร่เท่านั้นเอง
นั่งร้าน ที่ขายตั้งแต่เช้าไปยันบ่าย สั่งกาแฟหรือชาร้อนหอมกรุ่นมาจิบ อย่าซด
เพราะต้องสูดกลิ่นหอมเสียก่อนค่อยให้ลิ้นสัมผัส
สั่งโรตี เอามาจิ้มแกงต้องสั่งโรตีกรอบธรรมดา หากกินหวานสั้งใส่นมหรือโรตีกล้วยหอม
สั่งแกงกะหรี่มีเนื้อ / ไก่ อร่อยมากเอามาจิ้มด้วยโรตี หรือจะถึงขั้นสั่งข้าวสวยร้อน
ๆ มาสักจานก็ไม่ว่ากัน
สั่งมะตะบะมีทั้งเนื้อและไก่เช่นกัน จิ้มด้วยอาจาด อร่อยนัก
ตามด้วยข้าวหมกไก่ สีเหลืองนวลน่ากินนัก และหากดื่มได้ ให้ตามด้วยนมแพะบำรุงดีนักแล
.......................................................
|
เขาค้อถึงเพชรบูรณ์: ข้อมูลเขาค้อถึงเพชรบูรณ์ ท่องเที่ยวเขาค้อถึงเพชรบูรณ์ ข้อมูลเที่ยวเขาค้อถึงเพชรบูรณ์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|