ใครที่กำลังมองหาร้านกาแฟนั่งแช่แบบสบายๆ บรรยากาศงดงาม นั่งนานไม่โดนไล่ ดูเอเซีย.คอมมีร้านหนึ่งมานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อนๆที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแวะมาชิม มาแช่กันแล้วค่ะ ร้านที่ว่านี้มีนามว่า “ร้านวีวี่” ร้านกาแฟน่ารักๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วีวี่เป็นร้านกาแฟเล็กๆที่น่าจะถูกใจสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ประมาณว่าจิบกาแฟไป นั่งฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งไป ให้แสงแดดอุ่นๆร้อนๆมาเคลือบผิว มองดูเรือแล่นในแม่น้ำ ทั้งยังมีฉากหลังเป็นวัดเก่าแก่อันเลื่องชื่ออีก ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกินจริงเลย เพราะร้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับท่าเรือท่าเตียน หากมองจากด้านริมน้ำของทางร้าน ฝั่งตรงข้ามจะเห็นเป็นพระปรางของวัดอรุณราชวราราม วัดดังฝั่งธนบุรีอันเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ซึ่งมีแม่น้ำสายใหญ่อย่างเจ้าพระยาขั้นกลางอยู่ งานนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน พอเดินเข้ามาในร้าน ส่วนแรกจะเป็นลานเปิดโล่ง มีต้นไม้รายล้อมให้นั่งพักผ่อนกันไป เรียกว่าเป็นสวนหย่อมเล็กๆก็คงไม่ผิดนัก ในส่วนนี้ถูกจัดไว้ให้ลูกค้าที่สูบบุหรี่ แต่จะมองไม่เห็นแม่น้ำชัดสักเท่าใด แต่ด้วยสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ก็ช่วยให้สบายตาไปได้เยอะ เหมาะนักกับการนั่งอ่านหนังสือส่วนที่สองนั้นยกพื้นสูงขึ้นจากส่วนแรกเล็กน้อย ต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆขึ้นไป เมื่อขึ้นมาแล้วก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนอีกทีหนึ่ง คือส่วนที่เป็นห้องแอร์ ภายในจะเป็นที่สำหรับเคาเตอร์รับลูกค้า ใช้ในการชงเครื่องดื่ม ตักไอศกรีม จัดเตรียมของว่างไปในตัว สำหรับใครที่จะหลบแดด หลบร้อน ก็เข้ามานั่งในส่วนนี้ได้เลย รับรองเย็นฉ่ำ ทางร้านจะมีจุดบริการน้ำเปล่าให้ดื่มฟรี พร้อมทั้งหนังสือให้เลือกหยิบเลือกอ่านได้ฟรีๆเลยล่ะ ห้องน้ำก็อยู่ภายในนี้ กระซิบบอกนิดว่า ชอบห้องน้ำที่นี้ค่ะเพราะว่าห้องน้ำที่นี้สะอาดและมีกลิ่นของเครื่องหอมประเภทกำยาน อ่อนๆ รู้สึกว่าเหมือนอยู่ตามรีสอร์ท ตามสปาเลยทีเดียว อีกส่วนหนึ่งคือด้านนอกห้องแอร์ ลักษณะคล้ายกับเป็นระเบียงทางเดินเล็กๆ ด้านหนึ่งจะอยู่ติดกับสวนหย่อมในส่วนแรก อีกด้านหนึ่งถือเป็นไฮไลท์ของร้านนี้เลย เพราะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้คนจึงนิยมนั่งกันในโซนนี้ยามสายหรือยามเย็นที่แดดอ่อนลงแล้ว ส่วนตอนเที่ยงๆบ่ายๆมีแต่พวกต่างชาติทั้งนั้นที่นั่งชมวิวในจุดนี้ ส่วนพี่ไทยเราหลบเข้าห้องแอร์กันหมด ร้านวีวี่นี้เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. เปิดมา 6 ปีแล้ว ลูกค้าที่นี่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ วันที่ดูเอเซียแวะไปคนก็เจอต่างชาติเยอะเลย มีทั้งฝรั่งตาน้ำข้าว แขกก็มี เกาหลีก็มา ส่วนใหญ่ก็จะมาดื่มกาแฟ ถ่ายรูป คุยกันสักพัก นั่งอยู่ที่ร้านประมาณ 1-2ชั่วโมง ส่วนคนไทยนั้นเท่าที่สังเกตดู จะนั่งกินลม ดื่มกาแฟกันนาน นักเรียน นักศึกษานิยมมาอ่านหนังสือ ทำการบ้านกันที่นี่ มีเหมือนกันที่มาตั้งแต่เช้าแล้วอยู่ยันเย็น ดื่มกาแฟไปทั้งหมด 3 แก้ว เรื่องนั่งนานนี่ทางร้านเขาไม่ว่ากันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนอนไม่หลับนี่ทางร้านคงไม่เกี่ยว
เมนูที่นี่ก็จะเน้นไปที่กาแฟ ซึ่งมีหลากหลายประเภทตามสไตล์ให้เลือกดื่ม แต่ก็มีชื่อแปลกๆที่อดถามไม่ได้คือ “กาแฟคอนปาน่า” พอถามน้องๆในร้านดูแล้วจึงถึงบางอ้อ ว่าคอนปาน่าก็คือ กาแฟเอสเพรสโซ่ที่ใส่ วิปครีมนั่นเอง ส่วนคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ทางร้านแนะนำ “อิตาเลียนโซดา” พูดภาษาชาวบ้านก็คือน้ำหวานรสต่างๆผสมกับโซดานั่นแล ซึ่งรส บลู คูราโซ่ น้องเขาบอกว่าขายดิบขายดีค่ะ สำหรับผู้ที่กินเจก็มี “สมูทตี้เสาวรส” “สมูทตี้มิกเบอร์รี่”และ “สมูทตี้มะม่วง” ซึ่ง 3 เมนูนี้ไม่มีนมเป็นส่วนผสม ฉะนั้นสั่งมาทานได้หายห่วง เมนูชาที่นี่ก็มาไกลถึงศรีลังกา และอังกฤษ นอกเหนือจากเครื่องดื่มชา กาแฟ อิตาเลียนโซดา สมูทตี้ต่างๆแล้ว ก็ยังมี เค้ก พาย สลัด แซนวิช ครัวซอง และไอศกรีมอีกด้วย ราคาอยู่ในระดับปานกลาง ไม่สูงเกินไปสำหรับบรรยากาศภายในร้าน และการเลือกสรรวัตถุดิบค่ะหลังจากเดินสำรวจร้านและสอบถามเมนูจากทางร้านแล้ว ดูเอเซียจึงสั่งกาแฟคาราเมลลาเต้เย็นมา 1 และขนมเค้กมาอีก1 ตอนที่เราไปเค้กเหลืออยู่ไม่กี่อย่างจึงมีให้เลือกน้อยกว่าที่ขายอยู่ตามปกติ แต่น้องที่ร้านคะยั้นคะยอให้ลองชิม “โอริโอบานาน่าพาย” ที่เหลืออยู่ในตู้เพียงชิ้นเดียว เห็นเชิญชวนกันขนาดนี้มีหรือจะไม่เปลี่ยนใจ พอได้ลองชิมจึงนึกขอบคุณน้องที่แนะนำอยู่ในใจ เพราะรสชาตินั้นอร่อยเชียว ส่วนผสมก็มี 4 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างสุดเป็นโอริโอหักเป็นชิ้นเล็ก ราดคาราเมลทับ ตามมาด้วยกล้วย สุดท้ายโรยหน้าด้วยวิปครีม เมื่อทานกับคาราเมลลาเต้เย็นที่สั่งควบคู่กันไปด้วยนั้น จากที่เดินทางมาไกล หายเหนื่อยเลยค่ะสำหรับการเดินทางมาร้านนี้
หากโดยสารมาทางเรือด่วนเจ้าพระยาจากสาธร สามารถลงได้ที่ ท่าเตียน ผู้ใดมาจากท่าเรือวังหลัง ขึ้นเรือข้ามฟากมาได้โดยลงที่ ท่าช้าง แล้วเดินขึ้นมาทางท่าเตียนเรื่อยๆ ด้ายซ้ายมือจะเจอวัดโพธิ์ก่อน จึงจะเจอกับซอยปานสุข ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนตั้งตรงจิตพาณิชยาการ แต่ถ้าใครขี้เกียจเดินเรียก 3 ล้อได้เลยค่ะ จากท่าช้าง 20 บาทเท่านั้น ส่วนผู้ที่มาทางรถยนต์ตั้งต้นที่สะพานพุทธก็ได้ พอลงจากสะพุทธให้เลี้ยวซ้ายมาทางปากคลองตลาด จนถึงสถานีตำรวจพระราชวังให้ชิดซ้ายแล้วตรงมาเรื่อยๆ ด้านซ้ายมือจะพบกับซอยปานสุขพอดีค่ะ แต่อาจจะหาที่จอดรถยากหน่อย ต้องเข้าไปจอดในซอยวัดโพธิ์อีกที น้องๆเขาแนะนำว่าข้ามเรือมาท่าท่าเตียนสะดวกที่สุด
ขอบคุณภาพจาก VIVI The Coffee Place