ไหว้พระ วัดในรัชกาลที่ 4 เสริมเพิ่มสิริมงคลให้กับตัวทริปนี้ดูเอเซีย.คอม พามาไว้พระวัด ในรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี ที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งเป็นวัดที่เป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เป็นวัดก็ประกอบไปด้วยศิลปกรรม ที่ประณีตงดงาม ภายในพระวิหาร มีภาพจิตรกรรม ฝาผนังไม่เหมือนที่อื่น คือจะเป็นภาพเขียนเรื่องพระราชพิธีสิบสองเดือน มีพระพุทรูปศักดิ์สิทธิ์จำลองพระพุทธสิหิงค์ ให้เราได้กราบไหว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล เราเข้าไปทำบุญไหว้พระกันเลยครับ
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ข้างสวนสราญรมย์ เป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.2407 เพื่อเป็นวัดธรรมยุตินิกาย เพื่อให้เจ้านายและข้าราชการทั้งฝ่ายนอก และฝ่ายใน ได้บำเพ็ญกุศลกันได้สะดวกขึ้น เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังและทรงพระราชทานนามว่า วัดราชประดิษฐ์สถิตธรรมยุติการาม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เนื่องจากพระราชประเพณีโบราณกล่าวไว้ว่า ราชธานีไทยจะต้องมีวัดสำคัญอยู่ 3 วัด คือ วัดมหาธาตุ วัดราชประดิษฐ์ และวัดราชบุรณะต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นราชภาระปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถลงในกล่องศิลา นำไปบรรจุในพระพุทธอาสน์พระวิหาร ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างหอไตรข้างพระวิหารใหม่พร้อมทั้งสร้างหอพระจอมขึ้นอีกข้างหนึ่งเป็นคู่กัน หอทั้งสองมีลักษณะงามแปลกตา คือ เป็นแบบปราสาทยอดปรางค์
เราเข้าไปกราบไหว้บูชา พระประธานในวิหาร ภายในพระวิหารหลวงของวัดราชประดิษฐ์ซึ่งถือเป็นพระอุโบสถด้วยนั้น เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหังคปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้จำลองมาจาก พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่ง พุทไธสวรรค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระพุทธสิหิงค์ปฏิมากร หล่อด้วยโลหะ รัชกาลที่ 4 โปรดพุทธลักษณะและมีพระราชศรัทธาเป็นพิเศษ พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้าง 1 ศอก 6 นิ้ว สูง 1 ศอก 8 นิ้ว พระเกตุสูง 5 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีภายใต้บุษบก ภายในฐานองค์พระประดิษฐานพระบรมอัฐิส่วนหนึ่งของรัชกาลที่ 4 ที่ด้านหน้าขององค์พระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลองอีกองค์หนึ่งซึ่งมีขนาดย่อมลงมา และทางด้านซ้ายประดิษฐานพระพุทธชินสีห์จำลอง ส่วนทางด้านขวาประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของเมืองไทยเรา มีประชาชนเข้ามากราบไหว้จำนวนมากพอสมควรครับ ภายในวิหารสวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะ ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ไม่เหมือนวัดอื่นที่เคยเห็นมาครับ สวยงามวิจิตร จริง ๆเนื่องจากวัดราชประดิษฐ์เป็นวัดที่มีมหาสีมาล้อมรอบตรงกำแพงวัด ภายในวัดจึงไม่มีพระอุโบสถ หากแต่ใช้พระวิหารหลวงแทน พระวิหารหลวงเป็นอาคารทรงไทย มีมุขด้านหน้าและหลัง ผนังภายนอกประดับด้วยหินอ่อนสลับเป็นลวดลายสวยงาม หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสี ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา ซึ่งปิดทองประดับกระจกอย่างวิจิตรงดงาม ซุ้มประตูหน้าต่างทุกบานเป็นลายปูนปั้นลงรักปิดทอง ประดับกระจกสี เป็นรูปมงกุฎ ส่วนบานประตูและหน้าต่างสลักด้วยไม้สักเป็นลายก้านแย่งซ้อนกัน 2 ชั้น ปิดทองประดับกระจก เป็นพระวิหารที่ ทรงคุณค่าอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งงามด้วยศิลปกรรม ต่าง ๆ ของไทยครับภายในพระวิหารหลวงมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพเขียนด้วยสีฝุ่น เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งบูรณะปฏิสังขรณ์วัด แบ่งภาพเป็นสองตอน ตอนบนเป็นรูปเทวดาและนางฟ้าเหาะอยู่ตามกลีบเมฆ และทิพย์วิมาน ตอนล่างเป็นภาพพระราชพิธีสิบสองเดือนทั้งโล้ชิงช้า สงกรานต์ วิสาขบูชา ส่วนภาพที่ผนังด้านหน้าพระประธาน เป็นภาพรัชกาลที่ 4 ทรงส่องกล้องดูสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาพนี้จึงเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่บันทึกความทรงจำให้น้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ ภาพจิตรกรรมเขียนได้สวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่งครับหลังจากเรากราบไหว้พระประธานในวิหารแล้วเราก็ออกมาชม ปาสาณเจดีย์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ปาสาณเจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหารหลวง เป็นเจดีย์ทรงกลมฐานสี่เหลี่ยม ก่ออิฐถือปูน ภายนอกประดับด้วยกระเบื้องหินอ่อนทั้งองค์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ปาสาณเจดีย์ หมายถึง เจดีย์หิน ด้านหน้าของเจดีย์ประดิษฐานพระรูปหล่อด้วยสำริดของ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทว มหาเถระ) ในท่านั่งแสดงพระธรรมเทศนา เป็นเจดีย์สวยและแปลกตรงที่ประดับด้วยหินอ่อนด้านนอกน่าจะเป็นแห่งเดียวของไทยเรา องค์เจดีย์มีขนาดใหญ่ และสวยงามด้วยการตกแต่งติดกระเบื้องหินอ่อน ครับนอกจากองค์เจดีย์ที่สวยงามแล้ว ภายในบริเวณวัดยังมี สถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง เช่น พระพุทธนิรันตราย เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริดกะไหล่ทอง ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร เบื้องหลังมีซุ้มเรือนแก้วเป็นพุ่มมหาโพธิ์ ยอดเรือนแก้วเป็นรูปพระมหามงกุฎ ฐานรององค์พระเป็นที่สำหรับรับน้ำสรง มีท่อเป็นรูปศีรษะโค ซึ่งหมายถึง พระโคตมโคตร (พระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ตัวองค์พระสวยงาม สีทองอร่าม ไปทั้งองค์หอไตร สร้างขึ้นโดยพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 6 โดยโปรดเกล้าฯ ให้รื้ออาคารเดิมที่เป็นเครื่องไม้และชำรุดทรุดโทรมลง มีลักษณะเป็นปราสาทยอดปรางค์แบบขอม ตัวปราสาทก่ออิฐถือปูน หน้าบันประดับด้วยลายปูนปั้นเป็นรูปพุทธประวัติปางประสูติและเสด็จดับขันธปรินิพพาน ภายในปราสาทเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและคัมภีร์ ซึ่งเป็นของสำคัญทางพุทธศาสนาของเมืองไทยครับ
ปรางค์เขมร ตั้งอยู่บนฐานไพทีด้านหลังพระวิหาร เป็นปราสาทก่ออิฐถือปูน ทรงสี่เหลี่ยม มียอดปรางค์แบบขอม ภายในบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทว มหาเถระ) สรีรังคารของพระศาสนโสภณ (อ่อน อหิโก) และสรีรังคารของพระพรหมมุนี (แย้ม อุปวิกาโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐ์ อีกด้วยหลังจากที่เราชมความงามของวัดราชประดิษฐ์กันจนหมดแล้วเราก็ออกมาด้านหน้าวัดเพื่อสักการะ อนุสาวรีย์หมูเพื่อเป็นสิริมงคล และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่ง ที่เมื่อมาวัดราชประดิษฐ์แล้ว ต้องแวะเข้ามาสักการบูชาครับเพราะตั้งอยู่ใกล้กันเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง อนุสาวรีย์หมู สร้างขึ้นในปี พ.ศ 2456 ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ มรพระชนมายุ 50 พรรษา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อนุสาวรีย์สหชาติ คำว่าสหชาติ หมายถึงผู้ที่เกิดปีเดียวกัน คือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศื พระยาพิพัฒนโกษา และพระยาราชสงคราม ได้ร่วมกันจัดสร้างอนุสาวรีย์ถวายเพื่อน้อมระลึกถึงพระมหรากรุณาธิคุณของพระองค์ อนุสาวรีย์หล่อด้วยโลหะ ออกแบบเป็น รูปหมู มีความหมายถึง ปีกุน ซึ่งตรงกับปีพระราชสมภพของพระองค์ รวมทั้งเป็นปีที่เกิดเดียวกับของผู้สร้างถวายทั้งหมดด้วยวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนื่งของเมืองไทย และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4แห่งราชวงศ์จักรี ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองไทยเราครับ มีศิลปะการสร้างที่งดงามวิจิตร น่าเข้าไปเยี่ยมชม และกราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ภายในวัดแห่งนี้วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ 2 ถ.สราญรมณ์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนครกรุงเทพมหานคร การเดินทางโดยรถประจำทาง สาย 2,60
เป็นอีกสถานที่หนึ่งครับ ที่น่าเข้าไปมำบุญไหวะพระเป็นอย่างยิ่ง และเป็นอีกวัดหนึ่ง ในการทำบุญเก้าวัดที่ต้องเข้ามาครับ เอาเป็นว่าถ้าอยากทำบุญไหวะพระ ดูเอเซีย. คอม ขอแนะนำที่วัดราชประดิษฐสถิตสีมารามแห่งนี้อีกที่หนึ่งครับเอาไว้ทริปหน้าปมูหิน.คอม จะพาเข้าวัดทำบุญกันอีกนะครับ สุขสมหวังจงเป็นแด่ของทุก ๆท่านครับ