ไม่กี่วันก่อน ดิฉันได้รับมอบหมายจากสำนักงาน ททท.ตรัง ให้จัดทริปสื่อมวลชนไปเยี่ยมเมืองตรังถิ่นเกิด โดยมีผู้สนับสนุนคือแอร์เอเชียและโรงแรมเรือรัษฎา เป็นครั้งแรกที่กลับไปเยี่ยมบ้านแต่ได้พักโรงแรมหรู และตลอดสามวันมีเวลาพบหน้าคุณแม่เพียงแค่สิบห้านาที
“ตรังมีมากกว่าเค้กและหมูย่าง” ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ได้เจอเมนูอาหารหลากชนิด ตั้งแต่เช้ายันดึก ทั้งติ่มซำ ขนมจีน แกงไตปลา ข้าวยำ อาหารทะเลสด ๆ และขนมน้ำชารอบดึก จนเพื่อนร่วมทางบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า มาตรังสามวัน น้ำหนักขึ้นสามกิโล
ในเมื่อเส้นทาง “กิน-เที่ยวตรังได้ในสองวัน” ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขเวลา จึงต้องตัดใจไม่นำเสนอแหล่งธรรมชาติทางบกซึ่งมีถ้ำและน้ำตกเป็นสำคัญ หันไปลงทะเลแทน เราเริ่มกันด้วยอาหารเช้าตามอัธยาศัย แวะคารวะ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ เจ้าเมืองผู้นำพาความเจริญมาสู่เมืองตรังในสมัยรัชกาลที่ 5 และ ศาลเจ้าท่ามก๋งเยี่ย ศาลเจ้าเก่าแก่ที่คนเมืองตรังเคารพนับถือ แล้วนั่งรถมุ่งหน้าสู่อำเภอกันตัง ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองท่าค้าขายสำคัญ ใครจะส่งลูกหลานหรือติดต่อค้าขายกับปีนังก็ต้องมาลงเรือที่นี่ กันตังมีสถานีรถไฟเก่าแก่อายุ 99 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย อาคารไม้สีเหลืองสดเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ มีห้องนิทรรศการเล็ก ๆ ที่รวบรวมภาพเก่าอุปกรณ์การรถไฟในอดีตให้ศึกษาด้วย
ก่อนนำรถลงเฟอรี่ข้ามแม่น้ำกันตังไปยังทางหลวงสายเลียบอันดามัน คณะเราได้แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน โกเกี้ย เจ้าเก่า เจ้าของร้านลงมือทำเองมาหลายสิบปีจนเป็นที่เลื่องลือทั้งอาหารจีนหลากเมนู ซูเปอร์ราดหน้าทะเล และแกงเหลืองปูดำ
อิ่มท้องแล้วก็ข้ามฟากมาเลาะเลี้ยวไปตามเส้นทางสายโรแมนติก แวะ บ่อน้ำร้อนควนแดง ก่อนเพลินใจไปกับหาดต่าง ๆ ของจังหวัดตรัง ทั้ง หาดยาว หาดหยงหลิง อุทยานแห่งชาติหาดจ้าวไหม จนได้เวลาเย็นย่ำสนธยาที่ หาดปากเมง ซึ่งเป็นทั้งแหล่งชุมนุมที่พัก ที่กิน ที่ปูเสื่อปิกนิก และท่าเรือสำหรับท่องเกาะต่าง ๆ ในทะเลตรัง
เส้นทางธรรมชาติสายนี้ บริสุทธิ์งดงาม ไร้สิ่งก่อสร้างใหญ่โตหรือแผ่นป้ายไวนีลรกหูรกตา เพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล บางช่วงมีแนวสน ต้นจันทน์ผา อายุร่วมร้อยปี บางช่วงมองไปทางซ้ายเห็นหาดทรายขาวทะเลสีคราม ทางขวาเห็นป่าโกงกางเขียวสดชอุ่ม เพียงแค่นี้ก็สรุปได้ว่า จุดท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตรัง คือต้นแบบสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่อีกหลายจังหวัดหมดโอกาสไปแล้ว
สำหรับการลงเรือท่องเลตรัง หากต้อง การพักค้างคืนก็ควรจองห้องพักและติดต่อกับทางรีสอร์ทต่าง ๆ ไว้ก่อน แต่คณะเราใช้เวลาจนมืดค่ำที่หาดปากเมง อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลริมหาดแล้วกลับมานอนที่ โรงแรมเรือรัษฎา ในตัวเมือง โดยใช้เส้นทางเข้าเมืองที่ไม่ต้องย้อนกลับไปกันตังและใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เป็นอันว่า วันแรกของการเลียบฝั่งตรัง อิ่มท้อง เพลินตา เพลินใจ กันทั่วหน้า
วันที่สอง ลงเรือท่องเลตรัง คราวนี้ไม่ได้พาคณะลงน้ำลอยตัวฝ่าความมืดเข้า ถ้ำมรกต แหล่งมหัศจรรย์ธรรมชาติที่ใคร ๆ ใฝ่หา เนื่องจากเป็นวันหยุด ตรงปากทางเข้ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวลอยเรือและลอยคอรอเข้าอยู่ร่วมสามร้อยคน ขืนเข้าไปก็คงแออัดจนไม่มีทางเก็บบันทึกภาพสวย ๆ ได้ เราตัดสินใจให้เรือพาไปแวะเล่นน้ำ สน็อกเกิ้ลชมปะการังที่ เกาะกระดาน ผ่านชมทัศนียภาพ เกาะไหง และเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ เก็บภาพจนเป็นที่พอใจ เก็บเกี่ยวซึมซับความงดงามของฟ้าครามน้ำใส แล้วจึงเดินทางกลับเข้าเมืองหลังจากแวะหาดปากเมงเพื่ออาบน้ำล้างตัว และกักตุนอาหารทะเลใส่ท้องอีกรอบที่ร้านริมหาด (ร้านยอดนิยมได้แก่ เลตรัง ยกยอ เกาะปูเกาะปลา)
เพียงสองวัน เที่ยวเมืองตรัง ท่องเลตรัง ติดตรึงใจ บ้านเราแสนสุขสงบงดงาม อย่างนี้แล้วจะไม่ให้โปรโมตชวนเที่ยวได้อย่างไร.
จิระนันท์ พัตรปรีชา (http://www.dailynews.co.th)
