โลกใต้ทะเลของไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ได้ชื่อสวยงามติดระดับโลก นั่นจึงทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดำดิ่งลงไปสัมผัสกับความงามของโลกใต้ทะเลไทยกันเป็นจำนวนมาก
โลกใต้ทะเลอันตื่นตาตื่นใจ (ภาพ : ชุตินันท์ โมรา)
สำหรับแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงของไทยนั้น มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งในที่นี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอคัดสรรกลุ่มเกาะ และหมู่เกาะที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำยอดฮิตของไทยมา 5 แห่ง ซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง ขอเชิญทัศนากันได้
ดำน้ำบริเวณเกาะนางยวน
เกาะเต่า-เกาะนางยวน
“เกาะเต่า-เกาะนางยวน” 2 เกาะดังแห่ง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ชื่อว่ามีโลกใต้ทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทย
สำหรับจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมก็มีหลายแห่งด้วยกัน เช่น “กองหินชุมพร” เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อที่สุดของเกาะเต่าลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ มีความลึกตั้งแต่ 12-32 เมตร มีดอกไม้ทะเล ปะการังดำ ปลาหูช้าง ปลาสาก ปลาเก๋าดอกหมาก ขนาดยักษ์ และฉลามวาฬ ที่แวะเวียนมาประจำ
ส่วนอีกหนึ่งจุดได้แก่ “กองตุ้งกู” ลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำ มีปะการังดำ ฝูงปลานานาชนิด และปลาเก๋าขนาดใหญ่ และ “กองหินวง” ก็เป็นกองหินใต้น้ำเช่นกัน มีปะการังอ่อนสีสันสวยงาม รวมทั้ง แส้ทะเล หวีทะเล เป็นจำนวนมาก
เต่ายักษ์ก็พบเห็นกันได้ง่ายๆ(ภาพโดย : เอกณัฐ อมรผาติ)
ใกล้ๆ กับเกาะเต่า มี “เกาะนางยวน” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งดำน้ำที่สวยงาม โดยมีมีจุดเด่นๆให้เลือกดำน้ำ เช่น “กองหินนางยวน” จะเป็นกองหินเรียงอยู่ทำให้มีโพรงถ้ำเล็กๆ ใต้น้ำมากมาย
หรือจะเป็นที่ “กองหินขาว” เป็นกองหินย่อยๆกระจายในบริเวณกว้าง มีปะการังอ่อนสีสวย กัลปังหา แส้ทะเล ปลาวัวหน้านวล ส่วน “เกาะกงทรายแดง” สัตว์ที่พบเห็น ได้แก่ ปะการังแข็ง ฟองน้ำ ปลาวัว และ ฉลามเสือดาว
ด้วยความงามของโลกใต้ทะเลของเกาะเต่า เกาะนางยวน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำนอกฤดูกาลยอดฮิต ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งผลิตนักเรียนดำน้ำแบบ Scuba ตามหลักสูตรของ Padi จากสหรัฐอเมริกาที่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำที่มีชื่อมากแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
ว่ายน้ำเคียงคู่เต่าทะเลที่สิมิลัน
หมู่เกาะสิมิลัน
“หมู่เกาะสิมิลัน” แห่งท้องทะเลอันดามัน จ.พังงา ปัจจุบันมี 11 เกาะน้อยใหญ่ มีสัญลักษณ์ คือหินเรือใบที่เกาะแปด (สิมิลัน) อันเลื่องชื่อ
หมู่เกาะสิมิลันแหล่งดำน้ำลึกอันดับหนึ่งของเมืองไทย และสวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ที่นี่มีจุดดำน้ำเด่นๆ คือ “เกาะตาชัย” เต็มไปด้วยปะการังหลากสีสันและฝูงปลานานาชนิด รวมถึงยังสามารถพบสัตว์ใหญ่อย่าง ฉลามวาฬ ฉลามเสือดาว กระเบนราหู ได้บ่อยครั้ง ส่วน “เกาะบอน” เต็มไปด้วยปะการังอ่อนขนาดเล็ก และมีโอกาสพบกระเบนราหูได้บ่อยครั้ง ส่วนใครโชคดีจะได้พบกับฉลามครีบดำที่นานจะโผล่มาโชว์ตัวสักที
ปลาตัวน้อยแหวกว่ายล่องลอยใต้ท้องทะเลหมู่เกาะสุรินทร์
นอกจากนี้ ยังมี “เกาะสาม” ที่แม้เป็นหน้าผาไม่มีหาดทราย แต่ว่าโลกใต้น้ำที่นี่งดงาม เพราะบริเวณนี้มีกำแพงเมืองจีนหรือสันฉลาม ซึ่งเป็นกำแพงหินธรรมชาติใต้น้ำอันตระการตา มักพบปลาฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว และฝูงปลาจำนวนมากมาหากินใกล้ๆ กำแพงหิน
ส่วนที่ “เกาะห้า” เป็นเกาะเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยปะการังอ่อน-แข็ง มีปลาไหลที่ชอบโผล่หัวชูคอขึ้นจากรูจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นสวนปลาไหล สำหรับ “เกาะหก” มีเรือนกล้วยไม้เป็นจุดดำน้ำลึกชมปะการังอ่อนหลากสีสัน อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่งด้วยกัน ด้าน “เกาะเจ็ด” หรือ หินปูซาร์ เป็นหินโผล่กลางทะเล มีกัลปังหาขึ้นอยู่บนลาน มีปลาสวยงามมากมาย
ดำน้ำชมโลกใต้ทะเลที่อ่าวสับปะรด หมู่เกาะสุรินทร์
หมู่เกาะสุรินทร์
“หมู่เกาะสุรินทร์” จ.พังงา แห่งท้องทะเลอันดามัน ที่นี่มีจุดดำน้ำลึกอันโดดเด่นอยู่บริเวณ “กองหินริเซลิว” ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำมีลักษณะคล้ายกับเป็นคอนโดมิเนียม มีสัตว์น้ำเล็กๆ อาศัยอยู่ตามซอกมุมของหิน เช่น ปลากบ กุ้งตัวตลก ม้าน้ำ ทากทะเล ปะการังอ่อนหลากสี เป็นต้น
อีกจุดหนึ่งอยู่ที่ “เกาะตอรินลา” หรือ เกาะไข่ บางคนเรียกว่า กองเหลือง งดงามด้วยดงปะการังเขากวางขนาดใหญ่ และปลาสวยงามกว่า 200 ชนิด ส่วนที่ “หินแพ” เพราะเป็นจุดดำน้ำสำหรับดูปลาโดยเฉพาะ เช่น ปลาวัว ปลานกแก้วต่างๆ ปลากล้วย ปลาเขียวพระอินทร์ เป็นต้น
สีสันโลกใต้ท้องทะเลหมู่เกาะสุรินทร์
ขณะที่จุดดำน้ำตื้นในบริเวณอ่าวรอบๆ หมู่เกาะสุรินทร์เกือบทุกอ่าวจะเต็มไปด้วยแนวปะการังแข็งที่สมบูรณ์ที่สุดของท้องทะเลไทย โดยจุดดำน้ำที่เด่นๆ ก็มี “อ่าวไม้งาม” ที่มีปะการังแผ่น ปะการังเขากวาง อยู่จำนวนมาก, “อ่าวผักกาด” ที่เป็นอ่าวเล็กๆ สามารถพบเห็นปะการังอ่อน กัลปังหา และสัตว์ทะเลน่าสนใจ เช่น ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ และปลาจำนวนมากมายหลายชนิด
“อ่าวเต่า” พบปะการังก้อนใหญ่มีปะการังอ่อนและกัลปังหาอยู่เป็นหย่อมๆ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเห็นปลาใหญ่อย่างฉลาม และกระเบนราหู อีกด้วย “อ่าวสับปะรด” ที่บริเวณนี้เราจะได้เห็นปะการังจำพวกปะการังเขากวางอ่อน สีน้ำเงิน ม่วงอ่อน และปลาบางชนิด
ด้วยความโดดเด่นของโลกใต้ทะเลริมชายฝั่ง ทำให้หมู่เกาะสุรินทร์ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้น(Snorkeling) ที่ดีที่สุดในเมืองไทย
ทะเลหน้าหาดพัทยา หมู่เกาะตะรุเตา
หมู่เกาะตะรุเตา
“หมู่เกาะตะรุเตา” จ.สตูล เป็นหมู่เกาะใต้สุดของท้องทะเลไทยฝั่งอันดามัน ที่นี่มีจุดดำน้ำที่สำคัญๆ ได้แก่ “ร่องน้ำจาบัง” ที่มีปะการัง 7 สีอันสวยงามเป็นตัวชูโรง แต่ด้วยความที่กระแสน้ำที่นี่ไหลเชี่ยวแรงมาก ดังนั้นผู้ที่ลงดำน้ำดูปะการังต้องสวมชูชีพทุกครั้ง
เกาะรอกลอยกับทิวทัศน์หาดทรายสายน้ำ
นอกจากนี้ ยังสามารถดำน้ำตื้นชมโลกใต้ท้องทะเลอันสวยงามได้อีกในหลายๆ แห่งของหมู่เกาะตะรุเตา ได้แก่ “เกาะอาดัง-เกาะราวี” 2 เกาะแฝดที่มีแนวปะการังอยู่รอบๆ เกาะ และมีปลาสวยงามอีกเป็นจำนวนมาก ส่วน “เกาะยาง” ที่บริเวณหน้าเกาะมีปะการังเขากวาง ปะการังรูปโต๊ะ ปะการังไฟ ปะการังสมอง ปะการังผักกาด มีระดับความลึกราว 4-10 ฟุต จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นเช่นกัน ด้าน “เกาะหินซ้อน” ที่มีหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตาตั้งซ้อนกันดูเหมือนจะตกแหล่มีตกแหล่ รอบๆเกาะแห่งนี้ เต็มไปด้วยปะการังอ่อนและปะการังแข็งที่สวยงาม
สำหรับ“เกาะหลีเป๊ะ” ที่มากมายไปด้วยรีสอร์ตที่พักนั้น รอบๆ เกาะมีธรรมชาติของป่าปะการังเป็นจุดเด่น ส่วนที่ “เกาะรอกลอย” เป็นแหล่งเล่นน้ำ ดำน้ำดูปลาสวยงามในบรรยากาศหาดทรายน้ำตื้นที่น้ำทะเลใสแจ๋วเหมือนแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำ นับได้ว่าโลกใต้หมู่เกาะตะรุเตาเป็นอีกหนึ่งแหล่งดำน้ำที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากแหงหนึ่งของเมืองไทย
ฉลามวาฬ ยักษ์ใหญ่แต่ใจดีแห่งท้องทะเล (ภาพ : นัยนารถ โอปนายิกุล Wahoo Diving Center)
หมู่เกาะชุมพร
“หมู่เกาะชุมพร” จ.ชุมพร แห่งท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีโลกใต้ทะเลงดงามที่นักดำน้ำไม่ควรมองผ่าน
สำหรับจุดดำน้ำชื่อดังของชุมพร ก็คือ “เกาะง่ามใหญ่” อันเป็นเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่น เป็นจุดที่มีแนวปะการังและกลุ่มกองหินเรียงรายขนานกับแนวเกาะ และมีถ้ำใต้น้ำขนาดเล็ก สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณนี้คือ ดอกไม้ทะเล ปะการังแข็ง แส้ทะเล ฟองน้ำ กัลปังหา ปลานกแก้ว ปลาสาก ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลากระเบนจุดฟ้า เต่า ทากทะเล กุ้งตัวยาว
ดำน้ำลึกที่เกาะง่ามใหญ่
ส่วน “เกาะง่ามน้อย” มีลักษณะเป็นแนวสันเกาะ และมีกองหินเล็กๆกระจายขนานตามแนวเกาะ พื้นหินปกคลุมด้วยพรมทะเล และปะการังหนัง ดอกไม้ทะเล แส้ทะเล ที่นี่มักจะพบกุ้งตัวยาว ทากเปลือย เต่าทะเล ปลาไหลมอเรย์ตาขาว ปลาเก๋าและกระเบน
ขณะที่ “หินหลักง่าม” ที่เป็นหินโผล่พ้นน้ำที่มี 2 ยอด มีทุ่งปะการังดำขึ้นปกคลุมหนาแน่นบนลานทราย มีปลาการ์ตูนและดอกไม้ทะเลอาศัยอยู่บนแนวหิน ที่นี่มักจะพบทากเปลือยสวยงามหลายชนิด ด้าน“หินแพ” ที่เป็นแนวกองหินที่มียอดโผล่พ้นน้ำ ที่นี่น่ายลไปด้วย ดอกไม้ทะเล ปะการังดำ แส้ทะเล หอยมือเสือ ปลาผีเสื้อ ปลาสาก ปลากระเบน เต่า ปลาหมอ และมีการพบฉลามวาฬในบริเวณนี้ด้วย
ปลาสวยงามมีมากมายใต้ท้องทะเลไทย(ภาพโดย : เอกณัฐ อมรผาติ)
ส่วนอีกจุดดำน้ำที่ถือเป็นไฮไลต์ของท้องทะเลชุมพร ก็คือ “เกาะร้านเป็ด-ร้านไก่” ที่โลกใต้น้ำเป็นแนวกำแพงเกาะ มีลานหินขนาดใหญ่ มีถ้ำใต้น้ำที่สวยงาม แนวหินปกคลุมด้วยกัลปังหารูปพัด ดอกไม้ทะเล แส้ทะเล ฟองน้ำ และปะการังแข็ง บนพื้นทรายมีปะการังดำขึ้นหนาแน่นสวยงามมาก มักพบปลากระเบนขนาดใหญ่ ทากทะเลสวยงามหลายชนิด ปลาสาก ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ มีการพบฉลามวาฬแวะเวียนมาในบางครั้ง
จ๊ะเอ๋กับเจ้าปลาใต้ทะเล(ภาพโดย : เอกณัฐ อมรผาติ)
และนี่คือ 5 แหล่งดำน้ำตามกลุ่มเกาะ และหมู่เกาะอันโดดเด่นสวยงาม และเป็นที่นิยมในหมู่นักดำน้ำ ซึ่งนี่ถือเป็นมนต์เสน่ห์แห่งโลกใต้ทะเลไทยที่รอให้ผู้สนใจได้ดำดิ่งแหวกว่ายลงไปสัมผัส
ขอขอบคุณข้อมูล http://www.manager.co.th