หน้าแรก Tick&Trips ท่องเที่ยวทะเลชุมพร

ท่องเที่ยวทะเลชุมพร

0

เข้าหน้าร้อนทีไร ก็เหมือนเป็นสัญญาณในการไปเที่ยวทะเลทุกครั้ง ฟ้าใสๆ ทะเลสวยๆ ก็ยิ่งเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจให้สบายอารมณ์ แต่ใครๆ ก็มักจะบอกว่าทะเลอันดามันนั้นสวยกว่าฝั่งอ่าวไทย แต่ “ตะลอนเที่ยว” ขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะในทริปนี้ จะพาไปยลความงามของทะเลอ่าวไทยที่ จ.ชุมพร ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ทะเลอ่าวไทยก็สวยไม่แพ้ใครเหมือนกัน     

     เกาะกะโหลก

  เราเริ่มต้นเดินทางจากรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ลงสู่ภาคใต้มาที่ จ.ชุมพร ที่เรียกว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้อย่างแท้จริง ชุมพรในวันนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว ดูได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทั้งคนไทยเอง และชาวต่างชาติหลากหลายประเทศ

คนเฝ้ารังนกมาสร้างบ้านอยู่รวมกัน

       เป้าหมายของทริปนี้คือการออกเดินทางไปสู่ทะเลชุมพร เลยมาลงเรือกันที่ท่าเรือบริเวณปากน้ำชุมพร ซึ่งคราวนี้เราใช้บริการเจ้าสปีดโบ๊ต เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ

หลังจากใช้เวลากินลมชมวิวอยู่สักครึ่งชั่วโมง เรือก็จะแล่นผ่าน เกาะกะโหลก ที่เป็นเกาะเล็กๆ มีโขดหินและหน้าผาหินสูงชันคล้ายๆ กับเกาะเชือกที่ จ. ตรัง แต่ที่เกาะกะโหลกแห่งนี้ น้ำทะเลรอบๆ เกาะจะลึกมาก ไม่เหมาะกับการดำน้ำดูปะการังสักเท่าไหร่ เราจึงผ่านเลยไปยังเกาะอื่นๆ แทน

กระท่อมหลังน้อยอยู่อย่างโดดเดี่ยว

       นั่งเรือมาอีกเล็กน้อยก็มาถึงจุดหมายสำคัญที่ เกาะง่ามน้อย และ เกาะง่ามใหญ่ เป็นเกาะที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีแต่โขดหินและหน้าผาหินที่สูงชัน และไม่มีหาดทรายสวยๆ ให้เดินเล่น แต่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่นับว่าสวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของทะเลอ่าวไทย เนื่องจากน้ำทะเลสีครามใสสะอาดตา แนวปะการังชนิดต่างๆ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล และฝูงปลานานาชนิด ที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์มากมาย

ดำน้ำดูโลกใต้ทะเล

       เจ้าของถิ่นที่ขับเรือพาเรามาถึงที่นี่บอกว่า หากมาดำน้ำที่เกาะง่ามน้อยและเกาะง่ามใหญ่ จะดำกันได้สบายๆ ไม่มีเรือมารบกวน เนื่องจากเป็นเขตสัมปทานรังนก จะไม่ให้เรือประมงเข้าใกล้เกาะมากเกินไป แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาดำน้ำนั้น เพื่อความสะดวกควรจะติดต่อกับบริษัทที่ให้บริการเรือทัวร์ดีกว่าจะเช่าเหมาะลำมาเอง นอกจากจะหายห่วงในเรื่องการขอเข้ามาดำน้ำใกล้ๆ เกาะแล้ว ก็ยังมีบริการอุปกรณ์ดำน้ำให้พร้อมสรรพ ไม่ต้องขนมาเองให้วุ่นวาย

หินที่รูปร่างเหมือนเจดีย์

       เมื่อพูดถึงรังนกนั้น รังนกจาก จ.ชุมพร ถือเป็นรังนกที่ดีที่สุดในประเทศไทย และในโลก ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม จึงมีราคาแพงกว่ารังนกจากที่อื่นๆ การทำรังนกจะต้องมีการทำเรื่องให้ได้สัมปทานในการเก็บรังนกก่อน จึงจะเข้าไปเก็บรังนกจากเกาะต่างๆ ออกมาขายได้ จะเห็นได้ว่าในหลายๆ เกาะที่นั่งเรือผ่านไปนั้น จะมีกระท่อมเล็กกระท่อมน้อย สร้างอยู่บนหน้าผาบ้าง อยู่ในซอกผาบ้าง อยู่บนชะง่อนหินบ้าง กระท่อมพวกนี้เป็นของคนที่นอนเฝ้ารังนกและเฝ้าเกาะนั่นเอง เนื่องจากเกาะเหล่านั้นมีการสัมปทานรังนก และราคาของรังนกก็แพงแสนแพง จึงต้องมาเฝ้าระวังกันแบบไม่ให้คลาดสายตา

ฝ่ามือพระพุทธเจ้า ที่เกาะง่ามใหญ่

       จากที่นั่งอยู่บนเรือตรงเกาะง่ามน้อย มองลงไปเห็นน้ำทะเลใสๆ กวักมือเรียกให้รีบกระโดดลงไปโดยไว เราจึงจัดแจงเตรียมอุปกรณ์ ใส่เสื้อชูชีพ รัดเข็มขัดให้แน่น ใส่หน้ากากดำน้ำพร้อมท่อหายใจ แล้วก็เลยกระโดดตูมลงไปตามที่ใจเรียกร้อง แหวกว่ายในสายน้ำทะเลเย็นๆ เค็มๆ มองลงไปด้านล่างก็เห็นปะการังเขากวางละลานตาในสภาพสมบูรณ์ ว่ายไปอีกนิดก็เห็นดอกไม้ทะเลหลากสีสันและปลาน้อยหลากหลายสายพันธุ์ว่ายไปว่ายมาให้เห็นกันแบบใกล้ๆ

ดำน้ำที่เกาะง่ามน้อยกันจนหนำใจ ก็ย้ายไปต่อกันที่เกาะง่ามใหญ่ที่สวยงามไม่แพ้กัน พอถึงที่ก็ดำดิ่งลงไปดูความสวยงามใต้ท้องทะเล เห็นแล้วชื่นอกชื่นใจที่ยังคงความสวยงามและสมบูรณ์ให้นักท่องเที่ยวอีกหลายคนได้มาดูบ้าง แต่ความงามแบบนี้จะอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ก็อยู่ที่ว่าเราจะช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีแค่ไหน

ชายหาดสวยๆ บนเกาะมัตรา

       บนเกาะง่ามใหญ่ก็ยังเป็นแหล่งสัมปทานรังนกเช่นกัน มีปากถ้ำอยู่ตรงหน้าผาใหญ่ให้ล่องเรือเข้าไปเสาะหารังนกภายใน นอกจากนี้ บนเกาะง่ามใหญ่ยังมีจุดสนใจอีกสองแห่งคือ หินเจดีย์ ที่อยู่ด้านหนึ่งของเกาะ เป็นก้อนหินใหญ่รูปทรงยอดแหลมคล้ายๆ กับเจดีย์ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีหน้าผาหินที่รูปร่างละม้ายคล้ายกับฝ่ามือ จึงเรียกกันว่าฝ่ามือพระพุทธเจ้า ให้คล้องกับหินเจดีย์ที่อยู่อีกด้าน

เกาะแรด รูปร่างเหมือนแรดนอนแช่น้ำ

       ดำน้ำจนเหนื่อยอ่อน ขึ้นมาพักผ่อนบนเรือ และเติมความสดชื่นด้วยแตงโมสีแดงสดหวานฉ่ำ เรียกกำลังให้กลับคืน ก่อนจะล่องเรือเร็วต่อไปยัง เกาะมัตรา ที่นับว่าสวยงามไม่แพ้ใครเช่นกัน อยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดทรายรี เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง และฝูงปลาหลากหลายชนิด และยังมีชายหาดสีขาวนวลตาอยู่สองแห่ง คือ ตอนกลางของเกาะทางฝั่งตะวันตก และทางตอนใต้ของเกาะ นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของปูไก่ ที่หน้าตาไม่ได้เหมือนไก่ แต่มีเสียงร้องคล้ายๆ กับไก่ เกิดจากการที่ก้ามทั้งสองข้างเสียดสีกันไปมา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อปูไก่นั่นเอง

เกาะมะพร้าว

       ในบรรดาเกาะต่างๆ ที่ชุมพร “ตะลอนเที่ยว” ชื่นชอบเกาะนี้มากที่สุด นั่นก็คือ เกาะแรด นอกจากชื่อจะโดนใจแล้ว รูปทรงของเกาะก็สะดุดตาไม่น้อย เพราะหากมองไกลๆ แล้ว จะเห็นเกาะมีรูปร่างเหมือนกับแรดนอนแช่น้ำทะเลอย่างสบายใจ ที่เกาะแรดนี้ไม่มีชายหาด มีแต่โขดหินและหน้าผาหิน แต่ก็เป็นแหล่งดำน้ำทั้งน้ำลึกน้ำตื้นเช่นกัน และใกล้ๆ กับเกาะแรดก็มี เกาะหลักแรด ตั้งอยู่เคียงข้างกัน เจ้าถิ่นเล่าให้ฟังว่า เกาะนี้เป็นเหมือนหลักที่เอาไว้ผูกแรดให้อยู่กับที่ ซึ่งแรดตัวที่ว่านั้นก็คือเกาะแรดที่อยู่ติดๆ กันนั่นเอง

หาดทรายรี

       ท่องทะเลมาทั้งวันก็เริ่มเพลีย เราเลยมุ่งหน้ากลับเข้าสู่ฝั่งกันเสียที แต่ก่อนจะเข้าฝั่งก็ต้องผ่านเกาะสวยๆ อีกหนึ่งเกาะ นั่นคือ เกาะมะพร้าว ที่อยู่ห่างจากฝั่งบริเวณหาดทรายรีประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ด้านหนึ่งของฝั่งจะเต็มไปด้วยโขดหินสูงชัน มีโพรงถ้ำมากมาย เหมาะสำหรับเป็นที่ทำรังของนกนางแอ่น เกาะนี้จึงเป็นแหล่งสัมปทานรังนกเช่นกัน ฉะนั้นการจะขึ้นไปชมบนเกาะก็ควรขออนุญาตเสียก่อน

อีกด้านหนึ่งของเกาะนั้นมีหาดทรายสีขาวสะอาดตาทอดตัวยาวประมาณ 100 เมตร ตัดกับดงไม้เขียวขจีปกคลุมเกาะแน่นขนัด และนอกจากจะขึ้นฝั่งที่เกาะมะพร้าวแล้ว ก็สามารถชมทิวทัศน์ทั่วเกาะมะพร้าวได้จากบนฝั่ง โดยการขึ้นไปบนเขาเจ้าเมือง ที่อยู่ใกล้ๆ กับหาดทรายรี ซึ่งมองเห็นเกาะมะพร้าวได้ทั่วทั้งเกาะ แถมยังชมความงามของทะเลชุมพรได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาด้วย

เรือรบหลวงชุมพร

       ก่อนจะขึ้นถึงฝั่ง มาชื่นชมความขาวสวยของ หาดทรายรี จากในทะเลกันก่อน จะเห็นหาดทรายยาวทอดตัวขนานกับทิวมะพร้าว เมื่อขึ้นมาเดินเล่นบนหาดทรายรีแล้ว ต้องแวะเข้าไปนมัสการ เสด็จเตี่ย หรือ พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวชุมพรและคนไทยทั้งหลาย

พระองค์ท่านเป็นผู้วางรากฐานของกองทัพเรือไทยให้แข็งแกร่ง ในภายหลังจากที่ทรงลาออกจากราชการแล้ว ก็ได้เสด็จมาประทับที่ จ.ชุมพร และสิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่ที่บ้านหาดทรายรี อำเภอเมือง เมื่อปี 2466 มีพระชนมายุได้ 43 พรรษา ต่อมา ชาวชุมพรจึงได้สร้างอนุสรณ์สถานของพระองค์ขึ้นที่บริเวณหาดทรายรี โดยศาลแห่งแรกอยู่ด้านล่าง ตั้งหันหน้าออกทะเล อยู่ใกล้กับเรือรบหลวงชุมพร ซึ่งเป็นเรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ซึ่งปลดประจำการเมื่อปี 2518 วางตั้งไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์

ศาลหลังใหม่ รูปร่างคล้ายเรือรบ

       ส่วนศาลหลังใหม่ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศเหนือของหากทรายรี สร้างให้มีรูปทรงคล้ายกับเรือรบ ชาวเมืองนิยมมากราบสักการะและจุดประทัดถวายพระองค์ และไม่เพียงแต่ที่หาดทรายรีเท่านั้นที่มีศาลของกรมหลวงชุมพรฯ แต่ทั่วทั้งจังหวัดมีศาลของพระองค์อยู่นับสิบแห่ง เพราะพระองค์เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนเป็นอย่างมาก

มาเที่ยวทะเลชุมพรคราวนี้ นอกจากจะสุขกายสบายใจ และเพลิดเพลินไปกับความงามใต้ท้องทะเลแล้ว ก็ยังได้ดื่มด่ำความงามของทะเลอ่าวไทยที่สวยไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลยทีเดียว

ภายในศาลของเสด็จเตี่ย

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร. 0-7750-1831-2, 0-7750-2775-6

ขอขอบคุุณข้อมูล www.manager.co.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น